ชวนนักขับมาทำใบขับขี่ออนไลน์ สไตล์ New normal
ในช่วงที่บ้านเมืองกำลังอยู่ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลาย ๆ คนจึงต้องเพิ่มการระมัดระวังตัวในการใช้ชีวิตมากขึ้น และเกิด New Normal คือวิถีการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ของคนในปัจจุบัน ที่ต้องปรับตัวเพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่ได้โดยรอดพ้นจากความเสี่ยงติดเชื้อให้ได้มากที่สุด
รวมทั้ง การทำใบขับขี่ ที่เดิมทีผู้ขับขี่นั้นต้องเป็นผู้ทำการดำเนินการด้วยตนเองที่ขนส่งฯ แต่ในปัจจุบันนั้น มีมาตรการที่งดการรวมตัวหรือสัมผัสสิ่งของร่วม เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่-ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้มีการเปิดให้ทำใบขับขี่ออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ สำหรับใครที่ยังไม่เคยลองทำผ่านช่องทางออนไลน์ วันนี้เราขอชวนให้คุณมาลองทำไปพร้อม ๆ กัน บอกเลยว่าสะดวก และทำใบขับขี่ได้ง่ายมาก จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
ทำใบขับขี่ออนไลน์ สไตล์ New normal
สำหรับผู้ขับขี่ท่านใดที่ใบขับขี่กำลังจะหมดอายุ แล้วต้องการต่ออายุใบขับขี่เพื่อให้คงสถานะที่ใช้งานได้ตามเดิม แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน หรือเหตุผลส่วนตัวใด ๆ ก็ตาม ที่ทำให้ยังไม่สามารถเดินทางไปที่ขนส่งฯ เพื่อดำเนินการทำใบขับขี่ดิจิทัลด้วยตนเองได้ โดยทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ลงทะเบียน
เข้าไปที่เว็บไซต์ www.dlt-elearning.com ของกรมการขนส่งทางบก โดยสามารถใช้ได้ทั้งทางสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ เมื่อเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์แล้ว ให้กดปุ่ม “ลงทะเบียน” กรอกข้อมูลตามที่เว็บไซต์ระบุ ตรวจสอบข้อมูลให้ครบและถูกต้อง หลังจากนั้นกด “ยืนยัน”
แบบทดสอบก่อนฟังอบรมออนไลน์
เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการทำแบบทดสอบก่อนเข้ารับการอบรม โดยกดเลือกประเภทของยานยนต์ของคุณ ตามรายการดังนี้
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถจักรยานยนต์,สามล้อ,รถยนต์) ใช้เวลาอบรม 1 ชม.
- ใบอนุญาตขับรถขนส่ง ใช้เวลาอบรม 2 ชม.
- ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถจักรยานยนต์สาธารณะ, รถยนต์สามล้อสาธารณะ, รถยนต์สาธารณะ) ใช้เวลาอบรม 3 ชม.
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถจักรยานยนต์, รถสามล้อ, รถยนต์) สำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่ได้ทำการต่ออายุใบขับขี่ เกิน 1 ปี ใช้ระยะอบรม 2 ชม.
เมื่อเลือกประเภทเรียบร้อยแล้วจะมีแบบทดสอบขึ้นมา ให้เลือกคำตอบที่คิดว่าถูกที่สุด ทำจนครบทุกข้อ
รับชมวีดิโออบรม
รับชมสื่อวิดีโออบรมใบขับขี่ ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง ให้ทำความเข้าใจเนื้อหาในระหว่างการอบรม เพื่อเตรียมตัวทำแบบทดสอบในขั้นตอนต่อไป
ทำแบบทดสอบหลังการอบรม
หลังจากที่รับชมสื่อวิดีโออบรมใบขับขี่จนจบเรียบร้อยแล้ว ระบบจะมีแบบทดสอบให้ทำอีกครั้ง ให้ทบทวนจากเนื้อหาในการอบรมที่รับชมมา แล้วเลือกคำตอบที่ถูกต้อง ทำจนครบทุกข้อแล้วกดส่งแบบทดสอบ หากหน้าจอระบบแสดงผลว่าคุณมีคะแนนที่ผ่านเกณฑ์แล้ว ให้ทำการบันทึกภาพหน้าจอเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปยื่นสำหรับการดำเนินการต่อใบขับขี่ตัวจริง ภายใน 90 วัน
จองคิวทำใบขับขี่
หาวัน-เวลาที่ว่าง เพื่อทำการจองคิวทำใบขับขี่ตัวจริง โดยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue เพื่อทำการจองคิวตามวันและเวลาดังกล่าวได้เลย
ใบขับขี่ออนไลน์ ใช้แทนใบขับขี่จริงได้ไหม?
เชื่อว่าหลายคนน่าจะยังมีข้อสงสัยว่า แล้วใบขับขี่ที่เป็นแบบดิจิทัลนั้น จะสามารถใช้งานแทนใบขับขี่ตัวจริงได้ไหม ในที่นี้ขออธิบายว่า คุณสามารถใช้ใบขับขี่ดิจิทัลแสดงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เมื่อมีการเรียกตรวจ ตามราชกิจจานุเบกษา พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 ที่ระบุว่า
“มาตรา 31/1 ในขณะขับรถในทางเดินรถ ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวและต้องแสดง ต่อเจ้าพนักงานจราจรเมื่อขอตรวจ ในกรณีที่ผู้ขับขี่แสดงใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือสำเนาภาพถ่าย ใบอนุญาตขับขี่ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ถือว่าผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวตามวรรคหนึ่งแล้ว ดังนั้น ตำรวจจราจรสามารถเรียกตรวจใบขับขี่ได้ ออกใบสั่งได้ แต่จะยึดใบขับขี่ไม่ได้ และประชาชนใช้ใบขับขี่ดิจิทัลจากกรมการขนส่งทางบกได้”
ทำไมจึงควรทำใบขับขี่ออนไลน์
การทำใบขับขี่ออนไลน์นั้น นอกจากจะมีข้อดีในเรื่องของความสะดวก ลดความเสี่ยงติดเชื้อในช่วงโควิด-19 แล้ว ยังมีประโยชน์อีกหลายประการที่คุณอาจยังไม่ทราบ ได้แก่
- แอปพลิเคชั่นของใบขับขี่ออนไลน์จะมีเมนู SOS สำหรับขอความช่วยเหลือในกรณีที่ประสบเหตุฉุกเฉิน โดยแอปฯ จะสามารถใช้โทรฯ แจ้งหรือส่ง SMS ไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ามาช่วยเหลือ
- เมื่อใกล้ถึงเวลาที่ใบขับขี่จะหมดอายุ ระบบจะมีการแจ้งเตือนให้ทราบ
- ผู้ขับขี่จะสามารถรับข้อมูลข่าวสารและประกาศสำคัญต่าง ๆ ผ่านทางแอปฯ ได้เลย
- สามารถแชร์เส้นทางการเดินทางให้กับผู้อื่นทราบได้
- หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับตัวผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบข้อมูลสำคัญเพื่อทำการช่วยเหลือได้ เช่น ประวัติการแพ้ยา, กรุ๊ปเลือด, สิทธิการรักษาพยาบาล และข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษา
เพราะใบขับขี่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักขับทุกคน หากนักขับคนใดที่ไม่มีใบขับขี่หรือขาดการต่ออายุใบขับขี่แต่ยังใช้งานยานยนต์ขับขี่สัญจรบนท้องถนน จะถือว่ามีความผิด หากตรวจพบจะมีบทลงโทษ นอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ขับขี่ต้องไม่ลืม ก็คือการต่ออายุประกันภัยรถยนต์เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น จะได้มีประกันภัยชั้น 1ที่เข้ามาช่วยรองรับความเสี่ยงนี้ และผ่อนปัญหาจากหนักให้เป็นเบา
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology