เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
Toggle
หลังจากที่ไวรัสโควิด-19 กลับมาระลอกใหม่ ดูเหมือนว่าจะมีความรุนแรงกับการกระจายเชื้อไปทั่วทุกจังหวัดของไทยอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะย่านตลาดสดที่มีคนงานชาวต่างชาติ เพราะเชื้อดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่แสดงอาการแม้แต่น้อย และมีการกลายสายพันธุ์ใหม่ที่เราต้องเฝ้าระวัง ซึ่งจะมีวิธีการจัดการ ป้องกันอย่างไร วันนี้ Rabbit Care มีข้อมูลมาฝากกัน
สังเกตอาการไวรัส covid ระลอกใหม่ ได้อย่างไร
โควิด-19 ระลอกใหม่ มีโอกาสเสี่ยงและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น หลังจากที่ได้พบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่จากตลาดกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร ทำให้มีผู้ติดเชี้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวด และยังไม่มีวัคซึนที่จะมาป้องกัน จึงทำให้เชื้อนั้นได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว และล่าสุดเชื้อ COVID จะไม่แสดงอาการจึงมีความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้น แต่เราสามารถเฝ้าสังเกตอาการหลัก ๆ ได้ดังนี้
สังเกตตัวเองว่าไปในยังพื้นที่เสี่ยงต่อโรคโควิด-19 หรือไม่
สังเกตว่ามีไข้สูงเกินกว่า 37 องศา
สังเกตอาการไอ จาม หรือมีเสมหะพร้อมเลือดปนเวลาไอ หลายวันติดต่อการ
สังเกตอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว
สังเกตอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
สังเกตอาการหายใจไม่สะดวก หายใจติด ๆ ขัด ๆ ไม่ได้กลิ่น
สังเกตการรับประทานอาหารมักไม่ได้รสชาติ
เฝ้าระวังดูอาการประมาณ 14 วัน สำหรับการฟักตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19
สำหรับความรุนแรงของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น มีการแพร่ระบาดไปในวงกว้างเพิ่มมากขึ้น ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไปทำให้ติดเชื้อได้ง่ายนั่นคือ ผู้สูงอายุ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มีอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มวัยอื่น รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างเช่น โรคปอด โรคระบบทางเดินหายใจ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง นอกจากนี้ยังรวมถึงเด็กเล็กและตั้งครรภ์อีกด้วย
การป้องกันให้ห่างไกลไวรัสโควิด-19
การป้องกันจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป หรือจะเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสามารถทำได้คือ
ถ้าไม่จำเป็นไม่ออกไปที่สาธารณะ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรที่จะมีการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing จากบุคคลอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร
หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณดวงตา ปาก และจมูก
เมื่อกลับถึงบ้านแล้วควรรีบทำความสะอาดตัวเองด้วยการอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า
ควรนำเสื้อผ้าที่ออกไปข้างนอกทำการแยกซักด้วย
ต้องไม่ลืมที่จะสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าติดตัวไว้ตลอดเวลา
ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ 70%
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ปรุงสุก สะอาด
แยกภาชนะรับประทานอาหารและงดใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
นอนพักผ่อน ให้เพียงพอ
โรงพยาบาลรัฐ-เอกชนรับตรวจโควิด-19
ถ้าหากมีความสงสัยว่า ตัวเองได้เดินทางไปยังสถานที่เสี่ยงต่อการรับเชื้อ หรือมีประวัติใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชี้อหรือไม่ หรือเริ่มมีอาการที่สงสัย ไม่แน่ใจหรือไม่มั่นใจว่าตัวเองจะติดเชื้อไวรัสโควิดหรือไม่ สามารถขอรับการตรวจที่โรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลหลายๆ แห่งก็มีการอบรมโควิด ดังนี้
โรงพยาบาลศิริราช ค่าใช้จ่าย 2,000 – 3,000 บาท (รับตรวจเฉพาะกลุ่มเสี่ยง)
โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ค่าใช้จ่าย 7,000 – 8,000 บาท
โรงพยาบาลรามาธิบดี ค่าใช้จ่าย คนไทยไม่เกิน 2,500 – 3,500 บาท
สถาบันบำราศนราดูร ค่าใช้จ่าย 2,500 – 3,500 บาท
โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ค่าใช้จ่าย 3,500 บาท
สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ค่าใช้จ่าย 1,500 บาท
