5 เทรนด์แห่งอนาคต IoT (Internet of Things) ที่จะช่วยทำให้ชีวิตคุณล้ำและง่ายขึ้น
โลกปัจจุบัน ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่มุ่งไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด ใครไม่อยากตกเทรนด์ จะต้องพยายามรับรู้สิ่งใหม่ เปิดรับเทคโนโลยีมิติใหม่ ๆ ที่กำลังคลืบคลานเข้ามาสู่ในสังคมไทย เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตเราง่ายขึ้น ซึ่งในช่วงแรกแน่นอนว่าจะต้องเกิด ช่วงเวลาเรียนรู้ (Learning Period) เพื่อปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ หนึ่งในเทรนด์ที่กำลังมาแรงสุด ๆ คือ IoT (Internet of Things)
IoT คือ
Internet of Things หรือ IoT คือระบบเครือข่ายของวัตถุฟิสิกส์ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ ยานพาหนะ อาคาร และวัสดุอื่น ๆ ที่มีเซ็นเซอร์ ซอฟต์แวร์ และความสามารถในการเชื่อมต่อ อนุญาตให้วัตถุเหล่านี้สามารถเก็บและแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต วัตถุเหล่านี้สามารถสื่อสารกันและกับระบบที่มีศูนย์กลาง ทำให้สามารถทำงานและปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองหรือภายใต้การควบคุมของมนุษย์
ประเภทของ IoT
- ผลิตภัณฑ์ IoT ทั่วไป : ใช้สำหรับกิจวัตรประจำวัน เป็นไอเทม IoT ที่หาได้ในเฟอร์นิเจอร์ ในโทรศัพท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
- IoT เชิงพาณิชย์ : ใช้ในอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ ทั้งหลาย เช่นในอุตสาหกรรมการแพทย์ หรือการขนส่ง
- IoT เพื่อการทหาร (IoMT) : เป็นการใช้เทคโนโลยี IoT มาต่อยอดให้กับยุทโธปกรณ์ทางการทหารไม่ว่าจะเป็นอาวุธ หรือชุดเครื่องแต่งกาย
- IoT เพื่ออุตสาหกรรม (IIoT) : ใช้ IoT เพื่อเป็นระบบสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น IoT สำหรับตรวจสอบผลิตภาพของผลิตภัณฑ์ (Quality Control) เครื่องมือเชิงการเกษตร และอื่น ๆ อีกมากมาย
- IoT เพื่อโครงสร้างพื้นฐาน : ใช้สำหรับการเชื่อมต่อระบบภายในเมือง เช่นเชื่อมระบบการเมืองได้กับโทรศัพท์ เชื่อมทุกการใช้จ่ายด้วยแอป ฯ เป็นต้น
เทรนด์ IoT : Digital Twins
Digital Twin จัดเป็นหนึ่งใน IoT ที่ควบรวมวัตถุที่จับต้องได้ กับวัตถุดิจิทัล พูดง่าย ๆ คือระบบสร้างโมเดลเสมือนจริง ที่ถูกเก็บข้อมูลโดยการใช้เซ็นเซอร์ เก็บข้อมูลด้านมวล และมิติต่าง ๆ ของวัตถุแบบ Realtime ทำให้สามารถแปรเปลี่ยนสิ่งของที่สามารถจับต้องได้ ตั้งแต่ธรรมชาติ ไปจนถึงสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ให้กลายเป็นแบบจำลองในโลกดิจิทัล เทคโนโลยี Digital Twin ช่วยให้คุณสามารถควบคุมประสิทธิภาพของสินทรัพย์ ระบุความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น และตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นเกี่ยวกับการบำรุงรักษาและวงจรชีวิต
โดยตัวอย่างของ Digital Twin ที่ถูกนำมาใช้ได้อย่างมีประโยชน์ที่สุด คือเมื่อ Notre-Dame หนึ่งในวิหารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ถูกไฟไหม้ ก็ได้ระบบ Digital Twin สร้างโมเดล 3 มิติขึ้นมา และทำให้สามารถซ่อมแซมวิหารกลับมาได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งในอนาคต ด้วยเทคโนโลยี VR และ Metaverse อุปกรณ์ IoT Digital Twin จะทำให้เป็นเรื่องง่ายอย่างมาก ในการสร้างโลกดิจิทัลให้มีความเหมือนจริง และสามารถ Render โลกแห่งความจริง เป็นโลกเหมือนจริงได้อย่างไร้รอยต่อมากขึ้น
เทรนด์ Home Security
IoT ช่วยป้องกันความปลอดภัยของบ้านคุณ การติดต่อหน้าต่างและประตู การตรวจจับการแตกกระจกและการเคลื่อนไหว ตัวตรวจจับความร้อน ควัน และน้ำ รวมถึงหน้าแป้นและกล้องรักษาความปลอดภัย และประตูอัจฉริยะช่วยป้องกันการบุกรุก ไฟไหม้ และน้ำท่วมในบ้านของคุณ
คุณจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์เมื่อมีกิจกรรมที่น่าสงสัยในบ้าน โดยใช้แอปพลิเคชันคุณสามารถตรวจสอบบันทึกข้อมูลเซ็นเซอร์และกล้องเพื่อรู้ว่ากิจกรรมอะไรกำลังเกิดขึ้นและที่ไหน คุณสามารถเปิดหรือปิดระบบรักษาความปลอดภัยได้จากระยะไกลเพื่อยับยั้งหรืออนุญาตให้เข้าถึงบ้านของคุณ สำหรับความปลอดภัยมากขึ้น คุณสามารถตั้งค่ารหัสเข้าใช้ส่วนบุคคลสำหรับผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตเฉพาะและได้รับข้อมูลเมื่อพวกเขาเข้าหรือออกจากบ้านของคุณ
เทรนด์ Smart Driving Car
รถขับเอง อาจดูเป็นคอนเซ็ปต์ที่เหมือนหลุดออกมาจากโลกอนาคต แต่ความเป็นไปได้ของระบบรถขับเอง ใกล้ที่จะเป็นจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะเริ่มจากรถประจำทาง รถที่มีเส้นทางเฉพาะตายตัวของตนเองอยู่แล้ว โดยใช้ระบบสั่งการ ระบบเซ็นเซอร์ที่ช่วยให้สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ GPS และระบบคลาวน์เป็นตัวสร้างระบบขับขี่ที่ปลอดภัยแบบ 24 ชั่วโมง
นอกจากนั้น IoT ที่เกี่ยวกับยานยนต์ยังสามารถพบเจอได้ในรูปแบบแอป เช่น Google Maps / Apple Maps ไปจนถึง Waze โดยจะขอยกตัวอย่าง Waze ซึ่งเป็นแอปที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการขับขี่โดยสามารถคำนวณรถติด การขับขี่ ควรจะเร่งตอนไหน ควรจะชะลอตอนไหน เส้นทางที่จะดีที่สุดสำหรับการขับขี่ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ Smart Car ได้โดยตรง
เทรนด์ เครื่องแต่งกาย
การนำเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานกับเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ไม่ใช่คอนเซปต์ที่แปลกใหม่อะไร อย่างเช่นชุดประกอบการแสดง แต่เสื้อผ้า IoT ยกระดับเทคโนโลยีในเสื้อผ้าไปอีกระดับหนึ่ง โดยทำให้เสื้อผ้าตอบโจทย์การใช้ชีวิต พักผ่อน สุขภาพ และอื่น ๆ อีกมากมาย เริ่มต้นจากนาฬิกา สร้อยข้อมูล หรือแหวนที่ใช้ระบบเซ็นเซอร์ Biometric วัดอุณหภูมิ ระบบหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจ ไปจนถึงออกซิเจนในเลือด และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนั้นเสื้อผ้าที่ใช้ในเกมกีฬา ก็ได้พัฒนาจนเกิดเป็น IoT Clothing ยกตัวอย่างเช่นฟุตบอลทีมชาติเยอรมัน ร่วมกับนักวิทยาศาสตรื และ Adidas ออกแบบเสื้อสำหรับเทรนด์ที่สามารถจับความร้อน ระดับความเสียดสีตลอดทั้งการแข่ง และฝึกฟุตบอล เพื่อให้รู้ว่านักกีฬาออกกำลังผิดจุด หรือไม่สมดุลตรงจุดไหนรึเปล่า เพื่อนำไปพัฒนาการเล่นบอลในอนาคต เป็นต้น
เทรนด์ Smart City
ตัวอย่าง Smart City สามารถเห็นได้แล้ว บ่อยครั้งต่อยอดมาจาก Mega App ต่าง ๆ ที่รวบรวมบริการต่าง ๆ ครบวงจรไว้ในแอป ๆ เดียว จากนั้นก็สามารถต่อยอด Interact ได้กับสิ่งของรอบตัวที่จับต้องได้ ยกตัวอย่างเมือง Hangzhou ที่เป็นเมืองต้นแบบของ Alibaba City Brain ซึ่งเชื่อมต่อระบบ City Monitoring การจราจร สภาพคล่องของรถ ไปจนถึงอีเวนต์ และแนวโน้มการเคลื่อนไหวของเมือง แจ้งเตือนเข้ามาในระบบแอปของแต่ละคนแบบจนทำให้รถติดน้อยลง 15% รถฉุกเฉินเดินทางสู่เป้าหมายได้เร็วขึ้น 50% รวมถึงเมืองมีความปลิอดภัยมากขึ้น
โดยความสำเร็จของโครงการ Alibaba City Brain ทำให้เมืองใหญ่อื่น ๆ ในจีน เกิดการสนใจ และต้องการนำระบบนำร่องนี้ไปปรับใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เทียนจิน มาเก๊า และอื่น ๆ อีกมากมาย
ต้องบอกเลยว่าโลกเราก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้ IoT มีผลต่อชีวิตประจำวันของเรา ใครที่สนใจอยากลองเริ่มใช้ IoT ในชีวิตประจำวัน เราสามารถไปหาซื้อได้แล้ว เริ่มตั้งแต่แอป ไปจนถึงเครื่องทำความสะอาด เครื่องมือรักษาความปลอดภัย ซึ่งใครสนใจ แรบบิท แคร์ขอแนะนำ บัตรเครดิต จากธนาคารชั้นนำ ช้อปแบบได้แต้มคุ้ม ๆ จุก ๆ สนใจคลิกเลย
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี