รวม 10 วัดอยุธยาที่สายมูตัวจริงควรขับรถไปไหว้สักการะสักครั้งในชีวิต

ถ้าหากใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวจังหวัดอยุธยามาก่อน อาจเข้าใจว่าจำนวน 10 วัดอยุธยาที่เรากำลังจะแนะนำกันในบทความนี้ ก็ถือว่ามีเยอะมากแล้ว แต่ถ้าหากเราลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนวัดทั้งหมดบนเกาะอยุธยา อาจพบจำนวนที่แท้จริงมากถึง 100 วัดกันเลยทีเดียว แต่เพื่อให้สายมูทุกคนได้เดินทางไปแบบไม่เสียเที่ยว เราจึงคัดวัดที่อย่างน้อยถ้ามีโอกาสควรไปสักครั้ง  

ซึ่งนอกเหนือจากที่เที่ยววัดอยุธยาทั้งหมด 10 วัดต่อจากนี้ จะเลือกมาเพื่อสายมูโดยเฉพาะ เรายังพยายามเลือกวัดอยุธยาที่ถ่ายรูปสวยมาให้ด้วย วันหยุดสุดสัปดาห์ครั้งหน้าใครที่อยู่ในละแวกจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะชาวกรุงเทพฯ ที่ยังไม่มีแผนทำอะไร ลองขับรถไปเที่ยวกันดูได้เลย ระยะทางแค่ 1 ชั่วโมงกับอีกไม่กี่ 10 นาทีก็ถึงแล้ว

1. วัดใหญ่ชัยมงคล

อันดับที่ 1 จะพลาดได้ยังไงในเมื่อ “วัดใหญ่ชัยมงคล” เป็นวัดดังอยุธยาที่นอกจากจะมีอุโบสถให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้เข้ามาสักการะแล้ว ภายในเขตวัดยังมีโบราณสถานเก่าแก่ระดับประวัติศาสตร์ หรือเขตวัดเก่าอยุธยาที่ยังคงความสมบูรณ์ และความสวยงามเอาไว้ให้เราได้ชื่นชมอีกด้วย

จุดเด่นเรื่องการขอพร

ในด้านจุดเด่นเรื่องการขอพรของวัดใหญ่ชัยมงคล มักมีการพูดถึงในด้านการอภัยทาน หรือเมตตามหานิยม ภายใต้ความเชื่อว่าถ้ามาขอพรแล้วจะได้ในสิ่งที่หวัง สำเร็จลุล่วงไปได้ดี แนะนำว่าควรเข้าสักการะพระนอน หรือ พระพุทธไสยาสน์ เพื่อเสริมสิริมงคลในชีวิตไว้ด้วย

2. วัดพนัญเชิงวรวิหาร

อันดับที่ 2 แวะออกมานอกเกาะเพื่อชมอีกหนึ่งวัดดังอยุธยาที่อยู่ติดริมแม่น้ำ ซึ่งหากเราอยู่อีกฟากหนึ่งจะได้เห็นโบสถ์หลังใหญ่สวยงามไม่แพ้ที่ใดแน่นอน ถ้าหากใครเป็นนักเก็บภาพสถานที่ ขอแนะนำให้เข้าไปเที่ยววัดอยุธยาแห่งนี้ เพราะเป็นหนึ่งในวัดอยุธยาที่ถ่ายรูปสวย ควรไปสักครั้งให้ได้

จุดเด่นเรื่องการขอพร

สำหรับจุดเด่นของวัดอยุธยาแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต พระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุด หากเทียบกับวัดอยุธยาสายมูทั้งหมด ซึ่งการขอพรที่ได้รับความนิยมจะเน้นไปในเรื่องความรักกับพระนางสร้อยดอกหมาก และการงานกับหลวงพ่อโตโดยตรง

3. วัดหน้าพระเมรุราชิการาม (พระอารามหลวง)

อันดับที่ 3 วัดอยุธยาที่ปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาในสภาพสมบูรณ์ โดยภายในอุโบสถประดิษฐานพระพุทธนิมิตที่เป็นปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ พร้อมทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช ทำให้เชื่อกันว่าเป็นองค์พระผู้มีชัยเหนือมารทั้ง 3 โลก ด้วยเรื่องราวด้านประวัติศาสตร์และความสวยงาม ยิ่งทำให้วัดแห่งนี้เป็นวัดอยุธยา สายมูที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด

จุดเด่นเรื่องการขอพร

เรื่องการขอพรกับองค์พระพุทธนิมิตในอุโบสถ ณ วัดอยุธยาแห่งนี้จะเป็นในเรื่องการขอให้ช่วยปัดเป่าอุปสรรคให้เบาบางลง แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปขอพรกับองค์พระนิมิตโดยตรง และที่สำคัญสายมูอย่าลืมแวะขอพรแก้เคราะห์หรือขอพรเรื่องต่าง ๆ ตั้งแต่การลอดซุ้มประตูหน้าบันด้วย

4. วัดท่าการ้อง

อันดับที่ 4 วัดท่าการ้อง เป็นวัดอยุธยาที่มีความโดดเด่นรอบด้าน ตั้งแต่การได้ขอพรกับพระพุทธรูปหลายปาง ไหนจะมีมุมสวยทั้งภายใน และภายนอกที่เป็นตลาดน้ำ หากมีโอกาสได้มาเที่ยวแบบเป็นกลุ่ม ควรเลือกเป็นอันดับแรก ๆ เพื่อที่จะตอบโจทย์ได้ในด้านวัดอยุธยา สายมู หรือวัดอยุธยาที่ถ่ายรูปสวยได้อย่างครบเครื่อง

จุดเด่นเรื่องการขอพร

อย่างที่เราได้กล่าวแนะนำไปในเบื้องต้นแล้วว่าวัดท่าการ้อง มีพระพุทธรูปหลายปางให้เราได้ขอพร แต่การขอพรกับ “เทพทันใจ” เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แถมองค์เทพทันใจที่มีอยู่หลายองค์ ก็ช่วยให้ขอพรได้แบบทันใจจริง ๆ ไม่ต้องต่อคิวนาน อยากขออะไรก็ตั้งจิตอธิษฐานให้ดี แล้วขอท่านไว้ได้เลย

5. วัดธรรมิกราช

อันดับที่ 5 วัดอยุธยาอันเก่าแก่จากประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา ทำให้โครงสร้างที่ยังเหลืออยู่ทำให้เราสัมผัสได้ถึงเรื่องราวมากมายในอดีต และยังรายล้อมไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย เริ่มตั้งแต่พระนอนองค์ใหญ่, เศียรพระธรรมิกราช และหลวงพ่อขาว อันเป็นที่ศรัทธาของผู้คนในเรื่องการคุ้มครองป้องกันอันตราย

จุดเด่นเรื่องการขอพร

การเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเก่าอยุธยาแห่งนี้ จะขอแนะนำสำหรับสายมูที่อยากขอพรในเรื่องเมตตามหานิยม และเรื่องสุขภาพเป็นหลัก เนื่องจากพระพุทธไสยาสน์ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยอานิสงส์แห่งการอธิษฐานอย่างแรงกล้า และเพิ่มเติมให้ว่าสายถ่ายรูปเตรียมแต่งตัวให้สุภาพเรียบร้อย เพื่อไปหามุมถ่ายรูปสวย ๆ กันได้เลย รับรองเวลาไหนแสงดี ได้ภาพไม่ต่ำกว่าร้อยรูปแน่

6. วัดพุทไธศวรรย์

อันดับที่ 6 วัดอยุธยาที่เปรียบเสมือนจุดกึ่งกลางของการพบกัน ระหว่างศาสนาและศิลปะ ที่ช่วยให้เราเข้าถึงอิทธิพลของทั้ง 2 สิ่งได้อย่างอิ่มใจ ผ่านพระปรางค์ศิลปะแบบขอมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่อีกหลายองค์ สุดท้ายเสริมความน่าตื่นตาด้วยสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งวัดเก่าอยุธยาแห่งนี้มีอายุมากกว่า 600 ปีมาแล้ว พร้อมด้วยสภาพโครงสร้างที่เปิดโล่ง จึงกลายเป็นอีกหนึ่งในลิสต์วัดอยุธยาถ่ายรูปสวยไปโดยปริยาย

จุดเด่นเรื่องการขอพร

แน่นอนว่าบทความนี้แนะนำวัดอยุธยาให้สายมูอยู่แล้ว เราต้องมีจุดเด่นเรื่องการขอพรให้ด้วย โดยที่วัดพุทไธศวรรย์ มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ช่วยประทานพรในเรื่องขอให้หายเจ็บป่วย ขอให้อาการป่วยที่เป็นอยู่อาการทุเลาลง และยังมีองค์จตุคามรามเทพที่ไหว้บูชา เพื่อขอพรในสิ่งที่ปรารถนา หรือบอกกล่าวให้ท่านช่วยเรื่องที่เราทุกข์ร้อนอยู่

7. วัดกษัตราธิราชวรวิหาร

อันดับที่ 7 วัดกษัตราธิราชวรวิหาร คือ วัดเก่าอยุธยาที่อยู่ภายใต้ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนานของสงครามระหว่างไทยและพม่า ทำให้อดีตเคยถูกทิ้งร้างไว้นานนับหลายสิบปี จนกระทั่งในปี พ.ศ.2328-2349 สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ ในรัชกาลที่ 1 สร้างขึ้นมาใหม่เกือบทั้งพระอาราม และโปรดนามว่า “วัดกษัตราธิราช”

จุดเด่นเรื่องการขอพร

ตามความเชื่อตั้งแต่อดีตกาลที่หากใครได้มีโอกาสเข้ามากราบไหว้ สักการะพระพุทธกษัตราธิราช ที่ประดิษฐานอยู่ภายใน มักจะประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงาน ในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะมีข้าราชการ, นายทหาร และตำรวจเข้ามาขอพรเป็นจำนวนมาก หากทำงานในสายนี้อยากให้เก็บไว้เป็นวัดอยุธยา สายมูที่ควรมาขอพรให้ชีวิตก้าวหน้าสักหนหนึ่ง

8. วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร

อันดับที่ 8 แม้จะเป็นวัดอยุธยาที่อาจไม่ได้โดดเด่นเรื่องสายมูมากเท่าไหร่นัก แต่อยากเพิ่มเข้ามาในลิสต์เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสไปสักการะวัดดังอยุธยาดูสักครั้ง เนื่องจากสถานที่แห่งนี้มีการผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธ กับสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิก ทำให้กลายเป็นวัดอยุธยาถ่ายรูปสวยที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในไทย

9. วัดมหาธาตุ

อันดับที่ 9 เป็นหนึ่งในวัดเก่าอยุธยาที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลก จากภาพเศียรพระพุทธรูปที่ถูกปกคลุมด้วยรากไม้ อันเกิดจากการพังทลายตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าถ้าอยากเลือกวัดอยุธยาที่ถ่ายรูปสวย จะต้องเพิ่มอีกรายการที่ควรมา และยังเป็นวัดอยุธยาสายมูที่พร้อมขอพรได้ด้วยเช่นกัน

จุดเด่นเรื่องการขอพร

วัดมหาธาตุอาจไม่ได้มีองค์พระประธานจำนวนหลายองค์เหมือนกับวัดอยุธยาแห่งอื่น แต่การขอพรที่ได้รับความนิยมจากผู้คนส่วนมาก จะเป็นเรื่องของการขอพรให้จิตใจเข้มแข็ง มีความกล้าหาญ มีความพร้อมที่จะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท เตรียมตัวเดินหน้าฝ่าฟันอุปสรรคได้โดยไม่หวาดหวั่น

10. วัดแม่นางปลื้ม

อันดับที่ 10 วัดอยุธยา สายมูแห่งสุดท้ายที่มีประวัติศาสตร์เรื่องเล่ามาตั้งแต่สมัยพระนเรศวรมหาราช กับแม่นางปลื้มที่ได้เข้าไปอยู่ในวังหลวงจนกระทั่งเสียชีวิต พระนเรศวรจึงโปรดฯให้บูรณะวัดแม่นางปลื้มขึ้นมาในภายหลัง

จุดเด่นเรื่องการขอพร

เข้าเรื่องจุดเด่นการขอพรของเรากันต่อ สำหรับวัดเก่าอยุธยาแห่งนี้จะมีจุดให้ได้ร่วมขอพรมากถึง 3 จุดด้วยกัน จึงขอแยกย่อยออกมาเป็นลิสต์รายการให้ทุกคนได้ติดตามต่อดังนี้

• ขอพรจุดที่ 1จากองค์ท้าวเวสสุวรรณ ในเรื่องทรัพย์สิน โชคลาภ ขอพรให้ประสบความสำเร็จในการค้าหรือการลงทุน รวมถึงหน้าที่การงานด้วย
  
• ขอพรจุดที่ 2 ลอดซุ้มประตูไม้ และสามารถขอพรได้ทุกเรื่องตามความเชื่อของแต่ละคน อยากขอเรื่องไหนตรงนี้เป็นจุดที่เหมาะสมมากเลยทีเดียว
  
• ขอพรจุดที่ 3 พระวิหารเก่าที่ประดิษฐานพระพุทธรูปตั้งแต่อดีต ขอพรเสริมสิริมงคลทั่วไป

ตอนนี้ก็ได้อ่านกันครบทั้ง 10 วัดอยุธยาแล้ว วันหยุดสุดสัปดาห์ครั้งไหนที่มีโอกาส อย่าลืมลองเพิ่มลิสต์รายการวัดดังอยุธยาหลายแห่งจากในบทความนี้ไว้ เพราะด้วยระยะทางที่ใช้เวลาไม่นาน เพียงวันเดียวเราก็สามารถไหว้พระขอพร ถ่ายรูปสวย ๆ ได้ครบทุกแห่งแล้ว

การเดินทางไปไหว้พระให้ครบทุกวัดอยุธยามีทางไหนบ้าง

สุดท้ายเผื่อว่าใครที่อยากเดินทางไปกราบไหว้พระในวัดอยุธยาแต่ละแห่ง “แต่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว” จะสามารถเดินทางไปอย่างไรได้บ้าง ซึ่งความโชคดีหากคุณอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ก็จะมีโอกาสเดินทางไปง่ายกว่า

