ผ่อนคอนโดฉบับมนุษย์เงินเดือนต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?

Thirakan T
ผู้เขียน: Thirakan T Published: มีนาคม 17, 2022
Thirakan T
Thirakan T
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology
คะน้าใบเขียว
แก้ไขโดย: คะน้าใบเขียว Last edited: มีนาคม 16, 2022
คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct

เชื่อว่าชาวออฟฟิศมนุษย์เงินเดือนหลายๆ คน คงจะมีความฝันว่าอยากจะมีที่อยู่อาศัยในเมืองที่สะดวกสบายและเดินทางได้ง่ายอย่าง “คอนโด” เนื่องจากคอนโดส่วนใหญ่นั้นมักจะอยู่ในทำเลที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์คนเมืองไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ ส่งผลให้การ “ซื้อคอนโด” เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนในยุคนี้ให้ความสนใจกันมากเลยทีเดียว แต่! ก็ยังมีมนุษย์เงินเดือนอีกหลายๆ คน ที่ไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรหากต้องการซื้อคอนโด ดังนั้นในบทความนี้เรามีคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องทราบมาบอกกัน!  

1.เตรียมเงินจองให้พร้อม 

ประการแรกเลยก็คือการเตรียมความพร้อมในเรื่องของเงินจอง ซึ่งก็คือเงินก้อนแรกที่คุณจะต้องจ่าย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเลือกคอนโดที่ถูกใจได้แล้วและต้องการจะซื้อจริงๆ เราก็จะต้องจ่ายเงินจองในทันที โดยจำนวนเงินจองนั้นจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่โครงการคอนโดพร้อมอยู่จะขอเก็บเงินจองเริ่มต้นที่ 10,000 บาท

2.จำนวนเงินที่กู้ได้และต้องผ่อนคอนโดต่อเดือนคือเท่าไรบ้าง ? 

โดยทั่วไปแล้วการกู้เงินในการทำสินเชื่อเพื่อซื้อคอนโดนั้นจะอยู่ที่ประมาณ ‘หมื่นละล้าน’ หรือคิดง่ายๆ เช่น เงินเดือน 18,000 บาท ก็จะสามารถกู้ได้ในวงเงินประมาณ 1.8 ล้านบาท ในขณะที่การผ่อนต่อเดือนนั้นจะอยู่ที่ประมาณล้านละ 7,000 บาท เช่น คอนโดราคา 1 ล้าน ก็จะต้อง ผ่อนคอนโด เดือนละประมาณ 7,000 บาท และหากเป็นคอนโดราคา 2 ล้าน ก็จะต้องผ่อนในราคาเดือนละ 14,000 บาท เป็นต้น

3.เทคนิคในการกู้สินเชื่อให้ผ่านได้ง่ายขึ้นด้วยการ ‘สร้างเครดิต’

หลายคนคงจะทราบกันดีว่าการกู้ให้ง่ายที่สุดก็คือต้องไม่มีหนี้ค้างชำระอยู่ในฐานข้อมูลเครดิตบูโรเลย และข้อมูลที่ปรากฏบนเครดิตบูโรก็ควรที่จะสวยงามไม่มีประวัติเสียหายใดๆ ซึ่งวิธีการเตรียมตัวให้กู้ได้ง่ายขึ้นคือ… 

3.1 มีการสร้างเครดิตบูโรแบบที่ไม่มีความด่างพร้อย เช่น เคยกู้เงินมาแล้วและมีการชำระตรงทุกงวด และควรที่จะจบการชำระหนี้ก่อนนั้นไปแล้ว รวมทั้งควรจะมีการสมัครบัตรเครดิตและเปิดใช้ และในประวัตินั้นมีการจ่ายด้วยจำนวนเต็มมาตลอด ไม่จ่ายด้วยยอดขั้นต่ำ โดยข้อมูลในส่วนนี้ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการกู้คอนโดให้ผ่านมากยิ่งขึ้น

3.2 กรณีที่เคยจ่ายด้วยยอดขั้นต่ำมาโดยตลอด ก็จำเป็นที่จะต้องจ่ายงวดสุดท้ายให้เต็มจำนวนก่อนที่จะยื่นกู้ซื้อคอนโดก็ควรที่จะยกเลิกบัตรไปก่อน และรอประมาณ 30-45 วัน จึงค่อยยื่นกู้ 

3.3 กรณีที่มีการติด Black List ให้ลองติดต่อพูดคุยกับทางธนาคารที่ยื่นกู้ดูก่อน เพราะโดยทั่วไปแล้วการมีประวัติติดแบล็คลิสต์ในเครดิตบูโร จะต้องรอให้ครบ 2 ปี เพื่อให้ประวัตินั้นหายไปจากฐานข้อมูล แต่ถ้ามั่นใจในความสามารถที่จะผ่อนคอนโดได้จริงๆ ก็สามารถพูดคุยกับทางธนาคารเพื่อให้พิจารณาอนุมัติได้เหมือนกัน

4.การปล่อยกู้ที่เหมาะสมกับฐานเงินเดือน

เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จะต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะยื่นเรื่องกู้ ซึ่งธนาคารจะนำหลายๆ ปัจจัยในการนำมาพิจารณาอนุมัติ โดยสามารถแยกเป็นข้อย่อยได้ 3 ข้อด้วยกันคือ… 

4.1การปล่อยสินเชื่อตามราคาประเมินหรือซื้อขายจริง

4.2ปล่อยกู้จำนวนเต็มหรือ 80% ในส่วนนี้จะเป็นการยึดตามราคาซื้อขายจริงและราคาประเมิน ซึ่งในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับว่าธนาคารจะพิจารณาจากส่วนไหนเป็นหลัก

4.3พิจารณาจากชื่อเสียงของ Developer โดยเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับการประเมินเรื่องของกำลังผ่อนคอนโดของผู้ยื่นกู้แต่อย่างใด  แต่จะพิจารณาจาก Developer เป็นที่ว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ เช่น เงินเดือน 15,000 บาท กำลังผ่อนจะอยู่ที่ 10,500 บาท แต่หากเป็น Developer ที่ธนาคารเชื่อถืออยู่แล้วจากยอดกู้ทั้งหมด 1.5 ล้านบาท ก็จะเพิ่มไปได้ถึง 1.7 ล้านบาท เป็นต้น 

5.ศึกษาโปรโมชั่น อัตราดอกเบี้ย และการทำประกัน

เมื่อมั่นใจในประสิทธิภาพการผ่อนคอนโดของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะยื่นกู้กับทางธนาคารสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญก็คือการทำความเข้าใจเกี่ยวกับโปรโมชั่นในแต่ละธนาคาร และการทำประกันซึ่งเป็นข้อบังคับที่จำเป็นจะต้องทำในหลายๆ ธนาคาร โดยให้คุณสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดที่อาจจะส่งผลต่อการผ่อนคอนโดของคุณในอนาคต 

6. ค่าใช้จ่ายก่อนเข้าอยู่มีอะไรบ้าง ?

ประการสุดท้ายก่อนที่จะเข้าอยู่คอนโด จะต้องดูก่อนว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรอีกบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละโครงการ แต่โดยทั่วไปแล้วหากไม่มีโปรโมชั่นในส่วนนี้ก็จะต้องเตรียมงบไว้ประมาณ 80,000 – 100,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายปลีกย่อยก่อนเข้าอยู่มีดังนี้… 

  • ค่าทำสัญญาประมาณ 30,000 บาท
  • ค่ากองทุนจ่ายครั้งเดียวอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท 
  • ค่าส่วนกลางจ่ายเป็นรายปีประมาณ 10,000 บาท และบางที่จะมีการเก็บล่วงหน้า 1 ปี 
  • ค่าธรรมเนียมโอนสิทธิ์ 1% ของราคาขาย บางโครงการอาจมีโปรโมชั่นฟรีในส่วนนี้ให้
  • ค่ามิเตอร์ไฟฟ้า 5,000 บาท 

เรียกได้ว่ากว่าที่จะมีคอนโดเป็นของตัวเองสักหนึ่งห้องนั้นไม่ได้มีแค่เรื่องของความสามารถในการ “ผ่อนคอนโด” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องทำความเข้าใจและศึกษาให้ดีก่อนเพื่อที่จะได้มีความพร้อม และไม่พลาดโอกาสในการซื้อคอนโดจากโครงการที่ชื่นชอบและเป็นเจ้าของได้อย่างสบายใจไม่ต้องกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายหรือการยื่นกู้กันอีกด้วย 

และสำหรับใครที่กำลังมีแพลนจะซื้อคอนโดแต่หาเท่าไหร่ก็ยังไม่ถูกใจสักที คุณก็สามารถเข้าไปเลือกชมโครงการคอนโดกว่า 4,000 โครงการ ทั่วประเทศไทยได้ที่ Propertyhub เว็บไซต์ที่รวบรวมโครงการคอนโดทำเลสวย ราคาดี ที่มาแรงมากที่สุดแห่งยุค! 

บทความอื่นๆ เกี่ยวกับึคอนโด

บทความแคร์การเงิน

Rabbit Care Blog Image 101965

แคร์การเงิน

ดอกเบี้ยลอยตัว คืออะไร? ต่างกับดอกเบี้ยคงที่อย่างไร? มาลองคำนวณกัน

ดอกเบี้ยลอยตัว คืออะไร? ดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Interest Rate) หรือที่เรียกว่า อัตราดอกเบี้ยผันแปร คือ อัตราดอกเบี้ยที่มีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะเศรษฐกิจ
กองบรรณาธิการ
09/06/2025
Rabbit Care Blog Image 101805

แคร์การเงิน

คำนวณยอดเงินดาวน์ที่เหมาะสม ง่ายๆ ในไม่กี่คลิก!

ทำไมต้องวางเงินดาวน์ให้เหมาะสม? การวางเงินดาวน์ที่เหมาะสมช่วยลดภาระดอกเบี้ยและค่างวดผ่อนชำระในอนาคต
กองบรรณาธิการ
06/06/2025
Rabbit Care Blog Image 99755

แคร์การเงิน

การโปะงวดรถ คืออะไร เหมือนการปิดงวดรถก่อนกำหนดไหม มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

เรื่องสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนจะต้องรู้ไว้โปะงวดรถ คืออะไร จ่ายค่างวดรถเกินยอด ทำได้หรือไม่ การโปะรถยนต์มีข้อดี หรือข้อเสียอย่างไร ควรทำไหม ?
คะน้าใบเขียว
11/03/2025