ประกันโทรศัพท์มือถือ มีกี่ประเภท คุ้มครองอะไรบ้าง
หากจะพูดถึง ธุรกิจประกันภัย หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ ประกันภัยรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ในรูปแบบต่างๆอยู่แล้ว แต่ในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ประกันภัยนั้นได้ถูกพัฒนาไปอย่างมาก
และแน่นอนว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการ และการใช้งานของผู้บริโภคได้มากขึ้น และด้วยความแข่งขันที่สูงมากขึ้นในวงการประกันภัย ย่อมส่งผลดีกับผู้บริโภคอย่างเราๆอยู่แล้ว เพราะยิ่งผลิตภัณฑ์ประกันมากขึ้น เราก็มีตัวเลือกมากขึ้น และได้ความคุ้มครองที่มากขึ้นอีกด้วย
และหากจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น จะไม่พูดถึงวงการเทคโนโลยีหรือสมาร์ทโฟนไม่ได้ เพราะในปัจจุบันผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น และเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนกันมากขึ้น
ทำให้บริษัทประกันหลายแห่ง เริ่มให้ความสนใจกับ การประกันมือถือ มากขึ้น และวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จัก รูปแบบของประกันภัยโทรศัพท์มือถือกันค่ะ
ประกันภัยโทรศัพท์มือถือ และ สมาร์ทโฟน คืออะไร
ประกันภัยโทรศัพท์มือถือ และสมาร์ทโฟน คือ ประกันภัยที่จะให้ความคุ้มครองผู้ใช้งานในกรณีที่เกิดความเสียหาย หรือ เกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มือถือโดนขโมย โทรศัพท์มือถือหาย
หรือ ในกรณีที่ตัวเครื่องเกิดการชำรุดเสียหาย ประกันจะให้ความคุ้มครองโดยการจ่ายค่าซ่อมแซม หรือ เปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ในกรณีสูญหายนั่นเองค่ะ (เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทประกันแต่ละแห่งกำหนด)
ประกันภัยโทรศัพท์มือถือ และสมาร์ทโฟน มีกี่แบบ
ในปัจจุบัน ประกันโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน จะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ และจะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยคุ้นกับการซื้อประกันโทรศัพท์มือถือแยก บ้างแล้ว วันนี้เราจะมาอธิบายรูปแบบประกันมือถือทั้งหมดค่ะ
1. ประกันโทรศัพท์มือถือ ประเภทประกันร้าน
ประกันโทรศัพท์มือถือตัวนี้ หลายๆคนน่าจะคุ้นกันดี เพราะโดยปกติแล้วเมื่อเราทำการซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่จากร้านขายโทรศัพท์ ร้านโทรศัพท์เหล่านั้นก็จะให้ความคุ้มครองโทรศัพท์มือถือของคุณโดยอัตโนมัติ และส่วนใหญ่ที่เราคุ้นกันก็คือ ประกันมือถือประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองสูงสุด 7 วันเท่านั้น
ภายใน 7 วันนี้ คุ้มครองอะไรบ้าง
สำหรับประกันมือถือที่มาจากร้านนั้น จะให้ความคุ้มครองในกรณีที่เป็นความผิดปกติที่เกิดจากตัวเครื่องเท่านั้น เช่น โทรศัพท์เปิดไม่ติด เลนส์กล้องโทรศัพท์มีปัญหา หน้าจอแสดงสีเพี้ยน เป็นต้น
โดย ประกันโทรศัพท์มือถือ ประเภทนี้ จะไม่ได้ให้ความคุ้มครองครอบคลุมกรณีที่ความเสียหายนั้นเกิดจากการใช้งานของผู้บริโภคนั่นเองค่ะ