1. รถโดยสารประจำทาง

การเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางสำหรับชาวกรุงเทพฯ อาจต้องเริ่มจากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2 (หมอชิต 2) ที่มีทั้งรถธรรมดา, รถแบบปรับอากาศ และรถตู้ มีออกวันละหลายเที่ยวในสาย กรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา ทีนี้อยากไปไหว้พระที่วัดอยุธยาก็มีโอกาสไปได้ทุกเมื่อ โดยสามารถเช็กตารางรถล่วงหน้าได้ผ่านออนไลน์หลายเว็บไซต์ หรือโทรเช็กสายด่วน บขส. ได้ที่เบอร์ 1490

2. รถไฟ

อีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้ทุกคนได้เดินทางไปไหว้พระวัดอยุธยาแบบสบาย ๆ ในระยะทางไม่ไกลมาก การเดินทางด้วยรถไฟถือว่าสะดวกไม่น้อย เพราะมีให้เลือกหลายสารทั้งปลายทางสู่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกเหนือไปจากนั้นยังมีความพิเศษของการเดินทางด้วยขบวนรถจักรไอน้ำ ที่มีถึงปีละ 4 ครั้งในช่วงวันสำคัญต่าง ๆ ของประเทศไทย เช่น

• วันที่ 26 มีนาคม วันสถาปนาการรถไฟและวันระลึกการเปิดทางรถไฟสายแรก ระหว่างกรุงเทพฯ-นครราชสีมา
• วันที่ 12 สิงหาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
• วันที่ 23 ตุลาคม วันรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ให้กำเนิดกิจการรถไฟไทย
• วันที่ 5 ธันวาคม วันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ช่วงไหนที่มีโอกาสแล้วอยากเดินทางไปไหว้พระสักการะที่วัดอยุธยา ด้วยรถจักรไอน้ำ ก็สามารถอิงตามลิสต์วันพิเศษทั้ง 4 ไว้ได้เลย แต่อย่างไรก็ตามอยากให้ติดต่อสอบถามหน่วยบริการเดินทางสถานีรถไฟอีกครั้งหนึ่งด้วย

3. รถยนต์ส่วนตัว

กรณีที่มีรถยนต์ส่วนตัวพร้อมเดินทางไปไหว้พระวัดอยุธยาได้ถึงที่แบบนี้ บอกเลยว่าเดินทางสบาย ไม่วุ่นวายแน่นอน เพราะสามารถเลือกเดินทางได้ถึง 3 เส้นทางด้วยกัน

• ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ขับผ่านประตูน้ำพระอินทร์ จากนั้นแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 309 แล้วเดินทางเข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  
• ทางหลวงหมายเลข 304 (ถนนแจ้งวัฒนะ) หรือหมายเลข 302 (ถนนงามวงศ์วาน) แล้วจากนั้นเลี้ยวเข้าหมายเลข 306 (ถนนติวานนท์) ไปต่อด้วยการข้ามสะพานนนทบุรี ไปจนถึงจังหวัดปทุมธานี แล้วเดินทางต่อด้วยเส้นทาง ปทุมธานี-สามโคก-เสนา (หมายเลข 311) สุดท้ายแยกเข้าขวาที่อ.เสนา สู่ทางหลวง 3263 เพื่อเข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  
• เส้นทางกรุงเทพฯ-นนทบุรี-ปทุมธานี บนทางหลวงหมายเลข 306 พอเดินทางไปจนถึงแยกสะพานปทุมธานี ให้เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 347 แล้วต่อเนื่องไปเข้าที่แยกทางหลวง 3309 ขับผ่านศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อ.บางปะอิน ก็เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เลย

อ่านมากันจนถึงช่วงสุดท้ายแบบนี้ แรบบิท แคร์ ขอให้ทุกคนเดินทางไปไหว้พระวัดอยุธยาได้ครบทุกแห่ง ตามที่ใจปรารถนา และอย่าลืมหลังจากไหว้พระขอพรตามต้องการแล้ว หันกลับมาเพิ่มเติมความปลอดภัยในทุกการเดินทาง ด้วยการเลือกทำประกันรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทย จากแรบบิท แคร์ ที่รวบรวมมาให้หมดแล้ว อยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม, เปรียบเทียบประกัน, ผ่อน 0% ทั้งเงินสดหรือบัตรเครดิต และรับประกันถูกกว่าซื้อตรงแน่นอน สนใจเพิ่มเติมความปลอดภัยให้อุ่นใจได้ทุกทริปแบบนี้ โทรเลย 1438 หรือ rabbitcare.com