แคร์สุขภาพ

แอปเปิ้ลไซเดอร์ คืออะไร ช่วยในเรื่องไหน จำเป็นต้องกินหรือไม่?

ผู้เขียน : Nok Srihong
Nok Srihong

มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น

close
linkedin icon
แก้ไขโดย : Nok Srihong
Nok Srihong

มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น

close
linkedin icon
 
Published: November 13,2023
  
Last edited: May 3, 2024
แอปเปิ้ลไซเดอร์

เป็นกระแสมาแรงมาพักใหญ่กับแอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือแอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา (Apple Cider Vinegar) ที่ผู้คนในวงการรักสุขภาพและอาหารเสริมให้ความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ว่ามีสรรพคุณดี ๆ มากมาย เช่น ช่วยดูแลร่างกาย ปรับสมดุลระบบขับถ่าย ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง และช่วยคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี 

แต่แน่นอนว่าเมื่อมีคนออกมาบอกข้อดีมากมายเหล่านี้ ก็ต้องมีคนที่ตั้งคำถามและข้อสงสัย ว่าการกินแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นดีจริงหรือไม่ นอกจากข้อดีที่ได้กล่าวไปยังช่วยเรื่องไหนอีกหรือไม่ มีวิธีการกินอย่างไร หากต้องการกินต้องเลือกกินเวลาไหน และควรเลือกกินชนิดใด แรบบิท แคร์ รวบรวมข้อมูลมาให้แบบครบครัน

เปรียบเทียบประกันสุขภาพกับ Rabbit Care พิเศษ! ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน
icon angle up or down

เลือกแผนประกันสุขภาพที่คุณสนใจ

    ชื่อนามสกุล

    หมายเลขโทรศัพท์

    แอปเปิ้ลไซเดอร์ คืออะไร ?

    แอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือแอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกานั้น คือน้ำส้มสายชูที่หมักจากแอปเปิ้ล โดยมีกรรมวิธีในการทำคือคั้นน้ำแอปเปิ้ลออกมาหมักกับยีสต์ให้กลายเป็นแอลกอฮอล์ จากนั้นนำแอลกอฮอล์ที่ได้มาเติมแบคทีเรีย เพื่อให้ทำปฏิกิริยา เกิดเป็นกรดอะซิติก แอซิด ด้วยเหตุนี้แอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นจึงมีค่าความเป็นกรดสูง และมีรสชาติเปรี้ยวจัดมาก ทำให้ในช่วงแรก ๆ หลายคนต้องกลั้นใจกินกันเลยทีเดียว อีกทั้งด้วยความเป็นกรดสูงของแอปเปิ้ลไซเดอร์ จึงทำให้ต้องผสมน้ำและต้องใช้หลอดดูด เพื่อป้องกันการกัดกร่อนฟัน

    ลักษณะของแอปเปิ้ลไซเดอร์จะมีลักษณะสีเหลืองคล้ายกับชา มีทั้งแบบที่มีตะกอนและแบบที่กรองตะกอนออกก่อนแล้ว มีส่วนประกอบเป็นธาตุอาหารกว่า  30 ชนิด วิตามิน 6 ชนิด มีกรดอะมิโน และสารเพ็คติน ซึ่งล้วนแล้วแต่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย 

    นอกจากนี้ แอปเปิ้ลไซเดอร์ยังมีคุณสมบัติเป็นยาอีกด้วย หรือก็คือมีคุณสมบัติคล้ายยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อ ที่จะช่วยทำลายแบคทีเรีย อุดมด้วยเอนไซม์หลากหลายชนิดด้วยกันนั่นเอง

    แอปเปิ้ลไซเดอร์ สรรพคุณ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

    สำหรับคำถามที่ว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์ ประโยชน์ หรือสรรพคุณมีอะไรบ้างนั้น ต้องบอกว่ามีประโยชน์และสรรพคุณในการดูแลสุขภาพร่างกายของผู้บริโภคหลายด้านเลยทีเดียว คือ

    • ช่วยดูแลระบบย่อยอาหาร : การรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ช่วยดูแลระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี
    • มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอวัย : อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยดูแลสุขภาพผิว ชะลอวัย
    • ช่วยบำรุงโลหิต ป้องกันโลหิตจาง : มีสรรพคุณในการบำรุงเลือด ป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจางได้
    • ช่วยคุมน้ำหนัก ลดความอยากอาหาร : ช่วยคุมน้ำหนักโดยไม่ต้องพึ่งยาและไม่อันตราย เนื่องจากมีสรรพคุณในการลดความอยากอาหาร และช่วยเรื่องระบบขับถ่ายอย่างเป็นธรรมชาติ
    • ช่วยดูแลระบบทางเดินหายใจ ลดโอกาสการเป็นหวัดได้ : มีส่วนช่วยในการดูแลระบบหายใจ ป้องกันและลดโอกาสในการเป็นหวัด เสมหะ ไซนัส
    • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด : มีส่วนช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากแอปเปิ้ลไซเดอร์มีกรดบางชนิดที่ช่วยยับยั้งการปล่อยเอนไซม์ที่ย่อยคาร์โบไฮเดรต มีส่วนช่วยในการลดการเป็นเบาหวาน

    ทั้งนี้สรรพคุณต่าง ๆ อาจขึ้นอยู่กับส่วนผสมหรือสารสกัดที่แต่ละแบรนด์อาจมีเพิ่มเติมเข้ามาแตกต่างกัน ดังนั้นก่อนเลือกรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ของแต่ละแบรนด์นั้น จึงควรศึกษาส่วนประกอบ ความน่าเชื่อถือ และไม่ลืมที่จะเช็กเรื่อง อย.

    แอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา

    แอปเปิ้ลไซเดอร์ กินตอนไหน ?

    คำถามยอดฮิตที่ว่า แอปเปิ้ลไซเดอร์ กินตอนไหน ? คงเป็นปัญหาคาใจของใครหลายคน ความจริงแล้วแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นสามารถกินได้หลายเวลาด้วยกัน แต่โดยส่วนมากจะแนะนำให้เลือกกินจากช่วงเวลาดังนี้

    • ดื่มหลังตื่นนอนตอนเช้า : ดื่มช่วงเช้าก่อนรับประทานอาหาร ช่วยลดความอยากอาหาร คุมน้ำหนักได้ดี
    • ดื่มก่อนนอน : ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย การย่อยอาหาร ลำไส้ และลดระดับน้ำตาลในเลือด

    ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันมีแอปเปิ้ลไซเดอร์ผลิตออกมาหลายรูปแบบหลากหลายแบรนด์ อาจมีข้อแนะนำในการรับประทานที่แตกต่างกันไปเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ควรอ่านคำแนะนำหรือวิธีการรับประทานจากบริษัทผู้ผลิต

    ​​แอปเปิ้ลไซเดอร์ ลดน้ำหนัก กินตอนไหน ?

    ในส่วนของผู้ที่ต้องการรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์เพื่อลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนัก ควบคุมน้ำหนักนั้น แนะนำให้ดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ก่อนรับประทานอาหารเป็นเวลา 30 นาที – 1 ชั่วโมง จะช่วยลดความอยากอาหารและปริมาณอาหารที่จะอยากรับประทานเข้าไปได้ ซึ่งแนะนำว่าให้ศึกษาส่วนประกอบของแอปเปิ้ลไซเดอร์ตัวที่เลือกรับประทานอยู่ 

    เพราะหากเป็นแอปเปิ้ลไซเดอร์ชนิดน้ำบรรจุขวดที่จำเป็นจะต้องนำมาละลายผสมกับน้ำนั้น มีปริมาณที่เหมาะสมในการรับประทานอยู่ที่วันละไม่เกิน 2 ช้อนชา ทำให้อาจเลือกรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ก่อนอาหารได้เพียงมื้อเดียว 

    แต่หากเป็นแอปเปิ้ลไซเดอร์ชนิดผง ชนิดแคปซูล อื่น ๆ ที่มีวิธีรับประทาน หรืออัตราส่วนในการผสมส่วนผสมต่าง ๆ เฉพาะ อาจสามารถรับประทานได้ก่อนทั้งอาหารเช้า และก่อนอาหารเย็นนั่นเอง

    แอปเปิ้ลไซเดอร์ มีกี่ชนิด ?

    ปัจจุบันแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดมีอยู่ 3 ชนิดหลัก ๆ ดังนี้

    • แอปเปิ้ลไซเดอร์ชนิดน้ำ : เป็นชนิดของเหลวบรรจุขวดแก้ว แบ่งทานโดยการนำมาเจือจางกับน้ำ
    • แอปเปิ้ลไซเดอร์ชนิดผง : เป็นชนิดผงบรรจุซอง มีทั้งแบบซองใหญ่ตักแบ่งทาน และซองสำเร็จรูปแบบพกพา
    • แอปเปิ้ลไซเดอร์ชนิดเม็ด/แคปซูล : เป็นชนิดเม็ดมีทั้งแบบเม็ดยาอัดแข็งและแคปซูลบรรจุในกระปุกยาอาหารเสริม

    วิธีการกินแอปเปิ้ลไซเดอร์

    ในส่วนของวิธีการกินแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้น ก็มีหลายวิธีด้วยกัน โดยวิธีการจะแตกต่างกันตามชนิดของแอปเปิ้ลไซเดอร์

    • แอปเปิ้ลไซเดอร์ชนิดน้ำ : จะต้องผสมเจือจางกับน้ำเปล่าและใช้หลอดในการดื่มรับประทาน เนื่องจากมีความเป็นกรดสูงมาก ป้องกันการสึกกร่อนของฟัน
    • แอปเปิ้ลไซเดอร์ชนิดผง : บางแบรนด์/ยี่ห้อสามารถเจือจางผสมดื่มกับน้ำเปล่า โซดา กาแฟ เครื่องดื่มชนิดอื่น หรือเลือกรับประทานโดยการตักผงทานโดยตรงไม่ต้องทำการเจือจางหรือผสมได้ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสรรพคุณของทางแบรนด์ บางแบรนด์ยังต้องผสมน้ำดื่มและใช้หลอดอยู่)
    • แอปเปิ้ล ไซเดอร์ชนิดเม็ด/แคปซูล : สามารถรับประทานกับน้ำได้เหมือนอาหารเสริมทั่วไป

    แอปเปิ้ลไซเดอร์ สรรพคุณ

    ใครบ้างที่ควรกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ ? 

    หากจะถามว่าแอปเปิ้ล ไซเดอร์นั้นเหมาะกับใคร ใครบ้างที่ควรกินแอปเปิ้ล ไซเดอร์ ก็ต้องตอบว่าความจริงแล้วแอปเปิ้ล ไซเดอร์เหมาะกับทุกคนที่รักและต้องการที่จะดูแลสุขภาพ คนที่มีปัญหาเรื่องการย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย ต้องการป้องกันการเป็นโลหิตจาง อยากลดน้ำตาลในเลือด และต้องการคุมน้ำหนัก แต่แน่นอนว่าก็มีสิ่งที่ต้องระวังและผู้ที่ไม่ควรรับประทานเช่นกัน ซึ่งจะกล่าวให้ฟังในหัวข้อถัดไป

    ข้อควรระวังในการกินแอปเปิ้ลไซเดอร์

    แน่นอนว่ามีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียและข้อควรระวังเช่นกัน การรับประทานแอปเปิ้ล ไซเดอร์นั้นมีสิ่งที่ต้องคำนึง และต้องระวัง ดังนี้

    • ผู้ป่วยเบาหวานควรรับประทานแอปเปิ้ล ไซเดอร์ด้วยความระมัดระวัง 
    • หากตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรไม่ควรรับประทานแอปเปิ้ล ไซเดอร์ในปริมาณมาก
    • ควรรับประทานในปริมาณที่กำหนด เพราะหากรับประทานมากไปอาจทำให้เป็นโรคกระเพาะได้
    • หากรับประทานแอปเปิ้ล ไซเดอร์มากเกินไปอาจทำให้มีอาการปวดท้อง แสบท้องได้
    • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนไม่ควรรับประทานแอปเปิ้ล ไซเดอร์
    • คนที่มีระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำไม่ควรรับประทานแอปเปิ้ล ไซเดอร์
    • แอปเปิ้ล ไซเดอร์หลายยี่ห้อยังต้องทำการผสมน้ำเพื่อเจือจางและใช้หลอดรับประทาน ป้องกันการกัดกร่อนเคลือบฟัน

    แม้ว่าแอปเปิ้ล ไซเดอร์จะมีประโยชน์มากมายและช่วยดูแลสุขภาพได้ แต่ก็ต้องทำความเข้าใจว่าแอปเปิ้ล ไซเดอร์ไม่ใช่ยาที่จะช่วยรักษาโรคต่าง ๆ ให้หาย เช่น แม้จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ แต่ก็ต้องควบคุมปริมาณในการรับประทานให้ดี วัดระดับน้ำตาลเป็นประจำ และต้องเข้ารับการรักษารวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ดูแลอย่างเคร่งครัด และขอแนะนำให้ทำ ประกันสุขภาพ กับ แรบบิท แคร์ ไว้ เป็นการวางแผนด้านสุขภาพให้อุ่นใจ ไม่มีเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาที่อาจบานปลายมาทำให้กังวล


     

    บทความแคร์สุขภาพ

    Rabbit Care Blog Image 89748

    แคร์สุขภาพ

    โรคพุ่มพวงคืออะไร มีอาการอย่างไร อันตรายถึงชีวิตหรือไม่ ?

    โรคที่คนไทยเรียกกันจนติดปากว่าโรคพุ่มพวง เนื่องจากคนไทยเรารู้จักโรคนี้กันอย่างแพร่หลายเมื่อศิลปินชื่อดังอย่างคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์
    Nok Srihong
    23/05/2024