น้ำหยดใต้ท้องรถ เกิดจากอะไร? แบบไหนถึงเรียกว่าผิดปกติ
เคยสังเกตกันไหมว่าเวลาที่เราจอดรถยนต์นิ่งสนิท บางครั้งจะมีน้ำหยดใต้ท้องรถลงมาด้วย ซึ่งจะมากหรือน้อยเราไม่อาจคาดเดาได้เลยหากไม่ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้มีน้ำหยดใต้ท้องรถเกิดขึ้นมา ดังนั้นทาง แรบบิท แคร์ จึงอยากแชร์ความรู้ในเรื่องน้ำหยดใต้ท้องรถให้ทุกคนได้รู้กัน ว่าน้ำในลักษณะไหนถึงจะเป็นสถานการณ์ปกติที่เราวางใจได้ กับน้ำในลักษณะที่ดูแปลกไปจากปกติ เมื่อสังเกตพบถึงน้ำหยดใต้ท้องรถในลักษณะที่มีความเสี่ยง ควรนำรถยนต์เข้าตรวจสภาพโดยรวม เพื่อรับการแก้ไขปัญหาซ่อมแซมด่วนที่สุด
สำหรับวิธีการสังเกตเพิ่มเติมและบทสรุปเรื่องความอันตรายในกรณีต่าง ๆ จะสามารถหาคำตอบเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาทั้งหมดของบทความนี้
สาเหตุที่ทำให้มีน้ำหยดใต้ท้องรถ
สาเหตุที่ทำให้มีน้ำหยดใต้ท้องรถ ได้แก่ ซีลยางบางจุดเกิดอาการเสื่อมสภาพ เกิดขึ้นได้ง่ายกับรถยนต์ที่มีอายุมาก, แหวนรองน็อตถ่ายน้ำมันเครื่องแตก หรือฉีกขาด, อ่างน้ำมันเกียร์รั่ว, เกิดการครูด หรือกระแทกอย่างรุนแรงบริเวณใต้ท้องรถ, การดัดแปลงเครื่องยนต์, การเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ไม่ตรงรุ่น และการขันน็อตยึดที่ไม่แน่น โดยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมานับเป็นสาเหตุที่ทั้งมีโอกาสเกิดขึ้นได้จากความเสื่อมสภาพ การปรับเปลี่ยนบางส่วนที่ไม่สมบูรณ์ ไปจนถึงอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้บนท้องถนน
ดังนั้น ถ้าหากเราไม่อยากพบเจอเหตุการณ์น้ำหยดใต้ท้องรถที่มีความเสี่ยง ทำให้รถยนต์เสียหายต้องหลีกเลี่ยงสาเหตุเหล่านี้ให้ดีที่สุดนั่นเอง
น้ำหยดใต้ท้องรถ จะเป็นน้ำอะไรได้บ้าง
น้ำหยดใต้ท้องรถ มีโอกาสเป็นของเหลวในระบบรถยนต์ได้ 4 ชนิด คือ น้ำแอร์, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเครื่อง และน้ำหล่อเย็น วิธีการสังเกตของน้ำหยดใต้ท้องรถแต่ละรูปแบบจะแตกต่างกันออกไป ตามลักษณะของเหลวระบบต่าง ๆ ซึ่งบางชนิดจะบ่งบอกถึงความอันตรายที่เกิดขึ้นไม่เหมือนกัน เพราะบางจุดหากพบของเหลวหยดใต้ท้องรถเมื่อไหร อาจเป็นสาเหตุถึงความอันตรายในการขับขี่ที่ไม่ควรฝืนขับต่อ และควรได้รับการซ่อมแซมทันที
น้ำแอร์
น้ำแอร์เป็นกรณีเดียวที่หากน้ำหยดใต้ท้องรถแล้วเราไม่ต้องกังวลมาก เนื่องจากภายในระบบแอร์รถยนต์จะมีการปล่อยน้ำทิ้งใต้ท้องรถเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งมาจากการที่น้ำในตู้แอร์ที่สะสมอยู่ระบายออกไม่ทัน จึงเกิดการล้นออกมาจนเราสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่ามีน้ำหยดใต้ท้องรถ แต่ถ้าหากกรณีที่รู้สึกว่าน้ำแอร์หยดออกมามากเกินไป มีโอกาสเกิดขึ้นมาจากท่อแอร์ตันจากสิ่งสกปรกได้ หากสังเกตเห็นน้ำแอร์หยดเกินกว่าปกติ ควรเข้ารับการตรวจสอบรวมถึงการทำความสะอาดท่อแอร์อีกด้วย
วิธีสังเกตน้ำแอร์หยดใต้ท้องรถ จะเป็นน้ำใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เหมือนกับน้ำมันเปล่า ซึ่งน้ำหยดใต้ท้องรถที่เป็นน้ำแอร์ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตอนที่เราจอดรถอยู่กับที่ ทั้งตอนที่ติดเครื่องอยู่ หรือดับเครื่องแล้ว
น้ำมันเกียร์
การที่พบว่ามีน้ำมันเกียร์หยดใต้ท้องรถถือว่าอันตรายมาเป็นอันดับแรก เนื่องจากการที่เราสังเกตเห็นน้ำหยดใต้ท้องรถแล้วเป้นของเหลวชนิดดังกล่าว อาจเกิดจากการที่ใต้ท้องรถของเรากระแทก ครูดกับสิ่งกีดขวางบนท้องถนน ทำให้อ่างน้ำมันเกียร์ที่อยู่ด้านล่างเกิดรั่วขึ้นมา ซึ่งถ้าพบแล้วฝืนใช้งานต่อไป มีสิทธิ์สูงมากที่ชุดเกียร์ของรถยนต์จะพังไปทั้งลูกเลยทีเดียว
วิธีสังเกตน้ำมันเกียร์หยดใต้ท้องรถ จะเป็นของเหลวที่มีสีออกน้ำตาล แดง ไปจนถึงดำ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการใช้งาน ทั้งนี้จะมีความเหนียวหนืดมากเป็นพิเศษด้วย
น้ำมันเครื่อง
น้ำหยดใต้ท้องรถแล้วพบว่าเป็นน้ำมันเครื่อง มักมีเหตุมาจากการที่ซีลยางในรถเกิดเสื่อมสภาพ ดังนั้นกรณีรี้จึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายกว่ากับรถที่มีอายุการใช้งานมาก ถ้าหากเราปล่อยไว้โดยที่ไม่ไปซ่อมแซม รวมถึงเติมน้ำมันเครื่องเพิ่มเติมเข้าไป อนาคตอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่อย่างน้ำมันเครื่องแห้ง และทำให้เครื่องยนต์พังได้ในที่สุด
วิธีสังเกตน้้ำมันเครื่องหยดใต้ท้องรถ น้ำอาจเป็นสีใสกรณีที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่ หรืออาจเป็นสีดำเข้มตามอายุการใช้งานที่ผ่านมา ซึ่งตรงนี้เราสามารถตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องได้ด้วยตัวเอง จากการใช้งานก้านเช็กน้ำมันเครื่องที่อยู่ภายในห้องเครื่องยนต์ ควรเช็กสม่ำเสมอเพื่อได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
น้ำหล่อเย็น
น้ำหล่อเย็นที่อยู่ในหม้อพักน้ำหากมีการรั่วซึมจนกลายเป็นน้ำหยดใต้ท้องรถ มีความอันตรายใกล้เคียงกลับกรณีที่น้ำมันเครื่องรั่ว เพราะถ้าหากน้ำหล่อเย็นเข้าไปทำงานในระบบไม่เพียงพอ จะทำให้รถยนต์ของเราเกิดอาการโอเวอร์ฮีท แล้วกลายเป็นเครื่องยนต์พังได้เช่นเดียวกัน สาเหตุที่พบได้บ่อยมาจากการที่สายส่งน้ำหล่อเย็นเกิดรั่ว และมีน้ำหยดใต้ท้องรถให้เห็นอย่างชัดเจน
วิธีสั่งน้ำหล่อเย็นหยดใต้ท้องรถ จะมีลักษณะเป็นน้ำสีชมพู สีเขียว หรือสีฟ้า มีลักษณะหนืดเล็กน้อย หากพบเห็นควรรีบเข้าไปให้ช่างตรวจเช็กซ่อมแซมทันที
ทั้งหมดเป็นของเหลวที่เรามีโอกาสพบเป็นน้ำหยดใต้ท้องรถได้ในหลายกรณี จึงมีสาเหตุ วิธีการสังเกต และการดูแลรักษาซ่อมแซมต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเจอของเหลวชนิดไหนที่หยดใต้ท้องรถ ควรนำรถยนต์เข้าอู่ที่ไว้วางใจ หรือเข้ารับบริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์เร็วกว่ากำหนด โดยแจ้งรายละเอียดกับทางช่างไว้ให้ชัดเจน เพื่อตรวจสอบได้ตรงจุด และป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคตได้
น้ำหยดใต้ท้องรถเคลมประกันได้ไหม
น้ำหยดใต้ท้องรถสามารถเคลมประกันได้อย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้สาเหตุของน้ำหยดใต้ท้องรถที่เกิดขึ้น อาจต้องมาจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งถ้าหากรถยนต์ของเรามีประกันชั้น 1 อยู่ ถ้าโดนหินดีด ใต้ท้องรถโดนครูด หรือโดนกระแทกอย่างรุนแรง เราสามารถโทรแจ้งบริษัทประกันเพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบความเสียหาย และออกใบเคลมให้ได้ แต่กรณีที่เป็นประกันรถยนต์ประเภทอื่น อาจต้องเป็นการเกิดอุบัติเหตุกับยานพาหนะทางบกด้วยกันเท่านั้น ถึงจะสามารถเคลมในกรณีนี้ได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกตีว่าเป็นการเสื่อมสภาพตามการใช้งานปกติไปแทน
น้ำหยดใต้ท้องรถอันตรายหรือไม่
สรุปแล้วถ้าหากเราพบน้ำหยดใต้ท้องรถ ให้ลองใช้วิธีสังเกตของเหลวในลักษณะต่าง ๆ ที่เราได้ทำการแนะนำไป ว่าน้ำหยดใต้ท้องรถที่เราพบเห็น เป็นของเหลวประเภทไหน ซึ่งถ้าสามารถระบุประเภทของเหลวได้เมื่อไหร่ เราจะเข้าใจถึงความอันตรายทันที เช่น หากเป็นน้ำแอร์หยด อาจไม่อันตรายเท่าไหร่นัก ส่วนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หรือน้ำหล่อเย็น ไม่ได้มีระบบไหลเวียนที่สามารถหยดใต้ท้องรถได้เหมือนกับน้ำแอร์ จึงควรรีบน้ำรถเข้าเช็กสภาพโดยรวม เพื่อตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นให้พบจุดเกิดเหตุ และทำการซ่อมแซมแก้ไขอย่างเร่งด่วน
และต่อจากนี้เพื่อให้ทุกการขับขี่ของคุณได้รับความคุ้มครองหลาย ๆ ด้านพร้อมกัน แรบบิท แคร์ ขออนุญาตแนะนำให้พิจารณาสมัครประกันรถยนต์เผื่อเอาไว้ในกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่สามารถดูแลได้อย่างครอบคลุม อย่างเช่นการที่น้ำหยดใต้ท้องรถ เพราะสาเหตุมาจากการกระแทกกับสิ่งกีดขวาง หรือการวิ่งบนถนนที่ขรุขระ ตรงนี้ประกันชั้น 1 จะดูแลให้ในเงื่อนไขที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีนั่นเอง
ดังนั้นถ้าต้องการเลือกประกันรถยนต์อย่างคุ้มค่า และเหมาะสมที่สุด แค่โทรหา แรบบิท แคร์ ที่เบอร์ 1438 (24 ชม.) เราพร้อมให้คำปรึกษาครบวงจร ภายใต้ตัวเลือกจากบริษัทประกันภัยมากกว่า 30 แห่ง
สรุป
หากเราพบน้ำหยดใต้ท้องรถนั้นมากจากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น
– ซีลยางบางจุดเกิดอาการเสื่อมสภาพรถที่มีอายุมาก
– แหวนรองน็อตถ่ายน้ำมันเครื่องแตกหรือฉีกขาด
– อ่างน้ำมันเกียร์รั่ว
– เกิดการครูดหรือกระแทกใต้ท้องรถ
– มีการดัดแปลงเครื่องยนต์
– เปลี่ยนชิ้นส่วนที่ไม่ตรงรุ่น
– ขันน็อตยึดที่ไม่แน่น
โดยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมานับเป็นสาเหตุที่ทั้งมีโอกาสเกิดขึ้นได้จากความเสื่อมสภาพ การปรับเปลี่ยนบางส่วนที่ไม่สมบูรณ์ ไปจนถึงอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้บนท้องถนน
ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย