ขับรถชนบ้านคนอื่น เคลมประกันได้ไหม?เรียกร้องอะไรได้บ้าง?
การขับรถชนทรัพย์สินของผู้อื่นที่ไม่ใช่รถยนต์ อาจเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ทำให้หลายคนอาจสงสัยว่าขับรถชนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นขับรถชนบ้านคนอื่น หรือขับรถชนบ้านตัวเอง จะผิดกฎหมายอะไรบ้าง ใครต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง จะต้องเบิกค่าชดเชยจากประกันรถยนต์หรือประกันอัคคีภัย รวมถึงสามารถเรียกร้องอะไรได้บ้าง แรบบิท แคร์ รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว
ขับรถชนบ้านคนอื่น ผิดอะไร?
การขับรถชนบ้านคนอื่นเกิดจากการขับรถออกนอกช่องทางเดินรถ และขับรถชนทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง:
-
📌
มาตรา 4 (3): ทางเดินรถ คือพื้นที่ที่ทำไว้สำหรับการเดินรถ
-
📌
มาตรา 4 (4): ช่องเดินรถ คือทางเดินรถที่จัดแบ่งเป็นช่องโดยทำเครื่องหมายเป็นเส้น
-
📌
มาตรา 33: ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้ายและต้องไม่ล้ำกึ่งกลาง
โทษ:
การขับรถออกนอกทางเดินรถมีโทษปรับตั้งแต่ 200 – 2,000 บาท และถือเป็นการละเมิดที่ผู้ขับขี่ต้องชดใช้ความเสียหาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 และ 437

เช็กลิสต์: ต้องทำอะไรเมื่อขับรถชนบ้านคนอื่น
หยุดรถ เปิดไฟฉุกเฉิน
อย่าขับรถหนีไป หยุดรถในที่ปลอดภัยและเปิดไฟฉุกเฉินทันที
ตรวจคนบาดเจ็บ โทร 1669
ถ้ามีผู้บาดเจ็บ ให้โทรเรียกหน่วยแพทย์ฉุกเฉินทันที
แจ้งตำรวจ
กรณีเสียหายหนัก / มีผู้บาดเจ็บ / รถกีดขวางทางจราจร
ถ่ายรูปหลักฐาน
ถ่ายรูป: ความเสียหายรถ + บ้าน/รั้ว + ภาพรวมจุดเกิดเหตุ + ป้ายทะเบียน
ขอข้อมูลเจ้าของบ้าน
ชื่อ-สกุล + เบอร์โทรติดต่อ + ที่อยู่
โทรบริษัทประกัน
แจ้งเลขที่กรมธรรม์และพิกัดที่เกิดเหตุ
เก็บเอกสารเคลม
ใบลงบันทึกประจำวัน / เอกสารจากตำรวจ / ใบเสร็จจากอู่ซ่อม หรือเอกสารประกอบการเคลมอื่น ๆ
ขับรถชนบ้านเคลมแบบไหนได้บ้าง (เคลมสด vs เคลมแห้ง)
🌊เคลมสด
หากเกิดความเสียหายรุนแรงในวงกว้าง มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถพลิกคว่ำกีดขวางทางจราจร:
- ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
- แจ้งหน่วยงานทางการแพทย์ฉุกเฉิน
- แจ้งบริษัทประกันภัยให้เข้าสรุปเหตุการณ์ ณ พื้นที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด
🏄♀️เคลมแห้ง
หากความรุนแรงเป็นเพียงความเสียหายเล็กน้อยที่เกิดขึ้นเฉพาะตัวรถ ไม่มีความเสียหายกับทรัพย์สินหรือบุคคลภายนอก:
- สามารถแจ้งเคลมกับบริษัทประกันหลังจากเกิดเหตุการณ์ไปแล้วสักพักได้
- ไม่สามารถระบุคู่กรณีที่เป็นยานพาหนะทางถนนได้
- แต่สามารถระบุคู่กรณีได้โดยที่คู่กรณีไม่จำเป็นต้องเป็นรถยนต์
หมายเหตุสำคัญ
หากทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายเป็นทรัพย์สินของบุคคลในครอบครัวของผู้เอาประกัน หรืออยู่ภายใต้การดูแลของผู้เอาประกัน (เช่น บ้านที่เช่าไว้) ความเสียหายอาจจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยภาคสมัครใจ เนื่องจากเป็นข้อยกเว้นที่มีระบุไว้ในกรมธรรม์
