รวม 5 ที่เที่ยว น่าน ฉบับพกพา คนรักน่านต้องไม่พลาด
การไป“เที่ยวน่าน“ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจ เนื่องจากสภาพอากาศของตัวจังหวัดที่ค่อนข้างเย็นสบายเหมาะกับการพักผ่อน นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของธรรมชาติที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ และความสงบที่เป็นเสน่ห์ซึ่งต่างจากเมืองใหญ่อื่น ๆ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งจากไทยและต่างชาติให้มาท่องเที่ยวน่าน และหลบหนีจากความวุ่นวายของสังคมเมือง เป็นสวรรค์ของการพักผ่อนอย่างแท้จริง น้องแคร์จึงได้ทำการรวบรวมสถานที่เที่ยวน่านไว้ เพื่อให้เพื่อน ๆ ใช้เป็นคู่มือนำเที่ยวฉบับพกพา เก็บกระเป๋าให้พร้อมและออกเดินทางไปพร้อมกับเราได้เลย
1. วัดภูมินทร์
วัดภูมินทร์เป็นที่เที่ยวน่านยอดนิยม ถ้าหากเพื่อน ๆ คนไหนได้ไปเที่ยวน่านแล้วไม่ไปที่นี้ถือว่าพลาด โดยตัววัดภูมินทร์ถูกสร้างมาราวปี พ.ศ. 2139 และคำว่า “ภูมินทร์” เป็นคำที่เรียกเพี้ยนมาจากชื่อเดิมอย่าง “วัดพรหมมินทร์” โดยตัวพระอุโบสถของวัดถูกสร้างในรูปแบบพระอุโบสถจตุรมุข(พระอุโบสถที่มีมุขประกอบอยู่ทั้งสี่ด้าน) ซึ่งถูกสันนิษฐานว่าเป็นแห่งแรกของไทย
สิ่งที่ทำให้วัดภูมินทร์กลายเป็นสัญลักษณ์หมุนหมายเที่ยวน่านของหลาย ๆ คน คือภาพจิตรกรรมฝาผนัง หรือที่ภาษาถิ่นเรียกว่า “ฮูปแต้ม” มักจะเป็นภาพวาดชาดก รวมไปถึงภาพที่เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านในสมัยนั้น ซึ่งหนึ่งในภาพที่มีความสวยงามและมีความสมบูรณ์คือภาพ “ปู่ม่านย่าม่าน” ที่มีอิริยาบถ “กระซิบรัก” อันลือลั่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากที่ต่างๆ ให้เข้ามาชมความงามของภาพวาดกันสักครั้ง
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ไปเที่ยวน่านแล้วสนใจเดินทางไปวัดภูมินทร์ สามารถเดินทางได้อย่างง่ายดาย โดยวัดภูมินทร์ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง บริเวณสี่แยกถนนสุริยพงษ์และถนนผากอง เดินทางด้วยทางหลวงหมายเลข 101 ตัววัดเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. สามารถเข้าชมถ่ายภาพความสวยงามของตัววัดได้ตั้งแต่เช้าไปจนถึงเย็น
2. วัดพระธาตุเขาน้อย
ที่เที่ยวน่านที่ต่อไปยังคงอยู่กับวัดกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งต้องยอมรับว่าน่านเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีวัดตั้งกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก และแต่ละวัดนั้นก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป โดยวัดที่น้องแคร์กำลังจะแนะนำต่อไปนั่นก็คือ “วัดพระธาตุเขาน้อย” อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นผ่านกันมาบ้าง กับพระพุทธรูปองค์ใหญ่เด่นสะดุดตา
วัดพระธาตุเขาน้อยเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่านที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 500 ปี โดยสร้างในช่วงราวปี พ.ศ. 2030 ในสมัยของเจ้าปู่แข็ง เจ้าเมืองที่ครองน่านในสมัยนั้น โดยสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในช่วงเดียวกันกับพระธาตุแช่แห้งด้วย องค์พระธาตุสร้างด้วยศิลปะแบบพม่าผสมล้านนา โดยเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนที่ภายในมีการบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า
กลับมาถึงจุดที่เรียกได้ว่าเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของวัดพระธาตุเขาน้อยกับพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน พระพุทธรูปปางประทานพรบนฐานดอกบัว ซึ่งพระประดิษฐานอยู่บนลานปูน องค์พระมีสีทองอร่ามขนาดสูงถึง 9 เมตร ที่ยอดพระเกศาหรือส่วนยอดสูงสุดของพระพุทธรูปนั้น ทำจากทองคำหนักถึง 27 บาทด้วยกัน
และตรงบริเวณลานปูนนี้ สำหรับคนที่ตั้งใจไปเที่ยวน่านแล้วจะต้องไม่พลาดเป็นอันขาด เพราะตรงจุดนี้จะเป็นจุดที่เห็นวิวของตัวเมืองได้ทั้งหมด เนื่องด้วยตัวพระธาตุเขาน้อยตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 290 เมตร และสูงกว่าระดับตัวเมือง 90 เมตร เหมาะอย่างยิ่งกับการเก็บภาพสวย ๆ ของจังหวัด ซึ่งช่วงเวลาในการถ่ายรูปที่อยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ที่ไปเที่ยวน่านได้ถ่ายรูป คือ ช่วงเช้าก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเห็นทะเลหมอกที่สวยงาม และช่วงกลางคืนที่จะเห็นแสงไฟในเมืองตัดกับความมืดมิด
สำหรับการเดินทางไปยังวัดพระธาตุเขาน้อยถือว่าสะดวกสบาย เพราะตั้งอยู่ในตำบลดู่ใต้ อำเภอเมือง สามารถเดินทางไปมาระหว่างที่เที่ยวในตัวเมืองได้อีกด้วย โดยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 06.00-18.00 น. ดังนั้นเพื่อน ๆ คนไหนที่วางแผนเที่ยวน่านในตัวเมืองอยู่ พระธาตุเข้าน้อยจึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด
3. อำเภอบ่อเกลือ
ที่เที่ยวน่านที่ต่อไปที่น้องแคร์อยากขอนำเสนอ จะย้ายจากอำเภอเมืองออกไปสู่อีกอำเภอ ที่ซึ่งรวบรวมแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจไว้หลาย ๆ แห่ง นั่นก็คือ “อำเภอบ่อเกลือ” นั่นเอง โดยลักษณะทางภูมิศาสตร์ของอำเภอบ่อเกลือจะเป็นทิวเขาสูงที่มีความสลับซับซ้อน และมีความอุดมสมบูรณ์สูง จึงทำให้อำเภอบ่อเกลือมีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติเป็นจำนวนมาก น้องแคร์ได้รวมที่เด่น ๆ ไว้เพื่อน ๆ ที่สนใจดังนี้
บ่อเกลือ
จากชื่ออำเภอบ่อเกลือก็พอทำให้เราทราบแล้วว่าอำเภอนี้มีอะไรเด่นเป็นจุดขาย ซึ่งก็คือการทำ “เกลือสินเธาว์” หรือเกลือภูเขานั้นเอง โดยเกลือสินเธาว์ของที่นี่เป็นเกลือที่มีประวัติศาสตร์การผลิตมาอย่างยาวนาน ส่งออกไปเมืองต่าง ๆ ในภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็นสุโขทัย, เชียงใหม่ ไปจนถึงประเทศจีน โดยปัจจุบันในอำเภอบ่อเกลือยังคงมีการรักษากรรมวิธีการทำเกลือแบบดั้งเดิมไว้รอต้อนรับเพื่อน ๆ ที่ไปเที่ยวน่านได้ไปเยี่ยมชม
หมู่บ้านสะปัน
อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวอำเภอบ่อเกลือที่น่าจะเป็นจุดหมายของใครหลาย ๆ คนเมื่อไปเที่ยวน่าน อย่าง “สะปัน” หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอบ่อเกลือ โดยเสน่ห์ของสะปันที่หลายคนหลงใหลและอยากไปสัมผัสสักครั้ง คงเป็นความสงบและการถูกรายล้อมด้วยหุบเขาที่มีธรรมชาติอันสมบูรณ์ เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นที่พักผ่อนเพิ่มพลังชีวิต นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอย่าง “น้ำตกสะปัน” ที่รอให้ทุกคนได้ไปเยือนกันด้วย
4. อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ที่เที่ยวน่านที่ต่อไป น้องแคร์รับรองเลยว่าถูกใจสายกางเต็นท์อย่างแน่นอน กับ “อุทยานแห่งชาติดอยภูคา” สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่ครอบคลุมเนื้อที่ถึง 8 อำเภอด้วยกัน โดยดอยภูคามีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงที่มีความสลับซับซ้อน โดยจุดยอดนิยมที่ทุกคนมักไปกันจะอยู่ที่อำเภอปัว
การไปเที่ยวน่านที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคาเมื่อให้น่านเป็นจุดเริ่มต้น เลือกใช้ทางหลวง 1080 จนถึงอำเภอปัว จากนั้นใช้หลวงทาง 1256 จนถึงตัวอุทยานดอยภูคา โดยมีค่าเข้าสำหรับชาวไทยเป็นผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติที่เป็นผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
สถานที่ที่ไม่ไปไม่ได้เลยเมื่อมาเที่ยวน่านคงหนีไม่พ้นยอดดอยภูคา ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของอุทยาน เป็นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เหมาะกับการไปเที่ยวโดยเฉพาะเพื่อน ๆ คนไหนที่ชื่นชอบการตั้งเต็นท์เพื่อซึมซับบรรยากาศ โดยเฉพาะปลายปีที่มีอากาศหนาวเย็น เมื่อมาเจอกับความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบ ทำให้ช่วงนี้จัดเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวดอยภูคา
อีกหนึ่งของดีที่ทำให้ดอยภูคาเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญในการเที่ยวน่านนั่นก็คือดอกไม้หายากอย่าง “ดอกชมพูภูคา” ซึ่งพบที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคาจังหวัดน่านที่เดียวในประเทศไทยและในปัจจุบันเป็นพืชที่ใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว โดยที่ดอกชมพูภูคาเป็นดอกไม้ที่ออกดอกเป็นช่อ จะบานให้เราได้ชมกันอย่างเต็มที่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม
นอกจากจุดที่น้องแคร์ได้แนะนำให้กับเพื่อน ๆ ในข้างต้น ดอยภูคายังมีอีกหลายจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นดอยภูแวอีกหนึ่งดอยที่มีความเงียบสงบและธรรมชาติอันสวยงามเหมาะกับการท่องเที่ยวแบบกางเต็นท์และเป็นที่เที่ยวน่าน 3 วัน 2 คืนที่น่าสนใจ, ลาน 1715 จุดถ่ายรูปยอดนิยมของดอยภูคา เป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่มีความสวยงาม เห็นภาพของดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น ตัดกับแนวเขาที่รายล้อม รับรองว่าการเที่ยวน่านในทริปนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง
5. ดอยเสมอดาว
และแล้วเราก็มาอยู่ในที่เที่ยวน่านที่สุดท้ายที่น้องแคร์จะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกันแล้ว กับดอยเสมอดาวอีกหนึ่งดอยยอดนิยมของภาคเหนือ ที่มีเสน่ห์และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากในแต่ละปี โดยดอยเสมอดาวนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย การเดินทางไปค่อนข้างสะดวกเมื่อเทียบกับดอยอื่น ๆ ในภาคเหนือ
เนื่องจากที่น้องแคร์ได้แนะนำเพื่อนๆในข้างต้นว่า ดอยเสมอดาวตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ซึ่งถ้าเพื่อนๆที่ไปเที่ยวน่านและสนใจที่จะไปดอยเสมอดาว จะมีค่าใช้จ่ายในการเข้าอุทยานหากเป็นชาวไทยที่เป็นผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ส่วนชาวต่างชาติที่เป็นผู้ใหญ่ 100 บาทและเด็ก 50 บาท
เสน่ห์ที่ทำให้คนไปเที่ยวน่านต้องไปดอยเสมอดาวคงหนีไม่พ้นความสงบกับธรรมชาติที่สวยงาม อีกทั้งเพียงมาที่นี่ที่เดียวก็สามารถทำได้ทั้งการดูทะเลหมอก, ชมพระอาทิตย์ตก และเมื่อถึงตอนกลางคืนก็ยังสามารถชมแสงดาวอันงดงามจากท้องฟ้าได้อีกด้วย นอกจากนี้ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนที่ชื่นชอบการกางเต็นท์ ที่นี่ก็ยังมีสถานที่ที่จัดไว้เฉพาะเหมาะกับการเป็นที่เที่ยวน่าน 3 วัน 2 คืนเป็นที่สุด โดยเดือนที่น้องแคร์แนะนำให้ไปเที่ยวดอยเสมอดาวก็จะเป็นช่วงปลายปีอย่างเดือนตุลาคม – ธันวาคม
ไปเที่ยวน่านรอบหน้าก็อย่าลืมไปตามที่เที่ยวทั้ง 5 ที่น้องแคร์ได้แนะนำให้กับเพื่อนไม่ว่าจะเป็นดอยภูคา วัดภูมินทร์หรือดอยเสมอดาว ซึ่งแต่ละที่ก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกันไป และถ้าเพื่อน ๆ คนไหนอยากเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการท่องเที่ยวในครั้งนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของค่าใช้จ่าย สามารถทำบัตรเครดิตกับทาง แรบบิท แคร์ ซึ่งจะทำให้การจ่ายเงินของคุณเป็นเรื่องที่ง่าย ไม่ต้องกังวลกับการใช้จ่ายอีกต่อไป
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct
และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว
จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น