ตะลอนรีวิวรถ

หมัดต่อหมัด ซื้อรถหนนี้ รถเอเชีย Vs รถยุโรป เลือกแบบไหนดี ?

ผู้เขียน : คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct

close
linkedin icon
 
 
Published: October 12,2022
รถญี่ปุ่น

การซื้อรถยนต์ในแต่ละครั้งมักจะใช้เงินก้อนใหญ่ แถมยังต้องผ่อนอีกหลายปี ดังนั้นการเลือกซื้อรถยนต์ป้ายแดงให้ตัวเองจึงเป็นเรื่องที่เราควรพิถีพิถันในการเลือก โดยสิ่งที่หลายคนอาจจะคิดไม่ตก เลือกไม่ได้ ก็คงหนีไม่พ้นประเภทรถนี่แหละ! บางเสียงบอกว่ารถเอเชียดีกว่า บางเสียงก็บอกว่ารถยุโรปดีกว่า แล้วแบบนี้จะเลือกยังไงดีนะ!? วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนไปเปรียบเทียบกันแบบหมัดต่อหมัด ดูสิว่าจะซื้อรถทั้งที เราควรเลือกรถเอเชีย หรือรถยุโรปดีกันนะ?

ห้ามพลาด! ประกันรถชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้น 1,000.-/เดือน

รถของคุณยี่ห้ออะไร

< กลับไป
< กลับไป

ระบุยี่ห้อรถของคุณ

ระบุปีผลิตรถของคุณ

เจาะลึกถึงก้นถังรถยุโรป มีดีอะไรบ้าง?

ก่อนอื่น เราไปทำความรู้จักกันก่อนว่า รถกลุ่มยุโรปนั้น คือกลุ่มรถยนต์ที่ผลิตจากฝั่งยุโรปเป็นหลัก โดยแบรนด์ที่หลายคนรู้จัก และคุ้นเคยอย่างดีกับยี่ห้อรถ ดังนี้ Benz, BMW, Volvo, Bentley, MINI Cooper, Porsche, Ferrari หรือแม้แต่ยี่ห้อรถ Lamborghini เป็นต้น หรือพวกรถจากฝั่งอเมริกา อย่าง Chevrolet Zafira, Ford ในบางประกันรถก็นับว่าเป็นรถในหมวดหมู่เดียวกับฝั่งยุโรปด้วย

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ารถหรูหราระดับโลกหลายคัน มักจะเป็นรถที่มาจากฝั่งยุโรป ทำให้ภาพลักษณ์ของดูหรูหรา ดูดี กลายเป็นรถในฝันของใครหลายคน แต่นอกเหนือจากภาพลักษณ์ที่ดูดีแล้ว รถยุโรปยังมีจุดเด่นอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น 

ยี่ห้อรถเกาหลี

จุดเด่นที่ทำให้คนทั่วโลกยอมรับในรถยุโรป คือเรื่องของ เครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะดี มีขนาดเครื่องที่เล็กกว่ารถญี่ปุ่น หรือรถฝั่งเอเชีย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว 

ไม่เพียงแต่ภายนอกเท่านั้นที่พังยาก มีความแข็งแรงสูง แต่อะไหล่ภายในของรถยุโรปเองก็มักจะมีความแข็งแรงคงทนมากกว่ารถเอเชียทั่วไป คุ้มค่าหากต้องใช้เป็นระยะเวลานาน ๆ นอกจากนี้ยังมีช่วงล่างจะมีความแข็งแรง แน่นหนึบ ทำให้ได้ประสบการณ์ในการขับขี่ที่ดีอีกด้วย 

สำหรับใครที่เป็นสายรักษ์โลก รถยุโรปจะตอบโจทย์ในเรื่องนี้มาก เพราะยุโรปในปีหลัง ๆ ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างมลพิษต่อโลกในทุก ๆ รูปแบบอุตสาหกรรม หลายประเทศออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมโลก ทำให้นวัตกรรมแบรนด์รถยนต์ต่าง ๆ ใส่ใจต่อการสร้างมลพิศษอย่างมาก บางแบรนด์โดดเด่นในเรื่องการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพที่ดี แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับรุ่นรถที่เลือกด้วย 

รถยุโรปมีความแข็งแรง ทนทาน ทำให้มีระยะเวลาในการใช้งานที่ค่อนข้างยาวงนาน คุ้มค่ากับเงินทุกบาทที่เสียไป ดังนั้นหากรู้ตัวว่าไม่ใช่คนชอบเปลี่ยนรถบ่อย ๆ การเลือกซื้อรถยุโรปที่ทนทานกว่ามาใช้ จะคุ้มค่ากว่าในระยะเวลานาน ๆ แน่นอน 

แต่ทั้งนี้ รถฝั่งยุโรปเองก็มีข้อเสียเช่นกัน โดยข้อเสียหลัก ๆ จะเป็นเรื่องของราคาที่ค่อนข้างสูง หากเราลองเปรียบเทียบกับรถยนต์เอเชีย ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์จีน รถญี่ปุ่น จะเห็นได้ชัดว่าราคาแตกต่างกันมาก ทั้งตอนซื้อ หรือแม้แต่ขั้นตอนการซ่อมบำรุง การหาอะไหล่ต่าง ๆ ก็ทำได้ลำบาก และราคาแพงกว่า

ยี่ห้อรถ

ตามส่องจุดเด่นของรถเอเชีย ที่ห้ามมองข้าม! 

สำหรับรถกลุ่มเอเชียนั้น จะหมายถึงรถยนต์ที่ผลิตโดยประเทศเอเชียเป็นหลักนั่นเอง ซึ่งเราจะคุ้นเคยได้กับยี่ห้อรถแบรนด์ดัง ๆ  เช่น Toyota, Honda, Nissan, Mazda, Mitsubishi เป็นต้น

ในอดีตเราจะเห็นได้ว่ารถเอเชียนั้น ส่วนมากมักจะเป็นรถญี่ปุ่นเป็นหลัก แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มียี่ห้อรถเกาหลี และรถยนต์จีนเอง ก็ได้ก้าวเข้ามาตีตลาดรถยนต์ในระดับโลกเช่นเดียวกัน และน่าสนใจไม่แพ้รถญี่ปุ่นเลย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ SAIC Motor, Great Wall Motors, Changan Automobile, Geely หรือ Chery เป็นต้น ซึ่งนาจับตามองว่าในอนาคต รถจีนจะเดินเกมไปในทิศทางใด

โดยจุดเด่นของรถญี่ปุ่น รถจีน หรือแม้แต่รถเชื้อสายเอเชีย คือเรื่องของราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่ารถยุโรป และนอกเหนือจากราคาแล้ว รถเอเชียยังมีข้อดีอีกหลาย ๆ ข้อ ดังนี้ 

จุดเด่นของรถเอเชียอย่างรถญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะชูจุดเด่นเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิง ต่างจากรถยุโรปที่จะชูจุดเด่นเรื่องสมรรถนะตัวรถที่สูง เช่น รถอีโค่คาร์ และไฮบริด นอกจากราคาซื้อจะจับต้องได้แล้ว การใช้งานในแง่การเติมน้ำมันก็ราคาถูกกว่ารถยุโรปนั่นเอง

รถเอเชียมักจะมีการอัพเดตอยู่เสมอ ทำให้รถจีนและรถญี่ปุ่นดูทันสมัยอยู่เสมอ โดดเด่นไม่แพ้รถยนต์ยุโรปเลย และสำหรับใครที่ชอบรถยนต์ทรงเท่ ๆ สปอร์ต ๆ แบบรถยุโรป ในปัจจุบัน รถเอเชียก็มีหลายรุ่นที่ปรับลุคให้ดูสปอร์ตมากขึ้น ตอบโจทย์ทุกความชอบของผู้ขับ เช่น ยี่ห้อรถ Honda Civic, Mazda CX-30, Toyota Corolla Cross และอื่น ๆ 

รถญี่ปุ่น

อีกหนึ่งจุดเด่นของรถเอเชียที่ทำให้ใครหลายคนชื่นชอบ เพราะรถเอเชียมักจะมีศูนย์บริการที่มีมากมายทั่วประเทศ และแถมค่าบำรุงรักษายังราคาจับต้องได้ แถมอะไหล่ต่าง ๆ ก็หาได้ง่ายในราคาประหยัด หมดปัญหาเวลาเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องซ่อมแซมรถยนต์ แม้แต่การซื้อ ประกันภัยรถ เองก็ยังได้เบี้ยราคาที่ถูกกว่า และราคาภาษีต่อปีก็เบากว่ารถฝั่งยุโรปด้วย

รถญี่ปุ่น หรือรถเอเชีย เป็นรถตลาดที่ได้ราคาดีหากต้องการขายต่อก็ทำได้ไม่ยาก คุณสามารถใช้งบประมาณที่จำกัดเพื่อซื้อรุ่นตัวท็อปของรถเอเชียใช้ก่อนได้ เมื่อผ่านไปสักระยะ หากสถานะทางการเงินมากเพียงพอ อาจขายเพียงเปลี่ยนไปซื้อรถยุโรปใหม่ได้ไม่ยาก หรือจะเลือกซื้อยี่ห้อรถจีน รถญี่ปุ่น รุ่นใหม่ ๆ มาใช้งาน โดยไม่ต้องคอยซ่อมแซมในระยะยาวก็ได้เช่นกัน

จะเห็นได้ว่าแม้จะโดดเด่นในหลากหลายเรื่อง แต่รถเอเชียเองก็มีจุดด้อยเช่นเดียวกับรถฝั่งยุโรป ไม่ว่าจะเป้นความทนทานที่ไม่เทียบเท่ารถยุโรป ทั้งเรื่องอะไหล่ โครงสร้าง วัสดุต่าง ๆ ทำให้เมื่อคุณใช้เป็นระยะเวลานาน ๆ อาจเสียค่าซ่อมบำรุงบ่อยมากกว่า และดีไซน์ไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่หรูหราให้เลือกมากเท่านั่นเอง 

รถยนต์จีน

สรุปแล้ว รถยุโรป Vs. รถเอเชีย เลือกรถแบบไหนดี 

ดูข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้นกันมาแล้ว ลองมาเทียบกันหมัดต่อหมัดเลยดีกว่าว่า รถเอเชียกับรถยุโรปจะเลือกแบบไหนดี!

สำหรับรถฝั่งยุโรป ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามีราคาที่แพงกว่า แม้อะไหล่จะทนทานกว่า แต่ราคาค่อนข้างสูง แม้แต่ตอนซื้อประกันรถยนต์รถยุโรปเอง หากเปรียบเทียบเบี้ยประกันแล้วก็มีราคาสูงกว่ารถจีน รถญี่ปุ่น หรือรถเอเชียเจ้าอื่น ๆ ภาษีรถยนต์ต่อปีก็ต้องจ่ายเยอะกว่า ในขณะที่รถเอเชีย หรือยี่ห้อรถเกาหลีไม่ว่าจะเป็นการซื้อหรือการซ่อมแซม รวมไปถึงการเลือกซื้อประกันรถจะมีราคาที่ถูกกว่ามาก

สำหรับเครื่องยนต์นั้น รถฝั่งยุโรปจะโดดเด่นกว่ารถยนต์ฝั่งเอเชียมาก ทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ในขณะที่รถเอเชียจะเน้นขับขี่แบบนุ่มนวล มีแรงม้า รวมถึงเครื่องยนต์ที่แรงไม่เท่ายุโรป นอกจากนี้การใช้งานเป็นระยะเวลายาวนานเกิน 5 ปีขึ้นไปจะได้เปรียบ แตกต่างกับรถเอเชียที่มักจะมีอายุการใช้งาน 3-4 ปี จะต้องเริ่มซ่อมบำรุงเป็นพิเศษแล้ว

เรียกได้ว่าเป็นข้อได้เปรียบ เสียเปรียบกันคนละหมัด เพราะรถยุโรปนั้น เนื่องจากทางฝั่งยุโรปมีกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ทำให้การสร้างรถยนต์ในยุคหลัง ๆ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมขึ้นมาก การสร้างมลพิษค่อนข้างน้อย โดดเด่นในเรื่องรถพลังงานไฟฟ้า ในขณะที่รถเอเชีย ทั้งรถยนต์จีน รถญี่ปุ่น จะประหยัดน้ำมัน เด่นเรื่องรถประเภทอีโค่คาร์ หรือรถไฮบริด 

ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้งาน เพราะทั้งรถฝั่งยุโรป และรถเอเชีย มีดีไซน์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น รถยุโรปจะเน้นความโฉบเฉี่ยว ดูสปอร์ต หรูหรา มีเอกลักษณ์ ในขณะที่รถเอเชียจะเน้นความเรียบง่าย ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างออกไป เช่น มีทั้งรถกระบะ 4 ประตู, รถยนต์แบบ 7 ที่นั่งสำหีับครอบครัว เป็นต้น

ยี่ห้อรถยนต์

สรุปแล้ว เบื้องต้นจะต้องขึ้นอยู่กับความชอบ และปัจจัยต่าง ๆ ของผู้ซื้อ เช่น หากคุณเป็นคนที่มีงบประมาณจำกัด วางแผนไว้ว่าจะมีการซื้อรถยนต์ใหม่ในอีก 3 – 4 ปี และต้องการขายเป็นรถยนต์มือสองต่อ การเลือกซื้อรถญี่ปุ่น รถจีน อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะค่าใช้จ่ายนั้นจับต้องได้มากกว่า

ในขณะเดียวกัน แม้รถฝั่งยุโรปอาจจะมีราคาสูง แต่ถ้าคุณต้องการซื้อไว้ใช้ระยะเวลายาวนานเกิน 5 ปีขึ้นไป มีงบที่ไหวกับการซ่อมบำรุงรถยุโรป ต้องการรถยนต์ที่ทนทาน การเลือกซื้อรถยุโรปไปเลยอาจจะตอบโจทย์มากกว่า 

นอกจากการเลือกวื้อรถยนต์ในฝันแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่คุณไว้ใจได้ ต้องที่นี้เลย ประกันรถยนต์ จาก โบรกเกอร์ประกันอย่าง แรบบิท แคร์ ที่นี้นอกจกาจะมี บริการต่ออายุ พ.ร.บ. รถยนต์แล้ว ยังมีบริการ เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ ไม่ว่าคุณจะมองหาประกันรถยุโรป ใช้รถจีน รถญี่ปุ่น หรือยี่ห้อรถเกาหลี เราก็พร้อมให้บริการ

คุ้มค่าเกินใครกับบริการหลังการขายที่ช่วยให้อุ่นใจในทุกการเดินทาง เพราะเราแคร์คุณ ต้องที่นี้ แรบบิท แคร์ คลิกเลย

  

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ


 

บทความตะลอนรีวิวรถ

Rabbit Care Blog Image 86963

ตะลอนรีวิวรถ

เปิดสถิติ! ยอดรถไฟฟ้า (EV) จดทะเบียนใหม่จากแต่ละแบรนด์ ปี 2566

หลายคนที่กำลังมองหารถ EV ในไทยไม่เกินล้านแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกแบรนด์ไหนดี วันนี้ แรบบิท แคร์ รวบรวมสถิติจำนวนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จดทะเบียนครั้งแรก
Tawan
16/10/2023
Rabbit Care Blog Image 84928

ตะลอนรีวิวรถ

รถยนต์ Crossover คืออะไร? ต่างกับรถ SUV PPV MPV อย่างไรบ้าง พร้อมบอกข้อดี-ข้อเสีย

รถยนต์เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ความต้องการซื้อมีมาก บางคนซื้อมาเพื่อใช้งาน บางคนซื้อมาไว้เพื่อเก็บเป็นทรัพย์สินให้ลูกหลาย
Mayya Style
28/06/2023
Rabbit Care Blog Image 83152

ตะลอนรีวิวรถ

รวม 5 แบรนด์รถรุ่นใหม่เปิดตัวในงาน Motor Show 2023

สำหรับงาน Motor show 2023 จัดขึ้นในวันที่ 22 มีนาคม 2566 จัดเต็มครบ 12 วัน มีหลายยี่ห้อที่มาจัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ 2023 อีกทั้งยังมีรถรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง เช่น Honda, Toyota, MG, Mazda, KIA, ORA GOOD
Mayya Style
27/03/2023