รถกระบะมีกี่ประเภท ความแตกต่างของรถกระบะ 4 ประตู และ 2 ประตู
รถกระบะ 4 ประตู และรถกระบะ 2 ประตูนั้นมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร แน่นอนว่าหลายคนอาจจะรู้สึกไม่แน่ใจใช่ไหม เพราะเมื่อพูดถึงรถกระบะแล้ว ภาพที่เรานึกถึงก็มักจะเป็นรถยนต์ขนาดใหญ่ ที่มีกระบะไว้สำหรับบรรทุกของอยู่ด้านหลังที่คุ้นตากันอยู่เป็นประจำ ซึ่งผู้ที่ไม่ได้ใช้งานหรือมีรถกระบะเป็นของตนเองก็คงไม่ทราบถึงความแตกต่างของรถกระบะแต่ละคัน ดังนั้นในวันนี้ แรบบิท แคร์ จึงได้นำข้อมูลความรู้เกี่ยวกับรถกระบะประเภทต่าง ๆ มาฝากทุกคน
รถกระบะ คืออะไร ?
รถกระบะ หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือรถพิคอัป (Pickup) รถยนต์ที่มีตัวถังตอนท้ายเป็นลักษณะคล้ายคลึงกับกระบะใส่ของ ซึ่งได้รับความนิยมมากในประเทศไทย เนื่องจากสามารถตอบสนองต่อจุดประสงค์การใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลาย เหมาะกับการบรรทุกของเป็นจำนวนมากเพื่อทำการขนย้าย มีหลายประเภทให้เลือกตามจุดประสงค์การใช้ เช่น รถกระบะตอนเดียว รถกระบะ 4 ประตู เป็นต้น
กล่าวได้ว่ารถกระบะนั้นเป็นรถยนต์ที่ถือเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของผู้ที่กำลังมองหารถคันใหม่ ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าหลากหลาย หรือผู้ที่ต้องการขนย้ายของจำนวนมากเป็นประจำเลยทีเดียว
ประเภทของรถกระบะ
อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้นแล้วว่า แม้จะดูเหมือน ๆ กัน แต่ความจริงแล้วรถกระบะนั้นมีการแยกประเภทย่อยไปอีกหลายประเภทด้วยกัน
โดยรถกระบะแต่ละประเภทก็จะมีลักษณะและจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ซึ่งจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ปะรเภทหลัก ๆ ได้แก่ รถกระบะตอนเดียว รถกระบะตอนครึ่ง รถกระบะ 4 ประตู และรถกระบะยกสูง
กระบะตอนเดียว
สำหรับรถกระบะตอนเดียวนั้นจะมีลักษณะของตัวถังเป็นแบบหัวเก๋งเดี่ยว หรือไม่มีเบาะบริเวณด้านหลังคนขับ (เป็นกระบะ 2 ประตู ไม่ใช่กระบะ 4 ประตู) โดยจะมีสิ่งที่ทดแทนเบาะนั่งดเานหลังคนขับ คือมีพื้นที่สำหรับขนของที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก มีความโดดเด่นในด้านการขนของ การบรรทุกของเป็นจุดประสงค์การใช้งาน เจ้าของรถมักที่จะนำไปติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น ตู้ทึบ คอกเหล็ก หรือ Carryboy
ทั้งนี้กระบะลักษณะดังกล่าวก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์รถยนต์ ดังนี้
- ISUZU เรียกว่า SPARK
- TOYOTA เรียกว่า Standard Cab
- NISSAN เรียกว่า Single Cab
- CHEVROLET เรียกว่า S-Cab
- MAZDA ใช้ชื่อเรียกว่า Stardard Cab
- FORD เรียกว่า Standard Cab
- MITSUBISHI เรียกว่า Single Cab
กระบะตอนครึ่ง
ในส่วนของกระบะตอนครึ่งนั้นหลายคนอาจคุ้นชินกันในชื่อเรียกว่ากระบะแคป ซึ่งจะเป็นกระบะที่เสริมเบาะทางด้านหลังของคนขับเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระซึ่งไม่ต้องการให้โดนแดด อีกทั้งยังสามารถให้ผู้โดยสารนั่งบริเวณด้านหลังคนขับได้อีกด้วย ทั้งนี้กระบะตอนครึ่งยังถือว่าไม่ใช่กระบะ 4 ประตู จะมีเพียง 2 ประตู โดยผู้โดยสารจะสามารถขึ้นลงด้วยการพับเบาทางด้านหน้า แต่ทั้งนี้ก็จะมีประตูเสริมที่บริเวณด้านหลังซึ่งก็สามารถเปิดได้เช่นกัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนของขึ้นลงนั่นเอง
ทั้งนี้กระบะลักษณะดังกล่าวก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์รถยนต์ ดังนี้
- ISUZU เรียกว่า Spacecab
- TOYOTA เรียกว่า Smart Cab, Xtracab
- NISSAN เรียกว่า King Cab
- CHEVROLET เรียกว่า X-Cab
- MAZDA เรียกว่า Frestyle Cab
- FORD เรียกว่า Open Cab
- MITSUBISHI เรียกว่า Mega Cab
กระบะ 4 ประตู
มาถึงรถกระบะประเภทกระบะ 4 ประตู ซึ่งรถกระบะ 4 ประตูนั้นถือเป็นกระบะประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง สามารถโดยสารได้มากถึง 5 ที่นั่งเหมือนกันกับรถเก๋งทั่วไป กระบะ 4 ประตูสามารถเปิดประตูสำหรับเข้าออกได้ง่าย ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และแม้จะมีพื้นที่สำหรับขนของบริเวณกระบะด้านหลังน้อยกว่าแต่ก็ยังถือว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับการขนของได้ จึงทำให้กระบะ 4 ประตูนั้นเป็นที่นิยมนับตั้งแต่ยุค 90 เป็นต้นมา
สำหรับกระบะ 4 ประตูนั้นอีกชื่อที่ได้รับความนิยมในการเรียกก็คือกระบะแบบ Double Cab แต่ในบางแบรนด์รถยนต์ก็จะมีชื่อเรียกเฉพาะสำหรับกระบะ 4 ประตูซึ่งแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- ISUZU เรียกว่า Cab4
- TOYOTA เรียกว่า Double Cab
- NISSAN เรียกว่า Double Cab
- CHEVROLET เรียกว่า C-Cab
- MAZDA เรียกว่า Double Cab
- FORD เรียกว่า Double Cab
- MITSUBISHI เรียกว่า Double Cab
กระบะยกสูง
นอกจากกระบะ 4 ประตูทั่วไปแล้ว กระบะยกสูง ก็ถือเป็นกระบะซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยกระบะรุ่นนี้นั้นจะเหมาะกับกลุ่มคนขับที่ชื่นชอบรถที่มีค่อนข้างมีความสมบุกสมบันสูง สามารถขับบุกลุยน้ำท่วมได้ มีทัศนวิสัยในการมองที่ดีและกว้างไกลกว่า ซึ่งกระบะยกสูงนั้นเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมนับตั้งแต่ยุค 2000 เป็นต้นมา ซึ่งมีทั้งแบบกระบะ 4 ประตู และกระบะตอนครึ่งยกสูงเลยทีเดียว
ทั้งนี้กระบะลักษณะดังกล่าวก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์รถยนต์ ดังนี้
- ISUZU เรียกว่า Hi-lander
- TOYOTA เรียกว่า Prerunner
- NISSAN เรียกว่า Calibre
- CHEVROLET เรียกว่า Hi-country
- MAZDA เรียกว่า Hi-racer
- FORD เรียกว่า Hi-rider
- MITSUBISHI เรียกว่า Plus
ประเภทของกระบะเหล่านี้ก็คือประเภทหลัก ๆ ของกระบะยอดนิยมที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีจุดเด่นในการใช้งานที่แตกต่างกันไป แต่โดยส่วนมากหากทางผู้ใช้ต้องการบาลานซ์จุดประสงค์การใช้งานระหว่างการบรรทุกสิ่งของและการขนส่งผู้โดยสารให้ได้มาก ก็มักจะเลือกซื้อกระบะ 4 ประตูกันนั่นเอง
รถกระบะ 4 ประตู ต่างกับ 2 ประตูอย่างไร ?
สำหรับบางคนที่ยังจับจุดไม่ได้ว่ากระบะ 4 ประตูนั้นต่างกับ 2 ประตูอย่างไร ความจริงแล้วสำหรับเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกหากดูเผิน ๆ แล้วอาจไม่ได้ดูแตกต่างกันมากสักเท่าไหร่ แต่จะแตกต่างกันมากที่จุดประสงค์การใช้ คือกระบะ 4 ประตู จะมีเบาะด้านหลังคนขับที่กว้างขวาง มีจำนวนประตู 4 ประตูทำให้ผู้โดยสารสามารถขึ้นลงได้อย่างสะดวกสบาย และมีพื้นที่สำหรับบรรทุกของบริเวณหลังกระบะที่แคบกว่า ในขณะที่กระบะแบบ 2 ประตูจะมีพื้นที่สำหรับบรรทุกของที่มากกว่า แต่จะไม่มีที่นั่งบริเวณด้านหลังคนขับ เหมาะกับการขนย้ายและบรรทุกสิ่งของในปริมาณมาก ไม่ได้เน้นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารเหมือนกับกระบะ 4 ประตู
ข้อดีของรถกระบะ 4 ประตู
ทราบกันไปแล้วว่าในหมู่รถกระบะทุกประเภท กระบะ 4 ประตูได้รับความนิยมค่อนข้างมาก แรบบิท แคร์ จึงได้เลือกนำข้อดีของกระบะ 4 ประตูมาฝาก เผื่อใครที่มีความสนใจจะซื้อแต่ยังคงลังเลจะได้ตัดสินใจกันไม่ยาก โดยข้อดีของกระบะ 4 ประตูมีดังนี้
- กระบะ 4 ประตูมีพื้นที่สำหรับบรรทุกผู้โดยสารที่กว้างขวาง
- กระบะ 4 ประตูสามารถขึ้นลงและใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
- กระบะ 4 ประตูสามารถจุผู้โดยสารได้มากถึง 5 คน
- สามารถบรรทุกผู้โดยสารพร้อมกับขนย้ายสิ่งของจำนวนมาก
- สามารถตอบโจทย์ได้หลากหลายจุดประสงค์การใช้งาน
- สามารถใช้เป็นรถครอบครัวได้
- กระบะ 4 ประตูมีดีไซน์ที่สวยงาม
ข้อดีเหล่านี้ถือเป็นข้อดีหลัก ๆ ของกระบะ 4 ประตู ที่ทำให้กระบะ 4 ประตูนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อกระบะ 4 ประตูมาเป็นรถคันเก่งประจำบ้านนั่นเอง
รถกระบะ 4 ประตู เหมาะกับใคร ?
หลังจากที่ได้ลองอ่านข้อดีของกระบะ 4 ประตูกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าคงมีหลายคนที่เริ่มสนใจจะซื้อกระบะ 4 ประตูมาครอบครอง แต่อาจกำลังลังเลใจว่ารถกระบะ 4 ประตูนั้นเหมาะกับตนเองหรือไม่ มาดูกันว่ากระบะ 4 ประตูเหมาะกับใคร ดังนี้
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการขนของในปริมาณไม่มากจนเกินไป
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการขนของที่มีน้ำหนักไม่มากจนเกินไป
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการบรรทุกของไปขายเป็นประจำ
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการพื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวาง
- เหมาะกับผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวค่อนข้างมาก
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการรถอเนกประสงค์สำหรับใช้ในครอบครัว
ข้อมูลเหล่านี้คือข้อมูลที่เกี่ยวกับรถกระบะประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับกระบะ 4 ประตูที่ได้รับความสนใจและความนิยมเป็นอย่างมาก แรบบิท แคร์ หวังว่าจะสามารถเป็นประโยชน์และช่วยในการตัดใจเลือกซื้อกระบะให้กับทุกคนได้บ้าง และเมื่อตัดสินใจซื้อกันได้แล้วก็ขอแนะนำว่าอย่าลืมทำประกันรถยนต์ โดยเฉพาะประกันรถกระบะกับ แรบบิท แคร์ เอาไว้ เพื่อเป็นการดูแลรถกระบะคู่ใจ ป้องกันไม่ให้ต้องมากลุ้มใจกับค่าซ่อมแซมในระยะยาว
สรุป
บทความนี้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของรถกระบะที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่ กระบะตอนเดียว กระบะตอนครึ่ง กระบะ 4 ประตู และกระบะยกสูง พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกระบะ 4 ประตูและ 2 ประตู โดยกระบะ 4 ประตูเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการพื้นที่โดยสารกว้างขวาง รองรับผู้โดยสารได้ถึง 5 คน และยังสามารถบรรทุกสิ่งของได้ในปริมาณพอเหมาะ ในขณะที่กระบะ 2 ประตูเน้นพื้นที่สำหรับบรรทุกสิ่งของมากกว่า บทความยังชี้ให้เห็นถึงข้อดีของกระบะ 4 ประตู เช่น ความสะดวกสบายในการใช้งาน ความอเนกประสงค์ และความเหมาะสมสำหรับการใช้งานในครอบครัว พร้อมแนะนำให้ทำประกันรถยนต์เพื่อปกป้องรถคู่ใจในระยะยาว
ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย