ใบสลักหลังกรมธรรม์รถยนต์คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรบ้าง?

จากข้อมูลในเว็บไซต์ของวิริยะประกันภัย ได้ให้ข้อมูลความหมายของสลักหลังไว้ว่า สลักหลังกรมธรรม์รถยนต์ (Endorsement) นั้นเป็นเอกสารหลักฐานสำคัญที่ทางบริษัทประกันภัยนั้นจะออกให้แก่ผู้เอาประกันภัย ในกรณีที่มีการปรับแก้ไขข้อมูลผลประโยชน์ความคุ้มครอง หรือมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลในกรมธรรม์รถยนต์นั้น ๆ เช่น ชื่อของผู้รับผลประโยชน์ ที่อยู่ การเพิ่มทุนประกัน หรือการลดทุนประกัน เป็นต้น

ใบกรมธรรม์รถยนต์เป็นเอกสารสัญญาข้อตกลง และจะใช้เป็นหลักฐานในการเรียกความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย ซึ่งกรมธรรม์นั้นก็จะมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน เช่น กรมธรรม์รถยนต์ กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันสุขภาพ กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ เป็นต้น โดยที่ข้อมูลในใบกรมธรรม์รถยนต์นั้นจะประกอบไปด้วยข้อมูลต่าง ๆ ได้แก่

• เลขกรมธรรม์
• ข้อมูลของผู้เอาประกันภัย
• ข้อมูลของรถยนต์ที่ทำประกันภัย
• รายละเอียดความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
• รายละเอียดความรับผิดตัวรถยนต์
• ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย

สำหรับใบสลักกรมธรรม์รถยนต์นั้นถือว่าเป็นเอกสารสำคัญอีกหนึ่งอย่างในแผนกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งจะเป็นแบบฟอร์มที่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขและนโยบายของประกันภัยนั้น ๆ โดยเฉพาะข้อมูลทางการเงินและความรับผิดของบริษัทประกันภัย ที่จะระบุข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการเรียกร้องค่าสินไหมทุนหรือบริการทางประกันภัยต่าง ๆ นั่นเอง โดยที่ทางผู้เอาประกันภัยจะเก็บไว้ 1 ฉบับ และทางบริษัทประกันภัยจะเก็บไว้อีก 1 ฉบับ ส่วนใบสลักหลังกรมธรรม์รถยนต์นั้นจะเป็นเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันรถยนต์ ที่ทางบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้ออกให้แก่ผู้เอาประกันภัยอีกครั้งหลังจากที่ได้มีการออกใบกรมธรรม์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการแสดงเจตจำนงว่าจะแก้ไขข้อมูลในกรมธรรม์ที่จัดทำออกมา หรือทางผู้เอาประกันภัยนั้นมีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลในกรมธรรม์ประกันภัย ยกตัวอย่างเช่น เลขทะเบียนรถผิด การสะกดชื่อผิด ที่อยู่ไม่ถูกต้อง หรือการเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ ก็สามารถที่จะแจ้งให้ทางบริษัทประกันภัยนั้นดำเนินการแก้ไขข้อมูลใหม่ให้ถูกต้อง และทำออกมาเป็นเอกสารหรือเป็นใบสลักหลังกรมธรรม์ เพื่อป้องกันการเกิดข้อผิดพลาดในอนาคตหากมีการเคลมประกันเกิดขึ้นนั่นเอง

• 1. ทางผู้เอาประกันภัยยื่นแจ้งคำร้องด้วยเอกสารที่ลงลายมือชื่อพร้อมสำเนาถูกต้อง ให้กับทางบริษัทประกันภัย
• 2. ในกรณีที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทางผู้เอาประกันภัยจะต้องดำเนินการชำระค่าเบี้ยประกันภัยให้เสร็จสิ้น เพื่อให้การแก้ไขดังกล่าวนั้นมีผลคุ้มครองทันที
• 3. ทางบริษัทประกันภัยดำเนินการออกสลักหลังกรมธรรม์รถยนต์ และจัดส่งให้แก่ผู้เอาประกันภัย ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลในใบสลักหลังกรมธรรม์รถยนต์

• 1. ข้อมูลในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ไม่ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น เลขทะเบียนรถ รุ่นรถยนต์ ตัวถังรถยนต์ ชื่อผู้เอาประกันภัย ระยะเวลาคุ้มครอง ชื่อผู้รับผลประโยชน์ รวมไปถึงรายละเอียดความคุ้มครองและเบี้ยประกันภัยอื่น ๆ ดังนั้นเมื่อได้รับกรมธรรม์ฉบับเต็มมาแล้ว ควรรีบตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อย เพราะถ้าหากว่ามีข้อมูลประการใดที่ไม่ถูกต้อง ก็สามารถที่จะส่งเรื่องไปยังบริษัทประกันภัยเพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องและขอใบสลักหลังกรมธรรม์ได้เลย
• 2. ต้องการเปลี่ยนชื่อผู้เอาประกันภัยในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ ยกตัวอย่างเช่น ต้องการโอนรถและเปลี่ยนเจ้าของไปยังอีกคนหนึ่ง ก็สามารถที่จะส่งเรื่องไปยังบริษัทประกันภัยเพื่อขอเปลี่ยนชื่อผู้เอาประกันภัยได้เลย พร้อมกับยื่นสำเนาเล่มทะเบียนรถยนต์ฉบับล่าสุดไว้เป็นหลักฐานยืนยันข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่
• 3. ต้องการเปลี่ยนที่อยู่ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ ก็สามารถที่จะส่งเรื่องไปยังบริษัทประกันภัยเพื่อขอเปลี่ยนที่อยู่ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ได้เลย พร้อมกับยื่นสำเนาบัตรประชาชนของผู้เอาประกันภัย และสำเนาทะเบียนบ้านที่มีการเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องเรียบร้อย เพื่อทำเรื่องขอใบสลักหลังกรมธรรม์ที่มีการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องเรียบร้อยแล้วนั่นเอง

สำหรับในปัจจุบันนี้ เราสามารถตรวจสอบกรมธรรม์ผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลยทันที ดังต่อไปนี้

• 1. ตรวจสอบผ่าน LINE Official Account ที่ไลน์ไอดี @OICConnect ผ่านเมนูที่มีชื่อว่า “กรมธรรม์ของฉัน MyPolicy” ซึ่งเป็นช่องทางที่ใช้งานง่าย สะดวกสบาย และรวดเร็วทันใจ โดยที่ช่องทางนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ OIC Gateway ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสำนักงาน คปภ. กับทางบริษัทธุรกิจประกันภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแบบเรียลไทม์ผ่านศูนย์ข้อมูลของสำนักงาน คปภ. ที่มีความปลอดภัยสูงและมีมาตรฐานความมั่นคง
• 2. ตรวจสอบกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยสามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186 หรือโทรศัพท์ 02-515-3999 ต่อ 5360, 5362, 5304 หรือยื่นคำร้องขอด้วยการดาวน์โหลดแบบฟอร์มจากเว็บไซต์ของ คปภ. พร้อมทั้งแนบเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง แล้วส่งไปยังอีเมลของทาง คปภ. เพื่อรอการตอบกลับพร้อมทั้งแจ้งรายละเอียดกรมธรรม์ผ่านอีเมล
• 3. ยื่นเรื่องกับทางฐานข้อมูลกลางประกันภัย (TID) ซึ่งจะดำเนินการโดยบริษัทที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลด้านประกันวินาศภัยทุกประเภทในประเทศไทย

โดยปกติแล้วจะได้กรมธรรม์ฉบับใหม่ภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ และถ้าหากว่าเกิดอุบัติเหตุในระหว่างที่กรมธรรม์รถยนต์หาย ในกรณีนี้ก็จะยังได้รับความคุ้มครองอยู่ โดยทางผู้เอาประกันภัยสามารถใช้เลขกรมธรรม์ไปแจ้งกับทางบริษัทประกันภัย เพื่อทำเรื่องเคลมได้ตามปกติ

ซึ่งในส่วนของขั้นตอนการขอกรมธรรม์ใหม่นั้น อันดับแรกคือจะต้องไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันให้เรียบร้อย หลังจากนั้นให้นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมายื่นกับทางบริษัทประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นคำร้องขอเปลี่ยนกรมธรรม์ ใบแจ้งความกรมธรรม์สูญหาย และสำเนาบัตรประชาชนที่รับรองสำเนาถูกต้องเรียบร้อยแล้ว เพื่อที่ทางบริษัทประกันภัยจะได้ดำเนินการออกสำเนากรมธรรม์ให้นั่นเอง

คำตอบคือสามารถยกเลิกได้ ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังจากที่ได้รับความคุ้มครองไปแล้วก็ตาม อีกทั้งยังสามารถขอยกเลิกจากบริษัทเดิมเพื่อไปทำที่บริษัทใหม่ได้ด้วย หรือจะเป็นการยกเลิกกรมธรรม์เพื่อนำรถยนต์ไปขายแบบนี้ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการขอยกเลิกกรมธรรม์ก่อนครบปีนั้นจะทำให้ได้รับเบี้ยประกันหรือเงินคืนตามอัตราส่วนของการคืนเบี้ยประกันภัยที่ระบุไว้ในเอกสารแนบท้ายของทุกกรมธรรม์ด้วย โดยจะมีการคำนวณเงินจากวันที่สิ้นสุดความคุ้มครองของประกันภัย และอาจจะมีการหักค่าคุ้มครองในช่วงเวลาที่ผ่านมาเพิ่มเติม รวมไปถึงค่าธรรมเนียมในบางส่วน โดยขั้นตอนการคืนเงินนั้นจะใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับในแต่ละบริษัท

แนะนำสำหรับท่านที่ต้องการจะได้รับความคุ้มครองแบบครอบคลุมมากที่สุด ให้เลือกสมัครแผนความคุ้มครองเป็น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เพราะถึงแม้ว่าราคาจะแพงเป็นอันดับต้น ๆ ในบรรดาประกันภัยทุกชั้น แต่ในเรื่องของความคุ้มครองที่จะได้รับนั้นก็ถือว่าครอบคลุมมากที่สุดนั่นเอง อีกทั้งยังคุ้มค่า คุ้มราคา ไม่ว่าจะเป็นกรณีรถหาย รถไฟไหม้ หรือรถน้ำท่วม ทางบริษัทประกันภัยก็รับเคลมทั้งสิ้น

อันดับแรกคือลูกค้านั้นสามารถมั่นใจได้อย่างเต็มที่เลยว่าจะได้รับสิทธิพิเศษตั้งแต่การเริ่มวางแผนซื้อประกันภัยกับทางแรบบิท แคร์ เพราะว่าแรบบิท แคร์ นั้นมีระบบเปรียบเทียบแผนภัยออนไลน์ที่ใช้งานง่าย สะดวกสบาย รวดเร็วทันใจ และใช้เวลาเพียงแค่ 30 วินาที ก็สามารถรู้ราคาเบี้ยประกันในแต่ละแผนกรมธรรม์ของบริษัทประกันภัยชั้นนำทั่วประเทศได้เลย ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือชั้นอื่นๆ จึงจะทำให้ลูกค้าสามารถเลือกสรรแผนประกันภัยที่ตอบโจทย์และได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ แรบบิท แคร์