ขับรถในญี่ปุ่นยากไหม ใช้ใบขับขี่อะไร จำกัดความเร็วที่เท่าไหร่
อย่างที่เราทราบกันดีว่ากฎจราจรหรือกฎหมายบนท้องถนน สำหรับการขับรถในญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่ผู้คนในประเทศให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมีการใช้งานที่จริงจัง และมีโทษที่ค่อนข้างรุนแรงอย่างมากหากมีการขับรถในญี่ปุ่นที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นใครวางแผนไปท่องเที่ยวแดนปลาดิบ พร้อมกับความต้องการเช่ารถยนต์เพื่อขับรถในญี่ปุ่น ท่องเที่ยวอิสระด้วยตัวเอง คงต้องทำความเข้าใจหลายอย่าง ให้สามารถขับรถในญี่ปุ่นได้แบบไร้ปัญหา
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเตรียมใบขับขี่ให้พร้อม การเข้าใจกฎจราจรขั้นพื้นฐาน ความเร็วที่กำหนดบนท้องถนน การใช้งานทางด่วน และบริการเติมน้ำมันรูปแบบต่าง ๆ เมื่ออ่านอ่านครบแล้ว เชื่อว่าทุกคนคงพร้อมที่จะไปขับขี่ท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ได้อย่างปลอดภัย
ขับรถในญี่ปุ่น ใช้ใบขับขี่อะไร
ขับรถในญี่ปุ่น ใช้ใบขับขี่สากลประเภท อนุสัญญาเจนีวา 1949 แบบ 1 ปี กรณีที่ต้องการติดต่อกรมขนส่งใกล้บ้านเพื่อทำใบขับขี่สากล ต้องติดต่อเพื่อทำบัตรประเภทดังกล่าวเท่านั้น ห้ามทำผิดประเภทเด็ดขาด เพราะถ้าใครเลือกทำไปผิดใบ จะไม่สามารถยื่นเอกสารเพื่อขออนุญาตขับรถในญี่ปุ่นได้เลย รวมถึงเมื่อเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว ควรเตรียมใบขับขี่ปัจจุบันของเราไปเผื่อไว้ด้วย
กฎจราจรขั้นพื้นฐาน ก่อนไปขับรถในญี่ปุ่น
กฎจราจรขั้นพื้นฐานก่อนไปขับรถในญี่ปุ่นที่สำคัญมากที่สุด จะมีอยู่ 12 ข้อโดยประมาณ ได้แก่ การขับรถทางด้านซ้ายของถนน, พวงมาลัยอยู่ด้านขวา, การคาดเข็มขัดนิรภัย, คาร์ซีตสำหรับเด็ก, สัญญาณไฟจราจร, การให้ทางรถคันอื่น, ระวังเขตห้ามแซง, กรณีติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือรถพยาบาล, ห้ามเมาแล้วขับเด็ดขาด, ป้ายหยุดชั่วคราว, ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ และระวังคนเดินเท้าเสมอ โดยรายละเอียดเกี่ยวกับกฎจราจรขั้นพื้นฐาน เพื่อการขับรถในญี่ปุ่นทั้งหมด จะมีดังนี้
- การขับรถทางด้านซ้ายของถนน: แม้พวงมาลัยรถยนต์จะอยู่คนละด้าน ไม่เหมือนที่ประเทศไทย แต่เรายังคงต้องขับรถในญี่ปุ่นแบบชิดซ้ายเช่นเดียวกัน รวมถึงระมัดระวังเรื่องความเร็วที่กำหนดให้ดีด้วย
- พวงมาลัยอยู่ด้านขวา: อาจทำให้ต้องปรับตัวเรื่องการทำตามป้าย หรือกฎจราจรที่กำหนดขึ้นมาแบบแตกต่างออกไปจากความเข้าใจของเรา
- การคาดเข็มขัดนิรภัย: ทุกคนบนรถไม่ว่าจะนั่งในตำแหน่งไหน ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ไม่อย่างนั้นจะถือว่าผิดกฎหมาย และต้องโทษตามที่กำหนดไว้
- คาร์ซีตสำหรับเด็ก: เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ขวบ ต้องนั่งบนคาร์ซีตเท่านั้น
- สัญญาณไฟจราจร: ห้ามฝ่าไฟแดงโดยเด็ดขาด แต่กรณีที่มีลูกศรสีเขียวอยู่ใต้ไฟแดง แปลว่าเราสามารถขับรถไปในทิศทางนั้นได้แบบพิเศษ (ในประเทศญี่ปุ่นไม่มีการเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาผ่านตลอด ห้ามทำโดยเด็ดขาด)
- การให้ทางรถคันอื่น: เวลาที่เรากำลังจะเลี้ยวรถ หากเราเป็นฝ่ายที่กำลังจะเลี้ยวขวา ต้องให้ทางรถเลี้ยวซ้ายก่อนเสมอ เราถึงจะสามารถเลี้ยวผ่านไปได้
- ระวังเขตห้ามแซง: บนถนนจะเป็นเส้นสีเหลืองทึบเหมือนกับบ้านเรา ดังนั้นเมื่อเห็นเส้นทึบสีเหลืองบนพื้นถนน แปลว่าเข้าเขตห้ามแซงแล้วนั่นเอง
- กรณีติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือรถพยาบาล: ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยแค่ไหน คุณต้องแจ้งตำรวจเสมอ โดยเบอร์โทรแจ้งตำรวจในญี่ปุ่น คือ 110 และหากต้องการเรียกรถพยาบาลฉุกเฉินในญี่ปุ่น โทรที่เบอร์ 119
- ห้ามเมาแล้วขับเด็ดขาด: เพราะกฎหมายเมาแล้วขับในประเทศญี่ปุ่นถือว่าร้ายแรงมาก มีการลงโทษที่หนักหน่วง ซึ่งอาจรวมถึงการลงโทษผู้โดยสารบนรถที่สนับสนุนการดื่มแล้วขับ ไปจนถึงร้านที่จำหน่ายแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่ดื่มแล้วขับได้เช่นเดียวกัน (ห้ามาเมาแล้วขับ หมายถึงห้ามดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถโดยเด็ดขาด ถ้าหากตรวจเจอถือว่าผิดทันที)
- ป้ายหยุดชั่วคราว: อันดับแรกป้ายหยุดชั่วคราวเมื่อต้องข้ามทางรถไฟ กรณีนี้เราต้องหยุดเสมอตามกฎหมายที่กำหนด มองซ้ายมองขวา ปลอดภัยแล้วค่อยออกตัวไปต่อ รวมถึงป้ายหยุดชั่วคราวบนท้องถนนทั่วไปด้วยเช่นกัน
- ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ: ไม่ว่าจะเป็นการดูข้อความ การคุยโทรศัพท์ หรือการกระทำใด ๆ ก็แล้วแต่ที่ทำให้เราต้องหยิบจับโทรศัพท์มือถือด้วยตัวเอง ถือเป็นการทำผิดกฎหมายจราจรทันที
- ระวังคนเดินเท้าเสมอ: กรณีที่เราขับรถในญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นถนนหนทางรูปแบบไหน หากมีคนข้ามถนนผ่านทางม้าลาย เราจะต้องหยุดรถให้คนข้ามก่อนเสมอ
กฎจราจรขั้นพื้นฐานทั้งหมด 12 ข้อนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่คนขับรถในญี่ปุ่น ต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดเสมอ ถ้าหากทำผิดกฎจราจร อาจได้รับโทษหนักที่แตกต่างกันออกไปตามกำหนด อย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียดก่อนขับขี่จริง
อ้างอิงกฎหมายจราจรการขับรถในญี่ปุ่นเบื้องต้น จากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น
ขับรถในญี่ปุ่น ความเร็วเท่าไหร่บ้าง
ขับรถในญี่ปุ่น ความเร็วที่กำหนดแบบทั่วไป คือ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งความเร็วดังกล่าวเป็นการขับขี่บนท้องถนนทั่วไปที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร หากขับรถในญี่ปุ่นบนถนนที่มีไฟจราจร อาจต้องใช้ความเร็วตามป้ายจราจรริมถนนอีกทีหนึ่ง ส่วนขับรถในญี่ปุ่น ความเร็วบนทางด่วน สามารถขับขี่ได้เร็วสุดที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การขับรถในญี่ปุ่น ทางด่วน
การขับรถในญี่ปุ่น ทางด่วนจะมีป้ายบอกทางขึ้นเป็นสีเขียว ซึ่งการขับรถในญี่ปุ่นบนทางด่วนนั้น ยังจะมีช่องทางที่แยกออกเป็น 3 รูปแบบย่อย คือ ช่องทางเดินรถสำหรับบุคคลทั่วไป, ช่องทางเดินรถสำหรับผู้ที่ถือบัตร ETC และช่องทางเดินรถที่รวมทั้งสองประเภท สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา ต้องทำการขับรถในช่องทางเดินรถสำหรับบุคคลทั่วไปเท่านั้น เนื่องจากคนต่างประเทศไม่มีสิทธิ์ถือบัตร ETC
การเติมน้ำมันรถในญี่ปุ่น
การเติมน้ำมันรถในญี่ปุ่น จะมีบริการอยู่ 2 รูปแบบหลัก คือ ปั้มแบบที่มีบริการสมบูรณ์ และแบบที่ต้องบริการตนเอง ถ้าเราขับรถในญี่ปุ่นหลายวัน อาจต้องมีการเติมน้ำหลายครั้ง ฉะนั้นลองมาดูกันว่าทั้งสองรูปแบบที่กล่าวมา ต้องเข้าใช้บริการอย่างไรบ้าง
- ปั้มน้ำมันแบบที่มีบริการสมบูรณ์: ใช้บริการเหมือนกับตอนอยู่ประเทศไทย แจ้งน้ำมันที่ต้องการเติม แจ้งปริมาณที่ต้องการเติม เช่น เต็มถัง, แจ้งจำนวนเงิน หรือแจ้งจำนวนลิตร ควรสอบถามให้ดีก่อนว่าปั้มที่เข้าใช้บริการ รับเฉพาะเงินสด หรือรับบัตรเครดิตได้ด้วย
- ปั้มน้ำมันแบบบริการตนเอง: ต้องเริ่มต้นด้วยการจ่ายเงินก่อน การชำระเงินสามารถจ่ายด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิตควรเช็กให้ดีก่อน จากนั้นระบุจำนวนที่ต้องการเติมด้วยยอดเงิน หรือจำนวนลิตร จากนั้นเริ่มเติมน้ำมันได้ตามปกติ หากถึงปริมาณที่เรากำหนด เครื่องจะหยุดอัตโนมัติ รวมถึงกรณีที่น้ำมันเต็มถังแล้วเช่นกัน (หากมีเงินทอนเครื่องจะคำนวณให้อัตโนมัติ)
แนะนำข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับชนิดของน้ำมันในญี่ปุ่น Regular (ปกติ) จะเทียบเท่ากับน้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทน 90, High Octane (อ็อกเทนสูง) เทียบเท่ากับน้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทน 98 ถึง 100 และ Diesel (ดีเซล)
สรุปขับรถในญี่ปุ่น ยากไหม
สรุปแล้วการขับรถในญี่ปุ่น ยากไหม ต้องบอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิด เพราะทุกคนที่เราเจอบนท้องถนน ล้วนขับรถโดยยึดถือกฎหมายอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน หากเราขับรถในญี่ปุ่น โดยปฏิบัติตาม ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาว่าอะไรได้เช่นเดียวกัน แต่ครั้งแรกอาจรู้สึกเกร็งนิดหน่อย ให้ศึกษาข้อมูลไปให้พร้อมเท่านั้นก็ถือว่าโอเคแล้ว
หลังจากที่ได้ขับรถในญี่ปุ่นมาแล้ว คงจดจำความรู้สึกที่ปลอดภัย และเรียบร้อยกันมาได้เป็นอย่างดี พอกลับมาขับขี่ในไทยแล้วอาจรู้สึกไม่คุ้นเคยเท่าไหร่นัก เพราะมีรถยนต์บนท้องถนนที่เยอะกว่า กฎหมายที่แตกต่างกัน บุคลิกการขับขี่ที่หลากหลายของผู้คน เพื่อให้การขับรถอุ่นใจถึงความปลอดภัยที่ได้รับการคุ้มครอง คงต้องมีการพิจารณาเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมเผื่อเอาไว้ เราจะได้เดินทางได้อย่างสบายใจ ซึ่งทาง แรบบิท แคร์ ยินดีให้คำแนะนำอย่างละเอียด จนกว่าคุณจะสามารถตัดสินใจได้ ทั้งยังมีส่วนลดพิเศษสูงสุดให้ถึง 70% หากสนใจติดต่อเข้ามาได้เลยที่เบอร์ 1438
สรุป
การขับรถในญี่ปุ่นไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เราขับรถในญี่ปุ่นโดยปฏิบัติตาม ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาว่าอะไรได้เช่นเดียวกัน แต่ครั้งแรกอาจรู้สึกเกร็งนิดหน่อย ให้ศึกษาข้อมูลไปให้พร้อมเท่านั้นก็ถือว่าโอเคแล้ว โดยขับรถในญี่ปุ่น ให้ใช้ใบขับขี่สากลประเภท อนุสัญญาเจนีวา 1949 แบบ 1 ปี กรณีที่ต้องการติดต่อกรมขนส่งใกล้บ้านเพื่อทำใบขับขี่สากล ต้องติดต่อเพื่อทำบัตรประเภทดังกล่าวเท่านั้น ห้ามทำผิดประเภทเด็ดขาด เพราะเลือกทำไปผิดใบ จะไม่สามารถยื่นเอกสารเพื่อขออนุญาตขับรถในญี่ปุ่นได้เลย รวมถึงเมื่อเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว ควรเตรียมใบขับขี่ปัจจุบันของเราไปเผื่อไว้ด้วย
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology