
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
การมีบัตรกดเงินสดไว้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเมื่อเกิดเหตุจำเป็นในยามฉุกเฉินที่ต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วน ก็สามารถกดเงินได้ทันทีจากทุกตู้เอทีเอ็มสะดวก รวดเร็ว ในทุกสถานการณ์คับขัน แต่ถ้ากดออกมาแล้ว ไม่จ่ายตรงตามกำหนดนั้นหมายความว่า คุณผิดนัดการชำระนั่นเอง ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อตัวผู้ถือบัตรกดเงินสดได้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้ Rabbit Care มีข้อมูลให้ระแวดระวังกัน เพื่อที่ว่าจะไม่เสียประวัติเครดิตของเราในอนาคต
ในการกู้ยืมเงินจากบัตรกดเงินสดมาใช้ก่อนนั้น ให้พึงระลึกอยู่เสมอว่า เราต้องมีวินัยในการชำระหนี้ให้ตรงเวลา เพราะถ้าเราชำระหนี้ล่าช้าหรือการไม่ชำระหนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นแบบทบต้นทบดอก ซึ่งอาจจะถูกปรับด้วยอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระสูงถึง 18 – 28% โดยทางสถาบันการเงินจะเรียกเก็บในรอบบิลในรอบบิลของเดือนถัดไป เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงอัตราดอกเบี้ยในส่วนของการจ่ายล่าช้า ผู้ถือบัตรกดเงินสดที่กดเงินสดออกมาควรจ่ายให้ตรงตามวันเวลา หรือจ่ายก่อนกำหนดได้ เนื่องจากว่าเมื่อกดเงินสดมาแล้ว นั่นหมายความว่าดอกเบี้ยจะเริ่มวิ่งทุก ๆ วันจนกว่าเราจะชำระนั้นเอง
เมื่อผู้ใช้บัตรกดเงินสดเพื่อกดเงินสดออกมาแล้ว และไม่ได้ชำระคืน หรือทำการผิดนัดชำระนานเป็นเวลาเกินกว่า 2 เดือน จะมีเจ้าหน้าCall Center จากสถาบันการเงินที่เราทำการขอเปิดบัตรกดเงิน โทรเข้าหาผู้ที่ถือบัตรกดเงินสดเข้ามาเพื่อสอบถามการชำระเงิน ว่าแท้ที่จริงแล้วเราค้างชำระจริงหรือไม่ หรือได้มีการชำระเข้ามาแล้วกับทางธนาคารแต่เกินความขัดข้องของระบบที่ไม่ได้รับเงินกันแน่ ซึงถ้าอยู่ในกรณีแรกที่ค้างชำระ ไม่ได้มีการชำระเข้ามาแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ Call Center จะโทรมาเพื่อติดตามหนี้สิน ซึ่งก็จะมีค้างใช้จ่ายที่เราต้องเสียด้วย เป็นค่าติดตามทวงหนี้นั่นเอง
เมื่อมีการติดตามทวงถามการผิดชำระหนี้ผ่านทางเจ้าหน้าที่ Call Center แล้ว หลังจากนั้นจะมีการแจ้งเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านมาทางจดหมายเพื่อทำการชี้แจ้งในรายละเอียดอีกครั้ง เพราะสถาบันการเงินต้องการที่จะป้องกันปัญหาหนี้เสียที่อาจมียอดเพิ่มขึ้นได้ จึงต้องการให้ผู้บัตรกดเงินสดนั้นได้ทำความเข้าใจและรีบเข้ามาชำระหนี้โดยเร็ว และอาจจะต้องโดยดำเนินคดีทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไปได้ และระหว่างที่รอผิดชำระหนี้และได้มีการแจ้งเตือนจาก Call Center และจดหมายแล้ว ผู้ถือบัตรกดเงินสดจะไม่สามารถทำการกดเงินสดได้อีกจนกว่าจะชำระจนหมดสิ้น
หลังจากที่ได้ดำเนินการตามระเบียบในการทวงถามหนี้คืนจากสถาบันการเงินแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เจ้าหน้าที่ Call Center และจดหมายในการทวงถามหนี้แล้ว แต่เจ้าของบัตรกดเงินสดยังไม่มีการชำระหนี้เข้ามาแต่อย่างใด ทางสถาบันการเงินจึงต้องทำการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป คือยื่นฟ้องเรื่องเพื่อให้ดำเนินคดีแก่ผู้ถือบัตรกดเงินสดที่ไม่ได้รับการชำระหนี้เข้ามา ซึ่งเมื่อทางสถาบันการเงินยื่นดำเนินคดีแล้ว นั่นหมายความว่า ค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงหนี้ และการแจ้งเตือนในการเป็นหนี้ รวมถึงยอดค้างชำระหนี้ ผู้ถือบัตรกดเงินสดจะต้องเป็นผู้จ่ายให้กับทางสถาบันการเงินทั้งสิ้น
เมื่อทำตามขั้นตอนในการติดตามทวงหนี้ครบทุกข้้นตอนแล้ว และไม่ได้รับการตอบกลับในการชำระหนี้จากผู้ที่ถือบัตรกดงินสดแม้แต่อย่างใด ผู้ที่ถือบัตรกดเงินสดรายนั้นที่ผิดชำระหนี้จะต้องโดนถูกบันทึกให้ติดแบล็คลิส หรือติดเครดิตบูโร โดยจะไม่สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อประเภทอื่น ๆ หรือ การซื้อรถยนต์ การซื้อบ้าน การทำบัตรเครดิต เป็นต้น เพราะถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงเพราะมีประวัติที่ไม่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการล้างประวัติไม่ให้ติดเครดิตบูโรก็ต้องทำการชำระหนี้ หรือจ่ายหนี้เข้ามาให้ให้เรียบร้อย ก็เป็นการล้างประวัติในการติดเครดิตบูโร แลจะกลับมาทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้เหมือนเดิม
หากผู้ที่ถือบัตรกดเงินไม่อยากค้างชำระหนี้ แต่ต้องการจ่ายเงินก้อนที่กดออกมาจากบัตรกดเงินสด และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียประวัติของเราสามารถทำการจ่ายได้ที่
หากคุณสนใจทำบัตรกดเงินสด ไว้ใช้ติดตัวในยามฉุกเฉินได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถคลิกเข้ามาสมัครได้ที่ Rabbit Care ช่องทางออนไลน์ที่มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ได้รับการอนุมัติรวดเร็วทันใจ หรือบางท่านอาจจะสงสัยว่าสมัครบัตรกดเงินสดไม่มีสลิปเงินเดือนได้หรือไม่ ท่านสามารถดูข้อมูลได้ที่นี่ แรบบิท แคร์
บทความที่เกี่ยวข้อง
มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 10 ปี เขียนด้านเงิน การลงทุน บทความวิเคราะห์สถานการณ์การเงินในประเทศ และฝากผลงานไว้ที่ Rabbit Care ถึง 4 ปี
บทความแคร์การเงิน
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
ผ่อนบอลลูน คือ อะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะสมกับใครมากที่สุด
ไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ ต้องเจอปัญหาใหญ่แค่ไหน