เปรียบเทียบสิทธิบัตรทอง VS. ประกันสุขภาพ เลือกใช้แบบไหนดี?
“บัตรทอง” หรือหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Coverage Scheme) คือ สิทธิในการได้รับการรักษาพยาบาลของคนไทยที่เป็นหลักประกันในการช่วยรักษาชีวิต และช่วยไม่ให้ผู้ป่วยและครอบครัวต้องล้มละลายทางการเงินจากค่ารักษาพยาบาลอุบัติเหตุหรือโรคร้ายแรง แต่การมีสิทธิในการรักษาพยาบาลจากบัตร 30 บาท เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป
แรบบิท แคร์ สรุปความคุ้มครองและข้อจำกัดของบัตรทอง พร้อมชี้ให้เห็นไปเลยว่าประกันสุขภาพจะช่วยปิดข้อจำกัดในการใช้สิทธิการรักษาพยาบาลด้วยบัตรทองได้อย่างไร!
1. บัตรทองคุ้มครองอะไรบ้าง?
1.1 เจ็บป่วยทั่วไป
สิทธิบัตรทองให้ความคุ้มครองอาการเจ็บป่วยทั่วไปที่ไม่ใช่อาการฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ หรืออื่น ๆ โดยปัจจุบันสามารถเข้าขอรับการรักษาที่โรงพยาบาล ศูนย์การเเพทย์ หรือคลินิคที่อยู่ในเครือข่ายของสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ที่เรียกว่า “หน่วยบริการปฐมภูมิ” ที่ไหนก็ได้ โดยไม่ต้องไปเริ่มตั้งต้นเข้าใช้บริการที่หน่วยปฐมภูมิที่ลงทะเบียนไว้ และรอใบส่งตัวไปรักษาต่อที่อื่น ๆ เหมือนในอดีต
1.2 เจ็บป่วยฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ
นอกจากอาการเจ็บป่วยทั่วไปแล้ว บัตรทองยังให้ความคุ้มครองอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินกะทันหัน โดยสามารถเข้ารับบริการกับหน่วยบริการของรัฐ หรือเอกชนที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่อยู่ใกล้ที่สุดได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง
แต่หากเข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลเอกชนที่ไม่เข้าร่วมเครือข่ายบัตรทอง เมื่อได้รับการรักษาจนพ้นวิกฤตแล้ว อาจต้องติดต่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อประสานหาเตียงจากโรงพยาบาลในเครือข่ายรองรับการใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเองเพิ่มเติม
1.3 ส่งต่อเพื่อรักษาต่อเนื่อง
กรณีที่ได้พบแพทย์ในโรงพยาบาลที่ลงทะเบียนใช้สิทธ์บัตร 30 บาทไว้ แต่แพทย์ไม่สามารถให้การตรวจวินิจฉัย หรือให้การรักษาได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสแกนภายในร่างกาย หรือการผ่าตัด เนื่องจากขาดอุปกรณ์ทางการเเพทย์เฉพาะทาง หรือขาดบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ โรงพยาบาลต้นสังกัดจะทำเรื่องส่งต่อการรักษาไปยังโรงพยาบาลเครือข่ายทั่วประเทศที่มีศักยภาพในการรักษามากกว่าตามความเหมาะสมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
1.4 ตรวจคัดกรอง
สิทธิบัตรทองยังครอบคลุมไปถึงการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังความเสี่ยงทางสุขภาพร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพประจำปีเบื้องต้น การตรวจหายีนส์มะเร็งเต้านม การตรวจคัดกรองรอยโรคมะเร็งและมะเร็งช่องปาก การตรวจคัดกรองธาลัสซีเมียและเชื้อซิฟิลิส
1.5 ฟอกไต
บัตร 30 บาทได้เริ่มให้สิทธิ์ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายในการเลือกวิธีล้างไตผ่านทางช่องท้อง (PD) หรือล้างไตด้วยการฟอกเลือด (HD) ร่วมกับแพทย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ป่วยต้องจ่ายค่าบริการล้างไตด้วยตนเอง
1.6 ดูแลรักษาโรคมะเร็ง
สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตร 30 บาท ยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายจากค่ารักษาพยาบาลโรคเรื้อรั้งที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น โรคมะเร็ง ซึ่งในปัจจุบันได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ในการเลือกเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งกับโรงพยาบาลในเครือข่ายที่ผู้ป่วยสะดวกซึ่งครอบคลุมการรักษาดังนี้
- การตรวจคัดกรองและวินิจัยฉัยโรคมะเร็งตามที่แพทย์สั่ง
- การรักษาอาการทั่วไปและการรักษาเฉพาะทาง เช่น การผ่าตัด การฉายแสง หรือการให้ยาเคมีบำบัด
- การดูแลแบบประคับประคองที่บ้าน (Palliative Care)
1.7 ให้ยาต้านเอดส์และเฮชไอวี
บัตรทองยังมีบริการที่ช่วยให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ และผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้รับโอกาสในการเข้าถึงการรักษาอย่างครอบคลุมตั้งแต่บริการให้คำปรึกษา การตรวจหาเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจ (VCT) การให้ยาต้านเชื้อ หรือแม้กระทั่งการติดตามเยี่ยมบ้านตามความสมัครใจ
2. ข้อจำกัดของความคุ้มครองบัตร 30 บาท มีอะไรบ้าง?
