![Rabbit Care Blog Image 86963](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2023/10/ev-passenger-car-registrations-statistics-800x600-1.png?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&fit=scale&h=300&q=50&w=400)
เปิดสถิติ! ยอดรถไฟฟ้า (EV) จดทะเบียนใหม่จากแต่ละแบรนด์ ปี 2566
Harley-Davidson ชื่อนี้หากนึกขึ้นมา ก็จะนึกถึงรถครุยเซอร์คันโต ดูควบคุมยาก แต่ถ้าหากได้สัมผัส Harley-Davidson Fatboy 2020 ที่แม้หน้าตาจะดูเทอะทะ แต่มันกลับเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ควบคุมง่ายอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งวันนี้ autospinn ก็เอื้อเฟื้อข้อมูลดี ๆ ให้เราอีกแล้ว
Harley-Davidson Fatboy 114 รุ่นปี 2020 คันที่เราจะนำมาทดสอบในวันนี้ เป็น รถมอเตอร์ไซค์สุดเจ๋ง ในตระกูล Softail จากทาง Harley-Davidson ซึ่งรถคันที่เรานำมาทดสอบในวันนี้เป็นรุ่นประกอบไทย โดยหน้าตาและการขับขี่จะเป็นอย่างไร เราตามไปดูกัน
คำนิยามสั้นๆ แต่ได้ใจความประจำตัวของรถ Harley-Davidson Fatboy 114 ที่สื่อให้เห็นถึงร่างกายอันกำยำของตัวรถ ทว่าสามารถถ่ายทอดพละกำลังของตัวรถได้อย่างนุ่มนวล และควบคุมได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ โดยก่อนที่เราจะไปพบกับบททดสอบการขับขี่ เรามาเริ่มดูดีไซน์การออกแบบภายนอกกันก่อนครับ
ไฟหน้าของรถ เป็นไฟหน้า LED โคมเดี่ยวที่มาทั้งไฟสูงและไฟต่ำในกรอบโครเมี่ยมเดียวกัน อยู่ในชุดแผงโช๊คหน้าขนาดใหญ่ยึดติดกับแฮนด์ของตัวรถ ทำสีแบบซาตินโครเมี่ยม เรียบหรู ดูแพง งานประกอบโดยรวมของ Harley-Davidson Fatboy 114 จัดว่าเนี้ยบทุกจุด ถือว่าทำมาได้ดี ไม่ผิดหวัง
ล้อหน้า ใช้ล้อแม็กอลูมิเนียมขึ้นรูป Lakester ขัดเงา พร้อมด้วยดิสเบรกเดี่ยว, ปั้มเบรก 4 พอต พร้อมระบบ ABS ป้องกันล้อล็อก ส่วนยางหน้าใช้ยางขนาดใหญ่ถึง 160/60 R18
Harley-Davidson Fatboy 114 เมื่อมองจากผู้ขับขี่จะเห็นได้ว่าตัวรถมีระบบควบคุมที่ค่อนข้างดิบ ๆ ให้มาเฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อถ่ายทอดความดิบของ Harley-Davidson ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยตัวเรือนไมล์ของรถที่ติดตั้งบริเวณเหนือถังน้ำมัน ประกอบด้วยมาตรวัดความเร็วแบบเข็ม และหน้าจอดิจิตอลบอกข้อมูลการขับขี่เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนถังน้ำมันเป็นทรงหยดน้ำความจุ 18.9 ลิตร
ในส่วนของแฮนบาร์ของรถรุ่นนี้จะวางตำแหน่งเข้ามาหาผู้ขับขี่ค่อนข้างเยอะ สอดรับกับตำแหน่งท่านั่งสไตล์รถอเมริกันครุยเซอร์ ทำให้สามารถควบคุมรถได้ง่าย แม้ว่าจะมีน้ำหนักมากถึง 300 กิโลกรัมก็ตาม แต่กลับสัมผัสได้ว่าตัวรถไม่ได้หนักมากเท่าไหร่
บริเวณพักเท้าของรถรุ่นนี้ใช้เป็นรูปแบบฟลอบอร์ดเหมือนกับตระกูลครุยเซอร์รุ่นอื่น ๆ ของทาง Harley-Davidson เอง มาพร้อมกับกันล้มสีโครเมี่ยมขนาดใหญ่ที่ช่วยเสริมเรื่องความสวยงามของรถได้แล้ว ยังช่วยลดความเสียหายของตัวรถ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น (ล้มแปะ)
เบาะนั่งของ Harley-Davidson Fatboy 114 ใช้เบาะนั่ง 2 ตอน ความสูงของเบาะผู้ขับอยู่ที่ 675 มม.
ไฟท้ายของรถ เป็นไฟท้าย LED ส่วนไฟเลี้ยวใช้ทรงกลมสไตล์รถคลาสสิก ทางด้านท่อไอเสีย เป็นท่อไอเสียคู่ขนาดใหญ่ยิงตรงจากเครื่องยนต์ ให้เสียงที่ค่อนข้างนุ่มนวลมาก
Harley-Davidson Fatboy 114 ในส่วนของการทดสอบขับขี่ ทางเราได้ทดลองขับขี่ตั้งแต่กรุงเทพมหานคร ไปยังเขาใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางยอดฮิตสำหรับการขี่รถมอเตอร์ไซค์ ด้วยระยะทางไปกลับราว 400 กม. พบว่าเจ้า Harley-Davidson Fatboy 114 มอบพละกำลังแรงบิดได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ผ่านคันเร่งไฟฟ้าได้อย่างนุ่มนวล แม้ในยามที่เราอยากจะซิ่ง เพียงกระแทกคันเร่งออกไป ก็สามารถพาเราทะยานเข้าสู่ย่านความเร็วสูงได้อย่างสบาย ๆ ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย
ตำแหน่งท่านั่งรวมถึงการควบคุมของรถ ทำออกมาได้อย่างดีงาม และเยี่ยมยอด ด้วยตำแหน่งของแฮนด์ที่ดึงเข้าหาผู้ขับขี่เยอะ พร้อมความสูงของเบาะนั่งที่ไม่สูงมากนัก ทำให้การควบคุมรถในย่านความเร็วต่ำเช่นการขับในเมืองสามารถทำได้อย่างง่ายดาย และในส่วนของความเร็วสูงของรถรุ่นนี้ก็สามารถทำได้อย่างเยี่ยมยอด ด้วยความรู้สึกที่ “แน่น” อันเกิดจากการวางศูนย์ถ่วงของรถที่ค่อนข้างต่ำ รวมถึงช่วงล่างที่ทำการบ้านมาได้ดี ทำให้การขับขี่ทางไกลรู้สึกสบาย
แต่ถ้าหากใช้ความเร็วที่สูงมากกว่า 120 กม./ชม. จะรับรู้ได้ถึงลมที่ปะทะหน้าอกที่ค่อนข้างหนักหน่วงสักนิด เพราะรถรุ่นนี้ไม่ได้มีการติดตั้งชิวบังลมมาให้นั่นเอง ณ จุดนี้อาจต้องพึ่งพาของแต่งเพิ่มเติม
การเข้าโค้งของรถรุ่นนี้ จัดว่าเป็นสิ่งที่ดีงามอีกจุดหนึ่ง เนื่องด้วยศูนย์ถ่วงของตัวรถที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้ทุกการพลิกเข้าโค้งของรถรุ่นนี้สามารถทำได้โดยง่าย ไม่ต้องพยายามดึงรถเยอะ ๆ แต่อย่างใด ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกสนุกไปกับทุกเส้นทางมากขึ้น
Harley-Davidson Fatboy 114 2020 เป็นรถครุยเซอร์ไบค์ที่เหมาะสำหรับการขับขี่ภายในเมือง, ออกทริประยะสั้นความเร็วไม่สูงมากนัก เนื่องด้วยตัวรถที่มอบความง่ายในการควบคุมกับผู้ขับขี่ได้อย่างเยี่ยมยอด แถมหน้าตาของตัวรถมันช่างน่ามองด้วยสีซาตินโครเมี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ของรถคันนี้
นับว่าเป็นรถ Harley-Davidson อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย เป็นรถที่เหมาะสำหรับทั้งคนที่ไม่เคยขี่ Harley-Davidson มาก่อน เพราะมันขี่ง่ายมากจริงๆ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,219,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถชมตัวจริง พร้อมทดลองขับ สามารถเข้าไปสัมผัสได้ที่ Harley-Davidson พระราม 9 และทุกศูนย์บริการของ พาวเว่อร์ สเตชั่น
สนใจซื้อรถใหม่ หรือรถมือสองคุณภาพดี ราคาประหยัด พร้อมของสมนาคุณมากมาย คลิก one2car.com เลย! อ่านบทความดี ๆ รีวิวเจาะลึกเรื่องรถยนต์ใหม่ก่อนใคร ตรวจสอบราคารถ และ How to ในการดูแลรักษา ได้ที่นี่ Autospinn.com
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี
บทความตะลอนรีวิวรถ
เปิดสถิติ! ยอดรถไฟฟ้า (EV) จดทะเบียนใหม่จากแต่ละแบรนด์ ปี 2566
รถยนต์ Crossover คืออะไร? ต่างกับรถ SUV PPV MPV อย่างไรบ้าง พร้อมบอกข้อดี-ข้อเสีย
รวม 5 แบรนด์รถรุ่นใหม่เปิดตัวในงาน Motor Show 2023