และหากคุณพบว่า โทรศัพท์มือถือที่คุณซื้อมาใหม่นั้นมีความผิดปกติ และยังอยู่ในช่วงรับประกัน 7 วันนี้ เราแนะนำให้คุณรีบนำโทรศัพท์มือถือของคุณไปยังร้านที่คุณซื้อมา และแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นกับพนักงานทันที เพื่อที่จะได้รับการเปลี่ยนเครื่องใหม่ หรือ ได้รับการบริการแก้ไขได้ทันเวลาค่ะ
2. ประกันโทรศัพท์มือถือ ประเภทประกันศูนย์
ประกันโทรศัพท์มือถือ ประเภทประกันศูนย์ คือ ความคุ้มครองที่เราได้รับจากแบรนด์มือถือนั้นๆ ที่เราเลือกซื้อมาใช้งาน โดยทั่วไปแล้ว ประกันศูนย์จะให้ความคุ้มครองสูงสุด 1 ปี (เงื่อนไขเป็นไปตามข้อกำหนดของโทรศัพท์มือถือแต่ละแบรนด์)
นั่นหมายความว่า หากโทรศัพท์มือถือของคุณหมดระยะเวลาประกันร้าน (7วัน) และพบว่าเครื่องมีปัญหา ก็สามารถส่งเคลมได้ที่ศูนย์บริการของมือถือแต่ละค่ายแต่ละแบรนด์ได้เลย
ซ่อมมือถือระยะเวลาประกันศูนย์ มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
หากโทรศัพท์มือถือของคุณหมดประกันร้าน แต่ยังอยู่ในระยะเวลาประกันศูนย์ และมือถือเครื่องโปรดมีปัญหาพอดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดจากความผิดปกติของเครื่อง หรือ เป็นปัญหาที่เกิดจากการใช้งาน ก็สามารถนำเครื่องเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการได้
และหากมือถือของคุณยังอยู่ในระยะประกัน อาจจะได้รับการซ่อมฟรี หรือ ถ้ามีค่าใช้จ่ายในการซ่อม ก็อาจจะไม่ต้องจ่ายในราคาเต็ม หรือ จ่ายน้อยกว่าการทำมือถือไปซ่อมร้านทั่วไปก็ได้นะคะ (ราคาซ่อมขึ้นอยู่กับความเสียหายของตัวเครื่อง และความคุ้มครองของแต่ละบริษัทจำหน่ายมือถือ)
3. ประกันภัยโทรศัพท์มือถือ (ซื้อแยก)
ประกันภัยโทรศัพท์มือถือ ประเภทนี้ จะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างไปจากประกันโทรศัพท์มือถือ 2 รูปแบบข้างต้น เพราะประกันโทรศัพท์มือถือ (ซื้อแยก) นี้ จะให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมด้วย
ความคุ้มครองที่ได้รับจาก ประกันภัยโทรศัพท์มือถือ
- คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ
- น้ำท่วม
- พายุ
- ไฟไหม้
- ฟ้าผ่า
- โดนขโมย
- โทรศัพท์สูญหาย
แน่นอนว่า ประกันภัยประเภทนี้ คุณจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเพิ่มเติมด้วยตัวคุณเองๆ และความคุ้มครองที่จะได้รับมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับค่าเบี้ยประกัน รายละเอียดและเงื่อนไขการรับประกันของบริษัทประกันแต่ละแห่ง
ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อประกันโทรศัพท์มือถือ เราแนะนำให้คุณศึกษาความคุ้มครองและข้อยกเว้นให้ละเอียด เพื่อให้ได้ความคุ้มครองตรงกับที่คุณต้องการมากที่สุด
แม้ว่าบริษัทประกันภัยแต่ละแห่ง จะมี ประกันภัยโทรศัพท์มือถือ มาให้ผู้บริโภคอย่างเราใช้บริการ แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องใช้งานโทรศัพท์ของคุณอย่างระมัดระวัง และ ก่อนตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่อง ก็อย่าลืมเช็คตัวเครื่อง กล้อง และฟังก์ชั่น ต่างๆก่อนจ่ายเงินนะคะ
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี