เกียร์หลุด เกิดขึ้นได้ยังไง? อันตรายแน่ ๆ

กองบรรณาธิการ
ผู้เขียน: กองบรรณาธิการ Published: สิงหาคม 29, 2020
กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี
Nok Srihong
แก้ไขโดย: Nok Srihong Last edited: สิงหาคม 12, 2025
Nok Srihong
Nok Srihong
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คะน้าใบเขียว
ตรวจทาน: คะน้าใบเขียว Last edited: สิงหาคม 12, 2025
คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct
เกียร์รถยนต์หลุด

หนึ่งในเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากเจอขณะขับรถ คือ “เกียร์หลุด” เพราะนอกจากจะทำให้รถสูญเสียการควบคุมแล้ว ยังเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงทั้งต่อตัวผู้ขับและผู้ร่วมทางทันที

เกียร์หลุดคืออะไร?

🤔 เกียร์หลุด!

“เกียร์หลุด” หมายถึง สถานการณ์ที่ชุดเกียร์ของรถหลุดออกจากตำแหน่งเกียร์ที่ผู้ขับตั้งไว้ โดยไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่สามารถคงตำแหน่งเกียร์เดิมได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งในรถเกียร์ธรรมดา (MT) และเกียร์อัตโนมัติ (AT)

ผลของเกียร์หลุด

รถจะไม่ส่งกำลังไปยังล้อ ทำให้เครื่องยนต์หมุนฟรี หรืออยู่ในเกียร์ว่างกะทันหัน ส่งผลให้รถสูญเสียความเร็วและการควบคุม

สาเหตุที่ทำให้เกียร์หลุด

ชิ้นส่วนเกียร์สึกหรอ

ชิ้นส่วนสึกหรอ

เฟืองเกียร์ คลัตช์ หรือซิงโครไนเซอร์สึกจนจับกันไม่แน่น ชุดเกียร์ดาวน์เพลย์หรือชุดวาล์วบอดี้มีปัญหา (AT)
สายเกียร์รถยนต์มีปัญหา

สายเกียร์มีปัญหา

สายคันเกียร์ (Shift Cable) หรือข้อต่อหลวม/ชำรุด ทำให้ตำแหน่งเกียร์ไม่แม่นยำ
น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพหรือหมดอายุ

น้ำมันเกียร์เสื่อม

น้ำมันเกียร์ที่เสื่อมจะลดประสิทธิภาพการหล่อลื่น ทำให้การจับของชิ้นส่วนภายในไม่ราบรื่น
การขับขี่ผิดวิธี กระชากเกียร์

การขับขี่ผิดวิธี

เข้าเกียร์ผิดจังหวะในรถเกียร์ธรรมดา ใช้รอบเครื่องสูงเกินไปจนเกิดแรงกระชาก
มีประวัติว่ารถเคยเกิดอุบัติเหตุหรือเคยกระแทกแรงๆมาก่อน

อุบัติเหตุ/กระแทก

การชนหรือการกระแทกที่ใต้ท้องรถอาจทำให้ระบบเกียร์และชุดยึดเสียหาย

อันตรายจากการเกียร์หลุด

อันตรายจากการเกียร์หลุด รถสูญเสียการควบคุม

สูญเสียการควบคุม

โดยเฉพาะขณะขับบนทางลาดชันหรือกำลังเร่งแซง ทำให้อยู่ในสถานการณ์อันตรายทันที
อันตรายจากการเกียร์หลุด อาจทำให้รถอาจหยุดชะงักกลางถนนแ

เสี่ยงอุบัติเหตุ

รถอาจหยุดชะงักกลางถนนและทำให้คันหลังเบรกไม่ทัน เกิดการชนจากด้านหลัง
ระบบเกียร์เสียหายได้ ค่าซ่อมหรืออะไหล่แพง

ระบบเกียร์เสียหาย

หากยังฝืนขับต่อ จะทำให้ระบบเกียร์เสียหายหนักขึ้น และค่าซ่อมแพงมากขึ้น
อันตรายต่อเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนจากการเกียร์หลุด

อันตรายต่อผู้อื่น

เพิ่มความเสี่ยงต่อผู้ใช้ถนนคนอื่น ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์รอบข้าง

วิธีป้องกันเกียร์หลุด

ตรวจสภาพรถสม่ำเสมอ

  • ตรวจเช็กน้ำมันเกียร์ตามระยะ
  • ฟังเสียงหรือสัมผัสความผิดปกติของเกียร์ขณะขับ
  • ดูแลชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนเกียร์
  • ให้ช่างตรวจสายคันเกียร์และข้อต่อเป็นประจำ

ขับขี่อย่างถูกวิธี

  • เปลี่ยนเกียร์อย่างนุ่มนวล
  • ฟังเสียงหรือสัมผัสความผิดปกติของเกียร์ขณะขับ
  • ในเกียร์อัตโนมัติ ควรเหยียบเบรกทุกครั้งก่อนเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์

ซ่อมทันทีเมื่อพบความผิดปกติ

  • สัญญาณเตือน: เกียร์เด้งออกเอง
  • สัญญาณเตือน: เสียงดังขณะเปลี่ยนเกียร์
  • สัญญาณเตือน: การเข้าเกียร์ยาก

เกียร์หลุดประกันรถคุ้มครองไหม?

✅ประกันที่ครอบคลุม

ประกันรถยนต์ชั้น 1 / 2+ / 3+ เนื่องจาก ประกันชั้น 1 ออกแบบมาเพื่อคุ้มครอง “ทุกความเสี่ยง” ของรถผู้เอาประกัน ไม่จำเป็นต้องมีคู่กรณี ส่วนประกัน 2+ และ 3+ คุ้มครองกรณีชนกับยานพาหนะทางบก แต่ถ้าไม่มีคู่กรณี เช่น รถเกียร์หลุดจนเสียหลักชนต้นไม้หรือพลิกคว่ำเอง ประกัน 2+ และ 3+ จะไม่ครอบคลุม

❌ ประกันที่ไม่ครอบคลุม

ประกันชั้น 2 และ ชั้น 3 (ธรรมดา) ไม่ครอบคลุม ความเสียหายของรถคุณเอง ครอบคลุมเฉพาะ ความเสียหายต่อคู่กรณีและบุคคลที่ 3 เหตุผลก็คือประกันประเภทนี้ไม่ดูแลรถของผู้เอาประกันในกรณีที่รถเสียหายจากการเกียร์หลุดหรือเหตุอื่น ๆ โดยไม่มีคู่กรณี

⚠️ ข้อยกเว้นที่ควรรู้
  • หากตรวจสอบพบว่าเกียร์หลุดเกิดจากเจ้าของรถละเลยการบำรุงรักษา (เช่น ไม่ซ่อมแซมทั้งที่ทราบว่ามีปัญหา) บริษัทประกันบางแห่งอาจพิจารณาว่าเป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง และมีสิทธิ์ปฏิเสธความคุ้มครองได้
  • หากเป็นรถที่มีการดัดแปลงระบบเกียร์ หรือซ่อมแซมโดยอู่ที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็มีโอกาสถูกปฏิเสธการเคลมเช่นเดียวกัน
📌 สรุปจากผู้เชี่ยวชาญ
  • ถ้าอยากให้ครอบคลุมแน่นอน → ประกันชั้น 1
  • ถ้ามีคู่กรณีเป็นรถ → ชั้น 2+ หรือ 3+ ครอบคลุม
  • ถ้าไม่มีคู่กรณี → ชั้น 2 หรือ 3 ไม่ครอบคลุม

บทความแนะนำอื่นๆ : การแก้ไขปัญหาและตรวจสอบสภาพรถ

ส่องสัญญาณ “คลัตช์พัง” มีอาการอย่างไรบ้าง ชี้เป้า! 10 จุดสำคัญของรถยนต์ ที่ต้องตรวจสภาพทุกปี มีตรงไหนบ้าง เช็คลิสต์ ตรวจสภาพรถด้วยตัวเองง่ายๆ ก่อนเดินทางไกลเที่ยวสงกรานต์ การตั้งศูนย์คืออะไร เมื่อไหร่ควรตั้งศูนย์ มาลองดูกันเลย เช็ก เครื่องมอเตอร์ไซค์ ให้พร้อมลุยทุกสถานการณ์

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 102482

แคร์รถยนต์

ตรวจสภาพรถ ต้องรู้อะไรบ้าง? รวมทุกเรื่องที่คนมีรถควรเข้าใจ

หากคุณเป็นเจ้าของรถยนต์หรือกำลังจะซื้อรถยนต์มือสอง การตรวจสภาพรถ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะไม่ใช่เพียงแค่เป็นข้อบังคับตามกฎหมายเท่านั้น
Thirakan T
09/07/2025
Rabbit Care Blog Image 102455

แคร์รถยนต์

โอนรถ ยากหรือไม่ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ?

การซื้อขายรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่ง หรือรถมือสอง สิ่งที่สำคัญที่สุดหลังจากการตกลงซื้อขายกันเรียบร้อย คือ "การโอนรถ"
Thirakan T
09/07/2025
Rabbit Care Blog Image 102309

แคร์รถยนต์

เครื่องคำนวณค่าชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ตัวช่วยวางแผนค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้ EV

แนะนำเครื่องคำนวณค่าชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
กองบรรณาธิการ
30/06/2025