ตารางเปรียบเทียบ: ประกันแต่ละชั้นกับกรณีชนบ้าน
| ประเภทประกัน | คุ้มครองตัวรถเรา | คุ้มครองทรัพย์สินคนอื่น | เหมาะกับใคร |
|---|---|---|---|
| ชั้น 1 | ชนบ้าน/รั้ว ตัวรถเคลมได้ | ตามทุนทรัพย์สินบุคคลภายนอก | คนที่อยากคุ้มครองรอบด้าน |
| ชั้น 2 | รถหาย/ไฟไหม้ เท่านั้น | ทรัพย์สินบุคคลภายนอก | รถเก่า / เน้นทุนไม่สูง |
| ชั้น 3 | ไม่คุ้มครองตัวรถเรา | ทรัพย์สินบุคคลภายนอก | เน้นประหยัด |
| ชั้น 2+ | รถหาย/ไฟไหม้ + ชนรถระบุคู่กรณี | ทรัพย์สินบุคคลภายนอก | วิ่งถนนหลัก มีโอกาสชนรถอื่น |
| ชั้น 3+ | ชนยานพาหนะทางบก ระบุคู่กรณี | ทรัพย์สินบุคคลภายนอก | รถใช้งานประจำวัน |
กรณีรถคันเอาประกันขับรถชนบ้านคนอื่น หรือทรัพย์สินส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้อื่นจนเกิดความเสียหาย ประกันรถยนต์ที่ทำไว้จะให้ความคุ้มครองทรัพย์สินหรือชีวิตอนามัยของผู้อื่นตามที่ระบุไว้ในหมวดทรัพย์สินบุคคลภายนอก แต่ไม่เกินทุนหรือมูลค่าตามที่กำหนดไว้ในสัญญากรมธรรม์ ซึ่งรายละเอียดความคุ้มครองเบื้องต้นนี้จะมาพร้อมกับกรมธรรม์ภาคสมัครใจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ ภาคสมัครใจประเภท 1, 2, 3, ประกัน 2+, 3+
ในขณะที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อตัวรถจากกรณีขับรถชนบ้านคนอื่นนั้น จะต้องพิจารณาความคุ้มครองตามประกันที่ทำไว้โดย แบ่งรายละเอียดความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ กรณีรถยนต์เสียหายจากการเฉี่ยวชนทรัพย์หรือบุคคลภายนอกได้ดังนี้
- ประกันรถชั้น 1 ให้ความคุ้มครองรถคันเอาประกัน ไม่ว่าจะกรณีขับชนรถคันอื่น หรือคันอื่นมาชน ขับชนเสาไฟฟ้า พลิกคว่ำตกข้างทาง ไฟไหม้น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ เครื่องบินตกใส่ หากรถของผู้ทำประกันได้รับความเสียหาย ประกันประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ
- ประกันรถยนต์ชั้น 2 ประกันชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถเฉพาะกรณีรถคันเอาประกันสูญหาย ถูกโจรกรรม หรือไฟไหม้เท่าน้น ในขณะที่ประกันรถยนต์ชั้น 3 ไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถคันเอาประกันในทุกกรณี
- ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ประกัน3+ ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถคันเอาประกันเฉพาะกรณีที่รถคันเอาประกันชนกับกับยานพาหนะทางบก และสามารถระบุข้อมูลรถคู่กรณีได้ครบถ้วน ในขณะที่ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกบัรถยนต์เหมือนกับที่ระบุไว้ในประกันรถยนต์ชั้น 3+ แต่จะเพิ่มความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถคันเอาประกันเพิ่มเติมเติมในกรณีที่รถสูญหาย ถูกโจรกรรม หรือถูกไฟไหม้