2.1 ความไม่สะดวกในการเข้ารับการรักษา
“บัตร 30 บาท ทำที่ไหน ใช้ที่นั้น” อาจจะไม่ถูกต้องอีกต่อไป เพราะในปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนการใช้สิทธิ์บัตรทองให้สามารถเริ่มต้นเข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลในเครือข่ายที่ไหนก็ได้ โดยไม่ต้องไปเริ่มต้นที่ศูนย์บริการตั้งต้นที่แต่ละคนลงทะเบียนไว้ รวมถึงการขยายโรงพยาบาลในเครือข่ายไปยังโรงพยาบาลเอกชนมากขึ้น
แต่การใช้สิทธิ์บัตรทองส่วนใหญ่ยังคงใช้สิทธิ์ได้กับโรงพยาบาลรัฐเป็นหลัก และอาจต้องมีการรอส่งตัวต่อไปรักษายังโรงพยาบาลที่มีความพร้อมมากกว่า ซึ่งอาจเป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ที่มีคิวรักษาหนาแน่น หรือมีสิ่งอำนายความสะดวกไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้อาจได้รับการรักษาไม่รวดเร็วทันใจ รวมถึงไม่สามารถเลือกใช้บริการโรงพยาบาลชั้นนำที่สะดวกได้
ประกันสุขภาพจะช่วยให้สามารถเลือกเข้ารับการรักษาพยาบาลได้จากโรงพยาบาลชั้นนำที่สะดวกได้ในทันที โดยไม่ต้องรอคิวหรือรอส่งตัวในการรักษา
2.2 เงื่อนไขการเบิกจ่ายยาและเวชภัณฑ์ที่จำกัด
สำหรับยา เวชภัณฑ์ หรือรายการสั่งตรวจที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ใช้สิทธิ์บัตรทอง จะเบิกจ่ายได้ตามบัญชียาหลักแห่งชาติ รายการค่าใช้จ่ายและค่าบริการตามประกาศของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเรียกกันง่าย ๆ ว่า “ยาภายในบัญชี” เท่านั้น
ทำให้ในบางครั้งผู้ป่วยสิทธิ์บัตรทอง 30 บาทที่มีการใช้ยาและเวชภัณฑ์ที่ไม่อยู่ในรายการบัญชียาหลักแห่งชาติ หรือเรียกทั่วไปว่า “ยานอกบัญชี” รวมถึงอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรคบางประเภท อาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เอง หรือร่วมจ่ายกับโรงพยาบาล เนื่องจากไม่สามารถใช้สิทธิ์บัตรทองในการเบิกจ่ายได้
ในขณะที่ประกันสุขภาพส่วนใหญ่จะไม่มีข้อจำกัดในกลุ่มยาและเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ในการรักษา แต่อาจจะจำกัดวิธีการรักษาหรือวงเงินที่ใช้ในการรักษาแทน ซึ่งสามารถเลือกปรับแต่งความคุ้มครองและวงเงินค่าใช้จ่ายในการรักษาได้ตามต้องการจากแบบประกันเหมาจ่ายที่มีให้เลือกมากมายในปัจจุบัน
2.3 ไม่มีค่าชดเชยรายได้ หรือ (อาจ) ไม่มีห้องพิเศษ
สิทธิบัตรทองจะไม่มีการจ่ายชดเชยรายได้ในขณะที่ผู้ป่วยเข้ารักษาตัว รวมถึงจะให้ความคุ้มครองค่าห้องและค่าอาหารแบบสามัญทั่วไปตามอัตราค่าบริการของโรงพยาบาลรัฐเท่านั้น ทำให้ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยสิทธิ์ 30 บาทที่ต้องการอยู่ห้องแยกโดยต้องการจ่ายค่าห้องแบบพิเศษเองนั้น อาจเลือกจ่ายเองได้และไม่สามารถเลือกได้ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรักษาและความสามารถในการรองรับการให้บริการของแต่ละโรงพยาบาล ณ ขณะนั้น
การมีประกันสุภาพติดตัวไว้บ้าง ทั้งแบบเหมาจ่ายหรือแบบมีค่าชดเชยรายได้เมื่อต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลจะช่วยเพิ่มตัวเลือกในการเข้ารับการรักษาและพักรักษาตัวในห้องพักผู้ป่วยแบบพิเศษได้ทันที ไม่ต้องรอห้องว่าง และลดความกังวลจากการขาดรายได้ขณะเข้ารักษาตัว รวมถึงยังสามารถแบ่งเงินชดเชยการขาดรายได้บางส่วนมาจ่ายส่วนต่างของค่ารักษาพยาบาลได้อีกด้วย
แม้ว่าสิทธิบัตรทองจะให้การรักษาครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุและโรคร้ายแรงซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายทางสุขภาพไปได้มาก แต่การมีสิทธิ์ในการเข้ารับการรักษาพยาบาลแค่เพียงสิทธิ์เดียว อาจทำให้ไม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
เพราะนอกจากขั้นตอนการพบแพทย์ หรือคิวรักษาในโรงพยาบาลรัฐที่อาจต้องใช้เวลานานเเล้ว ยาหรือเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการรักษาบางตัวอาจจะไม่สามารถเบิกจ่ายเพื่อนำมาใช้กับผู้ป่วยที่ใช้สิทธิ์บัตร 30 บาทในการรักษาได้
การทำประกันสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย จะช่วยให้ได้ค่าเบี้ยประกันที่ถูก และจะช่วยการันตีโอกาสในการเข้าถึงการรักษาอุบัติเหตุหรือโรคร้ายแรงได้อย่างครบถ้วน และได้รับบริการอย่างรวดเร็ว เพราะเริ่มต้นทำประกันในวันที่สุขภาพยังเเข็งแรง ไม่มีโรคร้ายแรงที่ต้องขอยกเว้นความคุ้มครองนั้นเอง
ประกันสุขภาพในปัจจุบันมีให้เลือกได้ตามตามต้องการ และเบี้ยเริ่มต้นไม่สูงอย่างที่คิด ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ opd แบบเหมาจ่ายที่ไม่ต้องสำรองจ่ายสักบาท ให้ความคุ้มครองหลักล้านทั้งการพบแพทย์รายครั้ง หรือต้องนอนโรงพยาบาลรักษาตัวระยะยาว รักษาได้กับโรงพยาบาลในเครือข่ายทั่วประเทศได้ทันที หรือประกันโรคมะเร็งที่ให้ความคุ้มครองหลักล้าน แต่ค่าเบี้ยแค่หลักพัน!
ทำประกันสุขภาพเพื่อตัวคุณเองและครอบครัวกับ แรบบิท แคร์ ตั้งเเต่วันนี้! การันตีความแคร์ให้คุณเลือกได้ตามใจจากแบบประกันสุขภาพคัดพิเศษที่ให้ความคุ้มครองสูง เบี้ยประกันถูกจากทุกบริษัทชั้นนำ พร้อมบริการเสริมเพิ่มเติมความแคร์ให้เฉพาะลูกค้า แรบบิท แคร์ ด้วยบริการโทรปรึกษาแพทย์ โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล (Health Caresultants) ฟรีทันที ไม่มีค่าใช้จ่าย! ลองเปรียบเทียบประกันเลย!
บทความแนะนำอื่น ๆ
สรุป
สิทธิบัตรทอง และ ประกันสุขภาพ เป็นระบบประกันสุขภาพที่มีความสำคัญในการคุ้มครองค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลของประชาชนคนไทย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองระบบมีความแตกต่างกันในหลายด้าน ทั้งผู้รับสิทธิ ความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกัน ความสะดวก ความยืดหยุ่น และความคุ้มค่า
ท้ายที่สุดแล้ว การเลือกระหว่างสิทธิบัตรทองและประกันสุขภาพเป็นการตัดสินใจส่วนบุคคล โดยควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ทางเลือกที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับตนเอง
Tawan มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 2 ปี เขียนด้านยานยนต์ ประกันยานยนต์ที่ Rabbit Care และ Asia Direct
มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตและนายหน้าประกันวินาศภัย มีความเชี่ยวชาญด้านประกันรถยนต์และประกันชีวิต