ป้องกันรถหมุน ท้ายปัด จากการเลือกซื้อยางรถยนต์ใหม่ By TIRESBID
ด้วยสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองในปัจจุบันทำให้เพื่อนๆหลายคนคงต้องคิดหนักกับการเลือกเปลี่ยนยางเพราะราคายางก็แพงเหลือเกิน งบก็มีจำกัดพอที่จะเปลี่ยนยางแค่ 2 เส้น แล้วเราควรจะเปลี่ยนคู่หน้าหรือคู่หลังดี คงเป็นข้อสงสัยที่เพื่อนๆคงยังไม่มีข้อสรุป วันนี้ Tiresbid เราจะมาอธิบายหลักการที่ถูกต้องให้เพื่อเพื่อนๆจะได้พิจารณากันครับ
3 เงื่อนไขในการเปลี่ยนยางรถ
อย่างแรกเลยเงื่อนไขการเปลี่ยนยางหลักๆเราดูที่ 3 อย่าง คือ
- เมื่อร่องดอกยางหมด ร่องดอกยางจะมีหน้าที่สำหรับให้น้ำไหลผ่านจากหน้ายางเพื่อให้หน้ายางสามารถแนบกับพื้นถนนได้ดี ณ ตอนที่ขับผ่านบริเวณแอ่งน้ำ เพื่อป้องกันการเหินน้ำและเสียการควบคุม
- ยางแข็งหรือแตกลายงา โดยปกติยางจะมีการแตกลายงาอยู่แล้วเนื่องจากยางต้องสัมผัสกับความร้อนและความเย็นตลอดแต่การแตกลายงาบนเนื้อยางเล็กน้อยนั่นไม่มีผลต่อการใช้งานครับจะมีผลต่อเมื่อยางแตกลายงาที่กว้างหรือแตกถึงชั้นโครงยางครับ ส่วนเรื่องยางแข็งเราสามารถเช็คได้จากการเอาเล็บจิกที่เนื้อยางหรือเอาปลายกุญแจรถจิ้มลงไปเนื้อยางแล้วมีการฝากลอยอยู่ถือว่าใช้ได้แต่ถ้าไม่ฝากลอยแล้วนั่นอาจจะต้องพิจารณาว่ายางควรเปลี่ยนหรือไม่เพราะเนื้อยางที่แข็งจะส่งผลต่อเรื่องการยึดเกาะถนนและเสียงที่ดังขึ้นครับ
- อายุของยางต้องไม่เกิน 5 ปี นับจากวันที่ใส่ หรือ 10 ปีนับจากวันที่ผลิต(แบรนด์มาตรฐาน) กรณีที่นำยางติดรถแล้วที่อยู่ได้ 5 ปีก็เพราะโครงยางที่ทำหน้าที่กักเก็บลมเป็นระยะเวลานานๆจะทำให้โครงยางอ่อนแอ ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการระเบิดได้ง่ายกว่า
- สภาพยางต้องไม่ถูกบาด เบียด บวมมครุบ ซึ่งกรณีเหล่านี้ถ้าเกิดกับยางเราเราควรเปลี่ยนยางครับเพื่อความปลอดภัยครับ ส่วนหน้าที่หลักของยางคู่หน้าคือไว้สำหรับบังคับทิศทางให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ส่วนยางคู่หลังไว้สำหรับบรรทุกและประคองตัวรถครับ ถ้าเพื่อนๆเห็นหน้าที่ของยางก็จะรู้สึกว่ายางคู่หน้านั้นค่อนข้างสำคัญกว่าใช่ไหมครับซึ่งไม่ผิดครับหน้าที่ค่อนข้างสำคัญแต่ ความเสี่ยงที่จะทำให้รถเสียหลักนั่นมักจะเกิดจากล้อหลังมากกว่าครับเพราะว่ากรณีที่ยางของรถเราเหินน้ำหรือยางระเบิดนั่น คู่หน้าเรายังสามารถที่จะใช้พวงมาลัยในการควบคุมรถได้ แต่ ในกรณีของล้อหลังนั่นเราไม่สามารถที่จะควบคุมได้เลยซึ่งจะทำให้มีโอกาสเสี่ยงมากกว่า ถ้าเพื่อนๆเห็นตามคลิปตามท้องถนนก็จะเป็นอาการของท้ายปัด หรือ รถหมุนนั่นเองครับ เพราะฉะนั่นยางหลังควรจะเป็นยางที่ใหม่กว่าครับสม่ำเสมอครับเพื่อป้องกันการเสียหลักจากยางครับผม
แต่ถ้าจะให้แนะนำจริงๆแล้วส่วนมากที่เปลี่ยนแค่คู่เดียวก็เพราะเห็นว่ายางหน้าสึกเยอะกว่ายางหลังครับทำให้รู้สึกว่าเปลี่ยนยางคู่เดียวก็พอ แต่นั่นก็บ่งบอกถึงว่าเรายังไม่ค่อยได้ดูแลยางเท่าไหร่เพราะจริงๆเราควรที่จะสลับยาง ถ่วงล้อ บ้างอย่างน้อยทุกๆ 10000-20000 กิโลเมตรต่อครั้ง เพื่อให้ยางทุกเส้นสึกเสมอกันซึ่งจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของเพื่อนๆได้และใช้ยางได้นานขึ้นไปอีกครับ อีกส่วนที่สำคัญเมื่อเราสลับยางก็คือหากเราเช็คจะได้เห็นสภาพยางรถยนต์ที่สึกผิดปกติซึ่งการที่ยางรถสึกผิดปกตินั่น
เราสามารถ สามารถวิเคราะห์และทราบถึงสภาพช่วงล่างของรถเราได้ครับว่ามีตัวไหนที่เป็นปัญหาบ้าง เช่น การที่ยางสึกเป็นลูกคลื่นจะเกี่ยวกับสภาพโช้คอัพที่มีปัญหาทำให้การถ่ายรับน้ำหนักไม่สม่ำเสมอกันจนทำให้ยางสึกเป็นแต่ละจุดจนเหมือนเป็นลูกคลื่นครับ หรือถ้าใช้มานานและยางสึกเยอะทั้ง 4 ล้อ Tiresbid ก็แนะนำให้เปลี่ยนทั้ง 4 เส้นไปเลยครับเพราะเดี่ยวนี้มียางราคาประหยัดที่ราคาสบายกระเป๋าหลากหลายยี่ห้อครับ ซึ่งสามารถขอคำแนะนำได้จากที่เว็บ www.tiresbid.com ได้ครับผมจะมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางคอยให้คำแนะนำเรื่องยางให้เหมาะสมกับการใช้งาน และ งบประมาณเงินในกระเป๋าของเพื่อนๆทุกท่านครับผม
หากท่านได้เห็นถึงประโยชน์ของการเลือกยางที่มีคุณภาพแล้ว อย่าลืมคัดสรรค์ประกันรถยนต์เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และรถยนต์ที่คุณรัก เพราะทุกการขับขี่บนท้องถนนอุบัติเหตุสามารถเกิดได้ทุกเมื่อ สนใจซื้อประกันรถยนต์ที่มีคุณภาพ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Rabbit Care ประกันรถยนต์ ที่ให้คุณได้มากกว่า
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี