ขี่มอเตอร์ไซค์สไตล์นี้ ต้องทำประกันมอเตอร์ไซค์ตัวไหน

เคยสังเกตไหมคะ ว่าแต่ละคนมีสไตล์การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่แตกต่างกันไป บางคนขับสไตล์นี้ อีกคนขับอีกแบบ ซึ่งสไตล์การขับขี่ก็สะท้อนนิสัยส่วนตัวของคนขับขี่ได้เช่นกัน วันนี้เราเลยมีวิธีเลือกซื้อ ประกันมอเตอร์ไซค์ ตามสไตล์การขับขี่มอเตอร์ไซค์มาฝาก

ว่าแต่จะมีสไตล์การขับขี่แบบไหนบ้าง งานนี้ใครที่ขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ห้ามพลาดเด็ดขาด

เลือกซื้อ ‘ประกันมอเตอร์ไซค์’ ตามสไตล์การขี่รถ

อย่างที่เราบอกไปในข้างต้นว่าสไตล์การขับขี่สามารถบ่งบอกลักษณะตัวตนของเราได้ แต่ทั้งนี้เรื่องความปลอดภัยก็เป็นเรื่องสำคัญในการขับขี่ ดังนั้นเราควรจะทำประกันมอไซค์เอาไว้ เพื่อความปลอดภัยทั้งตัวผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมไปถึงตัวรถมอเตอร์ไซค์ด้วย

แต่เอ๊ะ! ประกันรถมอเตอร์ไซค์ก็มีหลายประเภท แล้วอย่างนี้จะเลือกประกันอันไหนให้เหมาะกับการขับขี่ เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

• สายบิดแง้นแง้น

หากคุณเป็นสายบิด สายเร่งเครื่องแง้นแง้น แว๊นแว๊น หรือที่เขานิยามว่า ‘แว๊นบอย’ หรือหากคุณไม่ใช่สไตล์ ‘แว๊นบอย’ แต่เป็นสายบิ๊กไบค์ เครื่องเน้นๆ เร็วแรงทะลุมิติละก็ บอกเลยค่ะว่าคุณควรทำประกันมอไซค์ชั้น 1 ไปเลย เพราะสไตล์นี้สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ความเร็ว ความเเรง 

ซึ่งความเร็ว ความแรง ความบิดเต็มเหนี่ยวนี่แหละ ที่อาจพาคุณไปเสี่ยงอันตราย เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าสไตล์ไหนๆ รวมถึงราคาบิ๊กไบค์แต่ละคันก็ไม่ใช่เล่นๆ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น รถเสียหาย ต้องเสียค่าซ่อมแพงอีก งานนี้ให้ประกันช่วยดูแลน่าจะดีกว่านะ 

• สายลุก สายวิบาก พร้อมทุกสถานการณ์

ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหน ชอบเหลือเกินที่จะขี่มอเตอร์ไซค์ทางไกลขึ้นเหนือลงใต้ ขึ้นเขา ลงน้ำ ลุยโคลน ลุยทรายไม่เคยหวั่น พร้อมลุยทุกเส้นทาง การขับขี่สไตล์นี้ส่วนใหญ่มักจะเจอกับเส้นทางที่หินและโหด แม้เราจะเตรียมพร้อมมาแบบเต็มร้อย ก็การันตีไม่ได้หรอกว่าอุบัติเหตุระหว่างทางจะไม่เกิดขึ้น 

บางทีเราอาจจะขับไปเหยียบหินทำให้ยางรั่ว บางเส้นทางในการขับขี่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เช่น เส้นทางขรุขระ หรือถนนทางเรียบ แต่เป็นเส้นทางหลวงที่รถส่วนใหญ่มักขับขี่กันด้วยความเร็ว หรือแม้กระทั่งการไม่คุ้นทาง ก็อาจพาให้คุณเจ็บตัวได้ เช่นกัน ดังนั้นใครที่ขับขี่สไตล์นี้ แนะนำให้ทำประกันมอไซค์ชั้น 1 ไปเลยค่ะ รับรองว่าตอบโจทย์แน่นอน 

• สาย City ขับขี่ในเมือง

ไม่ว่าคุณจะขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือขับขี่มอเตอร์ไซค์ในเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น อย่างที่เรารู้กันว่าในเมืองใหญ่ปริมาณผู้ใช้รถ ใช้ถนนมีจำนวนมาก หรือบางทีอาจเจอสภาพการจราจรที่ติดขัด อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉียวชนเกิดขึ้นได้

แต่ทั้งนี้อุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดในเมืองใหญ่ มักจะไม่ร้ายแรงมาก เพราะด้วยสภาพการจราจรที่ติดขัด ทั้งมอเตอร์ไซค์ ทั้งรถยนต์ ไม่สามารถทำความเร็วได้มากนัก แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ควรมีประกันรถจักรยานยนต์เอาไว้อยู่ดีล่ะ อาจจะเลือกทำประกันชั้น 2+ หรือไม่ก็ ชั้น 3+ ก็ย่อมได้ 

• สายสโลว์ เอาชัวร์

สำหรับใครที่ขี่มอเตอร์ไซค์แบบช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม หรือเน้นใช้สอยตามสโลแกน “รถซื้อแกง จะไปแรงได้ยังไง” สไตล์การขับขี่จะไม่ฉวัดเฉวียน ไม่เสี่ยงอันตราย หรือเปอร์เซ็นต์การเกิดอุบัติเหตุก็น้อย เน้นปลอดภัยมากกว่าบิดแบบเต็มเหนี่ยว

หากคุณเป็นคนขับขี่มอเตอร์ไซค์สไตล์นี้ หรือเน้นขับขี่แค่ในซอย ไม่ค่อยได้ออกถนนใหญ่ หรือนานๆ จะใช้มอเตอร์ไซค์ แนะนำให้ทำประกันมอไซค์ชั้น 2 หรือประกันมอไซค์ชั้น 3 ก็เพียงพอแล้วค่ะ

• สายน้องใหม่หัดขี่

หากคุณเพิ่งเริ่มหัดขี่มอเตอร์ไซค์ ยังไม่ค่อยมั่นใจในฝีมือการขับขี่ของตัวเองเท่าไหร่นัก รู้สึกกังวลทุกครั้งเวลาขี่มอเตอร์ไซค์ ซึ่งความไม่มั่นใจนี้เองที่อาจพาคุณไปอยู่ในจุดอันตราย 

Rabbit Care เลยมีทริกเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ นั่นก็คือให้มือใหม่ทั้งหลายทำ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 ไปเลยค่ะ เพราะเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด ทั้งรับผิดชอบต่อคู่กรณี รับผิดชอบต่อผู้เอาประกัน รับรองว่าแค่คุณมีประกันมอไซค์ชั้น 1 ก็เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้หลายเท่าแล้ว 

ไม่ว่าคุณจะขี่มอเตอร์ไซค์สไตล์ไหน จะใช้มอเตอร์ไซค์บ่อยหรือไม่ ก็ควรทำประกันมอเตอร์ไซค์เอาไว้นะคะ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ใช้รถ ใช้ถนนร่วมกันกับเรานั้น จะเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นหรือเปล่า ดังนั้นการมีประกันมอไซค์ก็ช่วยให้คุณอุ่นใจทุกครั้งที่คุณขับขี่ได้นั่นเอง 

กองบรรณาธิการ

ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี