แอร์รถเหม็น แอร์รรถมีกลิ่น มาจากสาเหตุไหนเป็นหลัก
แอร์รถเหม็น หรือแอร์รถมีกลิ่น ถือเป็นปัญหาใหญ่อย่างมากที่เจ้าของรถหลายคนต้องพบเจอ โดยแทบไม่ทราบสาเหตุเลยว่าแท้จริงแล้วมันเกิดจากอะไรกันแน่ กว่าจะรู้ตัวก็ได้กลิ่นเหม็นที่รุนแรงมากขึ้น จนต้องหาทางจัดการเสียเวลาจนปวดหัว เพื่อลดโอกาสการแก้ไขอย่างผิดวิธี แรบบิท แคร์ จัดเตรียมเนื้อหาสลายกลิ่นที่ทำให้แอร์รถเหม็นมาแล้ว! พร้อมบอกสาเหตุที่แท้จริงให้ด้วย ว่าอะไรเป็นตัวการทำให้แอร์รถเหม็น หรือแอร์รถมีกลิ่นขึ้นมาได้แบบน่าสงสัย และสุดท้ายการแชร์ต่อวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีกครั้ง หรืออย่างน้อยก็ช่วยลดความเสี่ยงให้มากที่สุด!!
แอร์รถเหม็น เพราะอะไร
แอร์รถเหม็น เพราะ ความชื้นที่สะสมอยู่มาก, ความสกปรกที่อยู่ในช่องแอร์ และกรองแอร์ที่มีความสกปรกสะสมอยู่ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้แอร์รถเหม็นขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ใครที่ตามหาเหตุผลที่สุดแสนจะกวนใจนี้อยู่ ถือว่าได้คำตอบไปแล้ว ส่วนใครที่อยากได้รายละเอียดที่ต้นเหตุของความเหม็นเพิ่มเติม ไปเจอกันที่คำอธิบายตามรายการดังต่อไปนี้
- ความชื้นที่สะสมอยู่มาก ในแผงคอยล์ทำความเย็นของระบบแอร์รถยนต์ ทำให้เกิดกลิ่นอับและแบคทีเรีย ยิ่งไปกว่านั้นมันอาจส่งผลเสียจนแอร์รถของคุณไม่เย็นเหมือนปกติอีกด้วย
- ความสกปรกที่อยู่ในช่องแอร์ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น หรือเศษความสกปรกอื่น ๆ ที่เข้าไปอยู่ด้านใน พอปล่อยทิ้งไว้นาน ก็กลายเป็นความเหม็นที่โชยออกมาตามลมแอร์ และยังทำให้ลมแอร์ไม่แรงเช่นเดียวกัน
- กรองแอร์ที่มีความสกปรกสะสมอยู่ จำพวกฝุ่นและสิ่งอุดตันต่าง ๆ ที่เข้ามาติดในไส้กรองแอร์ กลายเป็นบ่อเกิดของแบคทีเรียที่สะสมไว้นานยากเกินสังเกตเห็น เป็นหนึ่งในต้นเหตุสำคัญที่ทำให้แอร์เหม็นได้
พื้นฐานของปัญหาแอร์รถเหม็นมักมาจากความสกปรกในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวกับข้องกับระบบทำความเย็นทั้งหมด ดังนั้นถ้าเกิดปัญหาที่จุดไหนแล้วเราสามารถดูออกได้ด้วยตัวเอง เราก็จัดการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เว้นแต่ว่ามันยากเกินกว่าที่เราจะจัดการด้วยตัวเอง คงต้องใช้ทางเลือกอื่นเพื่อขจัดกลิ่นแอร์รถเหม็นให้ได้ ซึ่งข้อมูลที่น่าสนใจรอคุณอยู่ในหัวข้อถัดไป
5 วิธีจัดการแอร์รถมีกลิ่นเหม็น
รวม 5 วิธีจัดการแอร์รถมีกลิ่นเหม็น ได้แก่ ตากแดดไล่ความชื่น, ปิด A/C ไล่ความชื้นซ้ำอีกรอบ, ใช้ตัวช่วยขจัดกลิ่น, ใช้บริการล้างแอร์ และเปลี่ยนกรองแอร์ เมื่อทำตามวิธ๊ใดวิธีหนึ่ง หรือคนที่เลือกทำทั้งหมด เชื่อได้เลยว่ารถของคุณจะหมดปัญหาแอร์รถเหม็นได้อย่างแน่นอน ทีนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าของรถยนต์ว่าจะสะดวกเลือกใช้วิธีการไหน ตามรายละเอียดวิธีจัดการทั้งหมดดังหัวข้อย่อยด้านล่าง
ตากแดดไล่ความชื้น
ตากแดดไล่ความชื้น เป็นวิธีเริ่มต้นขั้นพื้นฐานเพื่อจัดการแอร์รถเหม็นแบบง่าย ๆ เพียงแค่นำรถยนต์ไปจอดกลางแดด เปิดประตูออกทุกบาน เพื่อให้รถได้รับแสงแดด ระบายความร้อน และถ่ายเทความเหม็นอับออกมาให้หมด แสงแดดจะช่วยลดแบคทีเรีย ทำให้ภายในรถดีขึ้น หากเป็นปัญหาเริ่มต้นของแอร์รถเหม็น วิธีนี้อาจช่วยได้ดีจนหมดจด
ปิด A/C ไล่ความชื้น
ปิด A/C ไล่ความชื้น เพราะการที่เราปิดระบบแอร์ ตัวน้ำยาทำความเย็นจะไม่ถูกดึงมาใช้งาน ส่งผลให้ลมที่ผัดออกมาเป็นเพียงลมหมุนเวียนในระบบแอร์ ซึ่งหากมีความชื้นสะสม มันจะสามารถพัดจนแห้งและความชื้นหายไปได้ ช่วยให้จัดการปัญหาแอร์รถเหม็นได้แบบทันใจ
คำแนะนำเพิ่มเติม หากต้องการเลือกใช้วิธีไล่ความชื้นด้วยการปิด A/C แนะนำว่าควรเปิดกระจกเพื่อให้อาการถ่ายเทได้ด้วย ไม่อย่างนั้นหากกลิ่นเหม็นที่ระบายออกมาในรถยนต์ที่ปิดสนิท อาจต้องดมกันจนเวียนหัวเลยทีเดียว ที่สำคัญระยะเวลาในการใช้วิธีนี้ ควรอยู่ในช่วง 5-10 นาที ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุด หากใช้เวลานานกว่านั้นแล้วกลิ่นแอร์รถเหม็นยังไม่หายไป แนะนำว่าควรเลือกวิธีการอื่นเพิ่มเติม
ใช้ตัวช่วยขจัดกลิ่น
ใช้ตัวช่วยขจัดกลิ่นหากการไล่ความชื้นทั้ง 2 วิธีด้านบนไม่เป็นผล เช่น น้ำหอมในรถยนต์ หรือถุงหอม แต่ถ้าใครไม่อยากใช้สารระเหยแบบนี้ ลองใช้วัตถุดิบสมุนไพรไทยก่อนได้ เช่น ใบเตยหอม, กากกาแฟ, เปลือกส้ม และอื่น ๆ ที่มีความสามารถในการช่วยดูดซับกลิ่น ยิ่งถ้าเป็นตัวที่ช่วยส่งกลิ่นหอมทดแทนได้ด้วย จะถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งการดับกลิ่นแอร์รถเหม็น และแทนที่ด้วยกลิ่นหอมนั่นเอง
ใช้บริการล้างแอร์
ใช้บริการล้างแอร์รถยนต์เพื่อแแก้ปัญหาแอร์รถเหม็นที่เกิดจากช่องแอร์เป็นหลัก ให้สะอาดหมดจดไร้ปัญหามากวนใจอย่างแน่นอน ถ้าเรารู้แล้วว่าช่องแอร์มีปัญหา วิธีนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสักเล็กน้อย แต่แลกมาด้วยความสะอาด และสบายใจ รวมถึงยังสามารถช่วยแก้ปัญหาอย่างแอร์ไม่เย็น, แอร์เสียงดัง หรือน้ำแอร์หยดได้นอกเหนือจากกรณีที่แอร์รถมีกลิ่นได้อีกต่างหาก
เปลี่ยนกรองแอร์
เปลี่ยนกรองแอร์ คือ วิธีสุดท้ายที่จะเลือกมาจัดการกับปัญหาแอร์รถเหม็น เพราะต้องเสียทั้งเวลาที่เอารถยนต์ไปจอดให้ช่างช่วยแก้ไข ต้องเสียเงินค่าไส้กรอง และค่าแรงตามมา ฉะนั้นหากจัดการด้วยวิธีทั้งหมดด้านบนไม่เป็นผล คงต้องพิจารณาเลือกวิธีนี้อยู่ดี
ข้อมูลเพิ่มเติม ปกติแล้วเราจะเปลี่ยนกรองแอร์กันทุก ๆ 20,000 กิโลเมตรตามการเช็กระยะรถยนต์ปกติ แต่ถ้าเกิดมีปัญหาแอร์รถเหม็น จนแก้ยังไงก็ไม่หาย แนะนำว่าปรึกษาช่างที่ศูนย์บริการก่อนก็ได้ ว่าควรเปลี่ยนกรองแอร์ทันที หรือหาวิธีอื่น ๆ ต่อไป เพราะอาจมีเรื่องซากสัตว์เข้าไปติดอยู่ด้านในได้เหมือนกัน
เพียงเท่านี้ปัญหาแอร์รถเหม็น แอร์รถมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ จะถูกแก้ไขอย่างตรงจุด สามารถใช้งานได้ตามปกติเหมือนที่ผ่าน ๆ มา และต่อจากนี้อย่าลืมดูแลภายในให้ดี เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาขึ้นมาซ้ำสอง ส่วนใครที่อยากได้วิธีป้องกันแบบเห็นผล แรบบิท แคร์ ก็เตรียมไว้ให้ด้วยในหัวข้อสุดท้าย
วิธีป้องกันไม่ให้แอร์รถเหม็น
หัวข้อสุดท้ายเราอยู่กับวิธีป้องกันไม่ให้แอร์รถเหม็น ซึ่งหลัก ๆ แล้วมีอยู่ 2 ทางเลือกด้วยกัน คือ ปิดระบบทำความเย็นทุกครั้งก่อนดับเครื่อง และเลี่ยงการใช้สเปรย์หรือการบูร ใครที่ยังไม่ได้ทำทั้งสองข้อที่กล่าวมา แปลว่าอนาคตมีโอกาสเกิดปัญหาแอร์รถเหม็นขึ้นมาได้อีกเช่น ดังนั้นมาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมสักหน่อยดีกว่า
- ปิดระบบทำความเย็นทุกครั้งก่อนดับเครื่อง ประมาณ 2-5 นาที เพื่อช่วยไล่ความชื้นออกจากตู้แอร์ แม้จะดูไม่ค่อยช่วยมากเท่าไหร่นัก แต่ก็ถือว่าเป็นการลดโอกาสเกิดปัญหาขึ้นมาได้ดีทีเดียว
- เลี่ยงการใช้สเปรย์หรือการบูร เพราะว่าของพวกนี้ทำให้เกิดละอองในอากาศ เป็นสารระเหยที่อาจแปรเปลี่ยนไปเป็นเมือก สะสมสิ่งสกปรกได้ในช่องแอร์ ทำให้อุดตันเร็ว และกลายเป็นศูนย์รวมแบคทีเรียส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วรถ
นอกเหนือจากที่กล่าวมาการดูแลใส่ใจเรื่องความสะอาดภายในรถยนต์ เป็นอีกสิ่งที่ควรทำควบคู่ไปด้วย เพราะการที่เราเอาอาหารกลิ่นแรงมากินบนรถ ไปจนถึงการทิ้งขนม ของใช้ หรืออะไรก็ตามแต่ที่ส่งกลิ่นแรงนาน ๆ มีโอกาสที่กลิ่นนั้นจะไปสะสมอยู่ในระบบแอร์ พอผ่านไปนานขึ้นเรื่อย ๆ จากกลิ่นที่เคยหอม พอเปลี่ยนเป็นกลิ่นอับ ก็ส่งผลให้แอร์รถเหม็นคลุ้งไปทั่วได้ง่าย จึงต้องดูแลเรื่องความสะอาดในรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ
ดูแลรถยนต์เรื่องป้องกันไม่ให้แอร์รถเหม็นกันแล้ว ลองมาพิจารณาเรื่องประกันรถยนต์เพิ่มเติม เพื่อช่วยดูแลให้ทุกการขับขี่ มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุดดูสักหน่อยดีไหม เพราะประกันรถยนต์จะช่วยดูแลคุณได้ในหลายช่วงเวลาไม่คาดฝัน เช่น อุบัติเหตุ, โจรกรรม, ไฟไหม้, ภัยทางธรรมชาติ รวมถึงค่ารักษาพยาบาลด้วย ถ้าสนใจรับการดูแลจากประกันรถยนต์ที่ดีแบบนี้ แรบบิท แคร์ ยินดีให้คำปรึกษา เพียงแค่ติดต่อมาที่เบอร์ 1438 (24 ชั่วโมง) และยังมีส่วนลดพิเศษสูงสุด 70% รอคุณอยู่
สรุป
ปัจจัยที่ทำให้แอร์รถเหม็นนั้น เกิดจากความชื้นที่สะสมอยู่มาก, ความสกปรกที่อยู่ในช่องแอร์ และกรองแอร์ที่มีความสกปรกสะสมอยู่ โดยวิธีป้องกันหลัก ๆ มีอยู่ 2 วิธี ได้เแก่ ปิดระบบทำความเย็นทุกครั้งก่อนดับเครื่อง และเลี่ยงการใช้สเปรย์หรือการบูร นอกเหนือจากการดูแลใส่ใจเรื่องความสะอาดภายในรถยนต์แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการนอาหารกลิ่นแรงมากินบนรถ ไปจนถึงการทิ้งขนม ของใช้ หรืออะไรก็ตามแต่ที่ส่งกลิ่นแรงนาน ๆ มีโอกาสที่กลิ่นนั้นจะไปสะสมอยู่ในระบบแอร์ด้วยเช่นกัน
ที่มา
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology