Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้

รถยนต์สตาร์ทไม่ติด แต่มีไฟ เกิดจากอะไรได้บ้าง

รถยนต์สตาร์ทไม่ติด แต่มีไฟ เป็นปัญหาที่เกิดได้จากหลายปัจจัย บ้างก็เป็นปัญหาที่เราคาดไม่ถึง บ้างก็เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เราเช็ครถก่อนที่จะสายเกินแก้ เพราะเมื่อพบว่ารถสตาร์ทไม่ติด ไฟหน้าปัดขึ้น คงทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพามาหาคำตอบกันว่าเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง

รถยนต์สตาร์ทไม่ติด แต่มีไฟ เช็คเบื้องต้นยังไงได้บ้าง

เมื่อรถยนต์สตาร์ทไม่ติด แต่มีไฟ สามารถตรวจเช็คเบื้องต้นได้หลายจุด เพราะอาจเกิดจากการเข้าเกียร์ผิด แบตเตอรี่มีปัญหา หรือเกิดจากไดชาร์จเสียหาย มอเตอร์สตาร์ทเสื่อม หรือแม้แต่น้ำมันหมด ซึ่งเมื่อผู้ขับขี่พบว่ารถสตาร์ทไม่ติด ไฟหน้าปัดขึ้น สิ่งที่ควรทำคือตรวจเช็คจุดต่าง ๆ ที่กล่าวมาด้วยตนเองให้ดีเสียก่อน ว่าเกิดจากจุดใด เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้

สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้โดยการทดลองสตาร์ทเครื่อง อาจจะเหยียบคันเร่งเบา ๆ หากรถสตาร์ทติดแล้ว แต่สักพักก็ดับกลางอากาศ อาจเกิดจากได้ชาร์จเสื่อม หากไม่ได้มีปัญหาที่แบตเตอรี่

นอกจากการลองสตาร์ทรถแล้ว อีกวิธีที่สามารถทำได้ ก็คือการตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ ว่ามีรอยร้าว มีแบตเตอรี่บวม หรือขั้วต่อแบตกร่อนหรือไม่ ทั้งยังควรตรวจสอบฟิวส์ ว่ามีฟิวส์ที่ขาดหรือไม่ หรือหากแบตเตอรี่อ่อน อาจจะลองจั๊มพ์สตาร์ทจากรถคันอื่นก็ได้เช่นกัน แต่หากไม่แน่ใจว่าจะสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ควรติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบ เพราะหากเราแก้ไขปัญหาด้วยตนเองโดยไม่มีความรู้มากพอ อาจทำให้รถเกิดความเสียหายบานปลายตามมาได้

รถสตาร์ทไม่ติด ไฟหน้าปัดขึ้น เป็นเพราะอะไร

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด ไฟหน้าปัดขึ้นนั้น เกิดได้จากหลากหลายปัจจัย ได้แก่

  • เผลอเข้าเกียร์ผิด
  • แบตเตอรี่มีปัญหา
  • ได้ชาร์จเสียหาย
  • มอเตอร์สตาร์ทเสื่อม
  • น้ำมันหมด

ซึ่งหากตรวจสอบเบื้องต้นแล้วทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด ก็จะทำให้เราแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด โดยไม่ทำให้รถเกิดความเสียหายในส่วนอื่นตามมา แต่หากแก้ไขด้วยตนเองโดยใช้วิธีผิด ๆ อาจทำให้รถเสียหายเพิ่ม เติมเกินกว่าปัญหารถยนต์สตาร์ทไม่ติด แต่มีไฟก็เป็นได้

รถสตาร์ทไม่ติดเกิดจากอะไรได้บ้าง แก้อย่างไรดี

เมื่อทราบสาเหตุที่รถสตาร์ทไม่ติดกันไปแล้ว เรามาดูวิธีแก้แต่ละจุดกัน



เผลอเข้าเกียร์ผิด

มีความเป็นไปได้ว่าปัญหา รถยนต์สตาร์ทไม่ติด แต่มีไฟ อาจเกิดจากระบบความปลอดภัยของรถยนต์ที่ป้องกันให้รถสตาร์ทไม่ติด เมื่อผู้ขับขี่เข้าเกียร์ผิดก็เป็นได้ แม้ว่าจะเป็นจุดเล็ก ๆ ที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ แต่กลับเป็นจุดที่หลายคนมองข้าม โดยเฉพาะกับรถเกียร์ออโต้ ดังนั้นเมื่อเจอปัญหารถสตาร์ทไม่ติด ไฟหน้าปัดขึ้น ให้ตรวจสอบที่เกียร์ว่าเรากำลังเข้าเกียร์ N หรือเกียร์ P อยู่หรือไม่ เพราะหากกำลังเข้าเกียร์ดังกล่าวอยู่ นั่นหมายความว่า ระบบความปลอดภัยของรถกำลังป้องกันความปลอดภัยให้เราอยู่ จึงเป็นเหตุให้รถสตาร์ทไม่ติดนั่นเอง



แบตเตอรี่มีปัญหา

เมื่อรถดับ สตาร์ทไม่ติด อาจเกิดจากแบตเตอรี่มีปัญหาได้ สังเกตได้ว่า หากแบตเตอรี่มีปัญหา เมื่อเราบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ จะเกิดเสียงแชะนานขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะสตาร์ทติด หรืออาจจะมีเสียงแชะดังขึ้นและค่อย ๆ เบาลง โดยที่รถสตาร์ทไม่ติดเลยก็เป็นได้ ซึ่งอาจจะเกิดเพราะแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานครบตามกำหนด หรือเกิดจากการจอดรถไว้นาน ๆ แล้วไม่ได้ใช้งานก็เป็นได้ ซึ่งหากต้องจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ อาจทำได้ด้วยการหมั่นชาร์จแบตอยู่เสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อรักษาระดับไฟให้เต็มอยู่ตลอด ทั้งยังเป็นการยืดอายุการใช้งานและป้องกันแบตเสื่อมได้อีกด้วย



น้ำมันหมด

ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้ เพราะผู้ขับขี่บางคนอาจลืมสังเกตระดับน้ำมันที่แจ้งไว้บนหน้าปัด หรือกรณีที่น้ำมันในถังเหลือน้อย บวกกับการจอดรถไว้ในที่ลาดเอียง ที่อาจส่งผลให้ปั๊มติ๊กไม่สามารถดูดเชื้อเพลิงไปใช้ต่อได้ จนทำให้รถสตาร์ทไม่ติด อีกสาเหตุที่ควรระวังก็คือ การเร่งเครื่องยนต์บ่อย ๆ โดยไม่จำเป็น หรือเหยียบคันเร่งทันทีทันใด เพราะทำให้เปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ ดังนั้น หากปรับพฤติกรรมการขับขี่ให้ถูกต้อง ก็อาจช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ด้วย



ไดชาร์จเสื่อมสภาพหรือได้รับความเสียหาย

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด ไฟหน้าปัดขึ้น อาจเกิดจากไดชาร์จเสื่อมสภาพหรือได้รับความเสียหายก็เป็นได้ ซึ่งสังเกตได้ด้วยการลองสตาร์ทรถทิ้งไว้สักพัก แล้วถอดขั้วแบตออกหนึ่งข้าง หากรถมีอาการกระตุก ไฟตก หรือรถดับ นั่นหมายความว่าไดชาร์จอาจจะเสื่อมสภาพแล้วนั่นเอง



มอเตอร์สตาร์ทเสื่อม

เป็นอีกสาเหตุที่อาจเกิดได้เมื่อรถยนต์สตาร์ทไม่ติด แต่มีไฟ โดยจะสังเกตได้ว่า เมื่อเราสตาร์ทรถ จะมีไฟหน้าปัดติดตามปกติ และมีเสียงดังแก๊ก ๆ หรือเสียงผิดปกติดังขึ้น นั่นอาจเป็นสัญญาณการเสื่อมสภาพของมอเตอร์สตาร์ท

รถดับ สตาร์ทไม่ติด กลางคัน เป็นเพราะอะไร

รถดับ สตาร์ทไม่ติดกลางคัน อาจเกิดจากปัญหาต่าง ๆ ได้แก่ เหยียบคลัทช์ค้างไว้ ขั้วแบตเตอรี่มีปัญหา หรือเข้าเกียร์ผิด ซึ่งหากเป็นรถที่ใช้เกียร์ปกติ และผู้ขับขี่มักจะวางเท้าไว้บริเวณแป้นคลัทช์ จะนับเป็นการส่งแรงและน้ำหนักเสมือนคลัทช์กำลังทำงานอยู่ตลอดเวลา หากทำเป็นประจำอาจส่งผลให้คลัทช์หมดหรือไหม้ จนรถสตาร์ทไม่ติดได้ นอกจากนี้ หากเกิดปัญหารถสตาร์ทไม่ติด ไฟหน้าปัดขึ้น หรือรถดับ สตาร์ทไม่ติดกลางคัน อาจแก้ได้ด้วยการเปิดฝากระโปรงรถเพื่อตรวจเช็คชิ้นส่วนต่าง ๆ ทั้งความแน่นของขั้วแบตเตอรี่ หรือเช็คคอยล์หัวเทียน แล้วลองสตาร์ทรถใหม่อีกครั้งก็ได้เช่นกัน ซึ่งหากสตาร์ทติดก็สามารถขับต่อได้เลย

แบตเตอรี่เต็มแต่สตาร์ทไม่ติด เป็นเพราะอะไร

หากแบตเตอรี่เต็มแต่สตาร์ทไม่ติด อาจเกิดจากปัญหาอื่น ๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ซึ่งผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบและแก้ไขได้ทีละจุด แต่หากยังไม่พบต้นเหตุของปัญหา หรือยังไม่สามารถใช้งานรถได้ตามปกติ แนะนำให้ติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบ

รถเครื่องสตาร์ทไม่ติด แต่ไฟติด เป็นเพราะอะไร

รถสตาร์ทไม่ติด ไฟหน้าปัดขึ้น ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดเฉพาะกับรถยนต์เท่านั้น แต่ยังเกิดได้กับรถมอเตอร์ไซค์ หรือที่เรียกกันว่า รถเครื่องอีกด้วย

ปัญหารถมอเตอร์ไซค์สตาร์ทไม่ติด เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งแบตเตอรี่อ่อน เสื่อมสภาพ หรือหลวมเกินไป ซึ่งหากแบตเตอรี่หลวม เมื่อสตาร์ทรถจะพบว่ามีเสียงแชะ ๆ แล้วค่อย ๆ เงียบไปจนสตาร์ทไม่ติด หรือเมื่อบิดสตาร์ทแล้วเรือนไมล์ไม่มีไฟขึ้น เนื่องจากแบตเตอรี่ไม่เก็บประจุไฟ จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ จึงจะสามารถใช้งานได้

อีกปัญหาที่อาจทำให้รถสตาร์ทไม่ติดก็คือ น้ำมันใกล้หมด หากมีน้ำมันแค่ก้นถัง อาจทำให้สตาร์ทติดแล้วดับ หรือสตาร์ทไม่ติดเลยก็เป็นได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีปัญหาระบบไฟหรือหัวเทียนบอด รวมไปถึงปัญหามอเตอร์สตาร์ทชำรุด ที่อาจทำให้รถสตาร์ทไม่ติดอีกด้วย

ป้องกันอย่างไร ไม่ให้รถสตาร์ทไม่ติดกลางคัน

ปัญหารถยนต์สตาร์ทไม่ติด แต่มีไฟ เป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เพราะนอกจากจะทำให้สิ้นเปลืองเวลาโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังอาจตามมาด้วยค่าซ่อมรถที่เป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ซึ่งผู้ขับขี่สามารถป้องกันปัญหานี้ได้ด้วยการเช็ครถเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการเช็คแบตเตอรี่ มอเตอร์สตาร์ท หรือไดชาร์จ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารถสตาร์ทไม่ติด แต่หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เมื่อขับขี่อยู่คนเดียว สามารถขอความช่วยเหลือจากรถที่อยู่ใกล้ ๆ ก่อนได้ หรืออาจติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบ ซึ่งหากต้องนำรถเข้าซ่อมจะได้ดำเนินการได้ทันที

หากเลือกประกันรถยนต์ที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ก็จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าเมื่อเกิดเหตุรถสตาร์ทไม่ติด จะมีผู้ให้ความช่วยเหลือเราได้ตลอด 24 ชม. เช่นเดียวกับ ประกันรถยนต์ จาก แรบบิท แคร์ ที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. ทั่วไทย เกิดเหตุฉุกเฉินเมื่อไหร่ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทันที

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา