ลดภาษีเอกชน เสริม โครงการสานพลังประชารัฐ เพื่อคนจน
ภารกิจที่รัฐบาลจำเป็นต้องทำอยู่เสมอ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ก็คือ “ลดความเหลื่อมล้ำ” ระหว่างคนรวยกับคนจน ประเทศไหนช่องว่างตรงนี้มาก ยิ่งแปลว่า การบริหารความเหลื่อมล้ำยังทำได้ไม่ค่อยดี ล่าสุด เราอาจจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่อง “โครงการสานพลังประชารัฐ” แล้วโครงการที่ว่านี้ คืออะไรกันแน่?
โครงการสานพลังประชารัฐ ลดความเหลื่อมล้ำ
ต้องบอกก่อนว่า เมื่อก่อนเวลาที่จะออกนโยบายหรือโครงการอะไรสักอย่าง รัฐบาลก็จะคิดแล้วก็ลงมือทำเองตลอด แน่นอนว่า สิ่งหนึ่งที่เราสังเกตเห็นได้ก็คือ ประสิทธิภาพหรือการตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนจริงๆ ทำได้น้อยมาก
พอเป็นแบบนี้ รัฐบาลเลยออก “โครงการประสานพลังประชารัฐ” ที่จะเอามาช่วยแก้ไข ปัญหาความยากจน แบบบูรณาการมากขึ้น
ซึ่งหลักการก็คือ โครงการสานพลังประชารัฐ เปิดให้ทั้งประชาชนคนธรรม รวมไปถึงภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เข้ามามีส่วนร่วมในการวิจัย โดยจะให้ภาคเอกชน เป็นผู้เสนอแนะ และเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐและประชาชน
และหน้าที่หลักของรัฐบาลก็คือคอยให้การสนับสนุน โดยหนึ่งเป้าหมายหลักของโครงการสานพลังประชารัฐคือ ลดความเหลื่อมล้ำ หรือว่า แก้ไขปัญหาความยากจน นี่แหละ
ดีลเอกชน ลดภาษี โครงการสานพลังประชารัฐ
โครงการสานพลังประชารัฐ จะไม่มีขอบเขตว่าต้องพัฒนาตรงไหน หรือส่วนไหนเป็นพิเศษก่อน ถ้าสามารถช่วยแก้ไขปัญหาความยากจน พัฒนาคุณภาพของคน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ และมีแผนระยะกลางถึงระยะยาว ก็ลงมือทำได้ทันที
และเพื่อเพิ่มความน่าสนใจและจูงใจให้เอกชนเข้ามาร่วมกับ “โครงการสานพลังประชารัฐ” กันมากขึ้น รัฐบาลเลยอนุมัติให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับนิติบุคคลที่ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนโครงการสานพลังประชารัฐ
โดยสามารถนำค่าใช้จายเหล่านี้มาหักออกได้คือ
- หักเป็นค่าใช้จ่ายได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 5% ของกำไรสุทธิหลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว
- สามารถหักค่าใช้จ่ายได้เป็น 2 เท่า ถ้ารายจ่ายนั้นเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษา โดยเป็นโครงการที่กระทรงศึกษาเห็นชอบ
- หากเป็นรายจ่ายในการจัดสร้างและบำรุงรักษาสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของเอกชน ที่เปิดให้ประชาชนให้เป็นการทั่วไป ก็สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ไม่เกิน 10% ของกำไรสุทธิก่อนหักค่าใช้จ่ายต่างๆ
ซึ่งทั้งหมดก็จะช่วยทำให้นิติบุคลลประหยัดเงินภาษีได้เหมือนกัน
ส่วนตัวมองว่า โครงการสานพลังประชารัฐ น่าจะเป็นโครงการที่น่าจับตามองอยู่เหมือนกัน เพราะว่าจากเดิมที่รัฐบาลคิดรัฐบาลทำ เก็หมือนกับการคิดเองทำเอง แต่ถ้าเปิดโอกาสให้เอกชน มีส่วนร่วมพัฒนา ก็น่าจะแก้ปัญหาได้มากขึ้น
แต่ถ้าถามว่า โครงการสานพลังประชารัฐ จะแก้ไขปัญหาความยากจนได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่ที่ว่า สามารถนำเอาโครงการมาพัฒนาและประยุกต์ใช้ได้มากน้อยแค่ไหน
ถ้านิติบุคคลมองว่า การให้การสนับสนุนโครงการสานพลังประชารัฐเป็นการทำ CSR อย่างหนึ่ง ก็น่าจะช่วยทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลผลักดันโครงการนี้อยู่เหมือนกัน
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี