8 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ ประจำเดือน ที่คุณควรรู้
สาวๆ ที่มี ประจำเดือน น่าจะได้เคยได้ยินคำเตือนต่างๆ นานาว่า เราห้ามทำนู่นทำนี่เวลามีรอบเดือน หรือถ้าไปทำอย่างนี้นะจะปวดท้องจะไม่สบาย บลาๆๆ
ซึ่งสาวๆ เคยสงสัยไหมคะ ว่าพวกเรื่องเล่าหรือคำเตือนที่ใครต่อใครพูดกัน มันจริงหรือไม่จริงแค่ไหน แล้วทำไมชอบห้ามกันจัง วันนี้ Rabbit Care จะมาแถลงไขให้ฟังเกี่ยวกับ 8 ความเชื่อผิดๆ ของการมี ประจำเดือน ค่ะ
การมี ประจำเดือน กับ 8 ความเชื่อผิดๆ
1. มีประจำเดือน…ห้ามอาบน้ำเย็น
สาเหตุที่สาวๆ ไม่ควรอาบน้ำเย็นในช่วงที่มีประจำเดือน เนื่องจาก ฮอร์โมนในร่างกาย ของเพศหญิงจะมีความแปรปรวนสูงในช่วงนี้ การอาบน้ำเย็น ที่มีอุณหภูมิต่ำๆ หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน จะทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลงไปด้วย ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง และเสี่ยงแต่การป่วยไข้ได้ง่ายขึ้น
ดังนั้น จึงไม่ได้ห้ามอาบน้ำเย็นซะทีเดียว เพียงแต่ถ้าต้องอาบจริงๆ ควรรีบอาบและรีบสวมเสื้อผ้าอุ่นๆ ให้ไวที่สุด หรือถ้าจะให้ดี อาบน้ำในอุณหภูมิปกติก็พอนะคะ
2. มีประจำเดือน…ห้ามทานของเย็น
อันนี้ก็น่าจะได้ยินกันบ่อยว่า ช่วงมีประจำเดือนเราไม่ควร ดื่มน้ำเย็น หรือทานของเย็น เพราะจะทำให้ปวดท้องเมนส์ ซึ่งจริงๆ แล้ว มันก็จะมีหลักการคล้ายๆ กับการอาบน้ำเย็นนั่นแหละค่ะ
คือ เราสามารถทานของเย็นอย่างพวก น้ำแข็ง น้ำเย็น หรือไอศกรีมได้ตามปกติ เพียงแต่ไม่ควรทานในปริมาณที่มากเกินไป เพราะจะทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลงและอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้สาวๆ รู้สึกปวดท้องมากขึ้นนั่นเอง
3. มีประจำเดือน…ห้ามออกกำลังกาย
สาวๆ คนไหนที่เคยเชื่อว่า การออกกำลังกายในช่วงที่มีประจำเดือนจะทำให้ปวดท้องมากขึ้น ขอบอกเลยนะคะว่า ความเชื่อนี้ไม่เป็นจริงค่ะ เพราะการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายหลั่ง สารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขออกมา ทำให้ร่างกายและอารมณ์ของเราผ่อนคลาย ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการเครียดหรือปวดประจำเดือนได้ด้วยนะคะ
4. มีประจำเดือน…ห้ามมีเพศสัมพันธ์
จริงๆ แล้ว การมีเพศสัมพันธ์ ในช่วงที่มีรอบเดือนนั้น สามารถทำได้เลยไม่ได้เป็นข้อห้ามนะคะ
เพียงแต่การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ เรื่องความสะอาดของอวัยวะเพศคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงค่ะ
ถ้าเราไม่ดูแลความสะอาดในช่วงนี้ให้ดี มันอาจจะทำให้เรา ติดเชื้อในมดลูก ได้ง่ายขึ้น และเกิดเป็นโรคภัยอื่นๆ ตามมาด้วยนะคะ ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงมีประจำเดือน ฝ่ายชายควรจะสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง และหลั่งนอกจะปลอดภัยที่สุดค่ะ
5. มีประจำเดือน… ห้ามลงเล่นน้ำ
จริงๆ แล้วความเชื่อในข้อนี้ น่าจะมาจากเรื่องความสะอาดของแหล่งน้ำที่เราจะลงไปว่ายน้ำมากกว่านะคะ
เพราะถ้าสาวๆ ลงไปว่ายน้ำสระหรือน้ำทะเลที่ไม่สะอาดแล้ว ก็มีโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่มดลูกได้ง่ายขึ้น และทำให้ช่องคลอดติดเชื้อและอักเสบได้ค่ะ
ดังนั้น ถ้าจะลงน้ำในช่วงนี้จริงๆ ควรจะเลือกสระว่ายน้ำที่มีการดูแลความสะอาดเป็นอย่างดี และ ใส่ผ้าอนามัยแบบสอด ลงไปว่ายน้ำทุกครั้ง เพื่อป้องกันเลือดประจำเดือนไหลออกมาปนนอกสระด้วยนะคะ
6. มีประจำเดือน…ห้ามดื่มน้ำมะพร้าว
อันนี้เป็นความเชื่อโบราณค่ะ ที่ว่า ถ้าเรา ดื่มน้ำมะพร้าว ในช่วงที่มีรอบเดือน จะทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ซึ่งความจริงแล้ว น้ำมะพร้าวมีสารอาหารแบบเดียวกับฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งสามารถส่งผลต่อประจำเดือนได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนค่ะ โดยมันก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณที่ดื่มเข้าไปและการตอบรับของร่างกายของแต่ละคนด้วย
เพราะฉะนั้น สาวๆ ที่มีประจำเดือนสามารถดื่มน้ำมะพร้าวได้ค่ะ แต่ถ้าใครที่ดื่มแล้วพบความผิดปกติของประจำเดือน เช่น ประจำเดือนไม่มา หรือเลื่อนเยอะกว่าปกติ ก็ให้หยุดทานและรีบปรึกษาแพทย์นะคะ
7. มีประจำเดือน…ไม่ท้อง
หลายๆ คนน่าจะเชื่อว่า การที่เรามีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือนเท่ากับว่าเราจะไม่ท้อง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ทุกกรณีหรอกนะคะ
เพราะสาวๆ แต่ละคนจะมีระยะเวลารอบเดือนไม่เท่ากันและระยะเวลาตกไข่ก็ไม่เท่ากันด้วย ทำให้สาวๆ ที่มีรอบเดือนสั้นกว่า จะมีวันตกไข่ที่ใกล้กับรอบเดือนมากกว่า ซึ่งไข่ในช่วงตกไข่จะอยู่ได้ 12-24 ชั่วโมง ในขณะที่อสุจิจะอยู่ในร่างกายได้ประมาณ 3 วัน
ทำให้สาวๆ ที่มีรอบเดือนสั้น และมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือน มีโอกาสที่จะท้องมากขึ้นถ้าไม่ได้ ทานยาคุมกำเนิด หรือใช้ถุงยางป้องกัน
8. มีประจำเดือน…ล่อฉลามได้
อันนี้อาจจะฟังดูขำขัน แต่มีคนเชื่อแบบนี้จริงๆ นะคะ โดยเฉพาะฝรั่งทั้งหลาย ที่เขาห้ามกันนักห้ามกันหนาว่า สาวๆ ที่มีประจำเดือนห้ามไปดำน้ำลึกเด็ดขาด เพราะเลือดประจำเดือนเนี่ยสามารถ ล่อฉลาม ให้เข้ามาใกล้ได้
จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีงานวิจัยอันไหนออกมายืนยันว่าความเชื่อนี้เป็นจริงสักรายเลยเพราะฉะนั้นเราคงวางใจได้ว่า สาวๆ จะไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของน้องฉลามแน่นอน
ทีนี้เราก็ได้รู้แล้วว่าความเชื่อที่บอกต่อๆ กันมา อะไรจริงอะไรไม่จริงบ้าง สาวๆ พอรู้อย่างนี้ก็สบายใจได้แล้วนะคะ
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี