รถกระบะมีกี่ประเภท ความแตกต่างของรถกระบะ 4 ประตู และ 2 ประตู

Natthamon
ผู้เขียน: Natthamon Published: December 26, 2024
Natthamon
Natthamon
ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Natthamon
แก้ไขโดย: Natthamon Last edited: December 25, 2024
Natthamon
Natthamon
ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Nok Srihong
ตรวจทาน: Nok Srihong Last edited: December 25, 2024
Nok Srihong
Nok Srihong
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
รถกระบะมีกี่ประเภท ความแตกต่างของรถกระบะ 4 ประตู และ 2 ประตู

รถกระบะ 4 ประตู และรถกระบะ 2 ประตูนั้นมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร แน่นอนว่าหลายคนอาจจะรู้สึกไม่แน่ใจใช่ไหม เพราะเมื่อพูดถึงรถกระบะแล้ว ภาพที่เรานึกถึงก็มักจะเป็นรถยนต์ขนาดใหญ่ ที่มีกระบะไว้สำหรับบรรทุกของอยู่ด้านหลังที่คุ้นตากันอยู่เป็นประจำ ซึ่งผู้ที่ไม่ได้ใช้งานหรือมีรถกระบะเป็นของตนเองก็คงไม่ทราบถึงความแตกต่างของรถกระบะแต่ละคัน ดังนั้นในวันนี้ แรบบิท แคร์ จึงได้นำข้อมูลความรู้เกี่ยวกับรถกระบะประเภทต่าง ๆ มาฝากทุกคน

รถกระบะ คืออะไร ?

รถกระบะ หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือรถพิคอัป (Pickup) รถยนต์ที่มีตัวถังตอนท้ายเป็นลักษณะคล้ายคลึงกับกระบะใส่ของ ซึ่งได้รับความนิยมมากในประเทศไทย เนื่องจากสามารถตอบสนองต่อจุดประสงค์การใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลาย เหมาะกับการบรรทุกของเป็นจำนวนมากเพื่อทำการขนย้าย มีหลายประเภทให้เลือกตามจุดประสงค์การใช้ เช่น รถกระบะตอนเดียว รถกระบะ 4 ประตู เป็นต้น

กล่าวได้ว่ารถกระบะนั้นเป็นรถยนต์ที่ถือเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของผู้ที่กำลังมองหารถคันใหม่ ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าหลากหลาย หรือผู้ที่ต้องการขนย้ายของจำนวนมากเป็นประจำเลยทีเดียว

ประเภทของรถกระบะ

อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้นแล้วว่า แม้จะดูเหมือน ๆ กัน แต่ความจริงแล้วรถกระบะนั้นมีการแยกประเภทย่อยไปอีกหลายประเภทด้วยกัน 

โดยรถกระบะแต่ละประเภทก็จะมีลักษณะและจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ซึ่งจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ปะรเภทหลัก ๆ ได้แก่ รถกระบะตอนเดียว รถกระบะตอนครึ่ง รถกระบะ 4 ประตู และรถกระบะยกสูง

กระบะตอนเดียว

สำหรับรถกระบะตอนเดียวนั้นจะมีลักษณะของตัวถังเป็นแบบหัวเก๋งเดี่ยว หรือไม่มีเบาะบริเวณด้านหลังคนขับ (เป็นกระบะ 2 ประตู ไม่ใช่กระบะ 4 ประตู) โดยจะมีสิ่งที่ทดแทนเบาะนั่งดเานหลังคนขับ คือมีพื้นที่สำหรับขนของที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก มีความโดดเด่นในด้านการขนของ การบรรทุกของเป็นจุดประสงค์การใช้งาน เจ้าของรถมักที่จะนำไปติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น ตู้ทึบ คอกเหล็ก หรือ Carryboy  

ทั้งนี้กระบะลักษณะดังกล่าวก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์รถยนต์ ดังนี้

  • ISUZU เรียกว่า SPARK
  • TOYOTA เรียกว่า Standard Cab
  • NISSAN เรียกว่า Single Cab
  • CHEVROLET เรียกว่า S-Cab
  • MAZDA ใช้ชื่อเรียกว่า Stardard Cab
  • FORD เรียกว่า Standard Cab
  • MITSUBISHI เรียกว่า Single Cab

กระบะตอนครึ่ง

ในส่วนของกระบะตอนครึ่งนั้นหลายคนอาจคุ้นชินกันในชื่อเรียกว่ากระบะแคป ซึ่งจะเป็นกระบะที่เสริมเบาะทางด้านหลังของคนขับเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระซึ่งไม่ต้องการให้โดนแดด อีกทั้งยังสามารถให้ผู้โดยสารนั่งบริเวณด้านหลังคนขับได้อีกด้วย ทั้งนี้กระบะตอนครึ่งยังถือว่าไม่ใช่กระบะ 4 ประตู จะมีเพียง 2 ประตู โดยผู้โดยสารจะสามารถขึ้นลงด้วยการพับเบาทางด้านหน้า แต่ทั้งนี้ก็จะมีประตูเสริมที่บริเวณด้านหลังซึ่งก็สามารถเปิดได้เช่นกัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนของขึ้นลงนั่นเอง

ทั้งนี้กระบะลักษณะดังกล่าวก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์รถยนต์ ดังนี้

  • ISUZU เรียกว่า Spacecab
  • TOYOTA เรียกว่า Smart Cab, Xtracab
  • NISSAN เรียกว่า King Cab
  • CHEVROLET เรียกว่า X-Cab
  • MAZDA เรียกว่า Frestyle Cab
  • FORD เรียกว่า Open Cab
  • MITSUBISHI เรียกว่า Mega Cab

กระบะ 4 ประตู

มาถึงรถกระบะประเภทกระบะ 4 ประตู ซึ่งรถกระบะ 4 ประตูนั้นถือเป็นกระบะประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง สามารถโดยสารได้มากถึง 5 ที่นั่งเหมือนกันกับรถเก๋งทั่วไป กระบะ 4 ประตูสามารถเปิดประตูสำหรับเข้าออกได้ง่าย ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และแม้จะมีพื้นที่สำหรับขนของบริเวณกระบะด้านหลังน้อยกว่าแต่ก็ยังถือว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับการขนของได้ จึงทำให้กระบะ 4 ประตูนั้นเป็นที่นิยมนับตั้งแต่ยุค 90 เป็นต้นมา

สำหรับกระบะ 4 ประตูนั้นอีกชื่อที่ได้รับความนิยมในการเรียกก็คือกระบะแบบ Double Cab แต่ในบางแบรนด์รถยนต์ก็จะมีชื่อเรียกเฉพาะสำหรับกระบะ 4 ประตูซึ่งแตกต่างกันออกไป ดังนี้

  • ISUZU เรียกว่า Cab4
  • TOYOTA เรียกว่า Double Cab
  • NISSAN เรียกว่า Double Cab
  • CHEVROLET เรียกว่า C-Cab
  • MAZDA เรียกว่า Double Cab
  • FORD เรียกว่า Double Cab
  • MITSUBISHI เรียกว่า Double Cab

กระบะยกสูง

นอกจากกระบะ 4 ประตูทั่วไปแล้ว กระบะยกสูง ก็ถือเป็นกระบะซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยกระบะรุ่นนี้นั้นจะเหมาะกับกลุ่มคนขับที่ชื่นชอบรถที่มีค่อนข้างมีความสมบุกสมบันสูง สามารถขับบุกลุยน้ำท่วมได้ มีทัศนวิสัยในการมองที่ดีและกว้างไกลกว่า ซึ่งกระบะยกสูงนั้นเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมนับตั้งแต่ยุค 2000 เป็นต้นมา ซึ่งมีทั้งแบบกระบะ 4 ประตู และกระบะตอนครึ่งยกสูงเลยทีเดียว

ทั้งนี้กระบะลักษณะดังกล่าวก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์รถยนต์ ดังนี้

  • ISUZU เรียกว่า Hi-lander
  • TOYOTA เรียกว่า Prerunner
  • NISSAN เรียกว่า Calibre
  • CHEVROLET เรียกว่า Hi-country
  • MAZDA เรียกว่า Hi-racer
  • FORD เรียกว่า Hi-rider
  • MITSUBISHI เรียกว่า Plus

ประเภทของกระบะเหล่านี้ก็คือประเภทหลัก ๆ ของกระบะยอดนิยมที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีจุดเด่นในการใช้งานที่แตกต่างกันไป แต่โดยส่วนมากหากทางผู้ใช้ต้องการบาลานซ์จุดประสงค์การใช้งานระหว่างการบรรทุกสิ่งของและการขนส่งผู้โดยสารให้ได้มาก ก็มักจะเลือกซื้อกระบะ 4 ประตูกันนั่นเอง

รถกระบะ 4 ประตู ต่างกับ 2 ประตูอย่างไร ?

สำหรับบางคนที่ยังจับจุดไม่ได้ว่ากระบะ 4 ประตูนั้นต่างกับ 2 ประตูอย่างไร ความจริงแล้วสำหรับเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกหากดูเผิน ๆ แล้วอาจไม่ได้ดูแตกต่างกันมากสักเท่าไหร่ แต่จะแตกต่างกันมากที่จุดประสงค์การใช้ คือกระบะ 4 ประตู จะมีเบาะด้านหลังคนขับที่กว้างขวาง มีจำนวนประตู 4 ประตูทำให้ผู้โดยสารสามารถขึ้นลงได้อย่างสะดวกสบาย และมีพื้นที่สำหรับบรรทุกของบริเวณหลังกระบะที่แคบกว่า ในขณะที่กระบะแบบ 2 ประตูจะมีพื้นที่สำหรับบรรทุกของที่มากกว่า แต่จะไม่มีที่นั่งบริเวณด้านหลังคนขับ เหมาะกับการขนย้ายและบรรทุกสิ่งของในปริมาณมาก ไม่ได้เน้นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารเหมือนกับกระบะ 4 ประตู

ข้อดีของรถกระบะ 4 ประตู

ทราบกันไปแล้วว่าในหมู่รถกระบะทุกประเภท กระบะ 4 ประตูได้รับความนิยมค่อนข้างมาก แรบบิท แคร์ จึงได้เลือกนำข้อดีของกระบะ 4 ประตูมาฝาก เผื่อใครที่มีความสนใจจะซื้อแต่ยังคงลังเลจะได้ตัดสินใจกันไม่ยาก โดยข้อดีของกระบะ 4 ประตูมีดังนี้

  • กระบะ 4 ประตูมีพื้นที่สำหรับบรรทุกผู้โดยสารที่กว้างขวาง
  • กระบะ 4 ประตูสามารถขึ้นลงและใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
  • กระบะ 4 ประตูสามารถจุผู้โดยสารได้มากถึง 5 คน
  • สามารถบรรทุกผู้โดยสารพร้อมกับขนย้ายสิ่งของจำนวนมาก
  • สามารถตอบโจทย์ได้หลากหลายจุดประสงค์การใช้งาน
  • สามารถใช้เป็นรถครอบครัวได้
  • กระบะ 4 ประตูมีดีไซน์ที่สวยงาม

ข้อดีเหล่านี้ถือเป็นข้อดีหลัก ๆ ของกระบะ 4 ประตู ที่ทำให้กระบะ 4 ประตูนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อกระบะ 4 ประตูมาเป็นรถคันเก่งประจำบ้านนั่นเอง

รถกระบะ 4 ประตู เหมาะกับใคร ?

หลังจากที่ได้ลองอ่านข้อดีของกระบะ 4 ประตูกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าคงมีหลายคนที่เริ่มสนใจจะซื้อกระบะ 4 ประตูมาครอบครอง แต่อาจกำลังลังเลใจว่ารถกระบะ 4 ประตูนั้นเหมาะกับตนเองหรือไม่ มาดูกันว่ากระบะ 4 ประตูเหมาะกับใคร ดังนี้

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการขนของในปริมาณไม่มากจนเกินไป 
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการขนของที่มีน้ำหนักไม่มากจนเกินไป
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการบรรทุกของไปขายเป็นประจำ
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการพื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวาง
  • เหมาะกับผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวค่อนข้างมาก
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการรถอเนกประสงค์สำหรับใช้ในครอบครัว

ข้อมูลเหล่านี้คือข้อมูลที่เกี่ยวกับรถกระบะประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับกระบะ 4 ประตูที่ได้รับความสนใจและความนิยมเป็นอย่างมาก แรบบิท แคร์ หวังว่าจะสามารถเป็นประโยชน์และช่วยในการตัดใจเลือกซื้อกระบะให้กับทุกคนได้บ้าง และเมื่อตัดสินใจซื้อกันได้แล้วก็ขอแนะนำว่าอย่าลืมทำประกันรถยนต์ โดยเฉพาะประกันรถกระบะกับ แรบบิท แคร์ เอาไว้ เพื่อเป็นการดูแลรถกระบะคู่ใจ ป้องกันไม่ให้ต้องมากลุ้มใจกับค่าซ่อมแซมในระยะยาว

สรุป

บทความนี้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของรถกระบะที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่ กระบะตอนเดียว กระบะตอนครึ่ง กระบะ 4 ประตู และกระบะยกสูง พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกระบะ 4 ประตูและ 2 ประตู โดยกระบะ 4 ประตูเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการพื้นที่โดยสารกว้างขวาง รองรับผู้โดยสารได้ถึง 5 คน และยังสามารถบรรทุกสิ่งของได้ในปริมาณพอเหมาะ ในขณะที่กระบะ 2 ประตูเน้นพื้นที่สำหรับบรรทุกสิ่งของมากกว่า บทความยังชี้ให้เห็นถึงข้อดีของกระบะ 4 ประตู เช่น ความสะดวกสบายในการใช้งาน ความอเนกประสงค์ และความเหมาะสมสำหรับการใช้งานในครอบครัว พร้อมแนะนำให้ทำประกันรถยนต์เพื่อปกป้องรถคู่ใจในระยะยาว

ที่มา


บทความแนะนำอื่นๆ : รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ประเภทต่างๆ

มอเตอร์ไซค์วิบากมีกี่ประเภท ในไทยมีสนามแข่งไหม รถ PHEV คืออะไร แตกต่างจาก BEV หรือ HEV อย่างไร รถยก รถสไลด์ รถลาก ต่างกันตรงไหน ทำประกันได้ไหม รถยก รถสไลด์ รถลาก เลือกใช้รถชนิดไหนให้ตรงตามความต้องการ

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 100991

แคร์รถยนต์

รวมเรื่อง เอกสารรถ ฉบับสมบูรณ์ รู้จริง ครบจบในที่เดียว

การเป็นเจ้าของรถยนต์สักคัน ไม่ได้มีแค่เรื่องของการเลือกซื้อรุ่นที่ใช่ หรือการดูแลรักษาให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอเท่านั้น แต่เรื่องของ “เอกสารรถยนต์”
Natthamon
08/05/2025
Rabbit Care Blog Image 100627

แคร์รถยนต์

วิธีล้างรถด้วยตัวเอง วิธีล้างรถยนต์ให้สะอาด ไร้คราบกวนใจ

รถยนต์คู่ใจ ไม่ว่าใครก็อยากให้สวยงามอยู่เสมอ แต่การดูแลรักษารถให้สะอาดนั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด การล้างรถเป็นประจำช่วยขจัดคราบสกปรก ฝุ่นละออง
Natthamon
24/04/2025
Rabbit Care Blog Image 100642

แคร์รถยนต์

สู้ภัยฤดูร้อน เคล็ดลับดูแลรถหน้าร้อนที่คุณต้องรู้

ประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องอากาศร้อนระอุ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่แผดเผา การดูแลรักษารถยนต์หน้าร้อนจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่เพื่อความสวยงาม
Natthamon
23/04/2025