เจาะลึกเรื่องหุ้น DW คืออะไร ทำไมถึงเป็นทางเลือกใหม่ของนักลงทุน





สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุน อาจจะกำลังมองหาทางเลือกในการลงทุนหุ้นใหม่ ๆ กันอยู่ไม่มากก็น้อย โดยหนึ่งในทางเลือกสำหรับการลงทุนที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากอย่าง DW หรือ Derivative Warrants ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่รวดเร็วและทวีคูณ ว่าแต่เจ้า DW คือ อะไรกันแน่ ? และ หุ้น DW คือ อะไร ? มีความแตกต่างจากการลงทุนหุ้นทั่วไปมากน้อยยังไง?
วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ DW อย่างละเอียด เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด หลบเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น สรุปแล้วเหมาะกับการลงทุนแบบเราไหม? ไปดูกันดีกว่า
รู้จักกับ DW คืออะไร? ทำไมหุ้น DW ถึงนิยมในตลาดหุ้นไทย
เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า DW ย่อมาจาก Derivative Warrants เป็นตราสารทางการเงินประเภทหนึ่งที่ให้สิทธิแก่ผู้ถือในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนด ภายในระยะเวลาที่กำหนด จะเห็นได้ว่า DW ไม่ใช่หุ้นโดยตรง แต่เป็นตราสารที่อ้างอิงราคาจากหุ้นสามัญ ดัชนีหลักทรัพย์ ทองคำ หรือสินทรัพย์อื่น ๆ โดยผู้ออก DW คือบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. หากให้สรุปแบบเข้าใจง่าย ๆ DW คือ สิทธิในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคตนั่นเอง
และเมื่อพูดถึง หุ้น DW คือ อะไร หลายคนมักจะสับสนกับหุ้นสามัญทั่วไป แต่จริง ๆ แล้ว DW ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็น DW ที่อ้างอิงราคาหุ้นสามัญ โดยมีสัญลักษณ์ท้ายชื่อ DW ที่บ่งบอกถึงประเภทและผู้ออก
ตัวอย่าง “PTT13C2405A” จะสามารถแปลได้ดังนี้
- PTT คือ หุ้นอ้างอิง
- 13 คือ ผู้ออก
- C คือ Call DW (สิทธิซื้อ)
- 2405A คือ วันหมดอายุ
โดย DW แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- Call DW คือ สิทธิในการซื้อหุ้นอ้างอิงในอนาคต ใช้สำหรับสร้างผลตอบแทนในช่วงตลาดขาขึ้น
- Put DW คือ สิทธิในการขายหุ้นอ้างอิงในอนาคต ใช้สำหรับสร้างผลตอบแทนหรือป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงตลาดขาลง
ซึ่งเราสามารถเลือกว่าจะซื้อในฝั่งซื้อ (Call) หรือฝั่งขาย (Put) ก็ได้ ตามการคาดการณ์ราคาของสินค้าอ้างอิง โดยมีสินค้าอ้างอิง 3 ประเภท ได้แก่
- หุ้นไทย หุ้นในดัชนี SET50 และหุ้นในดัชนี SET100 ที่อยู่ในรายชื่อของหลักทรัพย์ที่เป็นสินทรัพย์อ้างอิงของ DW ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศกำหนด
- ดัชนีหุ้นไทย SET Index / SET50 Index / SET100 Index / SETHD Index และดัชนีราคากลุ่มอุตสาหกรรมและหมวดธุรกิจ
- ดัชนีหุ้นต่างประเทศ เช่น Hang Seng Index (HSI), S&P 500 Index (SPX) และดัชนีดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐฯ
โดยความนิยมของหุ้น DW มาจากคุณสมบัติหลัก ๆ คือ มีอัตราทด (Leverage) นี่คือจุดเด่นที่สำคัญที่สุด DW มีอัตราทดที่สูง ทำให้การเปลี่ยนแปลงราคาของ DW มีความผันผวนมากกว่าราคาหุ้นอ้างอิงในสัดส่วนที่มากกว่า นั่นหมายความว่า หากราคาหุ้นอ้างอิงขยับเพียงเล็กน้อย ราคา DW อาจมีการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่น ทำให้มีโอกาสสร้างกำไรได้สูงในระยะเวลาอันสั้น
ลงทุนได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ใช้เงินลงทุนน้อย เนื่องจาก DW มีราคาต่อหน่วยที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ได้ด้วยเงินจำนวนจำกัด และเป็นทางเลือกในการบริหารพอร์ต DW สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยง หรือเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุนได้
สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจลงทุน DW
แม้ว่า DW จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจ แต่เราก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามีความเสี่ยงที่สูง โดยก่อนที่เหล่านักลงทุนจะตัดสินใจลงทุน อาจจะต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก ไม่ว่าจะเป็น
- หากราคาหุ้นอ้างอิงเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คาดการณ์ไว้ นั่นย่อมหมายถึงโอกาสในการขาดทุนที่สูงขึ้นเช่นกัน
- มีวันหมดอายุ DW มีอายุจำกัด และเมื่อถึงวันหมดอายุ หากราคาตลาดไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด DW อาจมีมูลค่าลดลงจนเหลือศูนย์ได้ นักลงทุนจึงต้องติดตามวันหมดอายุอย่างใกล้ชิด
- ราคา DW ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ราคาหุ้นอ้างอิง แต่ยังขึ้นอยู่กับเวลาที่เหลือ, ความผันผวนของหุ้นอ้างอิง และอัตราดอกเบี้ย
- สภาพคล่อง DW บางตัวอาจมีสภาพคล่องในการซื้อขายไม่สูงเท่าที่ควร ควรเลือก DW ที่มี Market Maker (ผู้ออก DW ที่ดูแลสภาพคล่อง) ที่ดีและมี bid-offer ที่เหมาะสม
- ความซับซ้อนของ DW มีปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาหลายอย่าง ผู้ที่จะลงทุนจึงต้องอาศัยความเข้าใจที่ลึกซึ้งกว่าการลงทุนในหุ้นสามัญ
จะเห็นว่าแม้จะให้ผลตอบแทนที่ดี แต่ความเสี่ยงก็ค่อนข้างสูง และมีความซับซ้อนและต้องอาศับยความเข้าใจในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติที่มีอัตราทดสูงและมีวันหมดอายุ ทำให้การลงทุนใน DW มีความเสี่ยงที่ต้องศึกษาและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ เพื่อให้การลงทุนของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด

หลักการเลือก หุ้น DW ที่ดี เลือกยังไงดี
สำหรับหลักการการเลือก หุ้น DW นั้น เราอาจจะพิจารณาได้จาก
- เลือกจากความสอดคล้องกับมุมมองต่อหุ้นอ้างอิง
ถ้าคาดว่าหุ้นจะขึ้น ให้เลือก Call DW แต่ถ้าคาดว่าหุ้นจะลง ให้เลือก Put DW นอกจากนี้นักลงทุนต้องมีมุมมองที่ชัดเจนในทิศทางของหุ้นอ้างอิงที่คุณสนใจ เช่น คุณเชื่อว่าหุ้น A กำลังจะขึ้นเพราะผลประกอบการดี หรือหุ้น B กำลังจะลงเพราะมีข่าวร้าย
- เลือกหุ้น DW ที่มีสภาพคล่องสูง
เรียกได้ว่าเป็นจุดที่สำคัญมาก เพราะ DW ที่มีสภาพคล่องสูงจะช่วยให้คุณสามารถเข้าและออกจากการลงทุนได้ง่ายและรวดเร็ว โดยมี Bid-Offer ที่หนาแน่นและราคาไม่กระโดด โดยเราสามารถดูข้อมูลสภาพคล่องได้จากเว็บไซต์ของผู้ออก DW หรือเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ ในส่วนข้อมูล DW ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด
- พิจารณาอัตราทด
มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า อัตราทดสูง หมายถึง DW จะมีราคาเปลี่ยนแปลงไปมากเมื่อหุ้นอ้างอิงเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงและยอมรับความเสี่ยงได้มาก (และต้องจับจังหวะให้ดี) แต่อัตราทดต่ำ ราคา DW จะเปลี่ยนแปลงน้อยกว่า เหมาะกับคนที่รับความเสี่ยงได้น้อยกว่า หรือต้องการถือ DW เป็นระยะเวลานานขึ้น ซึ่งเราสามารถเลือกอัตราทดที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดและความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ
- พิจารณาค่า Sensitivity
Sensitivity บอกว่าราคา DW จะเปลี่ยนแปลงไปกี่ช่อง (Tick) เมื่อราคาหุ้นอ้างอิงเปลี่ยนแปลงไป 1 ช่อง โดย DW ที่ดีสำหรับการเทรดระยะสั้น มักจะมี Sensitivity ใกล้เคียง 1.0 หรือสูง เพื่อให้ราคา DW ขยับตามหุ้นแม่ได้ดีและรวดเร็ว โดยสามารถดูค่านี้ได้จากตารางข้อมูล DW ของผู้ออก
- พิจารณาจากเวลาที่เหลือจนถึงวันหมดอายุ
DW มีวันหมดอายุ ยิ่ง DW ใกล้วันหมดอายุมากเท่าไหร่ “ค่าเสื่อมตามเวลา (Time Decay)” ก็จะยิ่งสูงขึ้น นั่นหมายถึง มูลค่าของ DW จะลดลงเรื่อยๆ แม้ราคาหุ้นอ้างอิงจะไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม
สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้น ( 2-3 วัน) ให้เลือก DW ที่มีอายุเหลือไม่นานเกินไปนัก (เช่น 1-3 เดือน) แต่อัตราทดสูงๆ จะได้เปรียบ แต่สำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือยาวขึ้นเล็กน้อย (สัปดาห์)ควรเลือก DW ที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 2-3 เดือนขึ้นไป เพื่อลดผลกระทบจาก Time Decay ที่เร่งตัวขึ้นในช่วงใกล้หมดอายุ
- พิจารณา “ราคา All-in Premium” หรือ “Implied Volatility (IV)”
All-in Premium หรือ IV บ่งบอกถึงความแพงของ DW หากค่านี้สูงเกินไปเมื่อเทียบกับ DW อื่นๆ ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน แสดงว่า DW ตัวนั้นอาจมีราคาที่ “แพง” และควรเปรียบเทียบค่านี้กับ DW อื่นๆ ที่อ้างอิงหุ้นเดียวกันและมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน โดยพยายามเลือกตัวที่มีค่า All-in Premium หรือ IV ที่ต่ำกว่า
- เลือกผู้ออก DW ที่น่าเชื่อถือ
ผู้ออก DW แต่ละรายมีนโยบายการดูแลสภาพคล่องและการกำหนดราคาที่แตกต่างกันไป ควรเลือกผู้ออกที่มีชื่อเสียง มีระบบ Market Maker ที่ดี และมีตารางราคาที่เข้าใจง่าย ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถดูราคา Bid-Offer ที่ผู้ออกรับซื้อคืนได้ล่วงหน้า โดยผู้ออก DW ที่น่าสนใจในตลาดไทย เช่น BLS (01), KGI (13), Yuanta (19), Macquarie (28), J.P. Morgan (41), KKP (06), FSS (24) เป็นต้น
แล้วแบบนี้ ใครเหมาะกับการลงทุน DW ?
หลังจากที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับ DW แล้ว โดยพื้นฐานการลงทุนแบบนี้จะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความเข้าใจในตลาดหุ้นและมีประสบการณ์ในการวิเคราะห์ราคา ต้องการการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างรวดเร็ว โดยแลกกับการเสี่ยงขาดทุนเร็วเช่นกัน และนั้นหมายความว่าต้องเป็นนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูง มีเวลาติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างสม่ำเสมอ
ที่สำคัญ เราแนะนำให้การเงินลงทุนดั่งกล่าวเป็นเงินเย็น เป็นเงินสำหรับการลงทุนไม่ใช่เงินก้อนที่จำเป็นจะต้องใช้จ่ายในเร็ววัน และไม่รีบร้อนนำไปใช้นั่นเอง
หุ้น DW เป็นเครื่องมือการลงทุนที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น ด้วยคุณสมบัติของอัตราทดและการทำกำไรได้ทั้งสองทิศทางของตลาด แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงกว่าเช่นกัน ดังนั้น การศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ ทำความเข้าใจกลไกราคา และประเมินความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ก่อนตัดสินใจลงทุนใน “หุ้น DW” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้การลงทุนของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ
สำหรับใครที่มองหาโบรกเกอร์ชั้นนำที่ได้รับใบอนุญาตในประเทศไทย และได้รับใบอนุญาตซื้อขายหลักทรัพย์ใน 15 ภูมิภาคทั่วโลก ที่ช่วยให้คุณเลือกลงทุนกับหุ้นต่างประเทศได้สะดวกสบายยิ่่งขึ้น ตอนนี้เลย webull ค่าธรรมเนียมต่ำเพียง 0.10% และไม่มีขั้นต่ำ ให้ทุกการเทรดคุ้มค่ากว่าที่เคย และใช้ฟรี! ฟีเจอร์ข่าวสาร เครื่องมือการเทรด เครื่องมือวิเคราะห์แบบเจาะลึก รวมไว้ให้ครบในแอป
แพลตฟอร์มแรกของไทย ที่ให้บริการเทรดออปชันสหรัฐฯ เพิ่มโอกาสในการลงทุนของคุณและศักยภาพการทำกำไรที่มากขึ้น เชื่อถือได้ สามารถทำการซื้อ-ขายหุ้นได้ทันที ไม่ต้องกลัวดีเลย์ระหว่างประเทศ คลิกเลย!
สรุป
DW ย่อมาจาก Derivative Warrants เป็นตราสารทางการเงินประเภทหนึ่งที่ให้สิทธิแก่ผู้ถือในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนด ภายในระยะเวลาที่กำหนด แม้ว่า DW จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจ แต่เราก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามีความเสี่ยงที่สูง ซึ่งการลงทุนแบบนี้จะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความเข้าใจในตลาดหุ้นและมีประสบการณ์ในการวิเคราะห์ราคา ต้องการการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างรวดเร็ว โดยแลกกับการเสี่ยงขาดทุนเร็วเช่นกัน

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct