แมวอ้วก แมวอาเจียน อันตรายไหม ? เป็นสัญญาณบ่งบอกอะไร ?
‘แมวอ้วก’ สถานการณ์ที่สำหรับเหล่าทาสแล้วคงถือเป็นเรื่องหนักอกหนักใจ ว่านายท่านแมวของเราเกิดความเจ็บป่วยหรือมีความผิดปกติในร่างกายอย่างไรหรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้วหากเป็นการขย้อนก้อนขนทั่วไปก็อาจจะไม่รู้สึกกังวลใจ แต่หากแมวอ้วกเป็นลักษณะอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การขย้อนขนและไม่ทราบสาเหตุก็สามารถทำให้เกิดความกังวลขึ้นได้
วันนี้ แรบบิท แคร์ จึงได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับแมวอ้วก แมวอาเจียนมาให้ ว่าอาจเกิดจากสาเหตุอะไร มีลักษณะแบบไหน มีอันตรายร้ายแรงหรือไม่ รวมถึงเกร็ดความรู้ต่าง ๆ ที่ควรทราบกันไว้ เกี่ยวกับอาการแมวอ้วกเพื่อที่จะได้ไปใช้ดูแลนายท่านของทุกคน
แมวอ้วก เพราะอะไร ?
สำหรับอาการแมวอ้วกหรืออาเจียนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเพราะได้สัมผัสกับสารพิษ รับประทานสิ่งของผิดปกติเข้าไป มีความผิดปกติภายในลำไส้ มีความผิดปกติเกี่ยวกับอวัยวะภายใน มีความผิดปกติเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร การติดเชื้อต่าง ๆ หรือการเป็นโรคต่าง ๆ ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้แมวอ้วกได้ เพราะฉะนั้นเมื่อแมวอ้วกเจ้าของก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรรีบเร่งหาสาเหตุให้ไวจะได้ทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที
ลักษณะอาเจียน แมวอ้วก
เมื่อแมวอ้วกนั้นสิ่งหนึ่งที่จะต้องให้ความสำคัญก็คือการสังเกตลักษณะของอาเจียนที่แมวอ้วกออกมาว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลไปแจ้งให้กับสัตวแพทย์ได้ทำการวินิจฉัยว่าแมวของเราเป็นอะไร แมวอ้วกออกมาเพราะอะไร ซึ่งหลัก ๆ แล้วลักษณะอาเจียนของแมวก็จะมี ดังนี้
- แมวอ้วก เป็นอาหาร อาจมีอาการแพ้อาหารหรือมีการอักเสบในกระเพาะอาหาร
- แมวอ้วก เป็นน้ำใส ๆ อาจเกิดขึ้นจากอาการท้องว่างหรือการสำรอกน้ำลายออกจากหลอดอาหาร
- แมวอ้วก ท้องเสีย อาจมีการติดเชื้อ ลำไส้อักเสบ
- แมวอ้วก สีเหลือง อาจเป็นเพราะย่อยอาหารได้ไม่หมดหรืออ้วกน้ำดีในท้อง
- แมวอ้วกสีขาวมีฟอง อาจเป็นการขย้อนก้อนขนในขณะที่ท้องว่าง
- แมวอ้วกสีขาวมีฟอง ท้องเสีย เป็นสัญญาณผิดปกติ
- แมวอ้วกเป็นสีน้ำตาล มีกลิ่น อาจเป็นสัญญาณของการมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร หรืออาจมีปัญหาเกี่ยวกับตับและไตได้
- แมวอ้วกเป็นเลือด อาจเกิดจากการอักเสบในกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร หรือลำไส้ส่วนบน
หากแมวอ้วกเพราะขย้อนขนก็สามารถเบาใจได้ แต่หากสังเกตลักษณะแมวอ้วกแล้วพบว่ามีความเสี่ยงจะเกิดการติดเชื้อหรือเป็นอาการบ่งชี้ที่ค่อนข้างอันตรายควรเร่งรีบพาน้องแมวไปพบแพทย์ทันที
สาเหตุที่แมวอ้วก อาจเป็นสัญญาณบอกอะไร ?
อย่างที่ได้เกริ่นไปในข้างต้นแล้วว่าสาเหตุที่ทำให้แมวอ้วกนั้นมีอยู่มากมายหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่จะทำให้แมวอ้วก ก็คือ
- ก้อนขนอุดตัน เกิดจากการที่มีเส้นขนสะสมอยู่ในท้องจากการที่แมวเลียขนตัวเองอยู่เสมอมากจนเกินไปจนมีการอุดตันเกิดขึ้น ทำให้แมวจำเป็นต้องขย้อนก้อนขนเหล่านั้นออกมา
- มีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร เกิดขึ้นได้จากการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ผลข้างเคียงของยา หรือการได้รับสารพิษชนิดต่าง ๆ เข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
- รับประทานสิ่งแปลกปลอมเข้าไป แมวบางตัวชอบกัดหรือเคี้ยวสิ่งของจึงอาจทำให้เผลอกลืนลงไปได้ ส่งผลให้เกิดการอุดตันในทางเดินอาหารและมีการอาเจียนเกิดขึ้นได้
- อาการภูมิแพ้แมว หรือโรคลำไส้อักเสบ อาจมีการแพ้อาหารเกิดขึ้นเมื่อแมวรับประทานอาหารบางชนิดเข้าไป ทำให้เกิดภาวะลำไส้อักเสบ และท้องเสียเรื้อรังได้นั่นเอง
- มีอาการเจ็บป่วย การเป็นโรคเรื้อรังหลายชนิดทำให้แมวอ้วกเรื้อรังได้ เช่น โรคตับอ่อนอักเสบ โรคไต โรคมะเร็ง ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป เป็นต้น
- การติดเชื้อปรสิต การติดเชื้อปรสิตทำให้แมวอ้วกได้ สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ง่าย ๆ โดยการตรวจหาปรสิตที่ยังมีชีวิตในอาเจียนของแมว
สาเหตุเหล่านี้ถือเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่พบได้บ่อยจากการอาเจียนของแมว ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจถึงสาเหตุและเพื่อความปลอดภัยของน้องแมว ควรพาไปรับการตรวจและรักษากับสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทันที
แมวอ้วกต้องทำอย่างไร ?
บ่อยครั้งที่เมื่อสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราเกิดอาการผิดปกติหรือมีอาการเจ็บป่วยก็จะทำให้เจ้าของเกิดความลนลานทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อแมวอ้วกต้องทำอย่างไร แรบบิท แคร์ รวบรวมสิ่งที่ต้องทำเมื่อแมวอ้วกมาให้ ดังนี้
- ตั้งสติและสังเกตลักษณะของอาเจียนน้องแมวอย่างละเอียด
- สังเกตลักษณะอาการเบื้องต้นอื่น ๆ ของน้องแมว เช่น มีไข้ไหม ท้องเสียหรือไม่
- ให้น้องแมวดื่มน้ำ และสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
- หากอาการไม่ดีขึ้นและมีการอาเจียนซ้ำควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
หากแมวอ้วกและท้องเสียยามวิกาลต้องทำอย่างไร ?
กรณีที่น้องแมวอ้วก ท้องเสีย และมีสภาวะผิดปกติในยามวิกาลซึ่งไม่สามารถพาไปพบสัตวแพทย์ในทันทีได้นั้นควรปฏิบัติอย่างไร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อได้ให้ข้อมูลวิธีปฏิบัติเมื่อแมวอ้วกและท้องเสียว่า หากไม่สามารถพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ทันทีได้ สิ่งที่เจ้าของจะต้องปฏิบัติมีดังนี้
- งดอาหารน้องแมวเป็นระยะเวลา 6-12 ชั่วโมง เพื่อเป็นการลดการทำงานของลำไส้
- ให้น้องแมวดื่มน้ำโดยอาจเสริมเกลือแร่ซองเพื่อทดแทนเกลือแร่ที่เสียไป
- หากเช้าแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นจะต้องพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ในทันที
แมวอ้วก อันตรายหรือไม่ ?
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าแมวอ้วกอันตรายหรือไม่ หากเป็นการอ้วกเพื่อขย้อนก้อนขนทั่วไปนั้นไม่ถือว่าอันตราย แต่หากเป็นการอาเจียนที่อาเจียนมีสีและกลิ่นที่ผิดปกติ รวมถึงมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ ท้องเสีย นั้นถือว่าอันตราย ทั้งอาจเป็นสัญญาณของโรคร้าย หรืออาจเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องแมวสูญเสียน้ำและเกลือแร่ภายในร่างกายจนอาจถึงขั้นช็อกและเสียชีวิตได้เลยนั่นเอง
แมวอ้วกแบบไหนที่ต้องกังวล
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าหากแมวของเราอ้วกโดยการขย้อนก้อนขนออกมานั้นไม่น่ากังวลใจ แต่หากเป็นการอ้วกที่มีสี กลิ่น และอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วยถือว่าอันตรายและเจ้าของควรที่จะต้องกังวลใจ อีกทั้งในกรณีที่แมวอ้วกบ่อย ๆ อ้วกเป็นประจำ หรืออ้วกหลังจากรับประทานอาหารทุกมื้อแม้จะไม่มีสีหรือกลิ่นที่ผิดปกติก็ถือเป็นอาการที่น่ากังวลใจเช่นกัน ควรรีบนำน้องแมวไปพบกับสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาทันที
วิธีป้องกันไม่ให้แมวอ้วก
แน่นอนว่าคงไม่มีเจ้าของคนไหนอยากเห็นแมวของตนเองมีอาการอ้วกหรืออาการผิดปกติทางร่างกาย แล้วจะสามารถป้องกันไม่ให้แมวอ้วก หรืออย่างน้อยก็ลดโอกาสที่จะอ้วกลงได้ไหม คำตอบคือสามารถทำได้ด้วยวิธีการดังนี้
- แปรงขนให้กับน้องแมวเป็นประจำ เพื่อลดการกลืนเส้นขนลงไปสะสมในกระเพาะจนเกิดการอุดตันและทำให้แมวอาเจียนนั่นเอง
- ให้อาหาร/ขนมคุณภาพสูงกับน้องแมว การให้อาหารและขนมแมวคุณภาพดีจะช่วยลดโอกาสในการอาหารไม่ย่อยรวมถึงลดโอกาสเกิดการระคายเคือง/ติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารน้องแมวได้
- ให้ความสำคัญกับความสะอาดของน้ำ การดื่มน้ำที่ไม่สะอาดหรือมีการปนเปื้อนจะทำให้น้องแมวติดเชื้อปรสิตที่มากับน้ำได้ ดังนั้นควรดูแลให้น้ำดื่มน้องแมวสะอาดอยู่เสมอ
วิธีการตรวจวินิจฉัยของแพทย์
เมื่อน้องแมวของเราอ้วกและพาไปพบสัตวแพทย์ สัตวแพทย์จะมีการตรวจวินิจฉัยและสอบถามข้อมูลอะไร เจ้าของจะต้องรู้จะได้สังเกตและเตรียมตัวตอบคำถามกันไว้ เพื่อให้การตรวจวินิจฉัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและน้องแมวได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีนั่นเอง
- น้องแมวมีไข้ อ่อนเพลีย หรือมีอาการเซื่องซึมไหม ?
- น้องแมวอ้วกเป็นเลือดหรือไม่ ?
- น้องแมวมีอาการเจ็บปวดหรือไม่สบายตัวไหม ?
- น้องแมวมีอาการเบื่ออาหารหรือไม่ น้ำหนักตัวลดลงไหม ?
- ความถี่ในการอ้วกของน้องแมว
- ลักษณะอาเจียนของน้องแมวเป็นอย่างไร มีสีและกลิ่นไหม ?
- เจ้าของเพิ่งมีการเปลี่ยนอาหารหรือมีการให้อาหารเสริมหรือไม่ ?
- น้องแมวชอบกัด แทะ เคี้ยวสิ่งของหรือไม่ ?
- ช่องท้องน้องแมวได้รับการกระทบกระเทือนมาก่อนหน้าหรือไม่ ?
- แมวตัวอื่นในบ้านมีอาการเดียวกันไหม (ถ้ามี)
ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลสำหรับที่เจ้าของต้องเตรียมตอบคำถามไว้ แล้วจะทำให้สัตวแพทย์สามารถวินิจฉัยได้อย่างฉับไวนั่นเอง
เมื่อตัดสินใจจะเลี้ยงสัตว์สักตัว ก็ต้องไม่ลืมที่จะทุ่มเทความรักและการดูแลให้ ต้องเลี้ยงพวกเขาด้วยใจเพราะเราเองก็เปรียบเสมือนโลกทั้งใบของชีวิตหนึ่งชีวิตเลยนั่นเอง สำหรับเจ้าของของน้องแมวท่านไหนที่เป็นห่วงและต้องการจะดูแลน้องแมวอย่างเต็มที่ ต้องไม่ลืมทำประกันสัตว์เลี้ยง กับ แรบบิท แคร์ ไว้ ดูแลน้องแมวได้อย่างอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลในอนาคตนั่นเอง
สรุป
แมวอ้วกเกิดได้หลากหลายสาเหตุ แต่หลัก ๆ จะเกิดจาก ก้อนขนอุดตัน, มีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร, รับประทานสิ่งแปลกปลอมเข้าไป, อาการภูมิแพ้แมว รวมไปถึงโรคลำไส้อักเสบ, มีอาการเจ็บป่วย เช่น โรคตับอ่อนอักเสบ โรคไต โรคมะเร็ง ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป รวมไปถึงการติดเชื้อปรสิต ก็อาจเป็นสาเหตุได้ หลัก ๆ ให้สังเกตว่าเป็นการอ้วกที่มีสี กลิ่น และอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วยหรือไม่ เพราะถ้าแมวมีอาการดั่งกล่าว เป็นการอว้วกที่ไม่มีก้อนขนออกมา จะถือว่าอันตราย แต่ในกรณีที่ไม่สามารถพาไปพบแพทย์ในตอนดึกได้ ให้งดอาหารแมวเป็นระยะเวลา 6-12 ชั่วโมง เพื่อเป็นการลดการทำงานของลำไส้ เน้นให้ดื่มน้ำทดแทน และพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีเมื่อเช้าแล้ว
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct