จริงหรือไม่ที่ว่า รถหมุน ท้ายปัด เกิดจากยางรถยนต์

กองบรรณาธิการ
ผู้เขียน: กองบรรณาธิการ Published: กันยายน 16, 2019
กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี
คะน้าใบเขียว
แก้ไขโดย: คะน้าใบเขียว Last edited: ธันวาคม 11, 2019
คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct
รถหมุน ท้ายปัด เกิดจากอะไร

อาการรถหมุน / ท้ายปัด

ภาวะที่รถสูญเสียการทรงตัว เนื่องจากล้อหลังสูญเสียแรงยึดเกาะถนนมากกว่าล้อหน้า ทำให้ส่วนท้ายของรถแกว่งหรือเหวี่ยงออกไปด้านข้าง ขณะขับโค้ง เปลี่ยนเลน หรือเบรกกะทันหัน

ในทางวิศวกรรมยานยนต์ อาการนี้จัดว่าเป็น Oversteer หมายถึงสถานการณ์ที่มุมองศาเลี้ยวของล้อหลังมากกว่ามุมองศาเลี้ยวของล้อหน้า จนทำให้ท้ายรถปัดออก หรือสบัด

พูดง่าย ๆ คือ ท้ายรถไม่ตามหน้า เวลารถเลี้ยวหรือขับบนถนนลื่น หน้ารถไปทางหนึ่ง แต่ท้ายรถเหวี่ยงออกอีกทาง มักเกิดเวลาขับเร็ว, เข้าโค้งแรง, เบรกกะทันหัน, หรือยางหลังสึก/ลื่น นั่นเอง

ปัจจัยที่ทำให้ท้ายปัด/รถหมุน

ยางรถยนต์ที่มีดอกสึก

ปัจจัยจาก รถและอุปกรณ์

ยางรถยนต์ที่มีดอกสึกทำให้ไม่มีแรงยึดเกาะถนนอย่างเพียงพอ ส่วนลมยางที่อ่อนหรือแข็งเกินไปก็ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการเกาะถนนลดลงเช่นกัน หากยางหลังมีสภาพแย่กว่ายางหน้า เวลาที่เข้าโค้งท้ายรถจะปัดออกได้ง่าย ระบบช่วงล่างหรือโช้คอัพที่เสื่อมสภาพทำให้รถไม่สามารถเกาะถนนได้มั่นคง อีกทั้งหากระบบเบรกหรือ ABS ทำงานผิดปกติย่อมเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียการทรงตัว นอกจากนี้หากบรรทุกน้ำหนักมากที่ด้านท้ายเกินไป เมื่อต้องเปลี่ยนเลนหรือหักเลี้ยวกะทันหัน รถก็อาจเสียการทรงตัวได้ง่ายขึ้น
อาการท้ายปัดระดับ 1

ปัจจัยจาก สภาพถนน

ถนนที่ลื่นจากฝน คราบน้ำมัน เศษดิน หรือกรวด จะทำให้แรงเสียดทานระหว่างยางกับถนนลดลง ถนนที่มีโค้งแคบหรือมีความลาดชัน โดยเฉพาะเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง จะเพิ่มโอกาสให้รถเสียการทรงตัวมากขึ้น นอกจากนี้ถนนที่ขรุขระหรือไม่เรียบยังทำให้แรงกดบนยางไม่สมดุล จึงเอื้อต่อการเกิดอาการท้ายปัดได้ง่าย
การขับรถเร็วเกินไป

ปัจจัยจาก ผู้ขับขี่

การขับรถเร็วเกินไป โดยเฉพาะในช่วงเข้าโค้ง มักทำให้รถเสียการทรงตัวได้ง่าย หากผู้ขับหักพวงมาลัยกะทันหันหรือเปลี่ยนเลนรวดเร็วเกินไปก็มีโอกาสทำให้ท้ายปัดเช่นกัน การเบรกแรงในโค้งทำให้น้ำหนักถ่ายไปที่ล้อหน้า ส่งผลให้ล้อหลังสูญเสียแรงยึดเกาะและท้ายรถปัดออก ส่วนการเหยียบคันเร่งแรงในโค้ง โดยเฉพาะกับรถขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ท้ายปัดเกิดขึ้นได้บ่อย
ฝนที่ตก ถนนลื่น

สภาพแวดล้อมเฉพาะหน้า

ฝนที่ตกใหม่ ๆ ทำให้น้ำมันที่สะสมอยู่บนถนนลอยขึ้นมาผสมกับน้ำฝน ส่งผลให้ถนนลื่นมากที่สุด หากขับตามรถบรรทุกที่มีการทำน้ำหกบนถนนก็จะกลายเป็นแถบถนนลื่นที่อันตราย นอกจากนี้ลมแรงจัด โดยเฉพาะบนสะพาน ยังทำให้รถที่ท้ายเบาเกิดการแกว่งได้ง่าย

เหตุที่ทำให้ท้ายปัด/รถหมุนบ่อยครั้งที่สุด

ลำดับ ปัจจัย เหตุผล / ข้อมูลอ้างอิง
1 ความเร็วเกินกำหนด เพิ่มโอกาสรถหมุนถึง 7.85 เท่า เมื่อทำความเร็วนอกขอบเขตกฎหมาย
ScienceDirect
2 ความเหนื่อยล้า ทำให้เกิดรถหมุนได้ 3.44 เท่า เทียบกับผู้ขับทั่วไป
ResearchGate
3 ความเจ็บป่วย เพิ่มความเสี่ยงรถหมุนเท่าตัว (2.22 เท่า)
ResearchGate
4 หลับใน เพิ่มโอกาสเสียการควบคุมได้ถึง 1.61 เท่า
ResearchGate
5 ไม่คุ้นทาง ผู้ขับที่สูญเสียการควบคุมรถจากการเลี้ยวเกิน และแก้พวงมาลัยเกินส่งผลให้รถหมุนหรือพลิกคว่ำได้ง่าย พบกว่า 2.8% ของอุบัติเหตุรุนแรง
NHTSA / III
6 สภาพถนนไม่แห้ง (เปียก, น้ำท่วมขัง, ทราย ฯลฯ) เพิ่มความเสี่ยงต่อรถหมุนเสียการควบคุมอย่างมีนัยยะ (แต่ไม่มีตัวเลขชัด)
ResearchGate, Wikipedia
7 ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ระบบรถหรือยาง แม้เป็นสาเหตุที่ทำให้ท้ายปัดได้จริง แต่ไม่ได้มีสถิติเปรียบเทียบเชิงปริมาณชัดเจน

อาการและความรุนแรงจากรถหมุน/ท้ายปัด

ระดับ อาการ ผลลัพธ์ โอกาส
ระดับ 1: เล็กน้อย
ท้ายแกว่งเล็กน้อย แต่ควบคุมได้
รถเสียการทรงตัวเล็กน้อย, ท้ายแกว่ง แต่ผู้ขับควบคุมได้ ไม่มีการชน อาจแค่ตกใจ หรือรถออกนอกเลนเล็กน้อย สูง
พบบ่อยบนถนนลื่น/ฝนตก
ระดับ 2: ปานกลาง
ควบคุมรถลำบาก ต้องแก้ด้วยเบรก/หักพวงมาลัย
รถหมุนบางส่วน ควบคุมลำบาก ต้องหักพวงมาลัยหรือเบรกแก้ไข อาจเฉี่ยวฟุตบาท, ชนขอบถนน, กระแทกสิ่งกีดขวางเบา ๆ ปานกลาง
ระดับ 3: รุนแรง
หมุน 180°–360° ควบคุมไม่ได้
รถหมุนควบคุมไม่ได้ 180°–360° รถพลิกคว่ำ, ชนสิ่งกีดขวาง, พุ่งตกข้างทาง, หรือชนรถคันอื่น ปานกลางถึงน้อย
ขึ้นกับความเร็ว/ถนน
ระดับ 4: อันตรายถึงชีวิต
หมุนหลายตลบ ชนแรงสูง
รถหมุนหลายตลบ, ชนแรงสูง, รถไฟไหม้หรือพลิกหลายครั้ง บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต ต่ำ
แต่ถ้าเกิด ผลร้ายแรงมาก

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

✅ กรณีที่ประกันมักคุ้มครอง

หากอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากการใช้งานปกติ เช่น ยางระเบิดกลางทาง ยางแตกเพราะตะปูตำ หรือยางสึกจนทำให้รถเสียหลัก ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1, 2+ และ 3+ จะรับผิดชอบค่าซ่อมรถและคุ้มครองบุคคลที่สามตามเงื่อนไข รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงจากการชนสิ่งกีดขวาง รถคันอื่น หรือรถพลิกคว่ำ ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุจากการขับขี่ ไม่ใช่ข้อยกเว้น

⚠️ กรณีที่ประกันอาจไม่คุ้มครอง

หากอุบัติเหตุเกิดจากความประมาทเลินเล่อร้ายแรง เช่น ใช้ยางที่บวม แตก ดอกหมด ไม่เปลี่ยนตามอายุการใช้งาน หรือใช้ยางผิดสเปกและไม่ได้มาตรฐาน บริษัทประกันมีสิทธิ์ปฏิเสธความคุ้มครองบางกรณี ทั้งนี้ ประกันจะไม่คุ้มครองค่าซ่อมหรือเปลี่ยนยางโดยตรง เพราะยางถือเป็นอุปกรณ์สิ้นเปลือง แต่จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่ตามมา เช่น ตัวถัง กันชน หรือบุคคลที่สาม

📝 ตัวอย่าง หากยางแตกเพราะตะปูตำแล้วรถชนขอบทาง ประกันชั้น 1 จะจ่ายค่าซ่อมรถ แต่จะไม่จ่ายค่าซ่อมยางที่เสียหาย ในทางกลับกัน หากยางสึกจนแบน เห็นดอกหมดและผู้ขับรู้แต่ไม่เปลี่ยน จนเกิดการระเบิดของยางและทำให้รถชน บริษัทอาจพิจารณาไม่คุ้มครอง เพราะถือว่าเจ้าของรถละเลยการบำรุงรักษา

🔑 สรุปสั้น ๆ บริษัทประกันจะจ่ายความคุ้มครองหากอุบัติเหตุเกิดจากยางโดยที่ผู้ขับไม่ได้ละเลยการดูแล แต่หากอุบัติเหตุเกิดจากความประมาทร้ายแรง การละเลยบำรุงรักษา หรือเป็นการเคลมเฉพาะตัวยางเพียงอย่างเดียว บริษัทประกันจะไม่จ่ายค่าความเสียหาย

ที่มา

บทความแคร์ไลฟ์สไตล์

Rabbit Care Blog Image 103237

แคร์ไลฟ์สไตล์

ประกันชีวิตช่วงสงครามชายแดน ใครได้ ใครเสีย?

เมื่อคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนที่มีความไม่สงบ หรือมีแนวโน้มเกิดเหตุการณ์ปะทะ เช่น การซ้อมรบ การปะทะชายแดน หรือภัยจากอาวุธหนัก
คะน้าใบเขียว
14/08/2025
Rabbit Care Blog Image 102732

แคร์ไลฟ์สไตล์

บ้านอยู่ใกล้ชายแดน เคลมประกันได้ไหมถ้าเจอลูกหลงชายแดน?

ด้วยสถานการณ์ที่ยังตึงเครียดกันอยู่ ทำให้การอยู่อาศัยใกล้พื้นที่ชายแดน อาจทำให้คุณต้องเผชิญความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การปะทะกัน, เหตุยิงลูกหลง
คะน้าใบเขียว
06/08/2025
Rabbit Care Blog Image 102683

แคร์ไลฟ์สไตล์

ล้างบ้านหลังน้ำท่วม กำจัดโคลนติดบ้านยังไงดี?

จากสถานการณ์ที่หลายพื้นที่โดนน้ำท่วม  เมื่อน้ำลด นอกเหนือจากการซ่อมแซมบ้านให้กลับมาอยู่อาศัยได้แล้ว สิ่งที่ตามมาคือ น้ำโคลน  กลิ่นอับ และเชื้อโรค
คะน้าใบเขียว
01/08/2025