ตรวจเช็กสภาพบ้าน ก่อนฤดูฝนมาถึง เริ่มตรงไหนดี?
ใกล้เข้าสู่ช่วงหน้าฝนเข้าไปทุกขณะ แน่นอนว่านอกเหนือจากการระมัดระวังสุขภาพร่างกายเป็นสำคัญแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย คือ บ้าน หรือที่พักอาศัยของเรานี่เอง และเพื่อเป็นการป้องกันปัญหา ที่อาจลามเกินแก้แบบนี้ การตรวจเช็กบ้าน และซ่อมแซมก่อนที่หน้าฝนจะมาถึง จึงสำคัญมาก ว่าแต่มีจุดไหนที่ตรวจเช็กเป็นพิเศษ และซ่อมแซมเร่งด่วนด้วยสินเชื่อบ้านบ้างไหม ? ไปเช็กกันเลยดีกว่า
ตรวจเช็กสภาพบ้าน ก่อนฤดูฝนมาถึง เริ่มตรงไหนดี?
หมั่นตรวจเช็กรอยรั่วซึมต่างๆ ในบ้าน
ก่อนเข้าหน้าฝน สิ่งที่เราไม่ควรละเลย และตรวจเช็ก สำรวจ คือการตรวจสอบรอยรั่วรอบๆ ตัวบ้าน โดยเฉพาะจุดใหญ่ๆ อย่าง หลังคา ฝ้า ผนัง เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ต้องสัมผัสกับเม็ดฝนโดยตรง หากเกิดรอยร้าว รั่ว ซึม จะส่งผลให้เกิดปัญหาบานปลายตามมามากมาย
การรั่วซึมจากทั้งหลังคา ฝ้า ผนัง รวมไปถึงรอยรั่วซึมอื่นๆ จะสังเกตได้จากรอยแตกร้าว รูรั่วตามรอยต่อวัสดุ โดยจุดที่รั่วซึม จะมีคราบรอยน้ำหยดซึมอยู่ หรือสังเกตสีของแผ่นฝ้า หากมีคราบดำหรือน้ำตาลอ่อนๆ เป็นวงรอบๆ เป็นไปได้ว่าเกิดจากน้ำหยดใส่แผ่นฝ้า จำเป็นต้องให้ช่างตรวจหารอยรั่วของหลังคาในบริเวณดังกล่าว
เมื่อพบรอยรั่วซึมก็ควรรีบจัดการซ่อมแซมทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจส่งผลให้ส่วนอื่นๆ ของบ้านเสียหายตามไปด้วย
ทำความสะอาดรางน้ำฝน และท่อระบายน้ำ
สำหรับบ้านหลังไหนที่มีรางน้ำฝน คุณควรจัดการดูแลบ้าน หน้าฝน ด้วยการทำความสะอาดรางน้ำฝนก่อนที่หน้าฝนจะมาถึง เพราะเศษใบไม้ หรือขยะ อาจเข้าไปอุดตัน ทำให้เวลาฝนตกหนักๆ น้ำไหลย้อนกลับเข้าไปภายในบ้านได้ รวมถึงการล้างท่อระบายน้ำ เพราะหากท่ออุดตัน อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ฝนที่ตกลงเอ่อล้นได้เช่นเดียวกับรางน้ำฝน
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นท่อระบายน้ำ หรือรางน้ำฝน ก็ควรหมั่นทำความสะอาด เพื่อเอาเศษใบไม้ เศษดินโคลนออกจากบ่อตักขยะในบ้าน รวมทั้งล้างบริเวณระเบียง หรือเฉลียง เพื่อป้องกันไม่ให้ท่อระบายน้ำอุดตันด้วย
งานไม้ต่างๆ ก็ห้ามพลาด
หลายบ้านมีเฟอร์นิเจอร์ทั้งใน และนอกบ้านย หรือโครงสร้างต่างๆ ในบ้านมีไม้เป็นส่วนประกอบ เช่น วงกบ บานหน้าต่าง ประตูระเบียง เป็นต้น นี่คืออีกหนึ่งจุดที่คุณไม่ควรพลาดเรื่องการตรวจเช็ก
ไม้กับความชื้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรให้อยู่ใกล้กัน เพราะเนื้อไม้บางชนิดบวมพองผิดรูป เกิดเชื้อรา และเกิดการเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนดได้ หากต้องเจอกับละอองฝนสาดเข้ามาเป็นเวลานาน
ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือส่วนประกอบใดของบ้านที่มีไม้ ควรย้ายเข้ามาในที่ร่ม หรือหาร่มบังกันน้ำฝนสาดบ้าง เพื่อป้องกันการโดนน้ำฝน หรือละอองน้ำต่างๆ โดยตรง และในกรณีงานไม้ที่อยู่ภายในบ้าน หากไม่มีหลังคารั่วซึม หรือมีน้ำฝนสาดทางช่องหน้าต่าง ก็สามารถเช็ดทำ ความสะอาด เพื่อกำจัดเชื้อราได้
แต่สำหรับไม้ที่อยู่นอกบ้าน เช่น ระเบียงไม้, ระแนงไม้ หรือสิ่งของบางชนิด ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้จริงๆ คุณอาจจะต้องลองตรวจสอบว่า สิ่งของนั้นๆ อาจจะใช้ผืนพลาสติกคลุมไว้กันลมฝน หรือทำการป้องกันด้วยการทาสีย้อมไม้กันน้ำไว้
เพราะการทาสีย้อมไม้กันน้ำ นอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานของไม้ได้เป็นอย่างดี ป้องกันน้ำฝน ความชื้นต่างๆ ได้แล้ว ยังช่วยเรื่องการป้องกันแดด ยังช่วยป้องกันการสึกกร่อนเสื่อมโทรมก่อนเวลาอันควรได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
ชายคา และกันสาด ช่วยได้
สำหรับบ้านไหน ที่มีปัญหาน้ำฝนมักจะไหลย้อนเข้ามาทางรอยต่อประตู หน้าต่างบริเวณผนัง ทำให้เกิดรอยคราบหยดน้ำ เชื้อรา ตะไคร่ คุณอาจจะพิจารณาเรื่องการต่อเติม หรือติดตั้งชายคา กันสาด เพื่อป้องกันน้ำฝนที่สาดเข้ามาในตัวบ้าน
โดยประโยชน์ของชายคา และกันสาด นอกจากจะช่วยกันแดด กันฝน ได้แล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานวัสดุหน้าต่าง บานประตู ต่างๆ ในบ้าน ไม่ให้ผุพังเร็วอีกด้วย
เช็กปลั๊กไฟในบ้าน และปลั๊กไฟกลางแจ้ง
สำหรับปลั๊กไฟในบ้าน และปลั๊กไฟกลางแจ้ง รวมไปถึงระบบไฟฟ้าต่างๆ ในบ้าน นับได้ว่าเป็นจุดเสี่ยงที่สำคัญมาก เพราะหากเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วไหล อาจส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้
ดังนั้น คุณอาจจะต้องตรวจเช็กการออกแบบปลั๊กไฟว่า ได้มาตราฐานหรือไม่ ตำแหน่งต้องไม่ต่ำเกินไป และควรเดินระบบไฟแยกออกจากส่วนอื่นๆ เพื่อสามารถปิดการใช้งานในช่วงหน้าฝน นอกจากนี้ควรติดตั้งร่วมกับปลั๊กไฟที่มี ฝากครอบ เพื่อป้องกันฝนละอองสาด เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้ระบบไฟช่วงหน้าฝนได้อย่างปลอดภัยแล้ว
ตรวจสอบพื้นที่ต่างๆ รอบบ้าน ที่อาจเปียก และมีน้ำขัง
อย่าละเลยพื้นที่ที่มักจะโดนน้ำฝน หรือมีน้ำเปียก น้ำขังอยู่ตลอดเวลา เพราะพื้นที่เหล่านี้ เมื่อโดนความเปียกชื้นของน้ำฝน อาจนำคราบดิน คราบรา ตะไคร่ มาเกาะพื้นผิวจนทำให้ลื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะในเด็ก และผู้สูงอายุในบ้านได้ไม่ยาก
ดังนั้น การขัดล้างพื้นหลังฝนตกจะช่วยขจัดคราบตะไคร่ คราบสกปรก อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้ง่าย ที่สำคัญ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เป็นคราบสะสม เพราะจะขจัดออกได้ยาก โดยเฉพาะในเ พื้นที่ทำจากงานหิน หรือพื้นคอนกรีต
ส่วนพื้นประเภทงานกระเบี้อง คุณอาจจะเลือกต่อเติมบ้าน เปลี่ยนพื้นกระเบื้องธรรมดา ให้กลายเป็นแผ่นกระเบื้องชนิดกันลื่น แต่ถึงแม้จะเปลี่ยนเป็นชนิดกันลื่นแล้ว ก็ไม่ควรละเลยการทำความสะอาด เพราะถ้าโดนน้ำฝนสะสมมากๆ เข้า ก็อาจเกิดคราบเมือก ก่อให้เกิดการลื่นได้เหมือนเดิม สำหรับพื้นที่ที่โดนน้ำขังประจำ คุณอาจจะปรึกษาช่าง เพื่อปรับระดับพื้น หรือหาหนทางระบายน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำขังได้อีกทาง
อย่าลืมตัดกิ่งไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ตัวบ้าน
เมื่อเกิดพายุ ลมแรง หากมีกิ่งไม้ใหญ่อยู่ติดกับตัวบ้าน กิ่งไม้นั้นอาจ ฟาดกับตัวบ้าน หรือหักลงมาทับทำให้บ้านเสียหายได้ ดังนั้น การดูแลสภาพแวดล้อมรอบบ้าน โดยเฉพาะต้นไม้ต่างๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยคุณอาจจะเลือกตัดแต่งต้นไม้ต่างๆ ออก
นอกจากจะช่วยลดอุบัติเหตุจากลมพายุที่พัดโค่นต้นไม้ล้มทับตัวบ้าน หรือคนในบ้านได้แล้ว ยังช่วยป้องกันเรื่องสัตว์ร้ายต่างๆ ที่อาจเข้ามาในบ้าน หรือป้องกันไม่ให้กลายเป็นที่อยู่ของสัตว์ร้ายที่หลบหนีจากฤดูฝนได้อีกด้วย
ไม่เพียงแต่การตัดแต่งกิ่งไม้เท่านั้น การทำไม้คํ้ายันให้ต้นไม้ใหญ่ โดยเฉพาะต้นใหม่ หรือต้นไม้ที่มีรากไม่แข็งแรงยึดติดกับดินแน่นดี ก็ควรทำไม้ค้ำไว้ เพราะเมื่อมีลมพัดมาแรงๆ อาจจะทำให้ลำต้นเอนเอียง หรือโค่นล้มทับบ้าน เกิดอุบัติเหตุต่างๆ ในบ้านได้
การต่อเติมบ้าน ซ่อมแซม รีโนเวทบ้านที่ดี ควรทำก่อนฤดูฝนมาถึงจะดีกว่า เพราะหากรอ หรือปล่อยไว้นาน เมื่อหน้าฝนมาถึง น้ำฝนอาจจะก่อให้เกิดปัญหาต่อโครงสร้างต่างๆ ในบ้านได้มากกว่าที่คุณคิด
และสำหรับใครที่ยังไม่อยากจะใช้เงินก้อนต่างๆ ในการต่อเติม ซ่อมแซมบ้านในช่วงนี้ ต้องนี่เลย สินเชื่อต่อเติมบ้าน จาก Rabbit Care ช่วยเหลือคุณ ไม่ว่าจะต่อเติมหน้าบ้าน หรือต่อเติมหลังบ้าน ได้อย่างแน่นอน!
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct