ปอดติดเชื้อ อาการเป็นยังไง สังเกตยังไงได้บ้างนะ?

หนึ่งในอาการที่เด่นชัดของ โควิด-19 คือ ปอดติดเชื้อ และยิ่งในสถานการณ์ที่โรคระบาดระลอกใหม่ และหลายครั้งก็ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเพียงรน้อยนิด รู้ตัวอีกที ปอดติดเชื้อไปเสียแล้ว แบบนี้เราจะสังเกตอาการต่างๆ ในร่างกายของเราอย่างไรกันนะ จำเป็นไหม ที่ต้องถึงมือหมอ หรือต้องใช้ ประกันสุขภาพ ไหมนะ ? ไปเช็กอาการและทำความเข้าใจกับ ปอดติดเชื้อกัน กับ Rabbit Care ดีกว่า

ปอดติดเชื้อ อาการเป็นยังไง สังเกตยังไงได้บ้างนะ?

 

ทำความเข้าใจกับอาการปอดติดเชื้อ มีอาการอย่างไรบ้าง ? 

ปอดติดเชื้อ คือ อาการติดเชื้อที่ปอดด้วยเชื้อโรคประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส พยาธิ เชื้อรา หรือเชื้อโรคอื่นๆ จนทำให้เกิดอาการปอดอักเสบ 

โดยทั่วไปแล้ว การที่เชื้อโรคต่างๆ จะเข้าสู่ปอด และเกิดการติดเชื้อ ทำได้ยาก และไม่สามารถเข้าถึงปอดได้ในทันที เนื่องจากระบบหายใจของคนเรามีหลายอวัยวะด้วยกัน และปอดถือเป็นอวัยวะสุดท้ายในระบบหายใจ ทำให้การาที่เชื้อโรคจะสามารถเข้าไปสู่ปอด เข้าสู่ร่างกายได้ด้วยสาเหตุหลัก 2 ทาง คือ 

• จากการสูดลมหายใจ
• จากทางกระแสเลือด หรือการติดเชื้อมาจากส่วนอื่นๆ ในร่างกาย แล้วกระจายมาสู่ปอดผ่านทางกระแสเลือด

 

แต่ถ้าหากเชื้อต่างๆ สามารถหลุดลอดเข้าไปได้ถึงส่วนที่เป็นปอด นอกจากจะส่งผลเสี่ยงต่อโรคปอดติดเชื้อ แล้ว ยังเสี่ยงให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ ได้ โดยภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้ คือ การเกิดโรคฝี หรือหนองที่ปอด รวมไปถึงอาจมีภาวะน้ำในเยื่อหุ้มปอด หรือเชื้ออาจกระจายลุกลามออกจากปอดไปสู่กระแสเลือดได้

เราจะสามารถสังเกตอาการปอดติดเชื้อได้ ว่า เราติดเชื้อหรือยังไง ได้ ดังนี้ 

• มีอาการไอ และหอบ
• มีอาการหนาวสั่น และมีไข้สูง
• ไม่มีน้ำมูกไหล 
• ไม่มีอาการเจ็บคอ เจ็บชายโครง หรือหน้าอก เมื่อหายใจ หรือไออย่างรุนแรง หากพบว่ามีอาการในข้อนี้ ให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาการดังกล่าวมีเสี่ยงต่อการเป็นปอดติดเชื้อในระดับที่รุนแรง

 

จะเห็นว่าอาการของปอดติดเชื้ออาจจะคล้ายกับอาการไข้หวัดธรรมดา หรือไข้หวัดใหญ่ทั่วไปมาก แต่จุดสังเกตอย่างนึงที่ทำให้แตกต่างกัน คือ อาการปอดติดเชื้อมักจะไอมาก มีการหายใจเข้าออกที่ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอาการเจ็บเสียดบริเวณหน้าอกหรือชายโครง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากน้ำขังในบริเวณเยื่อหุ้มปอดร่วมด้วย

หรือแม้แต่เปรียบเทียบกับการเป็นโรคภูมิแพ้ อาการของโรคปอดติดเชื้อ แม้จะไม่มีอากาศ หรือสารที่ผู้ป่วยแพ้ ก็สามารถมีอาการไป หอบ ได้ ซึ่งตรงข้ามกับโรคภูมิแพ้ หากกินยาแก้แพ้ อาการจะลดหายไป หรือเมื่อผ่านไปสักพัก ร่างกายปรับสภาพได้ ก็จะหายจากอาการดั่งกล่าวได้เอง

 

