เงินเดือน 15,000 ยังพออยู่ไหม? วางแผนการเงินยังไงดี?
ใคร ๆ ก็บอกว่าเงินเดือนขั้นต่ำอย่าง 15,000 บาท เป็นเงินเดือนที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นวิถีมนุษย์เงินเดือน เรื่องนั้นจะเป็นจริงอย่างที่ใครเขาว่ากันหรือเปล่า? ถ้าใช้ไม่เพียงพอ สาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง? จริงหรือที่เขาว่าใช้เงินไม่เป็นแบบแผนเอง หรือเป็นที่ค่าครองชีพที่เปลี่ยนแปลงกันแน่? มีวิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 15,000 บาท ไหม หรือวางแผนการเงินอย่างไรดี? ไปหาคำตอบกับ แรบบิท แคร์ กันดีกว่า
ส่องเงินเดือนยุคปัจจุบัน เริ่มต้น 15,000 บาท จริงหรือเปล่า?
เบื้องต้น จากผลสำหรับของ บริษัท อเด็คโก้ ประเทศไทย HR Agency ได้มีการเก็บข้อมูลการจ้างงานในปี 2565 ที่ผ่านมา พบว่า ฐานเงินเดือนพนักงานออฟฟิศของเด็กจบใหม่จะเริ่มต้นที่ 12,000 บาท และสูงสุดที่ 60,000 บาท
ส่วนสายงานที่มีเงินเดือนสูงสุดได้แก่ สายงาน IT เนื่องจากกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน มีฐานเงินเดือนอยู่ที่ 18,000 – 60,000 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าปีก่อนจากเดิมที่สูงสุดอยู่ที่ 40,000 บาท
โดยอาชีพที่เงินเดือนเริ่มต้นเยอะสุด คือ อาชีพ Software Engineer มีช่วงเงินเดือนอยู่ที่ 20,000 – 60,000 บาท ขึ้นอยู่กับทักษะและประสบการณ์ รวมทั้งต้องสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับดี-ดีมาก เนื่องจากต้องทำงานในองค์กรต่างชาติ
รองลงมาคือ อาชีพ ‘Data Scientist’ หรือ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และ ‘Data Engineer’ หรือวิศวกรข้อมูล ที่มีอัตราเงินเดือนอยู่ที่ 30,000 – 50,000 บาท เนื่องจากเทรนด์การใช้ข้อมูล Big Data กำลังมาแรง ในหลาย ๆ องค์กรจึงต้องการคนมาช่วยด้านข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ
แต่สำหรับอาชีพทั่วไป จะมีฐานเงินเดือนเริ่มต้นที่ลดหลั่นกันลงมา และจากข้อมูลข้างต้นจะพบว่า แท้จริงแล้วบางแห่งอาจให้เงินเดือนเริ่มต้นน้อยกว่า 15,000 บาท เสียด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ด้วยอัตราการแข่งขันที่สูงมากขึ้น รวมกับเศรษฐกิจที่ยังทรงตัวในยุค โควิด-19 ทำให้เงินเดือนเริ่มต้นอาจจะไม่ใช่ 15,000 บาท อย่างที่คิดเสมอไป
เปิดโพยค่าใช้จ่าย มีอะไรต้องจ่ายบ้างในยุคนี้
นอกจากปัญหาเรื่องการว่าจ้างงานในบางสายอาชีพแล้ว ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าค่าใช้จ่ายในยุคนี้เองก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาเช่นกันที่ทำให้ในหลายครัวเรือนมีปัญหาด้านการเงิน โดยเฉพาะสภาพการเงินที่ไม่คล่องตัว ใช้จ่ายเดือนชนเดือน
เบื้องต้นแล้ว หากได้เงินเดือนขั้นต่ำที่ระบุไว้ 15,000 บาท จะต้องมีค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนประกอบไปด้วย
- ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำ
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ค่าครองชีพ ค่าเดินทาง ค่าอุปโภค-บริโภค หรือแม้แต่ค่ารักษาพยาบาล มีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้การดูและครอบครัวในยุคนี้จึงต้องใช้เงินไม่น้อย ยิ่งจำนวนการมีลูกที่ลดลง จึงมีครอบครัวจำนวนไม่น้อยที่ลูกหลานเพียงแค่ 1 – 2 คน ต้องดูแลทั้งพ่อและแม่ รวมไปถึง ปู่-ย่า ตา-ยาย ทำให้รายจ่ายในชีวิตประจำวันนั้นมีมากขึ้นไปด้วย
- หนี้ดั่งเดิมตั้งแต่ก่อนเรียนจบ
ในหลาย ๆ ครอบครัว กับบยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน ทำให้เกิดการกู้เงินเพื่อค่าเล่าเรียน โดยเฉพาะในระดับมหาวิทยาลัย แม้จะเป็นมหาวิทยาลัยรัฐฯก็ตาม ทำให้เกิดหนี้สินตามมาก่อนที่จะได้เริ่มทำงาน หรือในบางรายอาจจะต้องพบเจอกับปัญหาสภาพการเงินของครอบครัวที่มามาแต่เดิม เมื่อเริ่มต้นทำงาน เงินเดือนขั้นต่ำอย่าง 15,000 บาท อาจไม่เพียงพออีกต่อไป
- ต้องเก็บเงินนานมากขึ้นสำหรับเรื่องต่าง ๆ
เชื่อว่าคนรุ่นใหม่ไม่ใช่ไม่มองไกลถึงเรื่องอนาคต เพราะหลายคนมีความฝันในการเก็บเงินในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น ความต้องการในการซื้อบ้าน หรือคอนโดฯให้ตนเอง บางรายสนใจการมีรถคันแรก หรือบางคนอาจจะไม่ได้อยากมีทรัพย์สิน แต่มองถึงเงินใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เกษียณ
แต่ต้องยอมรับเลยว่าราคาบ้านหรือแม้แต่รถในสมัยนี้ ต้องบอกว่าสูงและมีแนวโน้มที่จะแพงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้คนยุคนี้ต้องเผชิญหน้ากับการเก็บเงินที่หนักหนาสาหัสกว่าในอดีตเพื่อซื้อบ้าน หรือแม้แต่การซื้อสิ่งของอื่น ๆ
นอกจากนี้ด้วยค่าเงินที่เฟ้อมากขึ้น หากใครอยากจะเก็บเงินในยามเกษียณ ก็ต้องใช้ระยะเวลาที่เก็บออมเงินที่มากขึ้น หากคำนวนเบื้องต้นคร่าว ๆ แล้ว หากต้องการมีเงินใช้หลังเกษียณ ควรเก็บเงินออมเบื้องต้น 5 ล้านบาท แต่ด้วยค่าเงินที่เริ่มเฟ้อมากขึ้น เงินเหล่านี้อาจจะใช้จ่ายลำบากขึ้นหากเทียบกับยุคอดีตได้
ทั้งนี้ คนรุ่นใหม่ไม่ใช่กลุ่มคนที่ฟุ่มเฟือย หากวิเคราะห์ดูแล้วจะพบว่าด้วยสภาพสังคม สิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ ด้วยค่าเงินที่เฟ้อสูงมากขึ้น ทำให้เด็กเจนใหม่ๆ เริ่มใช้ชีวิตลำบากมากขึ้น บวกกับสถานการณ์อะไรหลาย ๆ อย่าง ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ ทำให้แม้จะมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 15,000 บาท ในปัจจุบันจึงอาจไม่เพียงพออีกต่อไป
นอกจากนี้ ความตึงเครียดจากสภาพแวดล้อม สภาพสังคมที่ตึงเครียด รวมถึงการมาของโรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกอย่าง โควิด-19 ทำให้หลายคนเลือกซื้อหาความสุขเพิ่มมากขึ้น เพื่อบรรเทาความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน จึงไม่แปลก หากปัจจุบันมีการเลือกใช้งานบัตรเครดิตมากขึ้น
ซึ่งการใช้จ่ายเงินเพื่อบรรรเทาความเครียด หรือบางรายจำเป็นต้องใช้หมุนเงินสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน หากไม่ระวังให้ดีก็อาจกลายเป็นหนี้เสียได้ เพราะได้มีการเผยจากทางสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ว่า สถานการณ์หนี้สินครัวเรือนไตรมาส 2 ของปี 2564 ที่ผ่านมา มีมูลค่ากว่า 14.24 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อนที่ 4.7% หรือคิดเป็นสัดส่วน 89.3% ต่อจีดีพี ในไตรมาสที่ผ่านมา
แบบนี้วางแผนการเงินอย่างไรดี ในยุคเงิน(เริ่ม)เฟ้อ?
เมื่อเงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาท ไม่เพียงพออีกต่อไป ทำให้หลายคนเริ่มต้นวางแผนการเงิน มนุษย์เงินเดือน ไม่ว่าจะเป็น
- เพิ่มเงินเดือนด้วยทักษะต่าง ๆ
จากข้อมูลที่ทาง Adecco เปิดเผยออกมาพบว่าการได้เงินเดือนที่สูงนั้น เราจะพบว่าส่วนมากมาจากทักษะรู้ลึกในสาขาเฉพาะทาง และรู้รอบในส่วนงานที่เกี่ยวข้อง แต่สำหรับใครที่ไม่ได้มีความรู้เฉพาะทางโดยเฉพาะ คุณอาจเลือกเพิ่มทักษะ soft skill แทน
โดย ทักษะ soft skill ที่จำเป็นต้องมีเพิ่มเติมคือ ทักษะดิจิทัล เนื่องจากองค์กรชั้นนำส่วนใหญ่ได้ปรับตัวเข้าสู่การทำงานในระบบดิจิทัล นอกจากนี้ ประสบการณ์ตรงในธุรกิจอุตสากรรมเดียวกัน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตไม่ว่าจะเป็น Fintech, E-commerce, Logistic, Technology, Medical & Wellness, EV Technology, OTT หรือแพลตฟอร์มที่ให้บริการคอนเทนต์ออนไลน์ ก็จะช่วยเพิ่มแต้มต่อในการสมัครงานหรือขอปรับเพิ่มเงินเดือนด้วย
- หาอาชีพเสริม หรือลงทุนอื่น ๆ เพิ่มเติม
เมื่อเงินเดือน 15,000 บาท ไม่เพียงพออีกต่อไป ในระหว่างที่รอการฝึกฝน หรือพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่าง ๆ ในการเลื่อนขั้นเงินเดือน คุณสามารถวางแผนวิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 15,000 บาทได้ด้วยหาอาชีพเสริม ไม่ว่าจะเป็น การรับงานฟรีแลนซ์, การขายของออนไลน์ต่าง ๆ อาจจะเป็นหนทางที่ดี
และสำหรับใครที่มองว่าการลงทุนอย่างเหรียญคริปโต หรือหุ้น คือหนทางสู่ความร่ำรวย ก็ต้องมั่นใจให้ได้ก่อนว่าศึกษามาดีแล้ว หรือมีเงินเก็บพอสำหรับหมุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่เช่นนั้นอาจจะเจอปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลังได้
- วางแผนการเงินอย่างจริงจัง
จริงอยู่ที่เงินเดือน 15,000 บาท นั้น แค่ใช้ในชีวิตประจำวันก็อาจจะเต็มกลืนแล้ว แต่คุณอาจเริ่มต้นวางแผนการเงินง่าย ๆ ก่อน เช่น เริ่มเก็บออมเงินไว้เป็นทุนสำรองเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจจะไม่ใช่เงินก้อนโตหนัก แต่จะช่วยเหลือคุณได้ยามฉุกเฉิน หรือการเลือกทำประกันออมทรัพย์ ที่ช่วยเก็บออมเงินสำหรับอนาคตเมื่อถึงวัยเกษียณ
หรือสำหรับใครที่กังวลถึงครอบครัวที่อยู่ข้างหลัง การเลือกทำประกันชีวิตไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะแม้เงินจากการทำประกันชีวิตจะได้ต่อเมื่อเสียชีวิต แต่คุณก็จะมีเงินก้อนไว้ให้ครอบครัว หรือคนที่คุณรักได้ใช้จ่าย นอกจากนี้ ยิ่งถ้าเลือกทำประกันชีวิตที่อายุยาวนาน 10 ปีขั้นไป ยังใช้ลดหย่อนภาษีได้ ในกรณีที่เงินเดือนคุณเพิ่มในอนาคตได้อีกด้วย!
การวางแผนการเงิน มนุษย์เงินเดือนขั้นต่ำในยุคนี้ อาจจะลำบากไปบ้างเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังทรงตัวอยู่ แต่ทุกอย่างจะไม่ยากเกินไปแน่นอน สำหรับใครที่ต้องการคำปรึกษาด้านการเงิน การทำประกันต่าง ๆ สามารถปรึกษาได้กับทางเรา แรบบิท แคร์ ที่พร้อมยืนเคียงข้างคุณทุกความยากลำบาก คลิกเลย!
บทความที่เกี่ยวข้อง
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct