แคร์สุขภาพ

เป็นโรคภูมิแพ้อากาศ ต้องทำอย่างไร รักษาได้หรือไม่?

ผู้เขียน : Nok Srihong
Nok Srihong

มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น

close
linkedin icon
แก้ไขโดย : Nok Srihong
Nok Srihong

มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น

close
linkedin icon
 
Published: June 2,2023
  
Last edited: July 2, 2024
ภูมิแพ้อากาศ

จามฮัดเช้ย! ทั้งวันแบบนี้ไม่ดีแน่ ถ้าไม่ได้เป็นหวัดคงเกิดจากอาการ “แพ้อากาศ” ก็เป็นได้ หากใครมีอาการดังกล่าวให้ตั้งข้อสังเกตก่อนเลยว่าคุณเป็นโรคภูมิแพ้อากาศหรือไม่ ซึ่งในวันนี้แรบบิท แคร์ จะมาอธิบาบเกี่ยวกับอาการแพ้อากาศให้ทุกคนทราบว่ามีสาเหตุมาจากอะไร และสามารถป้องกันได้อย่างไรบ้าง

โรคภูมิแพ้อากาศ สาเหตุ มาจากอะไร?

โรคแพ้อากาศ (Allergic Rhinitis) เป็นหนึ่งในอาการของโรคภูมิแพ้ ที่มีสาเหตุมาจาก เยื่อบุโพรงจมูก สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เป็นระยะเวลานาน จนเกิดอาการอักเสบขึ้น เมื่อเราหายใจเอาสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้เข้าไป ระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะทำปฏิกิริยามากเกินไปและผลิตแอนติบอดีที่เรียกว่าอิมมูโนโกลบูลินอี (IgE) จากนั้นแอนติบอดีเหล่านี้จะทำให้เซลล์ปล่อยฮีสตามีนและสารเคมีอื่น ๆ ซึ่งนำไปสู่อาการภูมิแพ้

สารก่อภูมิแพ้อากาศมีอะไรบ้าง?

1. ละอองเกสรดอกไม้ เป็นหนึ่งในสาเหตุของการแพ้อากาศที่พบบ่อยมาก พืชแต่ละชนิดจะปล่อยละอองเกสรในช่วงเวลาต่าง ๆ ของปี หากสูดเข้าไปก็อาจทำให้เกิดการแพ้ได้

2. สปอร์เชื้อรา ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ตลอดทั้งปีหรือตามฤดูกาลขึ้นอยู่กับชนิดของราและสภาพการเจริญเติบโตของเชื้อรา เรามักพบเชื้อราในบริเวณที่อับชื้น ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศควรหลีกเลี่ยงเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว

3. ไรฝุ่น แมลงตัวเล็ก ๆ เหล่านี้อาศัยอยู่ในฝุ่นในบ้านและเป็นสาเหตุทั่วไปของการแพ้อากาศตลอดทั้งปี พบได้ในเครื่องนอน เฟอร์นิเจอร์บุนวม และพรม

4. ขนของของสัตว์เลี้ยง มักพบของผู้ที่เลี้ยงสัตว์อย่างสุนัข แมว นก และสัตว์อื่นๆ ที่มีขน บางคนอาจแพ้โปรตีนที่พบในน้ำลาย ปัสสาวะ และอุจจาระของสัตว์เหล่านี้ด้วย

5. แมลงสาบ โดยมูลของแมลงสาบสามารถกระตุ้นอาการแพ้อากาศและแม้แต่โรคหอบหืดได้

6. น้ำหอม ซึ่งน้ำหอมแต่ละชนิดจะมีสารประกอบที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่จมูกมีปฏิกิริยาไวกับสารเหล่านั้นก็ทำให้เกิดอาการแพ้ได้

7. มลพิษในอาการ เยื่อบุโพรงจมูกของหลายคนอาจเซ้นซิทีฟกับฝุ่นละอองในอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5

ทุกคนมีลักษณ์การแพ้อากาศที่แตกต่างกัน หากคุณสงสัยว่าตนเองอาจมีอาการแพ้อากาศ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการทดสอบและการรักษาที่เหมาะสม

ภูมิแพ้อากาศเกิดจากอะไร

แพ้อากาศ อาการเป็นอย่างไร?

ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้อากาศจะมีลักษณะดังนี้

  • มีอาการน้ำมูกไหล ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการที่พบบ่อยที่สุดเมื่อโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้คืออาการน้ำมูกไหล ซึ่งมักมีน้ำมูกใส
  • จามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายคนที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้มีอาการจามตามมาด้วย
  • มีอาการคันตามจมูก ปาก ตา หรือผิวหนัง ซึ่งอาการแพ้อากาศมักทำให้เกิดอาการคันตามส่วนต่างๆ ของร่างกายดังที่กล่าวไป
  • คัดจมูก หายใจไม่สะดวก โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้อาจทำให้โพรงจมูกบวมและอักเสบ ซึ่งนำไปสู่อาการคัดจมูก
  • น้ำมูกไหลลงคอ เมื่อมีการแพ้อากาศร่างกายก็จะผลิตน้ำมูกออกมา และเมื่อมีการผลิตน้ำมูกมากเกินไปก็จะทำให้ไหลลงคอได้ ส่งผลให้คออักเสบมีเสมหะ และเจ็บคอ
  • น้ำตาไหล โพรงจมูกของคุณอักเสบสามารถทำให้ดวงตาของคุณอักเสบซึ่งจะทำให้น้ำตาไหลได้
  • หูอื้อ หรือรู้สึกว่ามีเสียงดังในหู
  • ปวดหัว ปวดบริเวณใบหน้า

เป็นโรคภูมิแพ้อากาศจะดูแลตัวอย่างไรได้บ้าง?

1. พยายามหลีกหนีจากสิ่งที่คุณแพ้

เป็นวิธีที่ ง่าย เร็ว แต่ได้ผลมากที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เราแพ้ตั้งแต่ต้น ถ้าเรารู้ว่าเราแพ้ฝุ่น ก็ห้ามเข้าไปในที่ ๆ ฝุ่นเยอะ หรือถ้าแพ้ขนสัตว์ ก็หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์หรือสัมผัสตัวสัตว์ เท่านี้ก็ไม่มีสิ่งแปลกปลอมมากระตุ้นต่อโพรงจมูกคุณ และอาการภูมิแพ้อากาศก็จะไม่กำเริบด้วย

2. หมั่นทำความสะอาดบ้านบ่อย ๆ

อีกปัจจัยที่สำคัญคือจัดการกับสภาพแวดล้อมในบ้าน หรือก็คือทำความสะอาดบ้านนั่นเอง ยิ่งเป็นห้องนอนยิ่งต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ อย่าให้มีฝุ่นจับเด็ดขาด พวกผ้าปูที่นอน ผ้าม่านต่าง ๆ ก็นำมาซักบ่อย ๆ แล้วตากแดดฆ่าเชื้อโรค เพื่อป้องกันฝุ่นให้ได้มากที่สุด

3. หลีกเลี่ยงสารต่าง ๆ ที่ก่อความระคายเคือง

โดยสารระคายเคืองที่ว่า ก็คือพวกน้ำหอมกลิ่นแรง ๆ สเปรย์ ควันธูป ควันรถ ควันบุหรี่ หรือสารอะไรก็ตามที่มีกลิ่นแรง เพราะเมื่อสูดเข้าไปก็จะทำให้ระคายเคืองจมูกอย่างหนัก ส่งผลให้เป็นภูมิแพ้อากาศนั่นเอง

4. หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนอุณหภูมิอากาศอย่างฉับพลัน

สำหรับบางคนการเปลี่ยนอุณหภูมิอากาศอย่างฉับพลันทำให้เกิดอาการแพ้อากาศได้ เช่น อยู่ในห้องแอร์เย็นจัดแล้วย้ายออกมานอกห้องที่แดดร้อนจัด หรือตัวเปียกจากการโดนฝนแล้วเข้ามาในห้องแอร์ เป็นต้น

5. หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกาย เหมือนเป็นยาวิเศษที่ช่วยให้สุขภาพของคุณดีขึ้น เนื่องจากถ้าเรามีร่างกายที่แข็งแรงแล้ว อวัยวะภายในต่าง ๆ รวมถึงภูมิคุ้มกันโรคของเราก็จะแข็งแรงตามไปด้วย ซึ่งจะทำให้เราป่วยหรือเป็นโรคต่าง ๆ ยากขึ้น อีกทั้งการออกกำลังกายยังช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นด้วย

6. ทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่

สำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้อากาศ ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ร่างกายจะได้สร้างภูมิต้านทานได้ดีขึ้น ควรทานอาหารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซีรสเปรี้ยว หรือวิตามินเอที่มีเบต้าแคโรทีน อยู่ในผัก หรือผลไม้ที่มีสีเขียวจัด สีเหลือง สีแดง และสีม่วง นอกจากนี้การทานวิตามินอี ซึ่งมีอยู่ในเมล็ดธัญพืช เช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง จมูกข้าว หรือข้าวกล้อง ก็จะช่วยทำให้อาการภูมิแพ้อากาศลดลงได้ด้วย

7. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ในแต่ละวันเราใช้ร่างกายทำงานทั้งวัน ซึ่งต้องหาเวลาพักเผื่อซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ หากเราไม่พักผ่อนให้เพียงพอร่างกายเราก็ยิ่งอ่อนแรง โรคร้ายต่าง ๆ ยิ่งเข้ามาทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการแพ้อากาศ เพราะฉะนั้นเราควรจะนอนให้พออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน

8. รับประทานยาตามแพทย์สั่ง

สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคแพ้อากาศแบบเรื้อรัง หรือมีอาการหนักมาก ๆ ติดกันเป็นเวลานาน แนะนำว่าให้รีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการรักษาจะเป็นทางที่ดีที่สุด โดยแพทย์จะจ่ายยาให้เราตามอาการภูมิแพ้อากาศได้อย่างถูกต้อง

9. ใช้น้ำเกลือล้างจมูก

การล้างจมูกจะช่วยให้โพรงจมูกของคุณชุ่มชื้น และช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในโพรงจมูกออกมา ซึ่งจะลดอาการแพ้อากาศได้ดีกว่าเดิม นอกจากนี้การล้างจมูกยังช่วยให้ประสิทธิภาพของยาพ่นจมูกนั้นดียิ่งกว่าเดิมอีกด้วย

ออกกำลังกาย

โรคภูมิแพ้อากาศสามารถรักษาได้หรือไม่?

ภูมิแพ้อากาศไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่คุณสามารถบรรเทาอาการภูมิแพ้อากาศได้ตามวิธีดังนี้คือ

  • ใช้ยาต้านฮีสตามีนควบคุมอาการโรคภูมิแพ้รวมถึงยาสเปรย์จมูกสามารถใช้เพื่อลดอาการแพ้
  • ฉีดวัคซีนภูมิแพ้ (immunotherapy) ซึ่งจะช่วยลดความอ่อนไหวต่อสิ่งที่ทำให้คุณแพ้ โดยจะทำโดยการฉีดสารกระตุ้นภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายอย่างช้า ๆ โดยเริ่มจากปริมาณเล็ก ๆ จนร่างกายคุณเริ่มมีภูมิต้านทาน
  • การออกกำลัง ซึ่งทำให้ร่างกายแข็งแรงและสุขภาพดีสามารถช่วยลดรุนแรงของอาการแพ้

เป็นภูมิแพ้อากาศ กินยาอะไรดี?

ยาที่ใช้ในการรักษาอาการภูมิแพ้จากอากาศส่วนใหญ่มักจะแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักคือ

1. ยาต้านฮีสตามีน (Antihistamines) ซึ่งเป็นยาแก้แพ้อากาศ ยาเหล่านี้ทำงานโดยการบล็อกฮีสตามีนซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ ยาต้านฮีสตามีนสามารถช่วยลดอาการคัดจมูก คันตา และน้ำมูกไหล

2. ยาสเปรย์จมูกแบบสเตียรอยด์ (Nasal corticosteroids) ยาเหล่านี้มีผลต้านการอักเสบและช่วยลดการสร้างน้ำมูกในจมูก ทำให้คุณสามารถหายใจได้ง่ายขึ้น ลดภูมิแพ้อากาศไปในตัว

นอกจากนี้ยังมีมียาอื่น ๆ ที่อาจช่วยจัดการกับอาการบางประการ, อย่างเช่น ยาขยายหลอดลมสำหรับคนที่มีอาการหายใจลำบาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือควรปรึกษากับแพทย์ของคุณก่อนการใช้ยาเนื่องจากแพทย์จะสั่งจ่ายยาที่เหมาะสมให้กับคุณ โดยวินิจฉัยจากอาการ สุขภาพร่างกายทั่วไป และประวัติการใช้ยาของคุณหากคุณเป็นภูมิแพ้อากาศนั่นหมายถึงว่าคุณจะเจ็บป่วยง่ายตามไปด้วย ซึ่งจะดีกว่าไหมในการมีตัวช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลเมื่อเวลาคุณป่วย แรบบิท แคร์ จึงขอแนะนำให้ทำประกันสุขภาพไปเลยเพื่อให้คุณไม่ต้องกังวลกับค่ารักษาพยาบาลยามล้มป่วย ทำให้คุณอุ่นใจป่วยเมื่อไหร่ก็เข้ารับการรักษาที่ได้เสมอ เลือกประกันสุขภาพที่ตรงใจคุณ เลือกแรบบิท แคร์

ประกันสุขภาพที่คุณเลือกเองได้ พร้อมชำระได้หลากหลายช่องทาง
icon angle up or down

เลือกแผนประกันสุขภาพที่คุณสนใจ

    ชื่อนามสกุล

    หมายเลขโทรศัพท์


     

    บทความแคร์สุขภาพ

    Rabbit Care Blog Image 89748

    แคร์สุขภาพ

    โรคพุ่มพวงคืออะไร มีอาการอย่างไร อันตรายถึงชีวิตหรือไม่ ?

    โรคที่คนไทยเรียกกันจนติดปากว่าโรคพุ่มพวง เนื่องจากคนไทยเรารู้จักโรคนี้กันอย่างแพร่หลายเมื่อศิลปินชื่อดังอย่างคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์
    Nok Srihong
    23/05/2024