ตะลอนรีวิวรถ

วิเคราะห์เหตุผล ทำไม ORA Good Cat ถึงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับจองที่สุดแห่งยุค

ผู้เขียน : Thirakan T

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology

close
Published September 05, 2022

ด้วยกระแสน้ำมันแพงขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ ทำให้หลายคนเริ่มมองรถยนต์ทางเลือกอย่างรถยนต์พลังงานไฟฟ้า แต่การจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าทั้งนี้ก็ต้องคิดหนักอยู่เหมือนกันเพราะมีราคาแพงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไป รวมถึงสถานีชาร์จไฟที่ยังมีน้อยในบ้านเราก็ยังเป็นสาเหตุให้ผู้บริโภคยังไม่เทใจไปกับรถยนต์ไฟฟ้าเสียที จนกระทั่งการมาถึงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง ORA Good Cat เข้ามาทำตลาดบ้านเราทำให้หลายคนจับตามองเป็นอย่างมาก

ทำไม ORA Good Cat ถึงเป็นกระแสฮิต? ทำไม ORA Good Cat ถึงเป็นรถ EV ที่น่าใช้งานที่สุดขณะนี้? น้องแคร์จะพาทุกท่านไปหาคำตอบเอง

คัดมาให้แล้ว! ประกันรถสุดคุ้ม จากกว่า 30 บริษัทชั้นนำ

รถของคุณยี่ห้ออะไร

< กลับไป
< กลับไป

ระบุยี่ห้อรถของคุณ

ระบุปีผลิตรถของคุณ

ORA Good Cat รีวิวแบบกระชับ

ORA Good Cat เป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV ค่าย ORA จากประเทศจีน ที่ถูกบริษัทแม่ GWM (Great Wall Motor) นำเข้ามาขายในบ้านเราเมื่อเร็ว ๆ โดยชื่อของรถ Good Cat ก็จะตรงกับคอนเซ็ปต์ของค่ายที่ต้องการให้รถยนต์ของคุณเป็นเสมือนแมวน้อยน่ารักน่าเอ็นดู เรียกได้ว่าเพียงแค่ชื่อก็ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่เป็นทาสแมวได้บ้างแล้ว โดยเจ้าแมวตัวนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบเต็ม ๆ 100 เปอร์เซ็นต์ ขนาดกระทัดลัดดูคล่องตัวเหมาะกับการขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่มีการจราจรหนาแน่นและมีตรอกซอกซอยมากมาย โดยมีขนาดความยาว 4,235 mm. ความกว้าง 1,825 mm. สูง 1,596 mm. และขนาดฐานล้อยาว 2,650 mm. ความสูงจากพื้นถึงท้องรถ 145 mm. (เพียงพอต่อการขับขึ้นคอสะพานในบ้านเราได้) และมีน้ำหนักเพียง 1,500 กิโลกรัมเท่านั้น เพื่อให้ขับได้ในทางไกล ๆ ไม่เปลืองพลังงานไฟฟ้า สรุปก็คือขนาดพอ ๆ กับรถยนต์อีโค่คาร์ทั่วไปในบ้านเรานั่นเอง ส่วนดีไซน์ภายนอกก็ออกแบบมาดูน่ารักเหมือนแมวน้อยที่กำลังรอเจ้าของ ดูเฟลนด์ลี่กับผู้ขับขี่ สนุกสนาน น่ารัก ขี้เล่น มีส่วนโค้งเว้าสวยงามทันสมัยพร้อมด้วยไฟหน้าทรงกลมเหมือนตาแมว โดนใจคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง

สำหรับ ORA Good Cat ที่นำมาขายในบ้านเราตอนนี้ก็จะมีทั้งหมด 4 รุ่นได้แก่ 

– ORA Good Cat 400 Tech สามารถวิ่งได้ 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จพลังงานเต็ม 1 รอบ

– ORA Good Cat 400 Pro ที่มีฟังก์ชันการทำงานเยอะกว่า 400 Tech สามารถวิ่งได้ 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จพลังงานเต็ม 1 รอบ เช่นกัน

– ORA Good Cat 500 Ultra สามารถวิ่งได้ 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จพลังงานเต็ม 1 รอบ

– ORA Good Cat GT รุ่นย่อยตัวใหม่ที่มีขุมกำลังเยี่ยมกว่าเดิม

ภายในรถแม้ว่าจะดูแคบไปหน่อยตามสไตล์รถขับในเมืองแต่ก็ดูมีความสวยงามในทุกรายละเอียด เบาะไฟฟ้าหุ้มด้วยหนังสวยงาม คอนโซลด้านหน้าหุ้มด้วยหนัง รวมถึงอุปกรณ์อันทันสมัยต่าง ๆ เช่น ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB, มีปุ่มควบคุมระบบเสียงบนพวงมาลัย, กระจกหน้าต่างไฟฟ้าพร้อมระบบ One-Touch , ระบบ Auto Brake Hold, คันเกียร์แบบ Electronic Dial Shifte, กุญแจ Smart Key ที่ออกแบบมาดูกระทัดรัดทันสมัย, ระบบเซ็นเซอร์ช่วยเบรกเมื่อมีคนวิ่งตัดหน้ารถ, เบาะนวดไฟฟ้าสำหรับคนขับ, ระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Command, ระบบเชื่อมต่อระหว่างตัวรถกับ Application บนมือถือ เป็นต้น

แม้ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเล็กแต่สมรรถนะไม่ได้เล็กตามเพราะเจ้าแมวตัวนี้ก็มีเขี้ยวเล็บซ่อนไว้อยู่เหมือนกันนั่นคือสามารถวิ่งออกต่างจังหวัดได้ไกลในระดับหนึ่งเลยทีเดียว โดยขับเคลื่อนด้วยมอร์เตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังขับเคลื่อน 143 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุดที่ 210 นิวตันเมตร และทำความเร็วสูงสุดถึง 152 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เรียกว่าแรงไม่แพ้รถยนต์น้ำมันทั่วไปเลยทีเดียว ส่วนแบตเตอรี่นั้นจะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต ความจุ 47.788 กิโลวัตต์-ชั่วโมงสำหรับรุ่น Tech 400 กับ Pro 400 ส่วนรุ่น Ultra 500 แบตเตอรี่ประเภทลิเธียม Ternary ความจุ 63.139 กิโลวัตต์-ชั่วโมง 

ส่วนการชาร์จไฟนั้นจะแบ่งออกดังนี้

– ชาร์จกับไฟบ้านกระแสสลับ สำหรับรุ่น tech 400, และรุ่น pro 400 จะใช้เวลาชาร์จประมาณ 8 ชั่วโมง ส่วนรุ่น Ultra 500 จะใช้เวลาชาร์จไฟ 10 ชั่วโมง

– ชาร์จกับไฟกระแสตรง DC Fast Charger สำหรับรุ่น tech 400, และรุ่น pro 400 จะใช้เวลาชาร์จประมาณ 32-45 นาที ส่วนรุ่น Ultra 500 จะใช้เวลาชาร์จไฟประมาณ 40-60 นาที ขึ้นกับว่าตอนนั้นมีไฟฟ้าในแบตเตอรี่ เท่าไหร่

สรุปได้ว่า ORA good cat เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่โดนเฉพาะ

ORA Good Cat GT รุ่นใหม่แรงกว่าเจนก่อน

หลังจากที่ ORA Good Cat สามรุ่นแรกที่เปิดตัวในไทยไปเมื่อปีก่อนนั้น ล่าสุดทาง GWM ก็นำ ORA Good Cat GT รุ่นใหม่ที่ไฮเอ็นด์กว่าเดิมเข้ามาขายแล้ว โดยจะเน้นความสปอร์ตมากกว่าเดิมด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นยิ่งกว่ากับขุมกำลังขับเคลื่อน 171 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วได้สูงสุด 152 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขนาดตัวรถใหญ่กว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย ที่ กว้าง 1,848 mm. ยาว 4,254 mm. และสูง 1,596 mm. เสริมความแกร่งกว่าเดิมด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ Torsion Beam

รถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat ราคาเท่าไหร่?

อัพเดทราคาล่าสุดปี 2022 ดังนี้

ORA Good Cat 400 TECH ราคา 763,000 บาท

ORA Good Cat 400 PRO ราคา 828,500 บาท

ORA Good Cat 500 ULTRA ราคา 959,000 บาท

ORA Good Cat GT ราคา 1,286,000 บาท

ทำไม ORA Good Cat ถึงน่าใช้งาน

หลังจากเปิดให้จองกันได้ไม่นานก็พบว่าได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก รวมถึงมีหลายสื่อที่ทำรีวิวจะยกให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับจองที่สุดแห่งปี  พอเปิดตัวมาก็มียอดจองมากกว่า 4,296 คัน ภายใน 24 ชม. ความนิยมแซงหน้ารถยนต์ EV ที่เปิดตัวรุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเราจะมาวิเคราะห์ข้อดีให้ทุกท่านได้เห็นกันดังนี้

1. คุ้มค่าคุ้มราคา เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาจับต้องได้ หากเทียบกับรถรุ่นอื่น ๆ จะมีราคาขายอยู่ที่หลักล้านขึ้นไป แต่ ORA Good Cat นั้น มีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 763,000 บาท เท่านั้นสำหรับ ORA Good Cat รุ่น 400 TECH และด้วยนโยบายของภาครัฐที่กำลังปรับลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้าก็อาจมีแนวโน้มทำให้ราคา ORA Good Cat ทุกรุ่นอาจถูกลงกว่าเดิมในอนาคตด้วย

2. เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งต่างจังหวัดได้ ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปคือวิ่งต่างจังหวัดลำบากเพราะการชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้เพียงจังหวัดใกล้ ๆ เท่านั้น แต่ ORA Good Cat มาพร้อมกับความจุของแบตเตอรี่ปริมาณมาก ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลขึ้น หมดห่วงกับการเดินทางไปจังหวัดใกล้ ๆ ออกทริปเที่ยวสบายไม่ต้องห่วงเรื่องแบตเตอรี่หมด

3. ชาร์จแบตเตอรี่ไว โดยการชาร์จจากจุดชาร์จกระแสไฟตรง DC Fast Chager แค่ครึ่งชั่วโมงก็เพียงพอต่อการเดินทางไกลต่อแล้ว อีกทั้งยังสามารถชาร์จไฟกระแสสลับตามบ้านได้ด้วย แม้ว่าการชาร์จไฟบ้านจะใช้เวลานานกว่า แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบเท่าไหร่เพราะส่วนมากก็ชาร์จทิ้งไว้ตอนกลางคืนอยู่แล้ว ตื่นมาก็ถอดสายชาร์จแล้วขับไปทำงานต่อได้เลย

4. ขุมกำลังทัดเทียมกับรถยนต์น้ำมันทั่วไป หลายคนอาจคิดว่ารถยนต์ไฟฟ้าการเร่งเครื่องยนต์จะแรงสู้รถธรรมดาไม่ได้ แต่ ORA Good Cat นั้น ให้พลังขับเคลื่อน 143 แรงม้า (รุ่น GT 171 แรงม้า) ทำให้การเร่งเครื่องแซงรถคันหน้าได้ไม่ยาก และด้วยความที่เป็นรถยนต์มอเตอร์ไฟฟ้าทำให้การออกตัวนั้นเร็วกว่ารถยนต์น้ำมันบางรุ่นเสียอีก

5. ดีไซน์สวยงามทันสมัย เนื่องจากผู้ออกแบบ ORA Good Cat  นั้นเคยทำงานให้รถยนต์แบรนด์ดังอย่าง Porsche มาก่อน ทำให้ดีไซน์ด้านหน้าเหมือนรถซุปเปอร์คาร์คลาสสิกรุ่น Porsche 911 เรียกได้ว่าแม้จะเป็นรถขนาดเล็กแต่ดีไซน์เรียบสวยราวซุปเปอร์คาร์นั่นเอง นอกจากนี้การดีไซน์ทั้งภายในและภายนอกรถยังดูสวยงามแบบไม่ซ้ำใครด้วยลูกเล่นต่าง ๆ ที่ค่ายรถแฝงไว้ เช่นไฟหน้าทรงตาแมวที่แสดงสถานะเป็นไฟเลี้ยวได้ภายในตัว หรือจะเป็นไฟท้ายแบบเส้นแคบหลบสายตา หลังคาซันรูฟไฟฟ้า (ที่มาในรุ่น 400 Pro และ 500 Ultra) แดชบอร์ดมีการออกแบบให้ดูเรียบหรูสไตล์ยุปโรป และลูกเล่นอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณต้องหลงรักเจ้าแมวตัวนี้

6. ขนาดกระทัดลัดเหมาะกับการขับในเมือง ขึ้นชื่อว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแล้วการขับในเมืองก็ย่อมเป็นจุดเด่น ด้วยขนาดตัวรถที่ไม่ใหญ่จนเกินไปทำให้วงเลี้ยวแคบ เหมาะกับการเลี้ยวเข้าตามซอกซอยในเมืองใหญ่ 

7. ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล ด้วยระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบ Torsion Beam จึงมอบประสบการณ์ขับที่นุ่มนวลทั้งทางตรงและทางโค้ง รวมถึงมีการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม 

8. มีระบบฟังก์ชันอันทันสมัย ORA Good Cat มีฟังก์ชันให้เล่นมากมายเหลือเกิน ยกตัวอย่างที่เด่น ๆ คือ ระบบสตาร์ทรถผ่าน กุณแจ Smart Key (ก่อนขึ้นรถกดปุ่มปุ๊บพอนั่งก็เหยียบคันเร่งได้เลย), ระบบหน้าจอสัมผัสที่แดชบอร์ด, การรองรับระบบเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน, ฟังก์ชันการสังการด้วยเสียง,

9. มีระบบช่วยในการขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่เหนือชั้นกว่ารถยนต์ไฟฟ้าตัวอื่น เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติโดยเซ็นเซอร์จะจับความเร็วของรถยนต์คันหน้าแล้วปรับความเร็วของเราให้เหมาะสม, ระบบ Adaptive Cruise Control ช่วยให้คุณเข้าโค้งแบบนิ่ม ๆ ไม่มีหลุด,  ระบบช่วยรักษาให้รถอยู่กึ่งกลางเลนให้คุณมั่นใจว่ารถจะอยู่ในกลางเลนตลอด, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน, และระบบยิบย่อยอื่น ๆ อีกมากมาย (บางระบบมีให้เฉพาะบางรุ่น)

10. ปรับการขับขี่ได้หลายรูปแบบ โดย ORA Good Cat มาพร้อมโหมดการขับขี่ 5 โหมด สามารถปรับได้ตามความต้องการคือ 

– โหมดมาตรฐาน เน้นสมรรถนะและประสิทธิภาพโดยรวมรอบด้านอย่างสมดุล

– โหมด Eco การเน้นขับขี่แบบประหยัดพลังงาน

– โหมด Eco+ เน้นการประหยัดพลังงานมากโดยจำกัดความเร็ว

– โหมด sport เน้นการประสิทธิภาพ ขับไว เร่งเครื่องได้ไว แต่จะเปลืองแบตเตอรี่

– โหมดอัตโนมัติที่จะปรับการขับขี่ให้เราเองตามความเหมาะสม

11. จัดเต็มด้วยในเรื่องความปลอดภัย ORA Good Cat มีระบบความปลอดภัยบนรถอย่างครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัย, ม่านนิรภัย, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง, ระบบเซ็นเซอร์รอบคันรถ

สรุปโดยรวมแล้วเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีทันสมัย มีประสิทธิภาพคุ้มค่าเกินราคา ดีไซน์ดูดีไม่แพ้รถยนต์รุ่นดัง ๆ ควรค่ากับการจับจองเป็นเจ้าของอย่างยิ่ง

รถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat เหมาะกับใคร?

1. เหมาะกับผู้ที่ต้องการหารถยนต์ไฟฟ้าในราคาจับต้องได้ไม่แพงจนเกินไป แต่ยังคงสมรรถนะการขับขี่ไว้ดีเยี่ยม 

2. เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในเทคโนโลยีต่าง ๆ เนื่องจาก ORA Good Cat นั้นจัดเต็มด้วยลูกเล่นมากมายเกินกว่ารถยนต์รุ่นอื่นในราคาเดียวกัน 

3. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขับขี่ในเมืองใหญ่เป็นหลักแต่สามารถขับเดินทางไปต่างจังหวัดได้ตามระยะทางที่ไม่ไกลมากจนเกินไป

4. เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์เชื้อเพลิงทางเลือกเพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว

5. เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่เพศหญิง

ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat ทำประกันรถยนต์ได้หรือไม่

เนื่องจากทุกวันนี้ค่ายรถยนต์ EV ได้เข้ามาตีตลาดยานยนต์ในบ้านเราอย่างแพร่หลาย หลายคนก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ EV เพื่อประหยัดค่าน้ำมันที่แพงขึ้นทุก ๆ วัน ด้วยเหตุนี้บริษัทประกันภัยแทบทุกเจ้าจึงได้ออกกรมธรรม์เพื่อมารองรับกับลูกค้าที่เลือกขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ดังนั้นคุณสามารถซื้อประกันภัยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าได้แทบทุกรุ่น แต่น้องแคร์ขอแจ้งข้อเท็จจริงว่าขณะนี้เบี้ยประกันจะยังคงแพงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไปเพราะอะไหล่ยังคงหายาก ระบบกลไกภายในรถมีความซับซ้อน ต้องซ่อมศูนย์เท่านั้น 

สุดท้ายนี้แม้ว่าเบี้ยประกันจะแพงสักเท่าไหร่แต่เรายังคงแนะนำให้ทำประกันติดรถไว้ย่อมดีกว่าเพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาเมื่อไหร่นอกจากคุณจะต้องจ่ายค่าซ่อมเองแบบแสนแพงแล้วคุณยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายต่าง ๆ หากเป็นฝ่ายผิดด้วย เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าเช็กกับเราแรบบิท แคร์ เพราะเรามีข้อเสนอกรมธรรม์ดีดีให้คุณมากมายพร้อมโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษถึง 70 เปอร์เซ็นต์ โทรเลย 1438


บทความตะลอนรีวิวรถ

ตะลอนรีวิวรถ

เปิดสถิติ! ยอดรถไฟฟ้า (EV) จดทะเบียนใหม่จากแต่ละแบรนด์ ปี 2566

หลายคนที่กำลังมองหารถ EV ในไทยไม่เกินล้านแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกแบรนด์ไหนดี วันนี้ แรบบิท แคร์ รวบรวมสถิติจำนวนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จดทะเบียนครั้งแรก
Tawan
16/10/2023

ตะลอนรีวิวรถ

รถยนต์ Crossover คืออะไร? ต่างกับรถ SUV PPV MPV อย่างไรบ้าง พร้อมบอกข้อดี-ข้อเสีย

รถยนต์เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ความต้องการซื้อมีมาก บางคนซื้อมาเพื่อใช้งาน บางคนซื้อมาไว้เพื่อเก็บเป็นทรัพย์สินให้ลูกหลาย
Mayya Style
28/06/2023

ตะลอนรีวิวรถ

รวม 5 แบรนด์รถรุ่นใหม่เปิดตัวในงาน Motor Show 2023

สำหรับงาน Motor show 2023 จัดขึ้นในวันที่ 22 มีนาคม 2566 จัดเต็มครบ 12 วัน มีหลายยี่ห้อที่มาจัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ 2023 อีกทั้งยังมีรถรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง เช่น Honda, Toyota, MG, Mazda, KIA, ORA GOOD
Mayya Style
27/03/2023