สำคัญ! จะซื้อคาร์ซีทให้ลูกต้องรู้อะไรบ้าง?
คุณพ่อคุณแม่คงปฎิเสธหรือหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพาลูกน้อยนั่งรถยนต์ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่สิ่งหนึ่งที่จะสร้างความปลอดภัยให้แก่ลูกน้อยของเราได้นั่นคือ คาร์ซีท (Car seat) หรือเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางให้แก่ลูกน้อยได้ แต่จะเลือกยังไงให้ปลอดภัยและใช้งานคุ้มค่า ตามไปดูเลย!
ประโยชน์ของคาร์ซีท (Car seat)
รายงานจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ได้จัดอันดับอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินในเด็ก 10 อันดับ เมื่อปี 2559 พบว่า เด็กอายุ 1-15 ปี ประสบอุบัติเหตุยานยนต์ ซึ่งมียอดเด็กเสียชีวิตรวม 36,203 คน รองลงมาจากการเจ็บป่วยฉุกเฉินเกี่ยวกับกุมารเวชกรรม ทำให้คาร์ซีทเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับลูกน้อย เพราะเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่จะช่วยป้องกันและช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
อีกทั้งยังช่วยเพิ่มสมาธิให้กับคุณพ่อคุณแม่ในการขับขี่รถยนต์ได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังว่าลูกน้อยจะอยู่นั่งไม่สบาย หรือดิ้นไปมาบนเบาะหลัง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าเสียอีก
คาร์ซีท 3 แบบ ที่ต้องเลือกให้เหมาะกับลูกน้อย
เมื่อคุณพ่อ คุณแม่ตัดสินใจได้ว่าจะซื้อคาร์ซีทให้ลูกน้อยนั่งในรถเพื่อความปลอดภัยสำหรับการเดินทาง แต่ติดปัญหาที่ตามมาคือจะเลือกแบบไหนให้เหมาะกับลูกน้อยของเรา ซึ่งข้อแรกที่คุณพ่อคุณแม่ดูจากอายุของลูกน้อยว่าตอนนี้อายุเท่าไร เพราะคาร์ซีท (Car seat) จะแบ่งตามช่วงอายุของเด็ก ซึ่งแบ่งออกได้ 3 ประเภทตามวัยของลูกน้อย ดังนี้:
1.คาร์ซีท สำหรับเด็กวัยแรกเกิดถึง 12 เดือน แบ่งออกเป็น 2 แบบตามลักษณะสินค้าคือ แบบกระเช้า ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด – 18 เดือน หรือแบบนั่งหันหน้าไปหลังรถ แบบนี้จะติดตั้งแบบหันหลังไปด้านหน้า และหันหน้าเด็กไปหลังรถ เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงประมาณ 15 เดือน
2.คาร์ซีทสำหรับวัยเด็กเล็ก ใช้ได้ตั้งแต่ 12 เดือน – 4 ปี ควรเลือกเป็นคาร์ซีทแบบผสมที่ใช้ได้ทั้งสองแบบ ที่ค่อนข้างคุ้มค่าเพราะนอกจากใช้หันหลังเด็กออกหน้ารถตอนที่กระดูกยังไม่แข็งแรงแล้ว เมื่อเริ่มโตขึ้นมาหน่อย ยังหันมานั่งแบบหันหน้าออกหน้ารถได้อีกด้วย ช่วยลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี
3.คาร์ซีทเด็กบูสเตอร์ แบ่งออกเป็น 3 แบบตามอุปกรณ์เสริม คือ ตั้งแต่อายุ 1 – 12 ปี ใช้ได้แบบมีที่กั้นด้านหน้า พนักพิงพร้อมเบาะรองนั่ง หรือ ตั้งแต่อายุ 3 – 12 ปี ใช้ได้แบบมีพนักพิงและเบาะรองนั่ง และตั้งแต่อายุ 3 – 12 ปี ใช้ได้แบบมีแต่เบาะรองนั่ง ใช้ได้ตั้งแต่ 5 – 12 ปี เรียกได้ว่าใช้ได้ตั้งแต่เล็กเล็กจนถึงเด็กโตเลยนะคะ
เลือกคาร์ซีทให้เป๊ะ ไม่ใช่เรื่องยาก
- เข็มขัดนิรภัย เข็มขัดนิรภัยของคาร์ซีทต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัย และควรเป็นเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด เพื่อยึดร่างกายของลูก ๆ ไว้กับเบาะนั่งให้กระชับ
- วัสดุ ควรเลือกคาร์ซีทที่ผลิตจากวัสดุที่มีคุณสมบัติกันแรงกระแทก ยืดหยุ่นได้เล็กน้อย และทนทาน สำหรับการใช้งานที่คุ้มค่าและปลอดภัยที่สุด
- มาตรฐานความปลอดภัย ควรเลือกคาร์ซีทที่ผ่านมาตรฐานจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ อาทิ Federal Motor Vehicle Safety Standard 213 ของประเทศสหรัฐฯ เป็นต้น
- ความใหม่ของผลิตภัณฑ์ การซื้อคาร์ซีทมือหนึ่งซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ย่อมดีกว่า มั่นใจกว่า และเชื่อเถอะว่าคุ้มค่ากว่าแน่นอน เพราะเราไม่สามารถรู้เลยว่าคาร์ซีทมือสองนั้นผ่านการใช้งานอย่างไร เคยแตกหักหรือไม่ ซึ่งไม่ควรเสี่ยงนะคะ
- ราคา อาจไม่ใช่เครื่องการันตีคุณภาพเสมอไป เพราะฉะนั้นควรลองเปรียบเทียบคุณสมบัติให้หลากหลาย และเลือกราคาที่ไม่แพงจนเกินไป และคิดว่าใช้งานคุ้มค่า
ป้องกันความปลอดภัยด้วยประกันรถยนต์
อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทาง เมื่อต้องมีลูกน้อยนั่งอยู่ในรถยนต์ด้วย นั่นคือ การทำประกันภัยรถยนต์ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ คุณไม่จำเป็นต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปก่อน แถมวงเงินค่ารักษาพยาบาลนั้นครอบคลุมทั้งผู้เอาประกัน ผู้โดยสารภายในรถยนต์ และคู่กรณี ขณะเดียวกันไม่ว่าถูกหรือผิดก็มีสิทธิ์ได้รับค่าเสียหายตามประเภทกรมธรรม์ และเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็ไม่ต้องกังวลใจ เพราะมีบริการฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
การทำประกันรถยนต์ล้วนแล้วแต่มีข้อดี สนใจทำประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ที่ Rabbit Care
บทความเกี่ยวกับแม่และเด็กอื่นๆ
มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 10 ปี เขียนด้านเงิน การลงทุน บทความวิเคราะห์สถานการณ์การเงินในประเทศ และฝากผลงานไว้ที่ Rabbit Care ถึง 4 ปี