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ค่าใช้จ่าย 3,000 – 6,000 บาท
โรงพยาบาลพระราม 9 ค่าใช้จ่าย 6,500 บาท
โรงพยาบาลรามคำแหง ค่าใช้จ่าย 3,000 – 5,400 บาท
โรงพยาบาลกรุงเทพ ค่าใช้จ่าย 4,500 – 7,000 บาท
โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ค่าใช้จ่าย เริ่มต้นที่ 4,500 บาท
โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ค่าใช้จ่าย 3,500 บาท
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ค่าใช้จ่ายประมาณ 7,500 บาท
โรงพยาบาลนวมินทร์ ค่าใช้จ่าย 2,990 บาท
โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ค่าใช้จ่าย 5,000 บาท
โรงพยาบาลวิภาวดี ค่าใช้จ่าย 5,990 บาท
โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ค่าใช้จ่าย 5,500 – 6,000 บาท
โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ค่าใช้จ่าย 3,000 บาท
โรงพยาบาลนครธน ค่าใช้จ่าย 3,740 บาท
โรงพยาบาลบางโพ ค่าใช้จ่าย 3,500 บาท
โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ค่าใช้จ่าย 3,800 – 4,500 บาท
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ค่าใช้จ่าย 3,000 บาท
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ ค่าใช้จ่าย 3,000 บาท
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง ค่าใช้จ่าย 3,000 บาท
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ค่าใช้จ่าย 3,000 บาท
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ค่าใช้จ่าย 3,000 บาท
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ฉะเชิงเทรา ค่าใช้จ่าย 3,000 บาท
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ ค่าใช้จ่าย 3,700 บาท
โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล พหลโยธิน ค่าใช้จ่าย 5,500 – 7,500 บาท
โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล เกษตร ค่าใช้จ่าย 5,500 บาท
โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล โชคชัย 4 ค่าใช้จ่าย 6,700 บาท
โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล รังสิต ค่าใช้จ่าย 6,000 – 8,000 บาท
โรงพยาบาลพญาไท 1 ค่าใช้จ่าย 3,500 บาท
โรงพยาบาลพญาไท 2 ค่าใช้จ่าย 6,500 บาท
โรงพยาบาลพญาไท 3 ค่าใช้จ่าย 4,000 บาท
โรงพยาบาลนันอา ค่าใช้จ่าย 1,100 บาท
โรงพยาบาลเอกชัย สมุทรสาคร ค่าใช้จ่าย 4,000 บาท
โรงพยาบาลอุบลรักษ์ ธนบุรี อุบลราชธานี ค่าใช้จ่าย 5,500 บาท
โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ค่าใช้จ่าย 3,800 บาท
โรงพยาบาลราชเวชอุบลราชธานี ค่าใช้จ่าย 5,900 – 6,900 บาท
โรงพยาบาลขอนแก่น ราม ค่าใช้จ่าย 2,500 บาท
โรงพยาบาลสิริเวช จันทบุรี ค่าใช้จ่าย 4,500 บาท
โรงพยาบาลพะเยา ราม ค่าใช้จ่าย 3,500 บาท
โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ ค่าใช้จ่าย 6,500 บาท
โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม ค่าใช้จ่าย 3,900 – 4,500 บาท
โรงพยาบาลสุขุมวิท ค่าใช้จ่าย 5,500 บาท (Drive Thru)
โรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ค่าใช้จ่าย 5,000 บาท (Drive Thru)
โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ค่าใช้จ่าย 3,800 บาท (Drive Thru)
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สระบุรี ค่าใช้จ่าย 3,000 บาท (Drive Thru)
โรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิ ค่าใช้จ่าย 3,990 บาท (Drive Thru)
โรงพยาบาลมหาชัย 2 ค่าใช้จ่าย 4,500 บาท (Drive Thru)
โรงพยาบาลบางปะกอก-รังสิต 2 ค่าใช้จ่าย 4,500 บาท (Drive Thru)
โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ค่าใช้จ่าย 3,000 บาท (Drive Thru)
โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ค่าใช้จ่าย 6,500 บาท (Drive Thru)
โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์ ค่าใช้จ่าย 3,500 บาท (Drive Thru)
โรงพยาบาลสินแพทย์ กาญจนบุรี ค่าใช้จ่าย 3,500 บาท (Drive Thru)
หากใครกังวลใจว่าตัวเองจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบไม่รู้ตัว เพื่อความสบายใจและเป็นการป้องกันต่อโรคที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันสามารถทำประกันโควิด-19 ได้ที่ Rabbit Care
มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 10 ปี เขียนด้านเงิน การลงทุน บทความวิเคราะห์สถานการณ์การเงินในประเทศ และฝากผลงานไว้ที่ Rabbit Care ถึง 4 ปี