ถ้าคันเร่งค้างทำยังไงดี สาเหตุเกิดขึ้นได้จากอะไร มีเรื่องไหนที่ควรระมัดระวัง
อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นมา แต่เมื่อเราต้องเจอสถานการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้ ดังเช่นเหตุการณ์คันเร่งค้าง เราต้องเตรียมวิธีรับมืออย่างใจเย็นที่สุดเผื่อเอาไว้ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงเกิดความอันตรายที่มากขึ้น ฉะนั้นถ้าเป็นไปได้เราควรรู้ข้อมูลเกี่ยวกับคันเร่งค้างไว้ให้ได้มากที่สุด
โดยเฉพาะสาเหตุที่ทำให้คันเร่งค้าง, วิธีรับมือทั้งหมด, สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดเมื่อเกิดเหตุ, แนวทางการป้องกันในอนาคต และกรณีที่คันเร่งค้าง ประกันรถยนต์จะคุ้มครองหรือไม่ คำตอบทั้งหมดถูกรวบรวมเอาไว้ให้แล้วในบทความวันนี้!
คันเร่งค้าง เกิดจากอะไร
คันเร่งค้าง เกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก เช่น สิ่งของเข้าไปติดขัดและข้อบกพร่องจากระบบรถยนต์ ซึ่งสาเหตุอย่างการที่มีสิ่งของเข้าไปติดอยู่ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายมากที่สุดจากความประมาทในการขับขี่ ดังนั้นเราจึงต้องรับรู้ว่ามีสิ่งใดบ้างที่เสี่ยงสูง ตะเข้าไปติดคันเร่งจนไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ส่วนเรื่องความบกพร่องจากระบบรถยนต์ เป็นเรื่องที่อันตรายที่สุดหากเกิดขึ้นมาระหว่างขับขี่ โดยรายละเอียดเพิ่มเติมมีดังนี้
- สิ่งของเข้าไปติดขัด เช่น ขวดน้ำ, รองเท้า, พรมรถยนต์ที่หนาเกินไป และอื่น ๆ อีกมากมายที่หากเราเผลอทิ้งเอาไว้ที่พื้น ระหว่างที่ขับขี่เกิดตัวรถเอียงไปมาตามจังหวะการเลี้ยว ของเหล่านั้นมีโอกาสที่จะเข้าไปติดขัดในพื้นที่แคบ ๆ ระหว่างคันเร่งจนเกิดคันเร่งค้างขึ้นมาได้
- ข้อบกพร่องจากระบบรถยนต์ โดยเฉพาะในส่วนคันเร่งที่เป็นแบบไฟฟ้า ซึ่งเกิดขึ้นมาได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจรเพราะความชื้นหรือความร้อน ไปจนถึงสายไฟเกิดชำรุด ทำให้ระบบทำงานผิดปกติ
ถ้าหากเรามีพฤติกรรมการทิ้งของเอาไว้ระเกะระกะบนพื้นรถ จะเข้าข่ายความเสี่ยงแบบข้อที่ 1 ในเรื่องสิ่งของเข้าไปติดขัดอย่างมาก ดังนั้นหากเป็นไปได้ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม พยายามย้ายสิ่งของต่าง ๆ ไปไว้ตรงอื่นแทน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงคันเร่งค้างให้ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นจากสาเหตุนั้นได้
คันเร่งค้า ทำยังไงดี
คันเร่งค้าง ทำยังไงดี เราต้องเตรียมวิธีรับมือไว้ 2 แบบ คือ วิธีการรับมือตามปกติ กับวิธีการรับมือแบบฉุกเฉิน เนื่องจากสถานการณ์คันเร่งค้างที่เกิดขึ้น ก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นความเสี่ยงได้หลายรูปแบบ อย่างเช่นถ้าคันเร่งค้างจากสิ่งของเข้าไปขัด ถ้าเราเอาออกได้ก็หมดปัญหา จะใช้เวลารับมือมากน้อยขึ้นอยู่กับการแก้ไขเฉพาะหน้า แต่ถ้าเป็นจากสาเหตุระบบเครื่องยนต์ เราจึงต้องมีวิธีรับเพิ่มเติมเพื่อช่วยหยุดสถานการณ์อันตรายให้น้อยที่สุดนั่นเอง
วิธีการรับมือตามปกติ
วิธีการรับมือตามปกติเมื่อคันเร่งค้าง เริ่มด้วยการคุมสติของเราให้ดีก่อน พยายามอย่าตกใจจนทำอะไรไม่ถูก รับรู้ว่าเรากำลังเจอสถานการณ์คันเร่งค้าง ไม่ควรเติมคันเร่งไปมากกว่านี้ หลังจากนั้นให้ลองแตะเบรกเพื่อดูว่าความเร็วลดลงไหม หากยังเบรกได้ แต่ความเร็วไม่ลด ให้เราเข้าเกียร์ N เพื่อลดกำลังเครื่องยนต์ลง ในส่วนของรถยนต์เกียร์ธรรมดา ให้เข้าเกียร์ว่าง ค่อย ๆ ประคองรถเข้าไปยังเลนว่างและปลอดภัย ถ้าเบรกยังทำงานเป็นปกติ ค่อย ๆ แตะเบรกเพื่อชะลอความเร็วจนกระทั่งรถหยุด เมื่อจอดสนิทในพื้นที่ปลอดภัย ให้ดับเครื่องยนต์ แล้วเปิดไฟฉุกเฉิน พร้อมโทรขอความช่วยเหลือต่อไป
วิธีการรับมือแบบฉุกเฉิน
วิธีการรับมือแบบฉุกเฉินเมื่อคันเร่งค้าง แล้วเราไม่สามารถเบรกได้ทัน หรือหยุดรถไม่ได้ด้วยวิธีด้านบน เหลือแค่ทางเดียว คือ หาจุดที่แข็งแรงช่วยหยุดรถ เช่น ถ้าเป็นที่จอดรถยนต์ในห้าง เสาร์จะเป็นสิ่งที่แข็งที่สุด พยายามหันด้านที่ไม่มีผู้โดยสารเข้าไปเป็นมุมช่วยหยุดรถ หรือถ้าเป็นบนถนนทั่วไปอาจมองหาแบริเออร์ หรือต้นไม้ต้นใหญ่ ๆ เพื่อช่วยให้เราหยุดรถจากการคันเร่งค้างได้
ก่อนตัดสินใจใช้วิธีรับมือแบบฉุกเฉิน ให้เราพยายามใช้งานวิธีแรกด้วยชะลอความเร็วไปเรื่อย ๆ ก่อน เพราะถ้าหากสามารถเข้าเกียร์ N แล้วเบรกยังทำงานอยู่ เราจะประคองรถจนหยุดได้ เว้นแต่ระบบเกิดปัญหาแล้วเบรกไม่ทำงานเหมือนกัน ตรงนี้ต้องพิจารณาการใช้วิธีรับมือคันเร่งค้างแบบฉุกเฉินทันที โดยเตรียมพร้อมรับแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการปะทะ
สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดเมื่อคันเร่งค้าง
สิ่งที่ห้ามทำอย่างเด็ดขาดเมื่อเกิดสถานการณ์คันเร่งค้าง คือ ห้ามเหยียบเบรกอย่างรุนแรงทันที, ห้ามดับเครื่อง และห้ามยกเบรกมือขึ้น เพราะถ้าเราทำสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดในระหว่างที่คันเร่งค้าง มันจะไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่กลับเพิ่มความเสี่ยงอันตรายจนสูงสุดเลยต่างหาก ดังนั้นมาดูกันว่าด้วยเหตุผลอะไร ถึงไม่ควรทำสิ่งที่กล่าวมา
- ห้ามเหยียบเบรกอย่างรุนแรงทันที เพราะจะทำให้ตัวรถเสียการควบคุมและหมุนอย่างรุนแรง
- ห้ามดับเครื่อง เนื่องจากพวงมาลัยพาวเวอร์จะไม่ทำงาน เราจะประคองน้ำหนักพวงมาลัยที่มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ควบคุมทิศทางได้ยาก ทั้งยังต้องเจอเบรกที่แข็งขึ้น ยิ่งส่งผลให้เราชะลอความเร็วหรือหยุดรถไม่ได้อีกต่างหาก
- ห้ามยกเบรกมือขึ้น เช่นเดียวกันกับการเหยียบเบรกรุนแรง รถของเราจะเสียการควบคุม และหมุนได้
เมื่อเกิดเหตุการณ์คันเร่งค้างแล้ว ให้ท่องไว้ในใจก่อนว่าต้องมีสติ ห้ามทำสิ่งที่กล่าวไว้ด้านบนโดยเด็ดขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จากนั้นพยายามเลือกวิธีรับมือตามแบบฉบับที่เราเสนอไปทั้ง 2 วิธี เพื่อช่วยให้เราสามารถหยุดรถได้ก่อนกลายเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนน
คำแนะนำเพิ่มเติม นอกเหนือจากการเหยียบเบรกแรง ๆ ก็ไม่ควรเหยียบเบรกแช่เอาไว้นาน ๆ เพราะจะทำให้จานเบรกร้อน จนเพิ่มความเสี่ยงเบรกแตก แล้วกลายเป็นอุบัติเหตุที่รุนแรงกว่าเดิมได้เช่นกัน ถ้าคันเร่งค้าง ค่อย ๆ แตะเบรก ลดระดับความเร็วลงอย่างช้า ๆ ประคองรถเหมือนกับเรากำลังจะชะลอความเร็วเพื่อหาที่จอดที่ปลอดภัย ไม่ต้องตกใจมากถ้าคันเร่งลดลงแบบช้า ๆ
แนวทางป้องกันคันเร่งค้าง
แนวทางป้องกันคันเร่งค้าง สามารถเริ่มได้ไม่ยากจากการระมัดระวังพื้นที่ตรงเท้า ห้ามวางสิ่งของไม่ว่าจะเล็กหรือน้อยก็ตามไว้ในพื้นที่นั้นโดยเด็ดขาด หากใครถนัดการถอดรองเท้าขับ หรือต้องเปลี่ยนคู่ ให้ย้ายรองเท้าคู่ที่ไม่ได้ใช้งานไปไว้ตรงอื่น จะได้ไม่เสี่ยงมีของเข้าไปติดขัด ส่วนพรมที่รองพื้นอยู่ หากรู้สึกว่ามุมหรือทิศทางดูผิดปกติ ให้เราจัดเอาไว้ให้อยู่ในแนวเดิมตลอด เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้มากแล้ว และที่สำคัญ อย่าลืมนำรถยนต์เข้าเช็กระยะเพื่อตรวจสอบระบบการทำงานอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นการช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากปัญหาที่เกิดขึ้นของระบบรถยนต์ได้ดีทีเดียว
คันเร่งค้าง ประกันคุ้มครองไหม
คันเร่งค้าง ประกันคุ้มครองไหม หากเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 เมื่อเกิดคันเร่งค้างแล้วกลายเป็นอุบัติเหตุ คุณจะได้รับความคุ้มครองไม่ว่าจะเป็นการชนกับยานพาหนะ หรือชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนต้นไม้ ชนรั้วข้างทาง และอื่น ๆ แต่ถ้าเป็นประกันรถยนต์ชั้นอื่น จะคุ้มครองก็ต่อเมื่อเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเช่นเดียวกัน ส่วนอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีจะไม่ได้รับการคุ้มครอง
เพื่อให้ทุกการเดินทางได้รับความคุ้มครองอย่างครอบคลุมตามต้องการ แรบบิท แคร์ สามารถมอบตัวเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมให้กับคุณได้ ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที ผ่านระบบการเปรียบเทียบประกันรถยนต์แสนอัจฉริยะ หรือจะเลือกติดต่อสอบถามเข้ามาถึงเจ้าหน้าที่ของเราที่เบอร์ 1438 (เบอร์นี้โทรได้ 24 ชั่วโมง) เพื่อพูดคุย สอบถาม ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องประกันรถยนต์ได้อย่างละเอียด
และเมื่อคุณตัดสินใจเลือกซื้อประกันรถยนต์จาก แรบบิท แคร์ เรายินดีมอบส่วนลดช่วยประหยัดสูงสุดถึง 70% และยังมีตัวเลือกผ่อน 0% ให้เลือกนานถึง 10 เดือน รับประกันเรื่องความคุ้มค่า ภายใต้ตัวเลือกจากบริษัทประกันภัยชั้นนำระดับประเทศมากถึง 30 แห่ง มีศูนย์ซ่อมครอบคลุมทั่วประเทศไทย พร้อมด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
สรุป
คันเร่งค้าง เกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก เช่น สิ่งของเข้าไปติดขัดและข้อบกพร่องจากระบบรถยนต์ ทั้งนี้เราสามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากคันเร่งค้างได้ง่าย ๆ ด้วยการระมัดระวังพื้นที่ตรงเท้า ห้ามวางสิ่งของไม่ว่าจะเล็กหรือน้อยก็ตามไว้ในพื้นที่นั้นโดยเด็ดขาด รวมไปถึงการนำรถยนต์เข้าเช็กระยะเพื่อตรวจสอบระบบการทำงานอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงต่าง ๆ ลงได้
ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย