มอเตอร์ไซค์วิบาก มีทั้งหมดกี่ประเภท ในไทยมีสนามแข่งขันหรือไม่
รถมอเตอร์ไซค์วิบากเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝันอยากได้ไปครองสักคัน เพื่อการขับขี่แบบลุย ๆ หรือเน้นออกทริปที่สร้างความเร้าใจในทุกเส้นทาง ด้วยการดีไซน์ที่สวยงาม พลังของเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ว่าจะถนนหนทางแบบไหนก็พร้อมไปได้ทุกที่ และเพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกมอเตอร์ไซค์วิบากได้เข้ากันกับความต้องการของตัวเอง แรบบิท แคร์ จัดเต็มมาให้แล้วตั้งแต่ข้อมูลว่ามอเตอร์ไซค์วิบากนั้นมีทั้งหมดกี่ประเภท หากใครที่เป็นสายแข่ง สนามในไทยมีที่ไหนบ้าง และหากได้รถมาเป็นของตัวเองแล้ว เราสามารถเลือกทำประกันได้หรือไม่ ต่อให้คุณไม่ใช่คนที่ต้องการครอบครองรถมอเตอร์ไซค์ประเภทดังกล่าว แต่ก็จะได้รับความรู้กลับไปแบบเต็ม ๆ แน่นอน
มอเตอร์ไซค์วิบาก คือ อะไร
มอเตอร์ไซค์วิบาก คือ รถมอเตอร์ไซค์ที่ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพในการขับขี่บนหนทางได้หลายรูปแบบ ด้วยลักษณะความสูง โช๊คสูง ดอกยางสุดโหด ทรงผอมเพรียวเน้นการขับขี่อย่างคล่องตัวให้มากที่สุด แม้ภายนอกรถมอเตอร์ไซค์วิบากจะดูเหมือนคนตัวเล็ก แต่ด้วยขุมพลังภายในที่ซ่อนอยู่ทำให้สามารถรีดประสิทธิภาพการขับขี่ได้สูง เพื่อรองรับการขับขี่ให้ได้มากที่สุด ซึ่งบนท้องถนนทั่วไปเราอาจไม่ค่อยได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้วิ่งกันเยอะมากเท่าไหร่นัก เพราะมีการใช้งานเฉพาะทางเป็นพิเศษ หากเป็นพื้นที่ที่มีภูเขา ลำธารหรือมีป่าเยอะ เราจะยิ่งมีโอกาสได้เห็นมากขึ้นกว่าปกติเลยทีเดียว
มอเตอร์ไซค์วิบาก มีกี่ประเภท
มอเตอร์ไซค์วิบากมีทั้งหมด 3 ประเภทหลัก ได้แก่ มอเตอร์ครอส (Motocross), เอ็นดูโร (Enduro) และ โมตาร์ด (Motard) ซึ่งแต่ละประเภทที่กล่าวมา จะมีลักษณะการออกแบบตัวรถที่ต่างกันค่อนข้างชัดเจนหากเราลองสังเกตดี ๆ เนื่องจากวัตถุประสงค์ในการขับขี่ที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย กับการนำเสนอประสิทธิภาพด้านต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ก่อนตัดสินใจเลือกมาใช้งาน ต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับประเภททั้งหมดเสียก่อน โดยทุกคนสามารถติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหัวข้อย่อยทั้งสามดังต่อไปนี้
มอเตอร์ครอส (Motocross)
มอเตอร์ครอส (Motocross) เป็นมอเตอร์ไซค์วิบากประเภทที่ถูกดีไซน์มาเพื่อเหมาะสมต่อการแข่งขันในสนามวิบากอย่างแท้จริง ทั้งลักษณะตัวรถที่ดูเล็ก น้ำหนักเบา เพราะเน้นการติดตั้งระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่บนทางวิบากเท่านั้น เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคให้ไปถึงยังที่หมายโดยเร็วที่สุด รวมถึงยังสามารถป้องกันความเสียหายเมื่อรถล้มได้ ส่วนล้อจะใช้เป็นล้อซี่ลวดสำหรับเน้นการรองรับน้ำหนัก และลดแรงสะเทือนให้ดีที่สุด ส่วนยางจะเน้นดอกยางแบบตุ่ม สามารถจมพร้อมยึดเกาะถนนได้ดี ช่วยรีดดิน น้ำ โคลนออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยกตัวอย่างมอเตอร์ไซค์วิบาก มอเตอร์ครอส (Motocross) ได้แก่ Yamaha YZ 450 F หรือ Suzuki RM-Z250
เอ็นดูโร (Enduro)
เอ็นดูโร (Enduro) คือรถมอเตอร์ไซค์วิบากที่มีการเพิ่มเติมระบบอำนวยความสะดวกสบายให้มากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมต่อการขับขี่หลายรูปแบบมากกว่ามอเตอร์ครอส (Motocross) จนได้รับสมญานามว่า มอเตอร์ไซค์ทางฝุ่น ส่วนที่ถูกเพิ่มเติมมาจากประเภทแรกก็จะมีทั้ง ระบบไฟเลี้ยว, มีไฟหน้า และมาตรวัดต่าง ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามา ส่วนล้อยังเป็นซี่ลวดเหมือนเดิม ยางก็ใช้ดอกยางแบบตุ่มเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้มอเตอร์ไซค์วิบากประเภทเอ็นดูโร (Enduro) จึงเป็นประเภทที่เห็นบนท้องถนนปกติมากขึ้น เนื่องจากใช้งานได้ทั้งทางฝุ่นหินดินทราย และทางเรียบนั่นเอง
ยกตัวอย่างมอเตอร์ไซค์วิบาก เอ็นดูโร (Enduro) ได้แก่ Honda CRF CRF250 Rally และ KTM 500 EXC
โมตาร์ด (Motard)
โมตาร์ด (Motard) รถมอเตอร์ไซค์วิบากทางเรียบ ที่ถูกเรียกแบบนี้เป็นเพราะเหตุผลหลักอย่างการเปลี่ยนจากยางที่มีลักษณะตุ่มหนา มาเป็นยางเรียบคล้ายกับมอเตอร์ไซค์ทั่วไป เพื่อเน้นการวิ่งบนทางเรียบเป็นหลัก แต่สำหรับการออกแบบดีไซน์ตัวถังรถมอเตอร์ไซค์วิบากแบบโมตาร์ด (Motard) ยังคงให้ความคล้ายคลึงกันกับมอเตอร์ครอส (Motocross) มากที่สุด พร้อมกับเพิ่มเติมการดีไซน์บางจุดที่ทำให้ดูสวยงามขึ้น มีแฟริ่งมากขึ้น เหมาะสมกับคนที่มีวิถีชีวิตแบบในเมือง แต่ก็ยังต้องการรถมอเตอร์ไซค์วิบากที่มีประสิทธิภาพในการออกทริปอยู่ด้วย แถมยังมีระบบต่าง ๆ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ หรือพาคนซ้อนไปได้อีกต่างหาก
ยกตัวอย่างมอเตอร์ไซค์วิบาก โมตาร์ด (Motard) ได้แก่ Kawasaki D-Tracker X 250, Ducati Hypermotard 939 และ GPX Racing DP 125 SM
สิ่งที่ทำให้หลายคนสับสนเกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์วิบาก คงเป็นรถมอเตอร์ไซค์ประเภท Adventure หรือ Touring ที่มีลกษณะยกสูง รูปทรงดูคล้ายกัน แต่ว่ารถทั้งสองประเภทที่เรายกตัวอย่างเปรียบเทียบ จะมีตัวภังที่ค่อนข้างใหญ่กว่ามาก มีระบบไฟฟ้า ระบบอำนวยความสะดวกในการขับขี่แบบจัดเต็ม เพราะเน้นการขับขี่บนทางเรียบนาน ๆ จึงต้องออกแบบมาให้ผู้ขับขี่เกิดความสบายมากที่สุดตลอดทริป แถมยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อให้รองรับการบรรทุกสัมภาระ ได้มากกว่ารถมอเตอร์ไซค์วิบากอีกหลายเท่าตัว
สนามแข่งมอเตอร์ไซค์วิบากในไทย
สนามแข่งมอเตอร์ไซค์วิบากในไทยมีทั้งหมด 10 สนามด้วยกัน คือ สนามไทยแลนด์เซอร์กิต หรือสนามนครชัยศรี มอเตอร์สปอร์ต คอมแพล็กซ์ จังหวัดนครปฐม เป็นสนามแข่งมอเตอร์ไซค์วิบากระดับนานาชาติ ได้จัดรายการแข่งขันระดับประเทศและระดับภูมิภาคมาแล้วหลายรายการ, สนามพีระเซอร์กิต พัทยา จังหวัดชลบุรี, สนามแข่งรถฟาร์มแกะ จังหวัดเชียงใหม่, สนามแข่งรถแก้วไทรเลิศเซอร์กิต จังหวัดปราณบุรี, สนามแข่งรถวังชมพู จังหวัดเพชรบูรณ์, สนามแข่งรถดอนลังกา จังหวัดสกลนคร, สนามแข่งรถขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช, สนามแข่งรถระนองซุปเปอร์ครอส จังหวัดระนอง, สนามแข่งรถทองดีโมโตครอส จังหวัดน่าน และ สนามแข่งรถคลอง 5 จังหวัดปทุมธานี
4 ประเภทของการแข่งมอเตอร์ไซค์วิบาก
การแข่งมอเตอร์ไซค์วิบากสามารถแบ่งได้ 4 ประเภท ได้แก่ Dakar Rally, MXGP/MX2, Enduro และ Trial Bike โดยแต่ละรูปแบบจะเน้นเส้นทางการแข่งขันที่ต่างกัน รวมถึงกฎกติกาพื้นฐานที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมของการแข่งขันมอเตอร์ไซค์วิบากทั้งหมดที่กล่าวมา จะมีดังนี้
- Dakar Rally การแข่งขันรูปแบบเฉพาะที่พิเศษอย่างมาก เนื่องจากสนามเป้นทะเลทราย เจอกับอุปสรรคหลากหลาย ด้วยระยะทางที่ยาวถึง 10,000 กิโลเมตร ซึ่งมอเตอร์ไซค์ที่ทำการแข่งขันต้องมีเครื่องยนต์ 450 ซีซีขึ้นไป
- MXGP/MX2 มักถูกเรียกว่าการแข่งขันมอเตอร์ไซค์วิบาก หรือมอเตอร์ครอส (Motocross) ที่จะไม่ติดตั้งอุปกรณ์หรือระบบอื่น ๆ เลยนอกจากการขับขี่ เพื่อให้ตัดรถเบาที่สุด จนสามารถ่าันอุปสรรคได้ทุกรูปแบบ
- Enduro รูปแบบการแข่งขันที่ใกล้เคียงกับมอเตอร์ไซค์วิบยากแบบมอเตอร์ครอส (Motocross) มากที่สุด แต่จะแตกต่างกันตรงที่เส้นทางที่ยาวไกลกว่า รวมถึงต้องมีการติดตั้งไฟหน้า ไฟท้าย หรือไฟเลี้ยวเอาไว้ เนื่องจากบางการแข่งขันจะมีขึ้นในช่วงเวลากลางคืนด้วย
- Trial Bike การแข่งมอเตอร์ไซค์วิบากของต่างประเทศ ที่ยังไม่ค่อยแพร่หลายในประเทศไทย เนื่องด้วยการแข่งขันประเภทนี้ ไม่อนุญาตให้นั่งขี่ ต้องยืนตลอดเวลา แถมอุปสรรคเส้นทางยังค่อนข้างอันตรายมาก ทั้งโขดหิน การปีนป่าย หรือการลัดเลาะไปตามแนวหน้าผา
ดังนั้นในประเทศไทยวเรามีโอกาสที่จะได้ดูการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์วิบาก เพียงแค่ 2 รูปแบบ คือ MXGP/MX2 กับ Enduro เท่านั้น ส่วนรูปแบบอื่นต้องหาดูเอาที่ต่างประเทศ เนื่องจากเหตุผลเรื่องสนามการแข่งขันที่เหมาะสม รวมถึงนักแข่งที่จะเข้าร่วมแตกต่างกันออกไปตามความนิยมอีกที
มอเตอร์ไซค์วิบาก ทำประกันได้ไหม
มอเตอร์ไซค์วิบาก สามารถทำประกันได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะคนที่ใช้งานรถหนักหน่วงการเลือกทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 จะให้การคุ้มครองที่ครอบคลุมได้มากที่สุด แต่สำหรับใครที่เป็นเจ้าของมอเตอร์ไซค์วิบากสายแข่ง ได้มีการสมัครประกันรถมอเตอร์ไซค์เอาไว้ ทางประกันจะไม่คุ้มครองกรณีที่ทำเข้าไปแข่งในสนามจนเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากการแข่งขันเป็นการยอมรับความเสี่ยงของทางผู้ขับขี่อยู่แล้ว
สำหรับคนที่ต้องการปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสมัครประกันรถมอเตอร์ไซค์ ให้กับมอเตอร์ไซค์วิบากของตนเอง เพียงติดต่อเข้ามาหา แรบบิท แคร์ ที่เบอร์ 1438 (24 ชั่วโมง) เราพร้อมนำเสนอตัวเลือกได้อย่างรวดเร็ว เช็กราคาง่ายภายในเวลาเพียง 30 วินาที และการันตีราคาคุ้มค่ามากที่สุด
สรุป
บทความนี้กล่าวถึงมอเตอร์ไซค์วิบาก ซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่บนเส้นทางวิบากหรือเส้นทางพิเศษ มีทั้งหมด 3 ประเภทหลัก ได้แก่ มอเตอร์ครอส (Motocross) สำหรับการแข่งขันในสนามวิบาก, เอ็นดูโร (Enduro) ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานบนถนนปกติ และโมตาร์ด (Motard) ที่เน้นการใช้งานบนทางเรียบ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงสนามแข่งขันในไทยที่มีถึง 10 สนาม และประเภทการแข่งขัน 4 รูปแบบ พร้อมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับการทำประกันสำหรับมอเตอร์ไซค์วิบาก โดยแนะนำให้เลือกประกันที่เหมาะสมกับการใช้งาน ทั้งนี้การทำประกันไม่ครอบคลุมอุบัติเหตุที่เกิดจากการแข่งขันในสนาม
ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย