เมื่อต้องเจอกับปัญหาไฟ abs โชว์ แล้วแบบนี้จะทำอย่างไรดี
เคยสังเกตกันไหมว่า รถยนต์ที่เราขับเป็นประจำทุกวัน แต่วันนี้ดันมีไฟ ABS โชว์ขึ้นมาตลอดแสดงว่า รถยนต์ของคุณนั้นเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับระบบเบรก เนื่องจาก ABS ย่อมาจาก Antilock Braking System ระบบป้องกันเบรกล็อค ไฟ abs โชว์ แล้วจะทำอย่างไรดี มีความอันตรายแค่ไหน และต้องระวังอะไรบ้าง วันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ขับขี่รถยนต์มาฝากกัน
ถ้าไฟ abs โชว์ จะต้องทำอย่างไรดี
การสังเกตไฟเตือนต่างๆ ที่จะขึ้นบอกอยู่บนหน้าปัดด้านหน้าคนขับ ซึ่งสัญญาณเหล่านี้มีไว้เตือนเจ้าของรถในเรื่องต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายได้ เช่น การไม่คาดเข็มขัดนิรภัย, น้ำมันใกล้หมด, ไฟสัญญาณต่าง ๆ ระบบเบรก ABS ขัดข้อง น้ำมันเบรกเริ่มขาด, แบตเตอรี่ใกล้ถึงเวลาเปลี่ยน, และไฟสัญญาณต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ที่ไฟ ABS โชว์มาจากอุปกรณ์ชุดชิ้นส่วนเกิดความบกพร่อง เช่น สายไฟหรือเซ็นเซอร์เกิดการขาด แอคชิวเอเตอร์หรือกล่องควบคุม ECU/ABS เกิดการขาดวงจร เป็นต้น
หากไฟ ABS เกิดการโชว์เตือนขึ้นมาควรแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากรถยนต์จะไม่สามารถใช้เบรกนี้ได้ก็อาจจะยิ่งเป็นอันตรายได้ เราลองมาดูวิธีการตรวจเช็คว่าจะต้องศึกษาอะไรบ้างกัน ซึ่งมีดังนี้
- เบรกมีความหนึบดีหรือไม่
ถ้าโดยปกติแล้วเบรก ABS จะสามารถวัดความถี่ได้จากการจับแล้วปล่อย ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 100 ครั้งต่อวินาที โดยจะสังเกตได้ว่า ในยามที่เจ้าของรถยนต์หรือผู้ที่ขับรถนั้นเวลาแตะเบรกจะมีไฟขึ้นอัตโนมัติ แต่เป็นการแตะแล้วปล่อยไปเรื่อย ๆ ซึ่งถือว่ายังไม่ค่อยน่าเป็นห่วงมากนัก
- นำรถยนต์ออกทดสอบเบรก
ลองหาพื้นที่โล่งแล้วขับตามปกติ ถ้ามีเสียงดังพร้อมอาการกระตุกที่แป้นเบรกก็แสดงว่าเบรกเอบีเอสยังใช้สามารถใช้การได้อยู่ แต่ถ้าไฟแดงจากเบรก ABS ขึ้นแล้วไม่ยอมลง ก็ให้สัญนิฐานได้เลยว่า เบรกเริ่มมีปัญหา และให้คอยสังเกตอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เผื่อว่าถ้านำรถไปเข้าศูนย์บริการซ่อมก็จะได้แจ้งกับเจ้าหน้าซ่อมได้ตรงจุดนั่นเอง
- เบรคมีอาการติด
เมื่อเบรกเริ่มมีความชื้น หรืออาจเกิดจากน้ำเข้าจนเกิดเป็นสนิม แล้วส่งผลให้ลูกสูบเบรกติดจนเกิดการกดจานเบรกตลอดเวลา และเมื่อขับบนท้องถนนอาจมีอาการรถวิ่งไม่ค่อยสะดวก หรือวิ่งตื้อ ๆ หรือวิ่งปัดไปปัดมาทางใดทางหนึ่ง และอาจส่งผลให้ผ้าเบรกร้อนจนมีกลิ่นเหม็นไหม้ ฉะน้้นแล้วเมื่อมีอาการเช่นนี้ก็ต้องไม่ลืมที่จะนำรถเข้าศูนย์เพื่อทำการตรวจเช็คอย่างเร่งด่วน
- น้ำมันเบรกรั่ว
อาจเกิดจากการมีรอยแตก เช่น ท่อแป๊บน้ำมันเบรก ลูกยาง ตามความเสื่อมสภาพของการใช้งาน ทำให้น้ำมันเบรกไหลออก ถือว่ามีความอันตรายเป็นอย่างมาก เพราะไม่สามารถลดหรือชะลอความเร็วได้เลย เวลาช่วงที่เหยียบเบรกจะเกิดอาการแป้นเบรคจะจมจนกดติดพื้น ทางที่ดีต้องหมั่นสังเกตให้ดี เพราะถือว่าเป็นการเพิ่มความปลอดภัยไปในตัว
- หมั่นตรวจเช็คสภาพรถยนต์
เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เจ้าของรถยนต์ควรนำรถยนต์ของท่านไปทำความสะอาด หรือเข้ศูนย์บริการเพื่อทำการเช็คสภาพรถยนต์ของคุณอยู่เสมอ โดยเฉพาะระบบ เบรก ABS นัั้นมีความชำรุด หรือเริ่มที่จะเสียหาย หรือใกล้เสื่อมสภาพตามกาลเวลาแล้วหรือไม่ จะได้ทำการแก้ไขให้ดี ซึ่งในแต่ละปีควรทำการเช็คประมาณ 1 – 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ
- เช็คตรวจสอบสภาพลมยาง
ในบางครั้งเราต้องสังเกตด้วยว่า ลมยางนั้นมีอาการอ่อนไปหรือแข็งจนเกินไป ก็อาจจะส่งผลให้มีผลต่อการแจ้งเตือนของไฟเบรกเอบีเอสได้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นเจ้าของรถยนต์จึงควรหมั่นตรวจลมยางเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาความอ่อนและแข็งของลมยางที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นจึงควรตรวจสอบให้เหมาะสมเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพขณะขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการยึดเกาะผิวถนนที่ดี และยังส่งผลให้เกิดความปลอดภัยขณะขับขี่ด้วย
คนขับรถยนต์จะต้องทำอย่างไร หากไฟเอบีเอสโชว์
เราสามารถลองรีเซ็ตข้อผิดพลาดโดยถอดขั้วออกจากแบตเตอรี่ แต่หากเราขับรถอยู่ลองเร่งรถบนทางเรียบสูงถึง 40 กม. / ชม. โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าการหยุดฉุกเฉินจะไม่สร้างปัญหาให้กับผู้ขับขี่รายอื่น แล้วกดแป้นเบรกอย่างแรงและเบรกจนสุด หากวิธีนี้ไม่ช่วยแสดงว่าปัญหาไม่ได้อยู่ในความล้มเหลวของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ควรนำรถไปตรวจเช็คหรือพบช่างจะดีกว่า
วิธีการเหล่านี้จะช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาเรื่องไฟเตือน ABS ในเบื้องต้น นอกจากนี้ก็ควรเช็คความปลอดภัยของระบบเบรก ล้อ ยางและช่วงล่างเป็นประจำ เพื่อทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาเรื่องไฟ ABS ขึ้นเตือนกะทันหัน ก็ควรที่จะลดความเร็วของการขับขี่ลง ไม่ประมาท โดยเฉพาะบนถนนเปียกที่มีความลื่นสูง เพื่อป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุ และรีบนำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็คทันที
ถ้าระบบเบรคมีปัญหา ประกันรถยนต์แต่ละชั้นคุ้มครองอย่างไร
การคุ้มครองของประกันรถยนต์ในกรณีที่ระบบเบรกมีปัญหาและทำให้เกิดอุบัติเหตุจะแตกต่างกันไปตามประเภทของประกันภัยที่คุณทำไว้ โดยทั่วไป ประกันรถยนต์ในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 5 ชั้นหลัก ๆ ดังนี้
1. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
- คุ้มครองกรณีอุบัติเหตุจากระบบเบรกเสีย
- ประกันชั้น 1 จะคุ้มครองความเสียหายต่อรถของคุณ รวมถึงกรณีที่ระบบเบรกมีปัญหาและทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถยนต์ของบุคคลภายนอกและทรัพย์สินของพวกเขาที่ได้รับความเสียหายด้วย
- ค่ารักษาพยาบาล
- ประกันชั้น 1 จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของคุณและบุคคลในรถ หากได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากระบบเบรกเสีย รวมถึงคุ้มครองบุคคลภายนอกที่ได้รับบาดเจ็บ
- คุ้มครองค่าซ่อมบำรุง
- ในบางกรณี หากระบบเบรกมีปัญหาและถือว่าเป็นการสึกหรอตามการใช้งานตามปกติ ประกันอาจไม่คุ้มครองค่าซ่อมบำรุง แต่จะคุ้มครองเฉพาะกรณีที่ระบบเบรกทำให้เกิดอุบัติเหตุเท่านั้น
2. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
- คุ้มครองกรณีอุบัติเหตุจากระบบเบรกเสีย
- ประกันชั้น 2+ จะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการชนกับยานพาหนะอื่น (ที่มีคู่กรณี) ในกรณีที่ระบบเบรกมีปัญหาแล้วทำให้เกิดการชน รวมถึงค่าซ่อมรถของคู่กรณีและรถของคุณด้วย แต่ไม่คุ้มครองกรณีที่รถชนกับสิ่งของหรือล้มเอง
- ค่ารักษาพยาบาล
- ประกันชั้น 2+ จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของบุคคลที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุเช่นเดียวกับประกันชั้น 1
3. ประกันชั้น 3+ ราคาประหยัด
- คุ้มครองกรณีอุบัติเหตุจากระบบเบรกเสีย
- ประกันชั้น 3+ คุ้มครองคล้ายกับประกันชั้น 2+ โดยจะครอบคลุมในกรณีที่รถชนกับยานพาหนะอื่นที่มีคู่กรณีเท่านั้น การชนแบบไม่มีคู่กรณีจะไม่ครอบคลุม
- ค่ารักษาพยาบาล
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับบุคคลที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากระบบเบรกมีปัญหา
4. ประกันชั้น 2
- คุ้มครองกรณีอุบัติเหตุจากระบบเบรกเสีย
- ประกันชั้น 2 คุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อบุคคลภายนอกและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก แต่ไม่คุ้มครองค่าซ่อมแซมรถของคุณเองหากเกิดอุบัติเหตุจากระบบเบรกเสีย
- ค่ารักษาพยาบาล
- จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของบุคคลภายนอกและผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
- คุ้มครองกรณีอุบัติเหตุจากระบบเบรกเสีย
- ประกันชั้น 3 จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และไม่คุ้มครองรถของคุณเองจากอุบัติเหตุที่เกิดจากปัญหาระบบเบรก
- ค่ารักษาพยาบาล
- ประกันชั้น 3 จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของบุคคลภายนอกและผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
หากคุณกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและปัญหาระบบเบรก การทำประกันชั้น 1 จะเป็นทางเลือกที่คุ้มครองมากที่สุด
อัปเดตรถยนต์ใหม่ ราคาดี๊ดี พร้อมโปรโมชั่นใหม่ ๆ คลิก one2car.com ด้วยข้อเสนอพิเศษประกันรถชั้น 1 จาก แรบบิท แคร์ ที่คุณไม่ควรพลาด! ปกป้องรถของคุณด้วยความคุ้มครองที่ทั่วถึงและบริการที่น่าเชื่อถือ ลดความกังวลและเพิ่มความปลอดภัยในทุกเส้นทาง! สิทธิพิเศษรอคุณอยู่ ติดต่อเราสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือซื้อประกันรถยนต์ที่ 1438
สนับสนุนบทความดี ๆ โดย Autospinn และติดตามเรื่องรถใหม่ก่อนใคร
ที่มา Kmotors และsiamcardeal
มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 10 ปี เขียนด้านเงิน การลงทุน บทความวิเคราะห์สถานการณ์การเงินในประเทศ และฝากผลงานไว้ที่ Rabbit Care ถึง 4 ปี