แคร์แม่และเด็ก

ความสามารถพิเศษที่ควรให้ลูกมีติดตัวไว้ เพราะอาจได้ใช้และต่อยอดได้ในระยะยาว

ผู้เขียน : Nok Srihong

มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว

close
แก้ไขโดย : คะน้าใบเขียว

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care

close
Published March 25, 2024

ความสามารถพิเศษ สิ่งที่เราต่างก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าหากมีติดตัวเอาไว้ย่อมเป็นผลดีมากกว่าไม่มี อีกทั้งผู้คนรอบข้างยังให้ความสำคัญกับความสามารถพิเศษของแต่ละบุคคลที่ได้พบเจอค่อนข้างมาก ดั่งที่จะอาจจะสังเกตกันได้ว่า ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่ว่าจะเป็นการสมัครเข้าโรงเรียนในระดับชั้นไหน กรอกประวัติเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ หรือทำอะไร จนกระทั่งวัยทำงานที่ต้องกรอกใบสมัครงานก็มักจะมีช่องว่างสำหรับการเขียนความสามารถพิเศษของตนเองลงไปไว้ได้ อีกทั้งยังมีโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือที่ทำงานมากมาย ที่พิจารณาการรับเข้าจากความสามารถพิเศษที่ตรงสาย ถือเป็นคะแนนบวกเพิ่มให้สามารถผ่านเข้าไปได้ง่ายขึ้นด้วยนั่นเอง

ดังนั้น แรบบิท แคร์ เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนที่กำลังมุ่งมั่นตั้งใจกับการเลี้ยงลูกน้อยของตนเองให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพแล้วมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีแต้มต่อในการใช้ชีวิตหรือมีต้นทุนชีวิตที่มั่นคงก็คงต้องการที่จะปลูกฝังหรือเพิ่มเติมความสามารถพิเศษให้กับลูก ๆ ของตนเองได้มีติดตัวเอาไว้ วันนี้ แรบบิท แคร์ เลยนำประเภทของความสามารถพิเศษแบบต่าง ๆ มาให้ เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายจะได้ลองทำความเข้าใจ และนำไปพิจารณาว่าความชอบ และการฉายแววความสามารถพิเศษของลูกนั้นเหมาะที่จะพัฒนาไปในเส้นทางไหน จากนั้นจะได้ไปส่งเสริม หรือลงเรียนเสริมเพิ่มเติมได้ สนับสนุนให้ลูกมีความสามารถพิเศษไว้ใช้ในอนาคตนั่นเอง

เปรียบเทียบประกันสุขภาพกับ Rabbit Care พิเศษ! ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน
icon angle up or down

เลือกแผนประกันสุขภาพที่คุณสนใจ

    ชื่อนามสกุล

    หมายเลขโทรศัพท์

    ความสามารถพิเศษ คืออะไร ?

    ขึ้นชื่อว่าความสามารถพิเศษ แน่นอนว่าก็จะต้องหมายถึงความสามารถที่พิเศษออกมาจากความสามารถโดยปกติทั่วไปที่ใคร ๆ ก็ล้วนแต่ทำได้ เป็นความสามารถพิเศษที่อาจทำได้ในบางคน หรือเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากทั้งพรสวรรค์ที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด หรือเป็นการเรียนเสริมเพิ่มเติม ฝึกทักษะเพื่อให้มีความสามารถพิเศษเหล่านั้นเกิดขึ้นก็ได้ 

    ทั้งนี้แม้จะมีความสามารถพิเศษที่เป็นพรสวรรค์ติดตัวมาแต่แรกก็ดี แต่ก็ยังคงต้องการเรียนเสริมเพิ่มเติมหรือการพัฒนาทักษะในด้านนั้น ๆ เพื่อการต่อยอดที่ไปได้ไกลกว่าเดิมด้วย ดังนั้นการที่คุณพ่อคุณแม่เล็งเห็นพรสวรรค์ของลูก หรือมองเห็นความชื่นชอบและความสนใจของลูกได้ขาด จากนั้นก็ทำการส่งเสริมลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ แน่นอนว่าจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาทักษะของลูกมากเลยทีเดียว

    มีความสามารถพิเศษแล้วดีอย่างไร ?

    เราคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าการที่มีความสามารถพิเศษติดตัวเอาไว้ย่อมดีกว่าไม่มี แต่หากถามต่อว่าดีอย่างไร ก็อาจจะต้องใช้เวลาในการนึกกันสักหน่อยใช่ไหม วันนี้ แรบบิท แคร์ จึงชวนให้ทุกคนมาดูกันว่าเมื่อมีความสามารถพิเศษแล้วดีอย่างไร เผื่อวันไหนที่ลูก ๆ สงสัยและถามว่าทำไมควรมีความสามารถพิเศษติดตัวเอาไว้ จะได้มีคำตอบได้ทันใจ เพิ่มแรงบันดาลใจให้กับลูก ๆ นั่นเอง

    • ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง
    • ช่วยเพิ่มความภาคภูมิใจในตนเอง
    • ช่วยพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับความสามารถพิเศษนั้น ๆ
    • ช่วยในการเข้าสังคมหรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนหมู่มาก
    • ช่วยให้มีแต้มต่อในการดำเนินชีวิตในอนาคต
    • เป็นการเพิ่มโอกาสในด้านต่าง ๆ ในการเรียน
    • เป็นการเพิ่มโอกาสด้านต่าง ๆ ในการทำงาน
    • ช่วยให้ค้นพบตัวเองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

    ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างข้อดีของการมีความสามารถพิเศษเพียงเท่านั้น เพราะความจริงแล้วการมีความสามารถพิเศษอยู่กับตัวสามารถสร้างประโยชน์ให้เราได้มากมายแม้หลายครั้งเราอาจไม่รู้ตัวก็ตาม ดังนั้นหากมีโอกาสเพิ่มพูนทักษะความสามารถพิเศษให้กับตนเองหรือลูกน้อยก็ควรคว้าโอกาสนั้นไว้ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ติดตัวเราตลอดไป ถือเป็นการลงทุนที่ไม่มีวันขาดทุน

    ความสามารถพิเศษ มีอะไรบ้าง ?

    เมื่อทราบถึงข้อดีของความสามารถพิเศษกันไปแล้ว แรบบิท แคร์ เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนคงต้องการที่จะเริ่มวางแผนหรือปลูกฝังความสามารถพิเศษให้กับลูก ๆ กันตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่ก็อาจจะยังไม่แน่ใจว่าควรจะช่วยส่งเสริมความสามารถพิเศษให้กับลูกไปในทางด้านใด ลองมาดูความสามารถพิเศษประเภทต่าง ๆ ที่ แรบบิท แคร์ นำมาฝากให้ ค่อย ๆ อ่านทำความเข้าใจ และพิจารณาว่าลูกเหมาะสมกับอะไร และควรนำไปสอบถามความชอบ ความสนใจ และความสมัครใจของลูกด้วยนั่นเอง

    ความสามารถพิเศษทางด้านภาษา (Linguistic Intelligence)

    สำหรับเด็กที่ฉายแววการมีความสามารถพิเศษทางด้านภาษานี้นั้นจะสามารถสังเกตได้โดยการที่เด็กจะมีความสามารถในการพูด การเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ และเรียนรู้ความหมายของคำใหม่ ๆ เหล่านั้นได้ดี มีการพูดจาเพื่อแสดงความคิดเห็น บอกเล่าความรู้สึกหรือความต้องการของตนเองได้อย่างดีและชัดเจน โดยเด็กที่มีความสามารถพิเศษทางด้านนี้นั้นส่วนใหญ่แล้วมีแนวโน้มที่จะชอบการอ่าน การเขียน การฟังสิ่งใหม่ ๆ และการบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ มักจะรู้สึกสนุกสนานกับการเล่นเกมที่จะต้องใช้คำศัพท์ต่าง ๆ เช่น คำศัพท์ยาก ๆ เดาคำศัพท์ ชอบพูดเลียนแบบคำแปลกใหม่

    สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เล็งเห็นพัฒนาการทางด้านนี้ของลูกก็สามารถช่วยส่งเสริมกันได้ อาจเริ่มต้นง่าย ๆ จากการชวนดูการ์ตูนภาษาต่างชาติ การใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับลูก หมั่นชวนรู้จักคำศัพท์ใหม่ ๆ จนเมื่อแน่ใจว่าลูกชื่นชอบและสามารถนำไปต่อยอดได้ก็ทำการส่งเรียนเสริมพิเศษกันได้ เนื่องจากปัจจุบันนั้นการสื่อสารได้หลากหลายภาษาถือเป็นแต้มต่อที่ดีในชีวิตเลยทีเดียว

    ด้านการใช้เหตุผล และคณิตศาสตร์ (Logical-Mathematical Intelligence)

    สำหรับความสามารถพิเศษทางด้านนี้นั้น จะแสดงออกมาได้อย่างชัดเจนแม้ว่าจะเพิ่งเริ่มเรียนอนุบาลได้ไม่นาน ซึ่งการแสดงออกของความสามารถพิเศษเหล่านี้นั้นจะแสดงออกมาทางการคิดที่ค่อนข้างมีเหตุผลมากกว่าเด็กวัยเดียวกันมั่วไป มีความคิดที่เป็นขั้นตอนและมีระบบระเบียบ สามารถแยกแยะสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นหมวดหมู่ได้ โดยมากแล้วเด็กที่มีความสามารถพิเศษเช่นนี้นั้นมักจะเป็นพรสวรรค์ที่มีติดตัวมา แต่แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถส่งเสริมได้ด้วยการส่งลูก ๆ เรียนพิเศษเพิ่มเติมได้นั่นเอง

    ด้านมิติ และความสัมพันธ์กับสิ่งอื่น ๆ รอบข้าง (Spatial Intelligence)

    ในส่วนของความสามารถพิเศษประเภทนี้นั้นเด็กจะมีความสามารถในการรับรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของมิติสิ่งของ ความสัมพันธ์กับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว จะสามารถสังเกตได้จากการที่ลูก ๆ มีความรู้สึกที่ไว้ต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งของรอบตัว เช่นการจัดวางของสิ่งของในห้องเปลี่ยนไป จดจำลักษณะของสิ่งของต่าง ๆ ได้ มีความใส่ใจกับรายละเอียดรอบตัว 

    เด็กที่มีความสามารถพิเศษเช่นนี้จะมีความสามารถในเชิงจินตนาการเห็นภาพปรากฏอยู่ตรงหน้า (visual image) ได้ดี และจะสามารถทำงานที่เกี่ยวกับศิลปะ และการก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ ได้ดี และบางคนจะมีความสนใจ ในเรื่องของเครื่องยนต์กลไก คุณพ่อคุณแม่อาจส่งเสริมด้วยการส่งเรียนศิลปะเพิ่มเติมได้ในขั้นต้น

    ด้านดนตรี (Musical Intelligence)

    สำหรับความสามารถพิเศษประเภทนี้ถือเป็นความสามารถที่สังเกตได้ง่ายโดยเด็กจะสามารถแยกแยะเสียงต่าง ๆ ได้ดี และจับจังหวะของเสียงต่าง ๆ ได้ เรียนรู้และจดจำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นทำนองหรือมาในรูปแบบของเสียงเพลงได้ไว หากลูกมีลักษณะเช่นนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งให้เรียนพิเศษเกี่ยวกับการเล่นดนตรีหรือการร้องเพลงได้เลย

    ด้านสรีระ (Bodily-Kinesthetic Intelligence)

    ความสามารถพิเศษประเภทนี้นั้นเด็ก ๆ จะสามารถเคลื่อนไหวร่างกายและสามารถแสดงอารมณ์ต่าง ๆ โดยการสื่อสารผ่านทางการขยับร่างกายออกมาได้เป็นอย่างดี จะไม่ค่อยชอบนั่งนิ่ง ๆ และมักเต้นหรือขยับตัวเข้ากับจังหวะต่าง ๆ อยู่เสมอ ซึ่งหากลูก ๆ มีลักษณะเช่นนี้ สามารถที่จะปลูกฝังให้เรียนเสริมเกี่ยวกับด้านกีฬา การแสดง หรือการเต้นได้ดีทีเดียว

    ความสามารถพิเศษด้านการติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น (Interpersonal Intelligence)

    สำหรับเด็กที่สามารถเข้ากับคนได้ง่าย เป็นมิตรกับผู้คนใหม่ ๆ และพร้อมจะสร้างมิตรภาพใหม่ ๆ อยู่เสมอ เด็กที่มีลักษณะเช่นนี้มักเป็นที่ชื่นชอบเมื่ออยู่ในสังคมและถูกยกให้เป็นผู้นำ คุณพ่อคุณแม่อาจสนับสนุนโดยการที่ปลูกฝังการเป็นผู้นำ การทำกิจกรรมที่ต้องทำรวมกับคนหมู่มาก หรือการทำงานเป็นทีม โดยอาจเริ่มจากการที่ชวนกันทำกิจกรรมหรือภารกิจต่าง ๆ ร่วมกันในครอบครัว

    ความสามารถพิเศษด้านการเป็นตัวของตัวเอง (Intrapersonal Intelligence)

    เด็กที่มีความสามารถพิเศษในการเป็นตัวของตนเองนั้นจะมีความมั่นใจในตัวเองสูง รู้ว่าตนเองต้องการอะไร ไม่ค่อยสนใจความเห็นของคนอื่น ซึ่งการดูแลเด็กที่มีลักษณะเช่นนี้นั้นจะต้องสอบถามความต้องการและความชอบของเขาเป็นพิเศษ รวมถึงเพิ่มทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม และรู้จักยืดหยุ่นให้มากขึ้น

    สรุป

    นอกจากการส่งเสริมการพัฒนาทักษะและความสามารถพิเศษของลูก ๆ แล้วอีกสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะละเลยไปไม่ได้ก็คือการหาหลักประกันด้านสุขภาพให้กับลูก ๆ ขอแนะนำให้ทำประกันเด็ก กับ แรบบิท แคร์ ไว้ จะได้ดูแลสุขภาพลูกได้อย่างสบายใจ ไม่ว่าจะป่วยเป็นอะไรก็ไร้กังวล


    ที่มา


    บทความแคร์แม่และเด็ก

    แคร์แม่และเด็ก

    ผ่าคลอด มีข้อดีอย่างไร ? ปลอดภัยกว่าคลอดธรรมชาติหรือไม่ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ?

    สำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ จะผ่าคลอดหรือคลอดธรรมชาติคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะต้องตัดสินใจ ว่าจะผ่าคลอดดีหรือไม่ การผ่าคลอดปลอดภัยกว่าคลอดธรรมชาติไหม
    Nok Srihong
    12/03/2024

    แคร์แม่และเด็ก

    คลอดธรรมชาติอันตรายหรือไม่ มีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง ?

    แม้ในปัจจุบันจะมีวิทยาการด้านการแพทย์ที่พัฒนาไปอย่างมากแต่การคลอดธรรมชาติก็ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกในการคลอดบุตรที่คุณแม่หลาย ๆ ท่านเลือกใช้
    กองบรรณาธิการ
    13/02/2024