ต่อใบขับขี่ยากหรือไม่ ต่อใบขับขี่ออนไลน์ได้ไหม ต้องอบรมใหม่หรือไม่ ?







การต่อใบขับขี่เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่รถทุกคนต้องใส่ใจ เพราะหากใบขับขี่หมดอายุแล้วฝ่าฝืนขับรถต่อไป อาจโดนปรับ หรือมีความผิดตามกฎหมายได้ แต่ทั้งนี้เมื่อจะไปต่อใบขับขี่หลายคนอาจกังวลว่าการต่อใบขับขี่ยากไหม ? ต้องจองคิว ต้องอบรม ต้องสอบใหม่หรือไม่ ?
ในบทความนี้ แรบบิท แคร์ จึงจะพาทุกคนมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการต่อใบขับขี่ ทั้งในรูปแบบปกติ และต่อใบขับขี่ออนไลน์ เพื่อให้ทุกคนได้สามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้อย่างมั่นใจนั่นเอง
ต่อใบขับขี่ ยากไหม ?
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าการต่อใบขับขี่นั้นยากไหม คำตอบคือ ไม่ยาก หากเรามีการเตรียมเอกสาร และจองคิวล่วงหน้าให้เรียบร้อย ซึ่งโดยปกติกรมขนส่งทางบก ต่อใบขับขี่จะมีขั้นตอนที่ชัดเจน และสามารถดำเนินการได้ภายในวันเดียว โดยเฉพาะผู้ที่ต่อใบขับขี่แบบไม่ขาดอายุเกิน 1 ปี ไม่จำเป็นต้องสอบใหม่ และหากเคยอบรมออนไลน์ไว้ล่วงหน้าก็สามารถดำเนินการได้เร็วขึ้นอีกด้วย
ต่อใบขับขี่ 2568 ต่อใบขับขี่ออนไลน์ ได้หรือไม่ ?
ในปี 2568 นี้ กรมการขนส่งทางบกยังคงเปิดให้บริการ “ต่อใบขับขี่ออนไลน์” ผ่านระบบอบรมออนไลน์บนเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com โดยผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสามารถอบรมล่วงหน้าได้ที่บ้าน เมื่ออบรมเสร็จสามารถนำใบรับรองไปแสดงที่สำนักงานขนส่งที่จองคิวไว้เพื่อทำการขอต่ออายุใบขับขี่ของตนเองได้ทันที
ต่อใบขับขี่ ต้องอบรมไหม ?
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าจะต่อใบขับขี่จะต้องมีการอบรมใหม่หรือไม่นั้น ผู้ที่ต่อใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี หรือใบขับขี่ 5 ปีที่กำลังจะหมดอายุ จำเป็นต้องอบรมตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก โดยมีระยะเวลาอบรมประมาณ 1 ชั่วโมง และสามารถอบรมได้ทั้งแบบออนไลน์ หรืออบรม ณ สำนักงานขนส่งในวันดำเนินการต่อใบขับขี่ที่นัดหมายไว้ล่วงหน้า
ต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี ต่อใบขับขี่ 5 ปีต้องสอบใหม่ไหม ?
- ต่อใบขับขี่ชั่วคราว (2 ปี) เป็น 5 ปี ไม่ต้องสอบใหม่ แต่ต้องผ่านการอบรม และทดสอบสมรรถภาพร่างกาย เช่น การมองเห็น การตอบสนอง
- ต่อใบขับขี่แบบ 5 ปี เป็น 5 ปี ไม่ต้องสอบข้อเขียน หรือปฏิบัติ หากไม่ขาดอายุเกิน 1 ปี แต่ยังต้องอบรม และทดสอบสมรรถภาพร่างกายตามปกติ
ต่อใบขับขี่ ราคาแพงไหม ต่อใบขับขี่ กี่บาท ?
สำหรับผู้ที่มีความกังวลว่าการต่อใบขับขี่จะมีราคาแพงหรือไม่ คำตอบคือค่าธรรมเนียมการต่อใบขับขี่ถือว่าไม่แพง โดยจะมีราคา ดังต่อไปนี้
- ใบขับขี่รถยนต์ราคา 505 บาท
- ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ราคา 255 บาท
- ค่าคำขอ (ทุกกรณี) ราคา 5 บาท
ค่าธรรมเนียมในการต่อใบขับขี่นั้นไม่ได้มีราคาแพงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลใจ และรีบไปต่อในทันทีที่ใบขับขี่หมดอายุได้ ปฏิบัติตามกฎหมาย จะได้ใช้รถใช้ถนนได้อย่างวางใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียค่าปรับเพิ่มเติม

ต่อใบขับขี่ ต้องจองคิวไหม ?
ในส่วนของผู้ที่ต้องการจะไปดำเนินการต่อใบขับขี่นั้น ควรต้องจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก โดยระบบจะเปิดให้จองคิวล่วงหน้าได้ประมาณ 30 วัน หากไม่มีการจองล่วงหน้า อาจไม่สามารถเข้ารับบริการได้ในวันที่ต้องการได้เนื่องจากความหนาแน่นของจำนวนผู้ใช้บริการ
ต่อใบขับขี่ Walk In ได้ไหม ?
ความจริงแล้ว แม้ไม่ได้จองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน ก็สามารถ Walk In เข้าไปใช้บริการต่อใบขับขี่ได้เช่นกัน เพียงแต่ว่าจะได้ดำเนินการภายในวันนั้นหรือไม่อาจจะต้องพิจารณาจากจำนวนคิวสะสมหน้างานอีกครั้ง ดังนั้นเพื่อความแน่นอน และป้องกันการเสียเวลาโดยใช่เหตุแนะนำให้จองคิวไปก่อนล่วงหน้านั่นเอง
ต่อใบขับขี่ ที่ไหนได้บ้าง ?
สำหรับสถานที่ในการต่อใบขับขี่นั้น สามารถต่อใบขับขี่ได้ที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ โดยควรเลือกสำนักงานที่อยู่ใกล้บ้าน หรือสถานที่ทำงานเพื่อความสะดวก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีสำนักงานขนส่งหลายแห่งให้บริการ เช่น สำนักงานขนส่งจตุจักร , บางนา เป็นต้น
ต่อใบขับขี่ ล่วงหน้ากี่เดือน ?
สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน (3 เดือน) ก่อนวันหมดอายุที่ปรากฏในบัตร ทั้งนี้การต่ออายุใบขับขี่ก่อนวันหมดอายุช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเผลอตัวปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุลงได้ ป้องกันการโดนปรับ และเสียเงินโดยใช่เหตุนั่นเอง
ต่อใบขับขี่ เสาร์ อาทิตย์ ได้ไหม ?
โดยทั่วไปสำนักงานขนส่งทางบกส่วนใหญ่จะเปิดทำการเฉพาะวันจันทร์ถึงศุกร์ ในเวลาราชการ 08.30 – 16.30 น. แต่ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะสำนักงานขนส่งเขตกรุงเทพฯ อาจมีโครงการให้บริการพิเศษวันเสาร์ในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก เช่น ช่วงต้นปีหรือปลายปี อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบล่วงหน้าว่าสำนักงานที่ต้องการเข้ารับบริการเปิดให้บริการวันเสาร์หรือไม่ และต้องจองคิวล่วงหน้าเสมอ โดยแนะนำให้ตรวจสอบผ่านแอป DLT Smart Queue หรือสอบถามโดยตรงกับสำนักงานขนส่งที่ต้องการไปใช้บริการ

ต่อใบขับขี่ ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ไหม ?
การต่อใบขับขี่ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ผู้ยื่นคำขอต่ออายุต้องแนบใบรับรองแพทย์ด้วยเสมอ เพื่อยืนยันว่าไม่มีโรคประจำตัว หรือความบกพร่องทางร่างกายที่ส่งผลต่อความสามารถในการขับขี่ ใบรับรองแพทย์ต้องออกไม่เกิน 1 เดือนนับถึงวันที่ยื่นคำขอ และต้องเป็นไปตามแบบฟอร์มที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้เท่านั้น
ต่อใบขับขี่ ใบรับรองแพทย์ คลินิก ได้ไหม ?
สามารถใช้ใบรับรองแพทย์จากคลินิกได้ หากคลินิกนั้นมีใบอนุญาตประกอบกิจการถูกต้องตามกฎหมาย และใบรับรองแพทย์ที่ออกต้องมีรายละเอียดครบถ้วนตามแบบฟอร์มของกรมการขนส่ง เช่น ชื่อ-นามสกุลผู้ขอ วันออกเอกสาร ลายเซ็นแพทย์ และตราประทับของสถานพยาบาล รวมถึงต้องระบุว่าไม่มีโรค หรืออาการที่เป็นอุปสรรคต่อการขับขี่ ดังนั้นผู้ที่สะดวกไปที่คลินิกใกล้บ้านสามารถใช้บริการตรวจสุขภาพเพื่อขอใบรับรองแพทย์ และนำไปยื่นต่ออายุใบขับขี่ได้ตามปกตินั่นเอง
ต่อใบขับขี่ หมดอายุ ได้นานเท่าไหร่ ?
สำหรับใครที่เผลอทำใบขับขี่หมดอายุไปแล้ว และสงสัยว่าจะยังสามารถต่ออายุใบขับขี่ได้อยู่หรือไม่ จะต้องเสียค่าปรับไหม หรือต้องสอบใหม่ไหม ข้อกำหนดในการต่ออายุใบขับขี่ที่หมดอายุไปแล้วจะแตกต่างกันไปตามระยะเวลาการขาดการต่อใบขับขี่ ดังต่อไปนี้
- หมดอายุไม่เกิน 1 ปี สามารถต่ออายุได้โดยตรงที่สำนักงานขนส่ง ไม่ต้องสอบใหม่ และไม่มีค่าปรับ
- หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ยังคงสามารถต่ออายุได้ แต่ต้องสอบข้อเขียนใหม่ในระบบ E‑Exam จำนวน 50 ข้อ (ต้องตอบถูก 45 ข้อ หรือคิดเป็น 90%)
- หมดอายุเกิน 3 ปี จะถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ ต้องเข้ารับอบรม ทดสอบข้อเขียน และสอบปฏิบัติขับรถอีกครั้ง เหมือนครั้งแรกที่ทำใบขับขี่
ต่อใบขับขี่ ใช้อะไรบ้าง ต่อใบขับขี่ เอกสารที่ต้องใช้ ?
การต่อใบขับขี่นั้นไม่ว่าจะเป็นการต่อใบขับขี่รถยนต์ หรือการต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ จำเป็นต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็ว และไม่ต้องเสียเวลาย้อนกลับมาแก้ไขภายหลัง โดยผู้ที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่ จะต้องเตรียมเอกสาร ดังต่อไปนี้
- ต่อใบขับขี่ต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริง ต้องนำบัตรประชาชนฉบับจริงมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันตัวตน
- ต่อใบขับขี่ต้องใช้ใบขับขี่ฉบับเดิม (ที่กำลังจะหมดอายุ) ใช้เพื่ออ้างอิงข้อมูล และตรวจสอบวันหมดอายุ หากหาย ต้องแจ้งความแล้วขอใหม่ก่อน
- ต่อใบขับขี่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ (ไม่เกิน 1 เดือน) ระบุว่าผู้ขับขี่ไม่มีโรคต้องห้าม หรืออาการที่อาจเป็นอันตรายต่อการขับขี่ โดยสามารถขอได้จากโรงพยาบาล หรือคลินิกที่ได้รับอนุญาต
- ต่อใบขับขี่ต้องใช้หลักฐานการอบรม (เฉพาะกรณีอบรมออนไลน์) หากอบรมผ่านเว็บไซต์ DLT e-Learning ต้องพิมพ์ใบรับรองผลการอบรมออนไลน์มาแสดง

จะเห็นได้ว่า การต่อใบขับขี่ ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่หลายคนอาจกังวลใจ หากมีการวางแผน เตรียมเอกสาร และจองคิวล่วงหน้าให้เรียบร้อย ก็สามารถดำเนินการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่กรมการขนส่งทางบกมีระบบอบรมออนไลน์ช่วยให้ประหยัดเวลา ไม่ต้องนั่งฟังอบรมที่สำนักงานเป็นเวลานาน ๆ ไม่ว่าจะต้องการต่อใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี หรือจาก 5 ปี เป็นอีก 5 ปี หากไม่ขาดอายุเกิน 1 ปี ก็ไม่จำเป็นต้องสอบใหม่ เพียงแค่มีใบรับรองแพทย์ ตรวจสมรรถภาพร่างกาย และอบรมตามที่กำหนด ก็สามารถต่ออายุใบขับขี่ได้
นอกจากนี้เมื่อทำการต่ออายุใบขับขี่อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เจ้าของรถทุกคนก็ต้องไม่ลืมให้ความใส่ใจ ในการทำประกันรถยนต์ กับ แรบบิท แคร์ ไว้ เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัยที่อาจเกิดได้เสมอบนท้องถนน และเป็นการจัดการความเสี่ยงทางการเงินในอนาคตด้วยนั่นเอง
สรุป
ปี 2568 นี้ กรมการขนส่งทางบกยังคงเปิดให้บริการ “ต่อใบขับขี่ออนไลน์” ผ่านระบบอบรมออนไลน์ และในกรณีที่ต้องการต่อไบขับขี่ แม้จะสามารถ Walk In ได้ แต่ก็แนะนำว่าควรต้องจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก เพื่อป้องกันการเสียเวลา และควรต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน (3 เดือน) ก่อนวันหมดอายุที่ปรากฏในบัตร เพื่อป้องกันการโดนปรับ และเสียเงินโดยใช่เหตุ นอกจากให้ระวัง เพราะหากขาดการต่อใบขับขี่มากกว่า 1 ปีขึ้นไป จะต้องสอบใหม่ทันที

ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี