คอนโดสามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม? แตกต่างจากรีไฟแนนซ์ปกติไหม?
หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่า การรีไฟแนนซ์บ้านนั้น ช่วยเรื่องดอกเบี้ยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แล้วแบบนี้เราสามารถรีไฟแนนซ์คอนโดได้บ้างไหมนะ? มีเงื่อนไขอะไรที่แตกต่างกันบ้างรึเปล่า? วันนี้ แรบบิท แคร์ มีคำตอบ!
รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร? คอนโดรีไฟแนนซ์ได้ไหม?
การรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การขอกู้เงินจากสถาบันการเงินใหม่เพื่อนำไปปลดภาระเงินกู้เก่าที่มีอยู่ หรือเพื่อต้องการยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระให้ยาวออกไป คล้ายการยื่นกู้ใหม่ โดยการรีไฟแนนซ์ฯจะไม่ได้จำกัดแค่บ้านเป็นหลัง ๆ เท่านั้น แต่คุณสามารถรีไฟแนนซ์ได้กับที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่ตนเองกู้ซื้อ ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮาส์, ทาวน์โฮม, คอนโด, บ้านแฝด และอีก ฯลฯ
ข้อดีสำหรับการรีไฟแนนซ์คอนโดคือ ช่วยปรับลดดอกเบี้ยจากสินเชื่อที่เคยกู้ซื้อห้องคอนโดฯ ทำให้ลดภาระค่าผ่อนชำระต่อเดือนหรือช่วยให้ผ่อนหมดได้เร็วขึ้น
การรีไฟแนนซ์คอนโดไม่ใช่เรื่องแปลก และ แรบบิท แคร์ แนะนำให้ทำโดยเฉพาะถ้าเกิดปัญหาทางการเงิน ทำให้ผ่อนคอนโดฯในอัตราเดิมไม่ไหว มีภาระหน้าที่ทางการเงินที่หนักขึ้น
เช่น รีไฟแนนซ์บ้าน ทำตอนไหน ช่วงการผ่อน 3 ปีแรก ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยที่ปีละ 3.5% โดยในปีที่ 4 ดอกเบี้ยจะปรับขึ้นเป็น 6% เมื่อคำนวนแล้ว รายจ่ายและค่าผ่อนในแต่ละเดือนก็จะมากขึ้นไปด้วย แต่หากทำการเตรียมตัวรีไฟแนนซ์บ้านย้ายไปธนาคารใหม่ คุณอาจได้รับการเสนอดอกเบี้ยที่ 3.5% โดยอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า
แต่การรีไฟแนนซ์คอนโดใช่ว่าจะไม่มีข้อเสีย เพราะการรีไฟแนนซ์คอนโดฯจะทำให้คุณต้องใช้เวลาในการผ่อนนานขึ้น นอกจากนี้การเตรียมเอกสารต่าง ๆ เพื่อขอยื่นรีไฟแนนซ์เองก็มีหลายขั้นตอนการพิจารณา และหากเลือกธนาคารไม่ดี ดอกเบี้ยอาจจะลดลงไม่มากหรือแพงกว่าเดิม ดังนั้นหากสนใจ นอกจากจะต้องเผื่อเวลาทำเรื่องอนุมัติการรีไฟแนนซ์บ้าน เพราะธนาคารต้องใช้เวลาพิจารณา ประเมินราคา ประมาณ 2-4 สัปดาห์แล้ว คุณยังต้องเลือกธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยดีด้วย
สรุปแล้ว การขอรีไฟแนนซ์บ้านกับการขอรีไฟแนนซ์คอนโดฯ พื้นฐานไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ทั้งนี้ต้องเช็กเงื่อนไขของแต่ละธนาคารด้วย เพราะบางแห่งมีการกำหนดประเภทที่อยู่อาศัยแตกต่างกันออกไป
ซื้อคอนโดมือสองจะขอรีไฟแนนซ์ได้ไหม?
สำหรับการรีไฟแนนซ์คอนโดมือสองนั้นสามารถทำได้ แต่จะทำได้ก็ต่อเมื่อคุณได้ทำการกู้ซื้อคอนโดฯไปเรียบร้อยแล้ว และต้องทำการตรวจสอบสัญญาต่าง ๆ ให้ดีเสียก่อนว่า สามารถเริ่มรีไฟแนนซ์ได้ตอนไหน ซึ่งส่วนมากในสัญญาสามารถเริ่มรีไฟแนนซ์ได้เมื่อผ่อนไปแล้ว 3 ปี และหากรีไฟแนนซ์ก่อนเวลาอาจจะเสียค่าปรับประมาณ 1-3% ของวงเงิน ถ้าเทียบแล้วต้องเสียค่าปรับไม่คุ้ม อาจจะต้องยอมรอผ่อนกับที่เดิมไปก่อนจนครบกำหนด 3 ปี จะดีกว่า
เมื่อเช็กข้อกำหนดเรียบร้อย หรือในกรณีที่ซื้อคอนโดฯมือสองมาครบกำหนดระยะเวลาตามเงื่อนไข อยากจะรีไฟแนนซ์อีกรอบ หากใกล้ถึงกำหนดระยะเวลาดั่งกล่าว คุณก็สามารถเริ่มส่งเอกสารเพื่อยื่นขอรีไฟแนนซ์ที่อื่น ๆ ไว้ก่อนได้!
แต่ในกรณีที่คุณมีคอนโดฯ และต้องการจะขายเป็นคอนโดฯมือสอง สามารถขายคอนโดฯได้เลยทันที ไม่จำเป็นต้องรอรีไฟแนนซ์คอนโด และถือว่าไม่ผิดข้อกำหนดแต่อย่างใด
รีไฟแนนซ์คอนโดยังไงให้คุ้มดี?
เพราะจุดประสงค์หลักของการรีไฟแนนซ์บ้าน หรือการรีไฟแนนซ์คอนโดนั้น คือการที่เราต้องการให้ดอกเบี้ยและยอดเงินผ่อนนั้นลดลลง หากดอกเบี้ยไม่ลดลงก็อาจได้ไม่คุ้มเสียกับความยุ่งยาก เพราะการรีไฟแนนซ์แต่ละทีนั้น มีค่าใช้จ่ายแฝงอยู่ด้วย เช่น ค่าประเมินราคา (ขึ้นกับโปรโมชั่นของแต่ละธนาคาร), ค่าจดจำนอง, ค่าอากรแสตมป์, ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ของธนาคาร เช่น ค่าธรรมเนียมสินเชื่อ เป็นต้น
หลัก ๆ เราต้องลองคำนวณดูก่อนว่า ดอกเบี้ยจากธนาคารเก่าที่เรากำลังผ่อนอยู่จะต้องเสียดอกเบี้ยอีกเท่าไหร่ และเช็กดูจำนวนเงินที่เหลือให้ดี เพราะถ้าวงเงินเหลืออยู่ไม่มากอาจจะรีไฟแนนซ์ได้เป็นครั้งสุดท้าย
เช่น ตอนนี้มีหนี้ผ่อนคอนโดเหลืออยู่ 7 แสนบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า หนี้ก้อนนี้จะเหลือต่ำกว่า 5 แสนบาท กรณีแบบนี้ อาจจะไม่ค่อยมีธนาคารแห่งไหนรับรีไฟแนนซ์ แต่ถ้าเลือกรีไฟแนนซ์คอนโดตั้งแต่ 3 ปีแรก ด้วยดอกเบี้ยถูก ๆ ยาวนานไปตลอดระยะเวลาการผ่อนเลยจะคุ้มค่ากว่า ยิ่งถ้าเราเลอกธนาคารให้ดี อาจจะได้โปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านที่ช่วยเราประหยัดเงินผ่อนบ้าน ลดดอกเบี้ยได้ บางคนเลือกดี ๆ อาจจะประหยัดไปหลายหมื่นหรืออาจจะถึงหลักล้านบาทได้เลย!
สรุปแล้ว ถ้าอยากจะรีไฟแนนซ์บ้านให้คุ้มค่ามากที่สุด เราควรคำนวนว่าดอกเบี้ยที่ได้จากการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นคุ้มค่ากับการรีไฟแนนซ์รึเปล่า ดอกเบี้ยควรจะต่ำกว่าที่แรกเป็นหลัก หรือถ้าเราอยู่ในกลุ่มคนที่ผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโดใกล้จะหมดแล้ว ก็ควรเลือกรีไฟแนนซ์เป็นครั้งสุดท้ายด้วยอัตราดอกเบี้ยจนจบสัญญาที่ถูกที่สุด
โดยทั่วไปแล้ว หลายธนาคาร หรือหลายสถาบันทางการเงิน มักจะมีโปรโมชั่นดี ๆ สำหรับผู้ที่รีไฟแนนซ์บ้านอยู่แล้ว หรือถ้าที่อื่นยังให้ดอกเบี้ยไม่ดีพอ คุณสามารถเปลี่ยนใจและติดต่อธนาคารเดิมเพื่อยื่นขอให้ลดอัตราดอกเบี้ยลงได้
ที่สำคัญ ควรเลือกธนาคารที่ให้วงเงินสูงที่สุดเพื่อที่จะได้เงินก้อนไปหมุนเวียนในการผ่อนบ้านต่อไป และสำหรับใครที่มองหาสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน พร้อมบริการเปรียบเทียบ คลิกเลย แรบบิท แคร์ ที่นี้เรารวบรวมสินเชื่อบ้านไว้ให้คุณเลือกอย่างหลากหลาย แถมยังสมัครสินเชื่อออนไลน์ง่าย ๆ ได้ทันใจ พร้อมบริการให้คำปรึกษาด้านการเงินอีกมากมาย ให้ทุกการขอสินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน รีไฟแนนซ์คอนโด เป็นไปได้อย่างราบรื่น!
บทความเกี่ยวกับคอนโดอื่น ๆ
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct