แคร์ไลฟ์สไตล์

ชุ่มฉ่ำรับหน้าฝนกับ 7 ที่เที่ยว ล่องแก่ง ใกล้ธรรมชาติ

ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ

ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี

close
Facebook iconIG iconlinkedin iconYoutube icon
แก้ไขโดย : Nok Srihong
Nok Srihong

มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น

close
linkedin icon
 
Published: June 21,2019
  
Last edited: July 9, 2019
ล่องแก่ง

หลายคนอาจคิดว่า เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนที่โปรยปรายลงมาในแต่ละวัน เกิดความเฉอะแฉะจนพาลไม่อยากจะไปเที่ยวไหนเอาเสียเลย แต่ช้าก่อน! คุณรู้หรือไม่ว่า ช่วงหน้าฝนแบบนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เราได้ไปสัมผัสบรรยากาศลุย ๆ สนุก ๆ หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะ ล่องแก่ง ซึ่งถือว่าได้รับความนิยมทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพราะนอกจากล่องแก่งจะได้ความมันส์สนุกสุดเหวี่ยงแล้ว ยังได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่เขียวขจีกับสองข้างทาง ซึ่งมีที่ไหนบ้างเราไปชมพร้อม ๆ กันเลย

1. ลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก

นักท่องเที่ยวมักจะนิยมไปเล่นกันในช่วงเดือนกรกฎาคม – ตุลาคม ของทุกปี เหมาะกับนักล่องแก่งมือใหม่ เพราะไม่ต้องเดินเข้าป่า และไม่ต้องแบกหามสัมภาระและเสบียงให้ยุ่งยาก ล่องกันไปแบบไม่เหนื่อยในระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ผ่านเกาะแก่งมากมายที่มีระดับความรุนแรงแตกต่างกันไปตั้งแต่ 1-5 รวมทั้งหมด 18 จุดในการล่องแก ตลอดสองข้างทางได้ชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำที่ถูกปกคลุมไปด้วยไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น

ล่องแก่ง

2. หินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี

เป็นอีกสถานที่แห่งหนี่งที่เหมาะท่องเที่ยวล่องแก่งในช่วงหน้าฝน ตั้งอยู่ในเขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 อำเภอนาดี โดยหน้าฝนของทุกปีตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม นักท่องเที่ยวมักจะจับกลุ่มเพื่อมาล่องแพกันที่นี่ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร  ซึ่งจะผ่านแก่งต่างๆ ที่มีความยากง่ายแตกต่างกันไป เช่น แก่งหินเพิง แก่งวังหนามล้อม แก่งวังบอน แก่งลูกเสือ แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า เป็นต้น โดยใช้ระยะเวลาล่องแก่งประมาณ 45 นาที

3. พะโต๊ะ จังหวัดชุมพร

ช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนมิถุนายน-เดือนตุลาคม ของทุกปี จะมีกิจกรรมล่องแก่งที่พะโต๊ะ จุดเด่นของที่นี่คือ ล่องแก่งชมธรรมชาติสองฝั่งน้ำ แถมช่วงน้ำที่ไม่เชี่ยวมากนักสามารถแวะพัก หรือชมวิว ถ่ายรูป กับนกเงือกและนกกระเต็นอย่างใกล้ชิด ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองไทยในเขตภาคใต้ โดยใช้เวลาล่องประมาณ 3 ชั่วโมง ในระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร

rafting

4. แม่น้ำซองกาเลีย จังหวัดกาญจนบุรี

ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับล่องแก่งเรือยาง คือ ปลายเดือนมิถุนายน – ปลายเดือนตุลาคม ซึ่งจุดเริ่มต้นของการล่องแก่งอยู่ที่บริเวณตอนล่างของน้ำตกตะเคียนทอ และสิ้นสุดที่เจดีย์เจมส์รีสอร์ท ระยะทางยาวประมาณ 20 กิโลเมตร มีแก่งให้ผ่านทั้งหมด 15 แก่ง ส่วนช่วงเดือนพฤศจิกายน – พฤษภาคม เป็นช่วงหน้าแล้ง เหมาะแก่การล่องแพไม้ไผ่ เนื่องจากกระแสน้ำไม่แรงมากนัก ได้ล่องไปแบบชิล ๆ ชมทิวทัศน์กับสองข้างทาง

5. น้ำว้า จังหวัดน่าน

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่สุดแห่งการล่องแก่งในเมืองไทยที่ติดอยู่ในอันดับต้นๆ ของเอเชีย ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแม่จริม อ.แม่จริม จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงเริ่มจากลำน้ำว้าตอนบน 35 กิโลเมตร ตอนกลาง 85 กิโลเมตร ใช้เวลาล่องถึง 2 วัน ส่วนตอนล่าง 12 กิโลเมตร สามารถล่องได้ทั้งปี เพราะเป็นแก่งที่เล็กและเบาที่สุด ส่วนมากจะล่องเรือยางเพื่อชื่นชมกับธรรมชาติในสองข้างทางให้เพลินตา

ล่องแก่ง

6. ชมดาว จังหวัดพัทลุง

เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ สายลุยล่องแก่ง การผจญภัยและชอบถ่ายรูป ระยะทางในการล่องประมาณ 6 กิโลเมตร หรือราว 2 ชั่วโมง ระดับน้ำจะมีความเชี่ยวไม่เท่ากัน ซึ่งตรงแก่งลุงจวน แก่งไม้ไผ่ จะมีความหวาดเสียวมากที่สุด อย่างไรก็ตาม สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ชอบการผจญภัยสามารถนั่งเล่นได้ตรงสนามนั่งเล่นซึ่งมีขนาดใหญ่ รับลมเย็นๆ ชมวิวสวยๆ ได้อย่างจุใจ

7. ภูเกาะ จังหวัดสระบุรี

เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย อำเภอมวกเหล็ก ช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวมักมากันคือ เดือนมีนาคม – ตุลาคม มีทั้งล่องแก่งเรือยางในช่วงน้ำหลาก และพายเรือคายักในช่วงน้ำลด รวมทั้งหมดตลอดสายน้ำ 15 แก่ง ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาในการล่องประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

ล่องแก่ง

เที่ยวไม่มีสะดุดพกบัตรเครดิตฉลุยทุกที่

เมื่อต้องวางแผนทริปท่องเที่ยวล่องแก่งในประเทศไทย ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินด้วยกันทั้งสิ้น  และจะดีสักแค่ไหนต้องใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ได้ทั้งส่วนลด คะแนนสะสม และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้ทริปที่ไปนั้นแสนสบายสุดชิลล์

ยิ่งในปัจจุบันยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การจองที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร หรือช้อปปิ้ง จ่ายค่าล่องแก่งส่วนใหญ่แล้วจ่ายผ่านบัตรเครดิตมักจะได้สิทธิ์พิเศษ ส่วนลดที่มากกว่าจ่ายด้วยเงินสดเสียอีกทำให้ประหยัดเงินไปมากเลยทีเดียว แถมไม่ต้องพกเงินสดเยอะ ๆ ไว้ติดตัวให้เป็นการล่อตาล่อใจของกลุ่มมิจฉาชีพอีดต่างหาก

พกบัตรเครดิตไปเที่ยวมีแต่ข้อดีแบบนี้ แล้วคุณล่ะ! ยังจะพกเงินสดจำนวนมาก ๆ ไปเที่ยวอีกมั้ย และถ้าเพื่อนคนไหนมองเห็นประโยชน์ดี ๆ แบบนี้อยากจะมีติดกระเป๋าไว้สักใบ แต่ไม่รู้จะปรึกษาใครดีว่า บัตรเครดิตใบไหนตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวคุณเองมากที่สุด ใช้แล้วคุ้มที่สุด

สามารถ คลิกเข้ามาที่แรบบิท แคร์ เรามี บัตรเครดิต หลากหลายประเภทที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าทุกท่าน แน่นอนว่าคุ้มค่า เพราะเรามีเจ้าหน้าผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคอยให้บริการกับทุกคำถามที่คุณสงสัย ตลอด 24 ชั่วโมง  ที่สำคัญยังสมัครง่าย อนุมัติไว ไม่ว่าจะเที่ยวไหน ไปล่องแก่งที่ไหนก็คุ้มเว่อร์

  
เปรียบเทียบบัตรเครดิตที่ใช่ สมัครเลย!
icon angle up or down

สามารถเลือกได้มากกว่า 1 ข้อ

เด็กจบใหม่ เด็กจบใหม่ icon รักการท่องเที่ยว รักการท่องเที่ยว icon รักการช้อปปิ้ง รักการช้อปปิ้ง icon รักความหรูหรา รักความหรูหรา icon รักสุขภาพ รักสุขภาพ icon รักการกิน รักการกิน
  

 

บทความแคร์ไลฟ์สไตล์

Rabbit Care Blog Image 96153

แคร์ไลฟ์สไตล์

เอาใจคนชอบมอเตอร์ไซต์ เลือกสรรมอเตอร์ไซค์ที่ใช่สำหรับคุณ

การเลือกมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่รักการขับขี่ เพราะนอกจากจะต้องคำนึงถึงสไตล์และดีไซน์ที่ถูกใจแล้ว ยังต้องพิจารณาถึงสมรรถนะ
Thirakan T
27/08/2024