แคร์แม่และเด็ก

ควรเริ่มกิน “วิตามินเตรียมตั้งครรภ์” เมื่อไหร่ดี ?

ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ

ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี

close
Published March 26, 2021

แม้จะมีข้อจำกัดของอาหารและยามากมายที่คุณสามารถรับประทานได้ในระหว่างตั้งครรภ์ แต่กับ “วิตามินเตรียมตั้งครรภ์” นั้นเป็นสิ่งที่กินได้และผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่ามันคือสิ่งจำเป็นสำหรับว่าที่คุณแม่ทั้งหลาย

การฝากครรภ์ที่ดีสามารถช่วยให้คุณและลูกน้อยที่กำลังเติบโตมีสุขภาพที่ดี ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณทั้งคู่จะได้รับสารอาหารทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการตั้งครรภ์ตลอด 9 เดือนของการตั้งครรภ์

หากวิตามินเตรียมตั้งครรภ์มีไว้สำหรับคุณและลูกน้อย ทำไมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจึงบอกให้ผู้หญิงเริ่มรับประทานก่อนตั้งครรภ์ มันปลอดภัยที่จะกินไว้ล่วงหน้าเหรอ ? คุณได้ไปเดินดูวิตามินตามเชลฟ์เมื่อเร็ว ๆ นี้บ้างไหม ? ถ้าคุณดูมา ก็จะพบว่ามันเต็มไปด้วยตัวเลือกมากมาย ไม่ต้องเครียดไป เรารวบรวมเอาสาระสำคัญมาไว้ให้คุณที่นี่แล้ว

เรื่องราวของ วิตามินตั้งครรภ์ สำหรับคุณแม่ที่กำลังเตรียมตัวมีน้อง

คุณควรเริ่มกินวิตามินเตรียมตั้งครรภ์เมื่อใด ?

คำตอบมีอยู่ด้วยกัน 2 ข้อ แต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรอจนกว่าคุณจะได้อัลตราซาวนด์ในช่วงไตรมาสแรกนะ

เมื่อคุณตัดสินใจว่าจะตั้งครรภ์

พร้อมที่จะสร้างครอบครัวหรือยัง ? นอกเหนือจากการหาเวลาไปพบสูตินรีแพทย์ การเลิกคุมกำเนิด และตัดพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่ คุณควรเริ่มกินวิตามินก่อนคลอดด้วย

คุณจะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนจนกว่าจะตั้งครรภ์ อาจเป็นสัปดาห์หรือหลายเดือน และคุณจะไม่รู้ว่าคุณทำสำเร็จ จนกระทั่งไม่กี่สัปดาห์หลังจากตั้งครรภ์แล้ว วิตามินก่อนคลอดจึงเป็นส่วนสำคัญของการดูแลก่อนตั้งครรภ์

วิตามินตั้งครรภ์

ทันทีที่คุณพบว่าคุณกำลังตั้งครรภ์

หากคุณยังไม่ได้ทานวิตามินก่อนคลอด คุณควรเริ่มทันทีที่คุณได้รับสัญญาณการตั้งครรภ์ที่เป็นบวกจากการทดสอบปัสสาวะ แพทย์ของคุณอาจแนะนำแบรนด์ที่เฉพาะเจาะจงหรือแจกใบสั่งยาให้คุณ เพื่อทำให้ชีวิตการกินวิตามินของคุณง่ายขึ้น แต่คุณไม่ต้องรอนานเกินไป ทุกวันล้วนมีค่าเมื่อคุณเริ่มเข้าสู่ไตรมาสแรก

ทำไมต้องกินก่อนที่คุณจะท้อง ?

การตั้งครรภ์ใช้เวลากับคุณมาก ทารกในครรภ์ตัวน้อยน่ารักของคุณเป็นตัวดูดเอาทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของร่างกายคุณ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณใช้เวลาส่วนมากในช่วง 9 เดือน ไปกับความรู้สึกคลื่นไส้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เป็นตะคริว อารมณ์เสีย ร้องไห้ และขี้ลืม

ลูกน้อยของคุณได้รับสารอาหารทั้งหมดที่ต้องการโดยตรงจากคุณ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะขาดวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญในระหว่างตั้งครรภ์ การตรวจสอบให้แน่ใจว่าร่างกายของคุณมีสิ่งที่จำเป็นในการบำรุงคุณทั้งคู่นั้นจะง่ายกว่ามาก หากคุณเริ่มต้นก่อนที่ลูกน้อยจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายคุณ

ให้คิดว่ามันเหมือนกับการสร้างเงินทุนสำรอง หากคุณมีวิตามินและสารอาหารมากพอที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต คุณสามารถที่จะแบ่งปันวิตามินและสารอาหารเหล่านั้นกับลูกน้อยของคุณเมื่อพวกเขาค่อย ๆ เติบโต

วิตามินตั้งครรภ์

สารอาหารที่สำคัญที่สุดในการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในเดือนแรกของการตั้งครรภ์คืออะไร ?

แม้ว่าการมีวิตามินและสารอาหารที่สมดุลในระหว่างตั้งครรภ์จะเป็นสิ่งสำคัญ แต่บางอย่างก็เป็นผู้เล่นตัวที่มีค่าที่สุดของเกมอย่างแท้จริง เพราะมันช่วยให้ทารกสร้างอวัยวะและระบบต่าง ๆ ของร่างกายที่สำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่จะเริ่มพัฒนาในช่วงสัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์

ตามที่สมาคมสูตินรีแพทย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา (ACOG) ได้ให้ข้อมูลไว้ สารอาหารเหล่านี้เป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุดที่คุณต้องการ

  • กรดโฟลิค

คุณปู่ของสารอาหารก่อนคลอด วิตามินบีชนิดนี้มีหน้าที่สร้างท่อประสาทของทารกหรือโครงสร้างที่ประกอบเป็นสมองและกระดูกสันหลังในที่สุด หากไม่มีท่อประสาทที่พัฒนาเต็มที่ ทารกอาจเกิดมาพร้อมกับความบกพร่องของกระดูกไขสันหลังหรือภาวะที่ไม่มีสมองและกระโหลกศีรษะ

โชคดีที่ผู้เชี่ยวชาญทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกรดโฟลิกช่วยเพิ่มโอกาสในการเจริญเติบโตของท่อประสาทที่แข็งแรง สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกามีจุดยืนมานานแล้วว่ากรดโฟลิกสามารถลดข้อบกพร่องของท่อประสาทได้อย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์

ท่อประสาทจะปิดภายใน 4 สัปดาห์แรกหลังการตั้งครรภ์ ซึ่งมักเกิดก่อนหรือหลังผู้หญิงรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงเป็นสาอาหารสำคัญที่คุณควรจะรีบอัดมันเข้าไปก่อนเพื่อน

เนื่องจากกรดโฟลิกมีประสิทธิภาพมาก แต่ต้องขึ้นกับว่าคุณได้รับมันอย่างเพียงพอในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้สตรีที่มีเพศสัมพันธ์ในวัยเจริญพันธุ์ทุกคนรับกรดโฟลิก 400 ไมโครกรัม (ไมโครกรัม) ทุกวัน ทั้งจากวิตามินก่อนคลอดหรืออาหารเสริมส่วนบุคคล

ด้วยวิธีนี้ คุณจะมีมันพร้อมเมื่อคุณต้องการ แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้วางแผนจะมีเจ้าตัวน้อยก็ตาม เมื่อคุณยืนยันการตั้งครรภ์แล้ว คุณจะต้องมีอย่างน้อย 600 ไมโครกรัมต่อวัน

  • ธาตุเหล็ก

ธาตุเหล็กให้เลือดและออกซิเจนแก่ทารกในครรภ์ ช่วยสร้างรกและให้ปริมาณเลือดที่ต้องการตลอดการตั้งครรภ์ เนื่องจากสตรีมีครรภ์มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคโลหิตจาง การเสริมธาตุเหล็กยังช่วยให้แน่ใจว่าคุณมีเม็ดเลือดแดงในเลือดในปริมาณที่เหมาะสม

ภาวะโลหิตจางในระหว่างตั้งครรภ์มีความสัมพันธ์กับอัตราการคลอดก่อนกำหนดที่สูงขึ้น และน้ำหนักแรกเกิดของทารกต่ำ

  • แคลเซียม

ลูกน้อยของคุณใช้เวลาส่วนใหญ่ในมดลูกเพื่อสร้างกระดูกและฟัน พวกเขาจึงต้องการแคลเซียมจำนวนมาก ซึ่งหมายความว่าคุณต้องการแคลเซียมมากเช่นกัน

หากคุณได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ ลูกน้อยของคุณจะกินอะไรก็ได้ที่ต้องการโดยตรงจากกระดูกระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียกระดูกชั่วคราว

วิตามินตั้งครรภ์

มีผลข้างเคียงหากกินวิตามินเหล่านี้ตั้งแต่ยังไม่ตั้งครรภ์หรือไม่ ?

โดยทั่วไปแล้ว วิตามินและสารอาหารที่รวมอยู่ในวิตามินเหล่านี้จะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย หากเป็นเช่นนั้นแล้ว สตรีมีครรภ์จะไม่ได้รับการสนับสนุนให้รับประทาน

กล่าวได้ว่าวิตามินก่อนคลอดมีระดับสารอาหารเฉพาะสำหรับสตรีมีครรภ์ ซึ่งหมายความว่ามันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ไม่ได้ตั้งครรภ์หากจะกินมันในระยะยาว

ตัวอย่างเช่น ความต้องการธาตุเหล็กของคุณเพิ่มขึ้นจาก 18 มิลลิกรัม เป็น 27 มิลลิกรัมในระหว่างตั้งครรภ์ ในขณะที่ผลข้างเคียงในระยะสั้นของการได้รับธาตุเหล็กมากเกินไป ได้แก่ อาการไม่สบายของระบบทางเดินอาหารที่ไม่รุนแรง เช่น อาการท้องผูกและคลื่นไส้ เมื่อเวลาผ่านไปสารอาหารที่มากเกินไปอาจเป็นปัญหาได้มากขึ้น

หากคุณไม่ได้ตั้งครรภ์หรือวางแผนการตั้งครรภ์คุณสามารถงดการรับประทานวิตามินพวกนี้ไปก่อนได้ จนกว่าคุณจะต้องการมันจริง ๆ เช่น 2-3 เดือนก่อนตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ และในช่วงให้นมบุตร

เคล็ดลับในการกินวิตามิน

หากคุณสงสัยว่าการกินวิตามินบำรุงพวกนี้จะทำให้ท้องไว้คุณไม่ค่อยสบาย มีหลายวิธีที่คุณสามารถลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์บางอย่างได้

  •  ถามแพทย์ของคุณเกี่ยวกับการเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่น

บางครั้งสูตรของมันที่กำหนดขึ้นอาจจะมีลักษณะที่ไม่เหมาะกับคุณ

  • ลองใช้วิธีอื่น

วิตามินก่อนคลอดมักมีจำหน่ายในรูปแบบแคปซูล เครื่องดื่ม เยลลี่ และแม้แต่โปรตีนเชค และการกินเข้าไปในปริมาณที่แตกต่างกันสามารถช่วยกระบวนการย่อยอาหารได้ ลองเปลี่ยนจากแคปซูลขนาดใหญ่หนึ่งแคปซูลเป็นเยลลี่สามเม็ดต่อวัน หรือแบ่งแคปซูลเม็ดใหญ่กิน 2 ครั้ง ห่างจากกัน 12 ชั่วโมง

  • ดื่มน้ำก่อนและหลังกินวิตามินมาก ๆ

หากคุณมีอาการท้องผูก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ล้างระบบทางเดินอาหารอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพิ่มอาหารเสริมไฟเบอร์ได้หากคุณรู้สึกต้องการแบ็คอัพ แต่ควรขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนเสมอ

  •  ทดลองกับอาหาร

หากวิตามินของคุณทำให้คุณคลื่นไส้ ให้ลองรับประทานทั้งที่มีหรือไม่มีอาหารในท้อง สำหรับบางคนการทานวิตามินตอนท้องว่างจะทำให้ระคายเคือง คนอื่น ๆ พบว่าพวกเขาสามารถกินได้ตอนท้องว่างเท่านั้น

หากคุณกำลังคิดที่จะตั้งครรภ์อย่างจริงจังในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า การเริ่มรับประทานวิตามินก่อนคลอดควรอยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการสิ่งที่ต้องทำก่อนตั้งครรภ์

หากคุณตั้งครรภ์แล้ว ให้เริ่มรับประทานโดยเร็วที่สุด มันจะช่วยให้ลูกน้อยของคุณเติบโตอย่างแข็งแรงและมีสุขภาพดี และช่วยให้คุณแข็งแรงและมีสุขภาพดีด้วยเช่นกัน

หากคุณไม่ได้วางแผนที่จะมีเจ้าตัวเล็กอย่างจริงจังในตอนนี้ แต่ในทางเทคนิคแล้วคุณอาจตั้งครรภ์ขึ้นมาได้ ก็ให้รับประทานอาหารเสริมกรดโฟลิกทุกวัน มันจะให้สิ่งที่คุณต้องการหากคุณตั้งครรภ์ โดยที่คุณไม่ต้องรับประทานวิตามินก่อนคลอดอื่น ๆ มากเกินไปโดยไม่จำเป็น


อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th

ผ่อนสบาย! ซื้อประกันรถทุกชั้น ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน

รถของคุณยี่ห้ออะไร

< กลับไป
< กลับไป

ระบุยี่ห้อรถของคุณ

ระบุปีผลิตรถของคุณ


บทความแคร์แม่และเด็ก

แคร์แม่และเด็ก

ความสามารถพิเศษที่ควรให้ลูกมีติดตัวไว้ เพราะอาจได้ใช้และต่อยอดได้ในระยะยาว

ความสามารถพิเศษ สิ่งที่เราต่างก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าหากมีติดตัวเอาไว้ย่อมเป็นผลดีมากกว่าไม่มี
Nok Srihong
25/03/2024

แคร์แม่และเด็ก

ผ่าคลอด มีข้อดีอย่างไร ? ปลอดภัยกว่าคลอดธรรมชาติหรือไม่ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ?

สำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ จะผ่าคลอดหรือคลอดธรรมชาติคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะต้องตัดสินใจ ว่าจะผ่าคลอดดีหรือไม่ การผ่าคลอดปลอดภัยกว่าคลอดธรรมชาติไหม
Nok Srihong
12/03/2024