ดูแลปอดไม่ดี อาจเสี่ยง 5 โรคร้าย

“เมืองหลวงควันและฝุ่นมากมาย พี่สูดดมเข้าไปร่างกายก็เป็นภูมิแพ้…” เนื้อเพลงท่อนนี้ดูท่าจะจริงและเห็นภาพชัดขึ้นเรื่อย ๆ เพราะช่วงนี้กรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัดต้องเผชิญปัญหามลภาวะฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 รวมทั้งไวรัสที่กำลังแพร่ระบาด ซึ่งล้วนส่งผลต่อสุขภาพของคุณทั้งสิ้น โดยเฉพาะ ‘ปอด’ อวัยวะสำคัญที่ถูกทำลายอยู่เรื่อย ๆ 

Rabbit Care มีสาระดี ๆ มาฝาก สำหรับคนที่รักตัวเอง รักสุขภาพ ต้องเริ่มต้นดูแลปอดตั้งแต่วันนี้ เพื่อลดความเสี่ยง 5 โรคเกี่ยวกับปอดที่อาจจะมาเยือนในวันข้างหน้า ว่าแต่จะมีโรคอะไรบ้าง แล้วจะป้องกันตัวเองยังไง? ตามมาเลย!

ไม่ดูแลปอดให้ดี เสี่ยง 5 โรคร้าย

ภูมิแพ้

อาการภูมิแพ้เกิดจากการที่ผู้ป่วยหายใจ หรือสูดดมสารที่ร่างกายแพ้เข้าไป ทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหลอดลม จนหลั่งน้ำเหลืองออกมาในจำนวนที่มากเกินไป  เช่น ควันบุหรี่ ฝุ่น PM 2.5 หรือละอองเกสรดอกไม้ ทำให้ขนอ่อนเล็ก ๆ ที่ผิวหลอดลมทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งขนอ่อนเหล่านั้นมีหน้าที่กรองและพัดสารก่อภูมิแพ้ออกจากทางเดินหายใจ ทำให้ฝุ่นและเสมหะตกค้างในหลอดลม หากปล่อยไว้นาน ๆ จนมีอาการรุนแรงก็อาจส่งผลให้ปอดจะเสื่อมเร็วขึ้น 

ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ยังมีโอกาสเป็นไซนัสอักเสบและหอบหืดมากกว่าคนทั่ว ๆ ไป ซึ่งอาการหืดจับจะเกิดขึ้นง่ายมาก เมื่อหายใจมีสิ่งที่แพ้ปะปนเข้าไป ก็จะระคายเคืองที่หลอดลม ทำให้ผิวหลอดลมอักเสบจนหดตัวเล็กลง ส่งผลให้การหายใจเข้า-ออก ทำได้ยากขึ้นนั่นเอง หากมีอาการคัดจมูกบ่อย ๆ ไอหรือจามผิดปกติ ให้รีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดและรับการรักษาแต่เนิ่น ๆ นะคะ

ถุงลมโป่งพอง

เพื่อน ๆ อาจไม่ทราบว่าในปอดมีถุงลมเล็ก ๆ นับล้านถุง คอยดูดซับออกซิเจนเข้าสู่เส้นเลือดฝอยเพื่อไปเลี้ยงร่างกาย และขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย โรคถุงลมโป่งพองเกิดจากการที่เราสูดดมสารที่เป็นพิษเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะเป็นสารที่มีอนุภาคเล็กมาก อาจจะเป็นฝุ่น ควัน หรือแก๊สหลาย ๆ ชนิด ส่งผลให้สารเคมีสะสมในปอด โดยเฉพาะคนที่สูบบุหรี่เป็นประจำจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ง่ายกว่าคนทั่ว ๆ ไป ยิ่งสูบเป็นเวลานาน ๆ ก็ยิ่งเสี่ยง

ส่วนคนที่ไม่สูบบุหรี่แต่ได้รับควันบุหรี่จากคนในบ้าน หรือฝุ่นพิษในอากาศ ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคถุงลมโป่งพองได้เช่นกัน ยิ่งเป็นไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องใช้ชีวิตนอกบ้าน เจอทั้งมลภาวะ และควันจากท่อไอเสีย ซึ่ง Rabbit Care เข้าใจว่ายากที่จะเลี่ยง แต่ทางที่ดีควรป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัยเป็นประจำนะคะ

ปอดอักเสบ

สำหรับโรคปอดอักเสบเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งปอดอักเสบจากการติดเชื้อหรือปอดบวม รวมทั้งปอดอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งเมื่อคุณมีอาการปอดอักเสบ นั่นแสดงว่ามีเชื้อโรคเข้าสู่ปอดของคุณมากผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็น ไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ซึ่งแต่ละเพศ แต่ละวัย ก็จะมีความเสี่ยงรับเชื้อโรคแตกต่างกัน อาการที่พบบ่อยคือ ไอจามรุนแรง หายใจติดขัด เจ็บหน้าอก อ่อนเพลีย และอาจจะมีไข้สูงร่วมด้วย

ไวรัสโคโรน่าที่กำลังระบาดตอนนี้ ก็เป็นไวรัสอีกประเภทที่ส่งผลให้ปอดอักเสบรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษาก็อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

ผู้ป่วยอาจจะได้รับเชื้อจากหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นน้ำลาย การไอจาม หายใจรดกัน หรือใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่ได้รับการฆ่าเชื้อ หากคุณมีอาการน่าสงสัย เราขอแนะนำให้รีบไปตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาโดยไว เช่น การรับยาปฏิชีวนะ เพราะหากปล่อยให้ปอดอักเสบรุนแรงอาจทำให้เกิดการติดเชื้อไปยังอวัยวะใกล้เคียงจนถึงแก่ชีวิตได้เลยนะ

วัณโรค

โรค วัณโรคเป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium ส่วนมากจะพบที่ปอดพบกว่าร้อยละ 80 ส่วนวัณโรคนอกปอดก็จะเป็นผลพวงมาจากการแพร่เชื้อไปยังอวัยวะอื่น ๆ เช่น ต่อมน้ำเหลือง เยื้อหุ้มปอด ช่องท้อง ระบบสืบพันธุ์ รวมทั้งกระดูกสันหลัง วัณโรคเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย เพียงผู้ป่วยไอจาม หัวเราะ หรือตะโกนดัง ๆ ก็มีโอกาสที่เชื้อจะปะปนกับละอองน้ำลายสู่อากาศ 

อาการที่น่าสังเกตของวัณโรคปอด คือ ไอเรื้อรังติดต่อเกิน 2 สัปดาห์ น้ำหนักลด เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มีไข้ เจ็บหน้าอก และหายใจไม่สะดวก ก็ควรฉุกใจและรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา หากปล่อยไว้จนลุกลามอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต หากจำเป็นต้องใช้ชีวิตท่ามกลางคนจำนวนมากก็ควรป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ

มะเร็งปอด 

มะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดและเป็นโรคที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในกลุ่มโรคมะเร็ง ซึ่งไทยเองก็พบสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในเพศชาย และเป็นอันดับต้น ๆ รองจากมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมในเพศหญิง มะเร็งปอดจะแสดงอาการคล้ายโรคปอดทั่วไป คือ ไอจาม เหนื่อยง่าย น้ำหนักลด และหายใจลำบาก ผู้ป่วยส่วนมากจึงตรวจพบในระยะลุกลาม ทำให้การรักษาไม่ทันท่วงที

มะเร็งปอดเกิดจากปัจจัยเสี่ยงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การสูบบุหรี่ สูดดมฝุ่นควัน เผชิญมลภาวะ PM 2.5 สัมผัสสารก่อมะเร็ง หรือแม้แต่ปัจจัยด้านอายุและกรรมพันธุ์ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการสวมหน้ากากอนามัยเป็นประจำ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นควันหนาแน่น และตรวจสุขภาพปอดเพื่อตรวจหาความผิดปกติทุก ๆ ปี 

อุ่นใจด้วยประกัน “สุขภาพ สุขสันต์” 

เชื่อว่าหลายคนทราบดีว่าการดูแลสุขภาพต้องใส่ใจตั้งแต่เรื่องอาหาร การออกกำลังกาย เวลาพักผ่อน รวมไปถึงสภาพจิตใจ เพราะต่อให้ร่างกายแข็งแรงแค่ไหน ถ้าคุณกังวลกับปัญหามากมายในสังคมก็อาจจะทำให้เจ็บป่วยได้ Rabbit Care จึงอยากเสนอตัวช่วย ประกัน “สุขภาพ สุขสันต์” จาก กรุงเทพประกันชีวิต ที่ให้ความคุ้มครองโรคมะเร็ง และอีก 47 โรคร้ายแรง สูงสุดถึง 3 ล้านบาทเลยทีเดียว 

คุ้มครองหลายโรค

• กลุ่มโรคเสี่ยง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวหัวใจ และโรคเกี่ยวกับสมอง
• กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับอวัยวะ  เช่น ปอด ตับ และไต
• กลุ่มโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น อัมพฤกษ์-อัมพาต หรืออุบัติเหตุร้ายแรง

จ่ายเบี้ยสั้น แต่คุ้มครองยาวนาน

• เบี้ยเริ่มต้นเดือนละ 119 บาท*
• จ่ายเบี้ยประกัน 10 ปี แต่ให้ความคุ้มครองยาวนานถึง 25 ปี
• เบี้ยประกันคงที่ตลอดสัญญา ไม่มีการปรับเพิ่มตามอายุ
• เบี้ยประกันสุขภาพนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุด 15,000 บาท ( ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร) 

คุ้มครองสูงสุด 3 ล้านบาท

• ไม่ต้องตรวจสุขภาพ
• จ่ายผลประโยชน์ทันทีที่แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง

เพราะการเจ็บป่วย หรือโรคร้ายแรงไม่ใช่เรื่องไกลตัว การป้องกันเอาไว้ย่อมดีกว่าแก้ไขภายหลังนะคะ Rabbit Care อยากให้คุณเริ่มดูแลสุขภาพของตัวเองและคนที่คุณรักตั้งแต่วันนี้ ด้วยประกัน “สุขภาพ สุขสันต์” จาก กรุงเทพประกันชีวิต ตัวช่วยดี ๆ ที่มีให้แต่ความอุ่นใจ

กองบรรณาธิการ

ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี