ปวดท้องเมนส์-ปวดท้องประจำเดือน เสี่ยงเป็นอะไร แบบไหนที่ควรพบแพทย์?
ปวดท้องเมนส์ หรือ ปวดท้องประจำเดือน เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้หญิงในช่วงเวลามีประจำเดือน ซึ่งอาการนี้เกิดจากการกระตุ้นหรือเคลื่อนไหวของระบบประสาทส่วนหน้าท้องและระบบฮอร์โมนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการมีเลือดออก อาการปวดท้องเมนส์ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นก่อนหรือระหว่างการมีประจำเดือน และสามารถระบุได้ว่าเป็นการปวดท้องเมนส์จากลักษณะอาการ คือ อาจมีอาการเจ็บแน่นท้อง ปวดเมื่อย หรือปวดเป็นบริเวณ ต้นขา หลัง เอว ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
แต่หากผู้หญิงมีอาการปวดท้องเมนส์มาก มีความรุนแรงมาก ปวดท้องเมนส์รุนแรงกว่าปกติ อาจเกี่ยวข้องกับอาการอื่น ๆ เช่น ปวดท้องเหมือนเป็นบาดแผล มีเลือดออกมากกว่าปกติ หรือมีอาการแสดงอย่างอื่นที่ไม่เป็นปกติที่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีสาเหตุร้ายแรงเกี่ยวกับสุขภาพของผู้หญิง เช่น โรคมะเร็งรังไข่ ติ่งเนื้อเยื่อมดลูก เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ โรคประสาทส่วนล่างของลำไส้ หรือแม้กระทั่งการติดเชื้อในช่องปากมดลูก ดังนั้น หากผู้หญิงมีอาการปวดท้องเมนส์ที่รุนแรง ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและหาสาเหตุของอาการ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม
ปวดท้องเมนส์ แบ่งได้เป็น 2 ประเภท
ปวดท้องเมนส์ – ปวดประจำเดือนปฐมภูมิ
ปวดประจำเดือนปฐมภูมิหมายถึงอาการปวดท้องเวลามีประจำเดือน โดยไม่มีการติดเชื้อหรือสิ่งแปลกปลอมใด ๆ อาการนี้เกิดจากสารโปรสตาแกรนดิน (prostaglandin) ที่ปล่อยออกมาจากเยื่อบุโพรงมดลูกระหว่างมีประจำเดือน
สารเคมีดังกล่าวจะทำให้กล้ามเนื้อมดลูกบีบตัว ทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อยและลดปริมาณเลือดที่ไหลเข้ามาเลี้ยงมดลูก และระดับออกซิเจนที่ไหลเข้ามายังมดลูกลดลง ทำให้มีอาการเหมือนอาการเจ็บครรภ์คลอด สารโปรสตาแกรนดินยังสามารถทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ถ่ายเหลว ในบางราย
โดยทั่วไปอาการที่พบบ่อยของปวดท้องเมนส์ปฐมภูมิมีลักษณะเฉพาะดังนี้
1. เริ่มมีอาการตั้งแต่หลังมีประจำเดือนเพียงไม่กี่เดือน (น้อยกว่า 6 เดือนหลังเริ่มมีประจำเดือน)
2. ระยะเวลาของอาการจะเกิดในช่วง 48-72 ชั่วโมงหลังมีประจำเดือน
3. อาการปวดจะมีลักษณะบีบหรือคล้ายอาการเจ็บครรภ์คลอด
4. อาการปวดมักจะเริ่มจากบริเวณอุ้งเชิงกรานและอาจขยายไปยังหลังและต้นขา ซึ่งไม่มีความผิดปกติทางร่างกาย อาจมีอาการคลื่นไส้ ถ่ายเหลว อ่อนเพลีย หรือเหนื่อยล้าร่วมด้วย
ปวดท้องเมนส์ – ปวดประจำเดือนทุติยภูมิ
ปวดประจำเดือนทุติยภูมิหมายถึงอาการปวดที่เกิดขึ้นในช่วงมีประจำเดือนแต่มีสาเหตุมาจากพยาธิสภาพหรือโรคอื่น ๆ ซึ่งมักจะมีอาการปวดที่รุนแรงและเป็นระยะเวลานานกว่าปวดประจำเดือนปกติ
โดยมักเกิดขึ้นในผู้หญิงที่อายุระหว่าง 20-30 ปี และไม่มีอาการปวดท้องเมนส์มาก่อนหรือปวดน้อยกว่า โดยมีอาการปวดที่รุนแรงขึ้นมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อการทำงาน บางคนจำเป็นต้องรับประทานยาแก้ปวดท้องเมนส์ รับยาแก้ปวดท้องประจำเดือนแบบฉีดหรือต้องรับการรักษาเพิ่มเติม เช่น มีประจำเดือนมากหรือผิดปกติร่วมด้วย มีความผิดปกติในอุ้งเชิงกราน หรือตรวจพบความผิดปกติในร่างกาย แต่ยังไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs หรือยาคุมกำเนิด อาจเป็นภาวะที่ทำให้มีบุตรยาก และยังมีอาการปวดร่วมกับเพศสัมพันธ์ หรือมีตกขาวผิดปกติทางช่องคลอดด้วย
ปวดท้องเมนส์แบบไหน ควรพบแพทย์?
การปวดท้องเมนส์เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้หญิง แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะต้องพบแพทย์ แล้วแบบไหนที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพร่างกาย ควรพบแพทย์ให้ไวเมื่อมีอาการ?
- มีอาการปวดท้องเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยและรุนแรง
- ปวดท้องมีความรุนแรงขึ้น ปวดท้องเมนส์จนร้องไห้ ปวดท้องเมนส์จนนอนไม่ได้ ไม่สามารถทนได้
- มีอาการอื่นร่วม เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะเป็นเลือด หรือมีเลือดออกมากกว่าปกติ
- มีประวัติโรคที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคทางเดินอาหาร มะเร็ง หรือโรคตับและไต
- มีอาการปวดท้องมากร่วมกับประจำเดือนมาไม่ปกติ เช่น มามากกว่าปกติ หรือปวดท้องประจำเดือนแต่ไม่มีประจำเดือน
อาการเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้นเท่านั้น ดังนั้นหากมีอาการปวดท้องเมนส์ที่ไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินอาการและวินิจฉัยโรคให้ถูกต้อง
ปวดท้องเมนส์ เสี่ยงเป็นอะไรบ้าง?
สำหรับคนที่อยากทราบว่าการปวดท้องเมนส์ซึ่งเป็นมากผิดปกติ หรือมีอาการอื่นร่วมด้วยมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรค หรือเป็นภัยต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง แรบบิท แคร์ ได้นำตัวอย่างโรคและความเสี่ยงที่เกิดจากการปวดท้องเมนส์มาฝาก จะได้คอยสังเกตและระมัดระวัง
เนื้องอกมดลูก
การปวดท้องเมนส์มากผิดปกติเสี่ยงเป็นเนื้องอกชนิดใต้เยื่อบุโพรงมดลูก หรือเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงของมดลูกที่พบบ่อย จากผลการศึกษาพบว่ามีโอกาสพบเนื้องอกในมดลูกที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดมากถึง 80% แต่เนื้องอกที่เป็นสาเหตุของอาการปวดท้องเมนส์จะมีเพียง 12-25%
โดยเฉพาะเนื้องอกชนิดใต้เยื่อบุโพรงมดลูกจะพบได้ในร้อยละ 5-10% ของโรคนี้เท่านั้น โดยเนื้องอกนี้จะทำให้มดลูกบีบตัวมากขึ้นเพื่อขจัดสิ่งที่ขัดขวางการหดรัดตัวภายในโพรงมดลูก จึงทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนมากขึ้น
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
อาการปวดท้องเมนส์มากอาจเป็นสัญญาณของโรคหรือภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเกิดขึ้นที่อวัยวะอื่น/บริเวณอื่นที่ไม่ใช่ในโพรงมดลูก ซึ่งเซลล์จะตอบสนองต่อฮอร์โมนในร่างกายตามรอบประจำเดือนดังนั้นเมื่อมีเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ตามตำแหน่งอื่นของร่างกายก็จะทำให้เกิดเลือดคั่ง ปวดมาก ระคายเคือง มีถุงน้ำหรือที่เรียกว่าช็อกโกแลตซีสต์นั่นเอง
มะเร็งรังไข่
สาเหตุแรกเริ่มของการเป็นมะเร็งรังไข่นั้นมักเกิดขึ้นจากเยื่อบุโพรงมดลุกฝังตัวผิดที่/มีการอักเสบบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูกแต่ไม่ได้รับการรักษา หรือเกิดจากการปวดประจำเดือนหลังคลอดลูก ซึ่งเซลล์มะเร็งชนิดนี้นั้นจะทำให้ท้องขยายใหญ่ขึ้น มีอาการปวดท้องรุนแรง ซึ่งแรกเริ่มคนมักเข้าใจผิดว่าเป็นการปวดท้องเมนส์ จุดสังเกตคือ อาการปวดจะไม่หายไปและจะยังคงปวดอยู่แม้จะไม่มีประจำเดือนแล้วก็ตาม
และนี่เป็นเพียงโรคหรืออาการที่อาการปวดท้องเมนส์ที่รุนแรงผิดปกติอาจเป็นตัวช่วยในการบอกเหตุได้ นอกจากนี้ยังมีโรคอีกมากมายที่น่ากลัวและอันตราย การสังเกตอาการปวดท้องรวมถึงสภาพร่างกาย รวมถึงสีประจำเดือนเป็นประจำ และการตัดสินใจทำประกันสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย
วิธีการแก้ปวดท้องเมนส์
สำหรับสาว ๆ ที่มั่นใจว่าอาการปวดท้องเมนส์ของตัวเองนั้นเป็นอาการปกติเมื่อมีประจำเดือน ไม่ได้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่น ๆ หรือมีความเสี่ยงทางด้านสุขภาพ แต่อาการปวดนี้สร้างความไม่สบายตัวและรำคาญใจ มาดูวิธีแก้ปวดท้องเมนส์ที่ แรบบิท แคร์ นำมาให้ เผื่อไว้ไปใช้กัน
วิธีแก้ปวดท้องเมนส์แบบเร่งด่วน
- ดื่มน้ำอุ่น : การดื่มน้ำอุ่นจะส่งผลให้รู้สึกบรรเทาอาการปวดท้อง
- ประคบร้อน : ใช้กระเป๋าน้ำร้อนวางบนท้องเพื่อช่วยลดการอักเสบและปวดท้อง
- ดูแลแรงกดทับในช่องท้อง : การทำโยคะหรือการหายใจลึก ๆ ช่วยลดความตึงเครียดและแรงกดทับในท้องได้
- ทานยาแก้ปวด : การทานยาลดปวดอย่างเช่น พาราเซตามอล หรือพอนสแตนด์ จะช่วยลดอาการปวดได้
ปวดท้องเมนส์ วิธีแก้ในระยะยาว
- รับประทานอาหารที่มีเส้นใยมาก เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ และแป้งสาลี เพื่อช่วยเร่งการขับถ่าย และลดอาการท้องผูก
- ลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง เพราะอาจทำให้ท้องอืดมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ เพราะสารเหล่านี้อาจทำให้อาการปวดท้องเมนส์เฉียบพลันมากขึ้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ
- นอนหลับให้เพียงพอ และปรับเปลี่ยนท่านอนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการกดทับของลำไส้กับกระเพาะอาหาร
- รับประทานยาแก้ปวดท้องเมนส์ที่ได้รับการแนะนำจากแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีอาการท้องผูกหรือท้องอืดร่วมด้วย
ทริคน่ารู้เกี่ยวกับการปวดท้องเมนส์
- ปวดท้องเมนส์ นอนท่าไหนสบายที่สุด?
- การนอนตะแคงข้าง หรือนอนตะแคงขดตัว สามารถลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้
- การนอนยกขาให้สูงกว่าลำตัวช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้
- ปวดท้องเมนส์ ห้ามกินน้ำมะพร้าวจริงหรือไม่?
- โรงพยาบาลเพชรเวชให้ข้อมูลว่า ควรหลีกเลี่ยงน้ำมะพร้าวช่วงมีประจำเดือน เพราะการดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงมีประจำเดือนอาจก่อให้เกิดความผิดปกติต่อร่างกายได้ในบางราย
- กากน้ำตาลช่วยลดปวดท้องเมนส์ได้จริงหรือ?
- การรับประทานกากน้ำตาลปริมาณ 1 ช้อนชา ช่วยลดอาการปวดท้องเมนส์ได้เป็นอย่างดี
ที่มา
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct
และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว
จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น