อย่างไรก็ตาม หากทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากกรณีขับรถชนบ้านคนอื่นเป็นทรัพย์สินของบุคคลในครอบครัวของผู้เอาประกัน หรืออยู่ภายใต้การดูแลของผู้เอาประกัน เช่น บ้านที่เช่าไว้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินดังกล่าว อาจจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยภาคสมัครใจที่ทำไว้ เนื่องจากเป็นข้อยกเว้นที่มีระบุไว้ในกรมธรรม์
แรบบิท แคร์ รวบรวมแบบประกันรถยนต์จากบริษัทประกันรถยนต์ชั้นนำมาให้เลือกออนไลน์ได้ครบ การันตีถูกกว่าซื้อตรงจากบริษัทประกัน พร้อมบริการเสริมพิเศษที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดสูงสุด 70% ผ่อน 0% 10 เดือน ได้ทั้งเงินสด หรือบัตรเครดิต บริการรถทดแทนระหว่างซ่อม นานสูงสุด 3 วัน และชดเชยค่าเดินทางสูงสุด 500 บาท สอบถามรายละเอียดประกันรถยนต์พร้อมรับสิทธิประโยชน์ก่อนใครได้ตั้งแต่วันนี้ โทรเลย 1438
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
หากมีประกันชั้น 1 ให้โทรแจ้งบริษัทประกันพร้อมแจ้งพิกัดที่เกิดเหตุ จากนั้นรอเจ้าหน้าที่สำรวจภัยมาตรวจความเสียหาย ทั้งตัวรถและทรัพย์สินของหอพัก แล้วจึงดำเนินการซ่อมตามเงื่อนไขในกรมธรรม์
หากมีเพียง พ.ร.บ. หรือประกันชั้น 3 ส่วนใหญ่จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อบุคคลภายนอก ไม่รวมค่าซ่อมรถเราเอง เจ้าของรถอาจต้องรับผิดชอบค่าซ่อมรถและค่าซ่อมบ้านด้วยตัวเอง แนะนำให้พูดคุยกับเจ้าของบ้านและขอใบเสนอราคาเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการชำระค่าเสียหาย
ไม่สามารถเคลมได้ เนื่องจากทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุต่อคู่สมรส, บิดา, มารดา, บุตรของผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่นั้นเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้เก็บรักษาควบคุมครอบครอง ถือเป็นข้อยกเว้นการให้ความคุ้มครองในหมวดความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัย ของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ อย่างไรก็ตาม สามารถแจ้งเคลมได้กับประกันภัยบ้านหรือประกันอัคคีภัย โดยจะได้รับความคุ้มครองตามหมวดความคุ้มครองของความเสียหายที่เกิดจากยวดยานพาหนะแทน
สรุป
หากความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากกรณีขับรถชนบ้านคนอื่น เป็นเพียงความเสียหายที่เกิดขึ้นเฉพาะแต่ตัวรถเพียงเล็กน้อย ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับทรัพย์สินหรือบุคคลภายนอกแต่อย่างใด เจ้าของรถคันเอาประกันสามารถแจ้งของเคลมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถได้หลังจากเกิดเหตุการณ์เฉี่ยวชนไปแล้ว หรือที่เรียกว่า เคลมแห้ง ส่วนในกรณีที่เราขับรถชนบ้านคนอื่นจนเกิดความเสียหายจะได้รับความคุ้มครองไม่ว่าซื้อประกันรถยนต์ประเภท 1, 2, 3, 2+, หรือ 3+ โดยวงเงินความคุ้มครองจะเป็นไปตามที่กรมธรรม์กำหนดไว้
ที่มา

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology