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดปอดอักเสบ

• การรับเชื้อในทุกๆ วัน หากร่างกายของเรารับเชื้อจากสิ่งรอบตัวเป็นประจำ ถึงแม้ว่าเชื้อโรคจะไม่รุนแรงก็ตาม ก็สามารถเกิดการสะสม และส่งผลต่อการติดเชื้อได้
• ภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่แข็งแรง  ในกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เช่น ผู้ป่วยโรค SLE, เด็กทารก,  ผู้สูงอายุ ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป, ผู้ป่วยพิษสุราเรื้อรัง, ผู้ป่วยเอดส์, ผู้ป่วยเบาหวาน โรคหัวใจ หรือ ผู้ที่กินยาสเตียรอยด์นานๆ ฯลฯ  สามารถส่งผลให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น นอกจากนี้ยาบ้างชนิดที่เราทานอาจส่งผลต่อภูมิคุ้มกันด้วย
• เชื้อโรคมีความรุนแรง หากเชื้อโรคเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงจะส่งผลให้มีโอกาสเล็ดลอดมาถึงปอดได้มากขึ้น
• ทานยาที่มีผลต่อภูมิคุ้มกันร่างกาย เช่น กลุ่มคนไข้ที่ทานยากดภูมิ ทำให้ภูมิคุ้มกันโดยรวมไม่แข็งแรงพอจะต่อต้านเชื้อได้ หรือกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับสารเคมี ได้รับการทำเคมีบำบัด จะมีโอกาสปอดติดเชื้อได้มากกว่า เพราะภูมิคุ้มกันอาจถูกทำลายจากยาที่ได้รับ
• ปัจจัยอื่นๆ เช่น ดื่มสุราเรื้อรัง สูบบุหรี่ อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดที่มีระบบสุขาภิบาลไม่ดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลภาวะ

 

ป้องกันปอดติดเชื้อได้อย่างไรบ้างนะ

 

• หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ และดูแลสุขอนามัยในการใช้ชีวิตประจำวัน

เพราะในแต่ละวัน เราใช้มือสัมผัสสิ่งของหลากหลาย จึงอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่บนมือของเรา และเผลอเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ผ่านการหยิบอาหารเข้าปาก การขยี้ตา และพฤติกรรมอื่นๆ ที่คุณอาจไม่รู้ตัวทำให้ได้รับเข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้น ควรล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ใช่แค่ลดตวามเสี่ยงเป็นปอดอักเสบ ปอดติดเชื้อแล้ว  ยังช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคต่างๆ เช่น โควิด-19 ท้องเสีย ท้องร่วง หรือเชื้อโรคอื่นๆ ลงได้ 

 

• ดูแลร่างกายให้แข็งแรงอย่างสม่ำเสมอ

ทั้งการออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ รวมไปถึงการทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะการดูแลใหเร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ทำให้โอกาสปอดติดเชื้อลดน้อยลงด้วย

 

• ฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอตามกำหนด

ไม่ว่าจะเป็น การรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ อีสุกอีใส หรือการป้องกันโรคอื่นๆ เพราะจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากโรคปอดติดเชื้อได้ โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ ที่อาจทำให้ภูมิคุ้มกันเราลดลง ร่างกายอ่อนแอ และอาจเจ็บป่วยได้ง่ายๆ  กลับกัน หากภูมิคุ้มกันเราก็จะยังร่างกายจะยังแข็งแรง ทำให้โอกาสปอดติดเชื้อนั้นลดน้อยลงไปด้วย แต่ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจพิจารณาก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป้นโรคอะไรก็ตาม

 

• เลี่ยงสถานที่ชุมชนที่มีผู้คนแออัด

เพราะเป็นแหล่งชุมชน เต็มไปด้วยผู้คน มลพิษ ฝุ่น และปัจจัยทางสภาพแวดล้อมอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้กลายเป็นเสี่ยงกับเชื้อโรคต่างๆ ไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ โควิด-19 กำลังระบาด จึงควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพทั้งตัวเราเอง และคนรอบข้างด้วย

 

จะเห็นได้ว่า ปอดติดเชื้อ เป็นโรคที่ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ดังนั้น จึงควรหมั่นสังเกตช่วยแยกความแตกต่างกับไข้หวัดธรรมดาออกได้ และพบแพทย์ได้ไวมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพราะหากปล่อยไว้จนถึงภาวะติดเชื้อที่รุนแรง อาจอันตรายต่อชีวิตของผู้ป่วยได้ โดยเฉพาะในช่วงการระบาดระลอกใหม่ของ โควิด-19 ยิ่งทำให้สุ่มเสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้น รวมไปถึงมีภาวะแทรกซ้อนที่ถึงแก่ชีวิตได้ง่ายด้วย

เรื่องสุขภาพไม่ใช่เรื่องไกลตัว นอกจากความเสี่ยงต่างๆ อาการเจ็บป่วยแล้ว ค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลก็เป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ค่าห้องพักในโรงพยาบาล ค่าเอ็กซ์เรย์ ค่ายา ค่าบริการทางการแพทย์ต่างๆ จะดีกว่าไหม ถ้ามีประกันสุขภาพติดตัวไว้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระต่างๆ คลิกเลย กับ ประกันสุขภาพ จาก Rabbit Care ที่สมัครได้ง่าย และมีให้เลือกหลากหลาย ตรงใจไลฟ์สไตล์คุณแน่นอน!