ตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ Custom Keyboard คืออะไร อยากจะเริ่มต้นเข้าวงการนี้มีอะไรต้องรู้ก่อนบ้าง
ช่วงเวลาประมาณ 1-2 ปีที่ผ่านมา วงการ Custom Keyboard กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการแข่งขันทางการตลาดของแต่ละผู้ผลิตที่มีเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงผู้บริโภคที่เริ่มต้นเข้าสู่วงการ Custom Keyboard เองก็มีจำนวนมากขึ้นเช่นกัน เมื่อมีการผลิตสินค้าหลากหลายประเภท ทำให้การแข่งขันด้านราคามีเพิ่มสูงขึ้น จนกระทั่งใครก็สามารถเป็นเจ้าของ Custom Keyboard ได้ในแบบที่ราคาเอื้อมถึงง่าย และนำไป Custom ตามใจได้อีกด้วย ซึ่งวันนี้หากใครกำลังสนใจในตัว Custom Keyboard อยู่ แรบบิท แคร์ มีรายละเอียดทั้งหมดมาแนะนำกัน
Custom Keyboard คืออะไร
Custom Keyboard คือ Mechanical Keyboard ที่เราสามารถนำมา Custom หรือปรับแต่งได้ด้วยตัวเองเกือบทั้งหมด ทำให้มันถูกเรียกว่า Custom Keyboard นั่นเอง ซึ่งสิ่งที่เราสามารถเลือกปรับแต่งได้ก็จะมีตั้งแต่ การเลือกใช้งานส่วนประกอบที่อยู่ภายใน จนถึงภายนอกทั้งหมด
Custom Keyboard แนะนำส่วนประกอบ
Custom Keyboard แนะนำส่วนประกอบเบื้องต้นจะมีประมาณ 6 องค์ประกอบด้วยกัน คือ Case, แผงวงจร (PCB), Plate, Switch, Stabilizers และ Keycap ซึ่งแต่ละอย่างจะมีองค์ประกอบดังนี้
1.Case
เคส (Case) ของ Custom Keyboard เป็นองค์ประกอบแรกที่จะมีชิ้นส่วนอื่นเข้ามาเติมเต็ม จึงทำให้ Case ของ Custom Keyboard นี้มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องเสียงของคีย์บอร์ดอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้ววัสดุที่ถูกนำมาทำเป็น Case มีอยู่หลายประเภท เช่น 3Dprint, Acrylic, Poly-Carbonate, Aluminium, Stainless Steel, ทองเหลือง และอื่น ๆ อีกหลายรูปแบบ
2.PCB
แผงวงจร (PCB) ของ Custom Keyboard จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลัก คือ Hot-Swap ที่เราสามารถถอดเปลี่ยนสวิตช์ได้อย่างง่ายดาย และแผงวงจรแบบที่ต้องมีการบัดกรีด้วยตัวเอง นอกเหนือจากรูปแบบของแผงวงจรแล้วการเลือกขนาด (Size) ของ Custom Keyboard เองก็ต้องดูจากจำนวนปุ่มกดที่ปรากฏขึ้นบนแผงวงจรด้วย ซึ่งจะมีทั้งหมด 5 ขนาดที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Full-Size (100%), TKL, 75%, 65% และ 60%
3.Plate
เพลท (Plate) แผ่นที่มีหน้าที่ยึดระหว่างตัวสวิตช์กับแผงวงจรให้มีระนาบเดียวกัน รวมถึงมีผลเรื่องเสียง และสัมผัสของคีย์บอร์ดด้วยเช่นกัน มีความหนาประมาณ 1.2-1.5 มิลลิเมตร วัสดุที่นิยมนำมาผลิตเป็นเพลทก็มีด้วยกันทั้งหมด 7 ประเภทดังนี้
- Aluminium อะลูมิเนียม
- Brass ทองเหลือง
- Stainless Steel สแตนเลส
- Carbon Fiber คาร์บอนไฟเบอร์
- Poly-Carbonate พลาสติก
- Polyoxymethylene พลาสติกชนิดพิเศษ
- FR4 เรซินอีพ็อกซี่และผ้าใยแก้ว
การเลือกใช้เพลทใน Custom Keyboard จะทำให้เราได้รับสัมผัสจากการสะท้อนที่แตกต่างกันออกไป และเรื่องเสียงที่แต่ละวัสดุให้ได้ไม่เหมือนกัน เช่น เพลทที่แข็งจะให้ความรู้สึกสะท้านนิ้ว เสียงแหลมเล็กน้อย เพราะเกิดการสะท้อนที่ตัวเพลท
4.Switch
สวิตช์ (Switch) ในปัจจุบันมีให้เลือก 3 รูปแบบหลัก คือ Linear, Tactile และ Clicky โดยความแตกต่างจะค่อนข้างชัดเจนอย่างมาก ซึ่งรายละเอียดมีดังนี้
- Linear: สวิตช์ที่เน้นเสียงเบา ตอบสนองเร็ว สัมผัสนุ่ม ลื่น
- Tactile: สวิตช์ที่เน้นความนุ่ม แน่น มีเสียงดังปานกลาง ให้สัมผัสแบบ 2 จังหวะ
- Clicky: สวิตช์ที่มีเสียง “คลิก” อย่างชัดเจน เพราะมีส่วนประกอบอย่างกระเดื่องคอยสร้างเสียงในจังหวะที่ 2 อยู่ภายใน เป็นสวิตช์ 2 จังหวะ
ก่อนเลือกสวิตช์มาใช้งานกับ Custom Keyboard อย่าลืมลองสั่งสวิตช์ในแบบที่เราชอบมาทดลองใช้ หรือกดเล่นดูก่อน ว่าสัมผัสประมาณนี้ เสียงคร่าว ๆ ที่เราได้ยิน ชื่นชอบมากน้อยแค่ไหน
5.Stabilizers
สแตป (Stabilizers) คือ ตัวช่วยประคองปุ่ม เพื่อเวลาที่กดลงไปจะได้ไม่เอียงข้างใดข้างหนึ่ง โดยเฉพาะปุ่มที่ค่อนข้างยาว เช่น Backspace, Enter, Shift และ Spacebar โดยสแตปจะมีแบ่งได้อีก 3 ประเภทย่อยดังนี้
- PCB Mount: ติดตั้งสแตปลงบนแผงวงจรได้โดยตรง
- Screw-in Mount: ติดตั้งลงบนแผงวงจรด้วย Screw
- Plate Mount: ติดตั้งลงบนเพลทแทน ถอดเปลี่ยนง่าย Custom Keyboard Pre-built นิยมใช้งานอย่างมาก
6.Keycap
คีย์แคป (Keycap) คือ สิ่งที่นำเสนอ Custom Keyboard ได้อย่างชัดเจนผ่านรูปลักษณ์ภายนอก ด้วยสี รูปแบบที่สวยงาม ซึ่งมีประเภทย่อยอยู่อีก 6 ประเภทหลัก ได้แก่ Cherry, OEM, SA, MDA, XDA และ DSA แต่ละแบบจะมีการสัมผัสที่แตกต่างกันไปตามระดับความสูง และหน้าผิวของคีย์แคป
Custom Keyboard เริ่มต้นอย่างไรดี
Custom Keyboard เริ่มต้นอย่างไรดี หากใครที่กำลังมองหา Custom Keyboard ที่จะพาคุณเปิดโลกในวงการนี้ แนะนำว่าลองมาหา Pre-Built ที่มีราคาตั้งแต่ 3,000-8,000 บาทก่อนจะดีที่สุด เพราะแบบ Pre-Built จะมีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้ครบถ้วน ยกเว้นแต่คีย์แคปและสวิตช์ที่คุณต้องซื้อเพิ่มมาเอง เอาละงั้นมาดูว่าก่อนจะเลือกซื้อ Custom Keyboard จริงจัง เราควรตัดสินใจเลือกจากอะไรบ้าง
เลือก Custom Keyboard Size
เลือก Custom Keyboard Size ก่อน โดยขนาดหลัก ๆ จะมี 100%, TKL, 75%, 65% และ 60% แต่ละขนาดจะแตกต่างกันดังนี้
- Custom Keyboard Full Size (100%): มีปุ่มครบทุกปุ่มรวมถึงโซน Numpad (แป้นตัวเลข)
- Tenkeyless (TKL): มีขนาดใกล้เคียงกับแบบ 100% เพียงแค่ตัดโซน Numpad ออกไป
- Custom Keyboard Size 75%: มีขนาดใกล้เคียงกับ TKL แต่นำปุ่มที่อยู่แยกโซนมาชิดติดกันทั้งหมด
- Custom Keyboard Size 65%: มีขนาดเล็กลงมาจาก 75% โดยตัดปุ่มโซนฟังก์ชัน (ปุ่ม F1-12 ออกทั้งหมด)
- Custom Keyboard Size 60%: มีขนาดเล็กลงมาจาก 65% อีกนิด โดยตัดปุ่มลูกศร 4 ทิศออกไปทั้งหมด
เลือก Custom Keyboard Case
เลือก Custom Keyboard Case ว่าเราชื่นชอบวัสดุแบบไหนมากเป็นพิเศษ ซึ่งอาจต้องคำนึงถึงเรื่องความสวยงาม สี การออกแบบ และเรื่องเสียงที่เกิดขึ้นด้วย โดยบางตัวอาจทำให้เสียงก้องจากการสะท้อน บางตัวอาจให้เสียงเบาแต่ไม่แหลม ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ และงบประมาณอีกทีหนึ่ง
เลือก Switch Custom Keyboard
เลือกสวิตช์ Custom Keyboard ต้องเริ่มจากประเภทสวิตช์ที่ชอบก่อน ว่าเราต้องการแบบไหน จากนั้นค่อยค้นหาชื่อโดยอิงจากประเภทที่เราเลือก เช่น ชอบ Tactile สวิตช์ อาจเริ่มต้นจาก Holy Panda สวิตช์สุดนุ่มเสียงเพราะที่สายเริ่มต้นในวงการควรลอง หรืออยากลองเพิ่มระดับความสนุกอีกนิดก็แนะนำให้ลอง Boba u4t ที่เป็นประเภทเดียวกัน แต่แตกต่างทั้งเรื่องเสียงและสัมผัส
หมายเหตุ: แม้สวิตช์ Custom Keyboard บางตัวจะเป็นประเภทเดียวกัน แต่ต้องอย่าลืมสเปกหลัก ๆ อย่างเรื่อง “น้ำหนัก” ด้วย เพราะการใช้แรงกดหนัก เบา ที่แตกต่างกัน อาจทำให้เรามีความชื่นชอบไม่เหมือนกันด้วยนั่นเอง
เลือก Keycap Custom Keyboard
เลือก Keycap Custom Keyboard อันนี้สามารถเลือกตามสไตล์ที่เราชื่นชอบได้เลย แต่ทั้งนี้อย่าลืมดูเรื่องวัสดุการผลิตด้วย โดยปัจจุบันมีให้เลือก 2 ประเภทหลัก คือ ABS กับ PBT โดยมีรายละเอียดดังนี้
- Keycap ABS: เนื้อพลาสติกที่ไม่หนามากเท่าไหร่นัก มีความแข็งแรงพอประมาณ ให้เสียงโปร่งใสไปทางแหลมเล็กน้อย ใช้งานไปในระยะเวลานานอาจมีความเงาเกิดขึ้นได้
- Keycap PBT: มีราคาค่อนข้างแพง มีสัมผัสที่ค่อนข้างหนา ผิวด้าน ขึ้นเงายาก ปริ้นลายลงไปบนตัวคีย์แคปได้สวยงาม แต่แพ้แรงกระแทก หรือแรงทุบ หากได้รับแรงที่มาก ๆ อาจเกิดการเปราะ หรือแตกได้เช่นกัน
เลือกวิธีประกอบ Custom Keyboard
เลือกวิธีประกอบ Custom Keyboard หรือโครงสร้างภายใน มีทั้งหมด 6 ประเภทหลัก คือ Tray Mount Keyboards, Integrated Plate Keyboards, Sandwich Mount Keyboards, Gasket Mount Keyboards, Top / Bottom Mount Keyboards และ Plateless Mount Keyboards รายละเอียดมีดังนี้
- Tray Mount Keyboards: วิธีประกอบที่ง่ายที่สุด เป็นการประกอบทุกอย่างลงไปตรง ๆ ยึด PCB ลงบน Mounting ที่อยู่บริเวณกลางเคส ซึ่งจะให้เสียงที่ไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าไหร่นัก
- Integrated Plate Keyboards: วิธีประกอบที่ไม่มีเพลท เพราะแบ่งเคสเป็น 2 ส่วน โดยส่วนบนทำหน้าที่เป็นเพลทแทน ทำให้สามารถเก็บเสียง สร้างบาลานซ์ได้ค่อนข้างดี
- Sandwich Mount Keyboards: วิธีประกอบที่ใช้เคสประกบเพลทเอาไว้ ยึดติดแน่นเหมือนแซนด์วิช ทำให้ได้เสียงที่เสถียร แต่แลกมาด้วยสัมผัสที่แข็งกระด้าง
- Gasket Mount Keyboards: วิธีประกอบที่ไม่ยึดเพลทด้วยนอต เพราะใช้เคสหนีบเพลทเอาไว้ คล้ายกับแบบแซนด์วิช แต่มีการเพิ่มยางรองประกบเข้าไปในระหว่างชั้นเคสกับเพลท ทำให้ได้เสียงที่นุ่ม และสัมผัสที่ดีกว่า
- Top / Bottom Mount Keyboards: วิธีประกอบที่ยึดเพลทไว้กับเคส โดยใช้นอตยึดด้านบนด้านล่างสลับกัน ทำให้มีความแข็งแรง มั่นคง แต่ก็อ่อนนุ่ม ให้เสียงได้สม่ำเสมอค่อนข้างดีเลยทีเดียว
- Plateless Mount Keyboards: วิธีประกอบแบบที่ไม่ใช้เพลท แล้วยึดแผงวงจรเข้ากับเคสโดยตรง ไม่เหมาะกับคนพิมพ์ พิมพ์เร็ว เพราะจะเปราะบางมาก แต่ถ้าเน้นโชว์ความสวยงาม ห้ามพลาดเด็ดขาด
เมื่อเราทำการศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ Custom Keyboard แบบครบทุกองค์ประกอบแล้ว ที่เหลือขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเลือก รวมถึงงบประมาณที่คุณสามารถจ่ายได้ เพราะราคา Custom Keyboard ไม่ว่าจะเป็นการ Custom 100% หรือแบบ Pre-Built ก็มีให้เลือกจับต้องได้ตั้งแต่หลักไม่กี่พันบาท ไปจนถึงหลายหมื่น หรือเกือบแสนก็มีเช่นกัน
Custom Keyboard บางตัวนั้นแลดูสวยเกินห้ามใจ ไหนจะความลิมิเต็ดที่อาจผลิตมาเพียงไม่กี่ตัว เห็นแล้วถูกใจใช่เลย ของมันต้องมี แต่ทุนทรัพย์อาจยังไม่พร้อมในทันที แรบบิท แคร์ ขอแนะนำบัตรเครดิตสุดพิเศษจากธนาคารชั้นนำ มีสำหรับสายช้อปโดยเฉพาะ อยากได้เป็นแต้มแลกสิทธิพิเศษ หรือเครดิตเงินคืนจุก ๆ เราก็มีให้เลือกอย่างครบถ้วน รีบสมัคร รับบัตร ไปกด Custom Keyboard ที่โดนใจกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นักเขียนบทความด้านประกันยานยนต์ รถยนต์ การเคลมประกันรถยนต์ ตั้งใจเขียนงานให้ได้เกินครึ่งจากช่วงเวลาที่หาข้อมูล ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก
