จัดอันดับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แคลน้อย เอาใจนักดื่มสายดูแลหุ่น

แม้จะเป็นน้ำแต่เราต่างก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครื่องดื่มแอลกฮอล์เป็นสิ่งที่เป็นภัยต่อสุขภาพและการดูแลรูปร่างของของสายปาร์ตี้ทุกคน เพราะกว่าจะออกมาเป็นเครื่องดื่มแต่ละชนิดต่างก็ผ่านกรรมวิธีการหมัก กลั่น บ่ม ซึ่งส่วนประกอบหลัก ๆ ก็มีทั้งแป้งและน้ำตาลที่ส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักและรูปร่าง อย่างที่มักจะได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า ‘บวมเหล้า’ ‘บวมเบียร์’ 

ฉะนั้นใครที่เป็นสายดื่มแต่อยากดูแลหุ่นต้องห้ามพลาด แรบบิท แคร์ จัดอันดับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมดื่มกันโดยมีปริมาณแคลอรีเรียงจากน้อยไปมากไว้ให้สายปาร์ตี้ที่สังสรรค์กันตลอดแม้จะไม่ใช่เทศกาลเป็นตัวเลือกในการรับประทาน จะได้รักษาหุ่นสวยหุ่นเฟิร์มให้อยู่กับตัวเองถึงแม้จะออกไปเที่ยวเป็นประจำ

ไวน์ขาว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แคลน้อยอันดับ 1

ไวน์ขาว (White Wine) ไวน์ชนิดหนึ่งที่มักทำมาจากองุ่นขาวหรือลูกเกดขาว คั้นน้ำออกมาหมักในอุณหภูมิ 10-15 องศาเซลเซียส มีปริมาณแคลอรีน้อยที่สุดในหมู่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เรานำมาจัดอันดับในวันนี้

• ไวน์ขาว ปริมาณ 5 ออนซ์ (147 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 80-100 แคลอรี
• ไวน์ขาว ปริมาณ 8 ออนซ์ (236 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 121 แคลอรี

เป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยแคลอรีจากไวน์ขาวซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์ 11% ทั้งนี้จำนวนแคลอรีอาจเปลี่ยนแปลงไปตามยี่ห้อของไวน์ ปริมาณน้ำตาลที่ใช้ วัตถุดิบที่ใช้ *การเสิร์ฟไวน์ต่อหนึ่งแก้วโดยปกติจะเสิร์ฟในปริมาณ 5 ออนซ์

แชมเปญ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แคลน้อยอันดับ 2

แชมเปญ (Champagne) เครื่องดื่มประเภทสปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) แต่จะมีความแตกต่างจากสปาร์คกลิ้งไวน์ทั่วไปคือ แหล่งเพาะปลูกองุ่นและแหล่งผลิตนั้นจะต้องมาจากเขตผลิตไวน์ Champagne หรือที่คนฝรั่งเศสจะเรียกว่า ‘ชองปาญ’ เท่านั้น มีปริมาณแคลอรีน้อยรองลงมาจากไวน์ขาวทั่วไป

• แชมเปญ ปริมาณ 5 ออนซ์ (147 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 90-120 แคลอรี
• แชมเปญ ปริมาณ 8 ออนซ์ (236 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 160-210 แคลอรี

เป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยแคลอรีจากแชมเปญซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์ 12% ทั้งนี้จำนวนแคลอรีอาจเปลี่ยนแปลงไปตามยี่ห้อ ปริมาณน้ำตาลที่ใช้ *โดยปกติจะเสิร์ฟในปริมาณ 5 ออนซ์ต่อ 1 แก้ว

สปาร์คกลิ้งไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แคลน้อยอันดับ 3

สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) ไวน์รสชาติสดชื่น มีความซาบซ่าและมีฟองเป็นเอกลักษณ์ เครื่องดื่มชนิดเดียวกับแชมเปญเพียงแต่ไม่ได้ผลิตจากองุ่นพันธุ์เฉพาะและไม่ได้ถูกผลิตจากเขตผลิตไวน์ชองปาญ นิยมจิบเรียกน้ำย่อยก่อนมื้ออาหารและใช้ในงานสังสรรค์เพื่อละลายพฤติกรรมของแขกภายในงาน

• สปาร์คกลิ้งไวน์ ปริมาณ 5 ออนซ์ (147 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 100-120 แคลอรี
• สปาร์คกลิ้งไวน์ ปริมาณ 8 ออนซ์ (236 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 140-200 แคลอรี

เป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยแคลอรีจากสปาร์คกลิ้งไวน์ซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์ 12% ทั้งนี้จำนวนแคลอรีอาจเปลี่ยนแปลงไปตามยี่ห้อ ปริมาณน้ำตาล วัตถุดิบที่ใช้ *การเสิร์ฟไวน์ต่อหนึ่งแก้วโดยปกติจะเสิร์ฟในปริมาณ 5 ออนซ์

เหล้าขาว/ยาดอง/โซจู เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แคลน้อยอันดับ 4

เหล้าขาว (Rice Whiskey) ยาดอง (Yadong) โซจู (Soju) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปราบเซียนสำหรับสายแข็ง ที่เรียกว่าถ้าไม่แน่จริงอาจเมาตั้งแต่ 2-3 ช็อตแรก ซึ่งหากเทียบตามปริมาณที่เท่ากัน จำนวนแคลอรีอาจจะไม่ได้น้อยที่สุด แต่หากคิดในเชิงที่ว่าผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ประเภทนี้มักจะดื่มได้แค่นิดเดียว รวมถึงมักไม่ผสมกับมิกเซอร์อย่างอื่นก็นับว่าเป็นตัวเลือกอีกหนึ่งทางสำหรับคนที่ต้องการควบคุมแคลอรีเช่นกัน

• เหล้าขาว/ยาดอง/โซจู ปริมาณ 1.5 ออนซ์ (147 มล.)  มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 85 แคลอรี
• เหล้าขาว/ยาดอง/โซจู ปริมาณ 5 ออนซ์ (147 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 100-140 แคลอรี
• เหล้าขาว/ยาดอง/โซจู ปริมาณ 8 ออนซ์ (236 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 160-220 แคลอรี

เป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยเพียงเท่านั้น ทั้งนี้จำนวนแคลอรีอาจเปลี่ยนแปลงไปตามยี่ห้อ ปริมาณน้ำตาล วัตถุดิบที่ใช้ *โดยปกตินิยมดื่มกันเป็นช็อต (ช็อตละ 1.5 ออนซ์) และดื่มกันไม่กี่ช็อตต่อคืน

ไวน์กุหลาบ/ไวน์โรเซ่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แคลน้อย อันดับ 5

ไวน์กุหลาบ (Rose Wine) ไวน์ซึ่งมีเอกลักษณ์ของทั้งไวน์ขาวและไวน์แดงผสมผสานกันอยู่ในตัว มีรสชาติที่สดชื่นเหมือนไวน์ขาวแต่ขณะเดียวกันก็ให้รสสัมผัสที่เข้มข้นเหมือนไวน์แดง มีสีชมพูหลายเฉดสีตั้งแต่สีชมพู ไปจนถึงสีชมพูอมเหลือง

• ไวน์กุหลาบ ปริมาณ 5 ออนซ์ (147 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 120 แคลอรี
• ไวน์กุหลาบ ปริมาณ 8 ออนซ์ (236 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 160-200 แคลอรี

เป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยแคลอรีจากไวน์กุหลาบซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์ 12% ทั้งนี้จำนวนแคลอรีอาจเปลี่ยนแปลงไปตามยี่ห้อ ปริมาณน้ำตาล วัตถุดิบที่ใช้ *การเสิร์ฟไวน์ต่อหนึ่งแก้วโดยปกติจะเสิร์ฟในปริมาณ 5 ออนซ์

ไวน์แดง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แคลน้อย อันดับ 6

ไวน์แดง (Red Wine) ไวน์ยอดนิยมที่ทำขึ้นจากองุ่นดำ หรือที่บางคนให้สมญาว่าพระเอกของวงการไวน์ สามารถดื่มได้ทั้งในระหว่างมื้ออาหาร และใช้ดื่มในงานสังสรรค์ที่แตกต่างกัน โดดเด่นในด้านรสชาติที่หลากหลายเป็นเอกลักษณ์อันเป็นผลมาจากลักษณะทางภูมิศาสตร์ กรรมวิธีการผลิต ทำให้หลายครั้งคนนิยามว่าการดื่มไวน์นั้นเป็นอีกหนึ่งในศิลปะของชนชั้นสูงเลยทีเดียว

• ไวน์แดง ปริมาณ 5 ออนซ์ (147 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 125 แคลอรี
• ไวน์แดง ปริมาณ 8 ออนซ์ (236 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 160-200 แคลอรี

เป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยแคลอรีจากไวน์แดงซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์ 13% ทั้งนี้จำนวนแคลอรีอาจเปลี่ยนแปลงไปตามยี่ห้อ ปริมาณน้ำตาล วัตถุดิบที่ใช้ *การเสิร์ฟไวน์ต่อหนึ่งแก้วโดยปกติจะเสิร์ฟในปริมาณ 5 ออนซ์

เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แคลน้อย อันดับ 7

เบียร์ (Beer) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คอเบียร์ทั้งหลายต่างบอกว่าฮีลใจและได้รับความนิยมในหมู่สายดื่มเป็นวงกว้าง ที่ได้จากการหมัก มีหลายชนิดหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น เบียร์คราฟ เบียร์วุ้น เบียร์กระป๋อง ส่วนประกอบหลักในการหมักเบียร์ คือ มอลต์ ยีสต์ และฮอพซึ่งช่วยในเรื่องรสชาติขมของเบียร์ 

• เบียร์ ปริมาณ 5 ออนซ์ (147 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 153 แคลอรี
• เบียร์ ปริมาณ 8 ออนซ์ (236 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 300-400 แคลอรี

เป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยแคลอรีจากเบียร์ซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์ 5% ทั้งนี้จำนวนแคลอรีอาจเปลี่ยนแปลงไปตามชนิดของเบียร์ ยี่ห้อ ปริมาณแอลกอออล์ ปริมาณน้ำตาล วัตถุดิบที่ใช้ โดยไลท์เบียร์ (Light Beer) ก็จะมีปริมาณแคลอรีต่ำกว่า ดาร์กเบียร์ (Dark Beer)

บรั่นดี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แคลน้อย อันดับ 8

บรั่นดี (Brandy) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรงที่ได้จากการกลั่นเหล้าองุ่น อีกทั้งยังสามารถกลั่นจากผลไม้อื่น ๆ ได้เช่นกันซึ่งก็จะมีชื่อนำหน้าเรียกเพิ่มเข้ามา เช่น หากกลั่นจากน้ำแอปเปิลก็จะเรียกว่า แอปเปิล บรั่นดี โดยเครื่องดื่มชนิดนี้นั้นจะค่อนข้างให้ปริมาณแคลอรีที่มากกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดก่อน ๆ ที่กล่าวมาหากเทียบในอัตราปริมาณเท่ากัน ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมแคลอรีจึงไม่แนะนำในการเลือกดื่มนัก

• บรั่นดี ปริมาณ 5 ออนซ์ (147 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 320-340 แคลอรี
• บรั่นดี ปริมาณ 8 ออนซ์ (236 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 454 แคลอรี

แต่ความจริงแล้วโดยปกติการดื่มบรั่นดีต่อ 1 เสิร์ฟนั้น เราจะนิยมดื่มกันอยู่ที่ครั้งละ 1.5 ออนซ์ ซึ่งจะมีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 97 แคลอรี และถึงแม้จะดูน้อยเพราะกินทีละน้อย ๆ ก็ตามแต่ต้องอย่าลืมคำนึงว่าคนมักจะกินทีละน้อยแต่เติมบ่อย ทำให้เป็นการเพิ่มแคลลอรีทวีคูณเข้าไปอย่างรวดเร็ว

เตกีล่า/วิสกี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แคลน้อย อันดับ 9

เตกีล่า (Tequila) วิสกี้ (Whiskey) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดนิยมอีก 2 ชนิดสำหรับสายท่องราตรี สามารถดื่มได้หลากหลายวิธีด้วยกัน ทั้งแบบเพียว ๆ หรือที่เรียกว่า On the rock ผสมมิกซ์เซอร์ในแบบต่าง ๆ ก็สามารถเลือกดื่มได้ตามความชอบ โดยมากก็จะนิยมผสมน้ำเปล่า-โซดา หรือน้ำอัดลมชนิดต่าง ๆ ซึ่งก็ขอแนะนำว่าหากใครต้องการดื่มแอลกอฮอล์ชนิดนี้แต่มีใจอยากดูแลรูปร่าง ก็ให้ดื่มแบบผสมน้ำเปล่า ไม่ผสมน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลมากนั่นเอง

• เตกีล่า/วิสกี้ ปริมาณ 5 ออนซ์ (147 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 300-350 แคลอรี
• เตกีล่า/วิสกี้ ปริมาณ 8 ออนซ์ (236 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 454 แคลอรี 

จะสังเกตได้ว่าปริมาณแคลอรีที่ได้รับจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 ชนิดนี้มีปริมาณค่อนข้างมากเลยทีเดียว ดังนั้นหากใครต้องการดูแลหุ่นจริง ๆ อาจเลือกดื่มเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ให้แคลอรีต่ำกว่า *ทั้งนี้จำนวนแคลอรีอาจเปลี่ยนแปลงไปตามยี่ห้อ

วอดก้า/เหล้าจิน/เหล้ารัม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แคลน้อย อันดับ 10

วอดก้า (Vodka) เหล้าจิน (Gin) เหล้ารัม (Rum) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดนิยมที่มักนำมาผสมทำเป็นค็อกเทลหน้าตาน่ารับประทาน ตกแต่งด้วยลูกเล่นมากมายจนกลายเป็นงานศิลปะ เครื่องดื่มยอดนิยมที่ครองใจสาว ๆ และชายหนุ่มที่ชื่นชอบสีสันสดใสและความตื่นตาตื่นใจทุกคน ซึ่งแอลกอฮอล์ทั้ง 3 ชนิดนี้นั้นจะให้ปริมาณแคลอรีที่เท่ากัน คือ

• วอดก้า/จิน/รัม ปริมาณ 5 ออนซ์ (147 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 300-350 แคลอรี
• วอดก้า/จิน/รัม ปริมาณ 8 ออนซ์ (236 มล.) มีปริมาณแคลอรีเฉลี่ยอยู่ที่ 454 แคลอรี  

ซึ่งปริมาณแคลอรีที่กล่าวไปคำนวณจากปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดนั้น ๆ ซึ่งยังไม่ถูกผสมกับมิกเซอร์และไซรัปอื่น ๆ โดยปกติแล้วเมื่อทำค็อกเทลจะมีการใช้เหล้าที่กล่าวไปในปริมาณ 1.5 ออนซ์ต่อ 1 เสิร์ฟ ซึ่งจะมีปริมาณแคลอรี 97 แคลอรีด้วยกัน จากนั้นต้องนำไปบวกกับส่วนผสมอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละเมนู ซึ่งแน่นอนว่าพอผสมมิกเซอร์และไซรัปอื่น ๆ ลงไปด้วยแล้วจะเป็นการเพิ่มปริมาณแคลอรีและน้ำตาลให้กับเครื่องดื่มแก้วนั้นอย่างมากเลยทีเดียว

พึงระลึกเสมอว่าแม้จะเลือกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณแคลอรีต่ำแล้วก็ตาม แต่หากดื่มในปริมาณที่มากเกินความเหมาะสมและดื่มเป็นประจำหรือดื่มถี่มาก วิธีการนี้ก็อาจไม่สามารถช่วยรักษาหุ่นได้อยู่ดี อีกทั้งการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำยังเป็นภัยร้ายต่อสุขภาพ แรบบิท แคร์ จึงขอแนะนำให้ทุกคนปาร์ตี้สังสรรค์กันแต่พอดี หากมีความจำเป็นที่ต้องออกไปดื่มถี่ควรมีวินัยในการควบคุมแคลอรี่ ควบคุมปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ของตัวเองในแต่ละวันให้เหมาะสม 

และอย่าลืมหลีกเลี่ยงการรับประทานกับแกล้มหรือผสมมิกเซอร์ที่มีปริมาณแคลอรีและน้ำตาลมาก ซึ่งการดูแลตัวเองเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อการรักษาหุ่นให้ดีเท่านั้นแต่ยังเป็นการดูแลสุขภาพของตัวเองในระยะยาว ที่สำคัญควรเลือกทำประกันสุขภาพเอาไว้ให้อุ่นใจเพราะการใช้ชีวิตของเราทุกวันนี้แม้จะเสี่ยงโรคภัยหลาย ๆ โรคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงกับค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลที่อาจต้องใช้ในการรักษาพยาบาลนั่นเอง 

Tips : หากใครมีแผนจะทำประกันสุขภาพ อย่าลืมให้ความสำคัญกับค่า BMI(ค่าดัชนีที่ใช้ชี้วัดความสมดุลของน้ำหนักตัว) เพราะบริษัทประกันนั้นจะมีเกณฑ์เกี่ยวกับค่า BMI ในการซื้อประกันอยู่