วิธีดูกราฟหุ้น ฉบับเข้าใจง่าย มือใหม่ก็อ่านได้



การดูกราฟหุ้นนั้น ถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับนักลงทุน เพราะช่วยให้คุณรู้ว่าหุ้นกำลัง “ขึ้น” หรือ “ลง” และยังช่วยหาจังหวะซื้อขายได้แม่นยำขึ้น แต่สำหรับนักลงทุนมือใหม่ต้องเริ่มต้นจากตรงไหนกันนะ? วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาคุณไปรู้จักให้มากขึ้นว่าต้องเริ่มต้นดูกราฟหุ้นยังไง? มีเทคนิคอะไรบ้าง? ตามมาเลย!
กราฟหุ้น คืออะไร? วิธีดูกราฟหุ้น เบื้องต้น ต้องเริ่มยังไงกันนะ?
กราฟหุ้น (Stock Chart) คือ เครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนใช้ติดตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในอดีตและปัจจุบัน เพื่อนำมาวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคต กราฟหุ้นมักแสดงผลในรูปแบบ เส้น , แท่งเทียน และ แท่งแท่ง
สำหรับการการอ่านกราฟหุ้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากเข้าใจองค์ประกอบหลัก ดังนี้
- แกนแนวนอน (X-axis) = แสดงช่วงเวลา (วัน/เดือน/ปี)
- แกนแนวตั้ง (Y-axis) = แสดงราคาหุ้น
- ปริมาณการซื้อขาย (Volume) = บอกความสนใจของนักลงทุนในหุ้นตัวนั้น
- เส้นแนวโน้ม (Trend Line) = ใช้หาทิศทางของราคา เช่น กราฟขาขึ้น (Uptrend) หรือกราฟขาลง (Downtrend)
เทคนิควิธีอ่านกราฟหุ้น
การสอนดูกราฟหุ้นเชิงเทคนิค มักใช้อินดิเคเตอร์และรูปแบบของกราฟเพื่อหาจังหวะเข้า-ออก เช่น
- Moving Average (เส้นค่าเฉลี่ย) → บอกแนวโน้มหลักของราคา
- RSI (Relative Strength Index) → ใช้วัดแรงซื้อ-แรงขาย ว่าหุ้น “ร้อนแรงเกินไป” หรือยัง
- MACD (Moving Average Convergence Divergence) → ใช้หาสัญญาณซื้อ-ขาย
ตัวอย่างการอ่าน
- หากเส้นค่าเฉลี่ยสั้นตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยยาว → สัญญาณซื้อ
- หาก RSI เกิน 70 → หุ้นอาจ “แพงเกินไป” ควรระวัง
สอนดูกราฟหุ้น กราฟขาขึ้น vs กราฟขาลง
- กราฟขาขึ้น (Uptrend) = ราคาทำ “จุดสูงสุดใหม่” (Higher Highs) และ “จุดต่ำสุดใหม่” (Higher Lows) ต่อเนื่อง → แนวโน้มดี
- กราฟขาลง (Downtrend) = ราคาทำ “จุดต่ำสุดใหม่” ต่อเนื่อง → เสี่ยง และต้องระวัง
- Sideway = ราคาวิ่งอยู่ในกรอบ ไม่ขึ้นไม่ลง → มักรอปัจจัยใหม่
ปัจจัยพื้นฐานเพื่อวิเคราะห์วิธีดูกราฟหุ้น เทคนิค มีอะไรบ้าง?
แม้การอ่านกราฟหุ้นช่วยได้ แต่ไม่ควรพึ่งเพียงอย่างเดียว สำหรับนักลงทุนที่อยากถือหุ้นที่เติบโต เน้นลงทุนระยะกลาง-ระยะยาว ก็ควรมองพวกปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ เข้ามาประกอบการตัดสินใจในการวิเคราะห์เการเลือกซื้อหุ้นหรือการตัดสินใจลงทุนใด ๆ ด้วย
เช่น ศักยภาพการเติบโตของตัวบริษัทหุ้น, ธุรกิจกำไรสุทธิ, มูลค่าหุ้น, อัตราปันผล, นวโน้มอุตสาหกรรม รวมไปถึงปัจจัยเศรษฐกิจ การเมือง เอง ก็ล้วนส่งผลต่อตัวหุ้นทั้งนั้น
ส่วนการอ่านกราฟหุ้นนั้น ถ้าอยากรู้ว่า ควรซื้อ–ขายตอนไหน จังหวะเข้าดีไหม กราฟหุ้นจะช่วยบอกได้ โดยเทคนิคการอ่านกราฟหุ้น หรือวิเคราะห์กราฟหุ้นนั้น เราจะพูดถึงในหัวข้อต่อไป
วิเคราะห์กราฟหุ้น วิธีดูหุ้น ต้องดูอะไรบ้าง?
การวิเคราะห์กราฟหุ้นนั้น ไม่ได้ดูแค่ราคาว่าขึ้นหรือลง แต่มีหลายปัจจัยที่ช่วยให้ตัดสินใจได้แม่นขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แนวโน้ม, แท่งเทียน, แนวรับ–แนวต้าน, ปริมาณซื้อขาย, Indicator และ Timeframe ถ้าดูครบ จะช่วยลดความเสี่ยงและหาจังหวะซื้อ–ขายได้แม่นขึ้น ซึ่งจะมีดีเทลต่าง ๆ ดังนี้
1.แนวโน้ม (Trend) หัวใจสำคัญของการวิเคราะห์กราฟ คือการดูทิศทาง
- Uptrend (ขาขึ้น) : ราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ → โอกาสซื้อ
- Downtrend (ขาลง) : ราคาลดลงเรื่อย ๆ → เสี่ยง ต้องระวัง
- Sideway (ไซด์เวย์) : ราคาขยับในกรอบ → เหมาะกับการ “ซื้อขายสั้น”
2.กราฟแท่งเทียน (Candlestick)
- แท่งเขียว : ราคาปิด > ราคาเปิด → มีแรงซื้อ
- แท่งแดง : ราคาปิด < ราคาเปิด → มีแรงขาย
- แท่งหางยาว : อาจมีแรงกดดัน (ขาย/ซื้อ) แฝงอยู่
3.แนวรับ–แนวต้าน (Support & Resistance)
- แนวรับ : ราคาที่คาดว่าจะ “ไม่ตกต่ำไปมากกว่านี้ง่าย ๆ” → จุดซื้อ
- แนวต้าน : ราคาที่คาดว่าจะ “ไม่ผ่านไปได้ง่าย ๆ” → จุดขายทำกำไร
4.ปริมาณการซื้อขาย (Volume)
- ราคาขึ้น + ปริมาณมาก → สัญญาณแข็งแรง
- ราคาขึ้น + ปริมาณน้อย → อาจเป็นการขึ้นชั่วคราว
5. Indicator เสริม
- Moving Average (เส้นค่าเฉลี่ย) ดูทิศทางราคา
- MACD ดูแรงส่งขาขึ้น–ขาลง
- RSI วัดภาวะซื้อมากเกิน (Overbought) หรือขายมากเกิน (Oversold)
6. Timeframe (ช่วงเวลา)
- Day (รายวัน) เหมาะกับนักลงทุนทั่วไป
- Week / Month ใช้ยืนยันแนวโน้มใหญ่
- 15 นาที / 1 ชั่วโมง เหมาะกับนักเก็งกำไรสั้น
ตัวอย่างการดูกราฟหุ้น แบบเข้าใจง่าย)
- ถ้ากราฟเป็น ขาขึ้น + RSI ยังไม่สูงเกินไป → อาจเป็นจังหวะ “เข้าซื้อ”
- ถ้ากราฟใกล้ แนวต้าน + แท่งเทียนแดงยาว → อาจเป็นสัญญาณ “ขายทำกำไร”
ตารางสรุปการอ่านกราฟหุ้นเบื้องต้น
หัวข้อที่ดู | ความหมาย | ประโยชน์ |
Trend Line | เส้นแนวโน้มราคา | หาจังหวะขึ้น-ลง |
Volume | ปริมาณซื้อขาย | ยืนยันทิศทางตลาด |
Indicator | เช่น RSI, MACD | บอกสัญญาณซื้อขาย |
Candlestick | รูปแบบแท่งเทียน | หาจุดกลับตัว |
เคล็ดลับมือใหม่หัดดูกราฟหุ้น
- เริ่มจากดู กราฟวัน (Daily) ก่อน → เข้าใจง่ายกว่า
- ใช้เครื่องมือฟรี เช่น TradingView, Streaming App
- ไม่ควรอิงแต่กราฟ → ควรดูปัจจัยพื้นฐานหุ้นด้วย
การดูกราฟหุ้นนั้น ถือได้ว่าเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับนักลงทุน เพราะจะช่วยเราวิเคราะห์แนวโน้มและวางแผนจังหวะซื้อขายได้อย่างมีเหตุผล หากคุณเป็นมือใหม่ ควรเริ่มจากการดูกราฟหุ้นแบบง่าย ๆ เช่น เส้นแนวโน้ม กราฟขาขึ้น และการอ่านแท่งเทียน ก่อนค่อย ๆ ต่อด้วยการใช้ Indicator และการวิเคราะห์ขั้นสูงและสำหรับใครที่ชำนาญในการดูกราฟหุ้นแล้ว
อยากลองเริ่มต้นลงทุนบ้าง แรบบิท แคร์ ขอแนะนำ webull โบรกเกอร์ชั้นนำรายแรกของสหรัฐฯ ที่ได้รับใบอนุญาตในประเทศไทย และได้รับใบอนุญาตซื้อขายหลักทรัพย์ใน 15 ภูมิภาคทั่วโลก เทรดได้ 24 ชั่วโมง สามารถทำการซื้อ-ขายหุ้นได้ทันที ไม่ต้องกลัวดีเลย์ระหว่างประเทศ และเป็นแพลตฟอร์มแรกของไทย ที่ให้บริการเทรดออปชันสหรัฐฯ เพิ่มโอกาสในการลงทุนของคุณและศักยภาพการทำกำไรที่มากขึ้น คลิกเลย!
สรุป
ธีดูกราฟหุ้น เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับนักลงทุน เพราะช่วยวิเคราะห์แนวโน้มและวางแผนจังหวะซื้อขายได้อย่างมีเหตุผล หากคุณเป็นมือใหม่ ควรเริ่มจากการสอนดูกราฟหุ้นแบบง่าย ๆ เช่นเส้นแนวโน้ม กราฟขาขึ้น และการอ่านแท่งเทียน ก่อนค่อย ๆ ต่อด้วยการใช้ Indicator และการวิเคราะห์ขั้นสูง

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct