เลือกสีรถมงคลถูกโฉลกตามวันเกิด พร้อมวิธีแจ้งเปลี่ยนสีรถติดไฟแนนซ์

ใครที่อยากอัปเดตสีรถถูกโฉลก เพื่อนำไปเป็นแนวทางการเลือกสีรถยนต์คันใหม่ หรือทำสีรถคันเดิมเพื่อเสริมความมงคลตามต้องการมากขึ้น แรบบิท แคร์ ได้ค้นหาข้อมูลพร้อมมาแนะนำให้ครบจบในบทความเดียว โดยเฉพาะสีรถถูกโฉลก ตามวันเกิด ที่เราได้ลิสต์เอาไว้ให้สำหรับคนที่เกิดวันจันทร์ถึงวันอาทิตย์เรียบร้อยแล้ว และพอคุณเลือกสีรถถูกโฉลกได้ เรามีข้อมูลแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเปลี่ยนสีรถ, ระเบียบสีรถที่กรมขนส่งกำหนด, เอกสารที่ต้องใช้เมื่อจะแจ้งเปลี่ยนสีรถ และสุดท้ายถ้าเปลี่ยนสีรถต้องแจ้งกรมขนส่งภายในกี่วัน

วันนี้ แรบบิท แคร์ มีคำตอบ ไปดูกันเลย!

สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด

สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด สามารถดูรายละเอียดได้ตามวันเกิดตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันอาทิตย์ โดยแต่ละสีมีการแบ่งเรื่องการเสริมความมงคลเอาไว้ ดังนั้นหากต้องการใช้สีรถถูกโฉลกด้านไหน ลองเลือกเอาจากหัวข้อย่อยแต่ละวันต่อจากนี้ได้เลย

สีรถถูกโฉลก วันจันทร์

สีรถถูกโฉลก วันจันทร์ จะมีทั้งหมด 9 สีด้วยกัน คือ สีเขียว, ส้ม, เหลือง, ดำ, ม่วง, ฟ้า, น้ำเงิน, ทอง และชมพู รายละเอียดการเสริมความมงคลของแต่ละสี จะแตกต่างกันออกไปตามข้อมูลด้านล่างนี้

• สีเขียว : ช่วยเสริมเรื่องบารมี และอำนาจ
• สีส้ม-เหลือง : ช่วยเรื่องการมีโชคลาภ และการเงิน
• สีดำ : ช่วยเรื่องความแคล้วคลาด และปลอดภัย
• สีม่วง-ฟ้า : ช่วยเสริมให้มีผู้คนเคารพนับถือ และมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
• สีน้ำเงิน-ทอง : ช่วยทำให้มีคนรัก คนเอนดู
• สีชมพู : ช่วยเสริมด้านเมตตามหานิยมโดยเฉพาะ

สีรถต้องห้าม คนเกิดวันจันทร์ คือ สีแดง

สีรถถูกโฉลก วันอังคาร

สีรถถูกโฉลก วันอังคาร จะมีทั้งหมด 10 สี คือ สีดำ, ม่วงแก่, ทอง, แสด, บรอนซ์เทา, น้ำตาล, เขียว, แดง และชมพู ส่วนการแบ่งแต่ละสีตามการเสริมมงคลของสีรถถูกโฉลก ดูได้จากลิสต์ด้านล่าง 

• สีดำ : ช่วยเสริมให้เกิดบารมี และมีอำนาจ
• สีม่วงแก่ : ช่วยหนุนดวงให้มีโชคลาภ และการเงินดี
• สีทอง-แสด : ช่วยให้ทุกการขับขี่มีแต่ความแคล้วคลาด ปลอดภัย
• สีบรอนซ์-เทา : ช่วยเสริมในด้านความน่าเชื่อถือ
• สีน้ำตาล-เขียว : ช่วยให้เกิดความรักกับผู้ขับขี่ มีคนเมตตาใส่ใจ
• สีแดง-ชมพู : ช่วยหนุนดวงเรื่องความมีเมตตามหานิยม

สีรถต้องห้าม คนเกิดวันอังคาร คือ สีขาวและครีม

สีรถถูกโฉลก วันพุธ (กลางวัน)

สีรถถูกโฉลก วันพุธ (กลางวัน) มีสีให้เลือกทั้งหมด 11 สี คือ สีน้ำตาล, ทอง, ม่วงแก่, ม่วงแก่, น้ำเงิน, ฟ้า, เขียว, ดำ, ขาว และเหลืองอ่อน สามารถอ้างอิงด้านที่ต้องการเสริมได้ดังนี้

• สีน้ำตาล-ทอง : ช่วยเพิ่มอำนาจ และบารมีที่สูงส่งขึ้น
• สีม่วงแก่ : ช่วยเพิ่มพูนความมีโชคลาภ และเสริมดวงด้านการเงิน
• สีเทา-บรอนซ์ : ช่วยให้ทุกการเดินทางมีแต่ความปลอดภัย
• สีน้ำเงิน-ฟ้า : ช่วยเพิ่มเติมด้านความน่าเชื่อถือแก่ผู้ขับขี่
• สีเขียว-ดำ : ช่วยเสริมความรัก ความเมตตาของเจ้าของรถ
• สีขาว-เหลืองอ่อน : ช่วยเสริมดวงเฉพาะด้านเมตตามหานิยม

สีรถต้องห้าม คนเกิดวันพุธ (กลางวัน) คือ สีชมพูและแสด

สีรถถูกโฉลก วันพุธ (กลางคืน)

สีรถถูกโฉลก วันพุธ (กลางคืน) สีเสริมความมงคลให้แก่ชีวิตผู้ขับขี่มีทั้งหมด 9 สี คือ สีดำ, แดง, น้ำตาล, เทา, บรอนซ์, ชมพู, น้ำเงิน, ฟ้า และม่วงแก่ รายละเอียดการเสริมความมงคลในด้านที่ต่างกันดังนี้

• สีดำ : ช่วยเพิ่มบารมี เพิ่มอำนาจให้โดดเด่น 
• สีแดง-น้ำตาล : ช่วยสร้างเสริมความเป็นมงคลด้านการเงิน มีลาภลอย
• สีเทา-บรอนซ์ : ช่วยสร้างความปลอดภัย และแคล้วคลาดทุกเส้นทาง
• สีชมพู : ให้ผู้ขับขี่ดูมีออร่าแห่งความน่าเชื่อถือ
• สีน้ำเงิน-ฟ้า : เพิ่มพูนความรักให้แก่เจ้าของรถ เพิ่มความเมตตา
• สีม่วงแก่ : หนุนดวงให้โดดเด่นเรื่องความมีเมตตามหานิยม

สีรถต้องห้าม คนเกิดวันพุธ (กลางคืน) คือ สีแสดและทอง

สีรถถูกโฉลก วันพฤหัสบดี

สีรถถูกโฉลก วันพฤหัสบดี จะมีให้เลือกอยู่ประมาณ 8 สี ได้แก่ สีส้ม, ทอง, ฟ้า, แดง, ขาว, เทา, บรอนซ์ และเขียว แต่ละสีจะช่วยเสริมมงคลด้านไหน คนเกิดวันพฤหัสบดี อ้างอิงได้จากข้อมูลด้านล่างนี้เลย

• สีส้ม-ทอง : เน้นการเสริมมงคลด้านบารมี และการมีอำนาจ
• สีฟ้า : เพิ่มดวงที่ช่วยให้การเงินดี มีโชคลาภเข้ามา
• สีแดง : ให้ทุกการเดินทางมีแต่ความปลอดภัย แคล้วคลาด
• สีขาว : ช่วยสร้างภาพและเสริมความมงคล ให้เจ้าของรถมีแต่ความน่าเชื่อถือ
• สีเทา-บรอนซ์ : สร้างความเมตตา และความรักให้เกิดขึ้น
• สีเขียว : เปิดดวงแห่งการมีเมตตามหานิยม

สีรถต้องห้าม คนเกิดวันพฤหัสบดี คือ สีดำ, ม่วงแก่ และน้ำเงิน

สีรถถูกโฉลก วันศุกร์

สีรถถูกโฉลก วันศุกร์ มีทั้งหมด 9 สีที่สามารถเลือกเข้ามาเสริมความเป็นมงคล ได้แก่ สีแดง, ทอง, น้ำตาล, ฟ้า, น้ำเงิน, ชมพู, เขียว, ดำ และเหลือง สำหรับสีรถถูกโฉลกของผู้เกิดวันนี้ จะมีบางสีที่ช่วยเสริมดวงได้ถึงสองด้านด้วยกัน

• สีแดง-ทอง : ช่วยให้บารมี และความอำนาจเพิ่มพูนสูงส่งขึ้น
• สีน้ำตาล-ฟ้า-น้ำเงิน : เปิดเส้นทางแห่งดวงการเงิน เปิดโอกาสให้โชคลาภ
• สีแดง-ชมพู : เป็นสีที่เสริมความปลอดภัย และความแคล้วคลาดเป็นพิเศษ
• สีเขียว : เพิ่มดวง หนุนภาพลักษณ์ให้เจ้าของรถมีความน่าเชื่อถือ
• สีดำ : เสริมดวงชะตาในด้านความมีเมตตา ความรัก
• สีเหลือง-ทอง : เสริมดวงในด้านเมตตามหานิยม

สีรถต้องห้าม คนเกิดวันศุกร์ คือ สีเทา, บรอนซ์ และม่วงแก่

สีรถถูกโฉลก วันเสาร์

สีรถถูกโฉลก วันเสาร์ เลือกสีที่เป็นมงคลแก่ชีวิตได้ 10 สี คือ สีทอง, เหลือง, เทา, บรอนซ์, น้ำเงิน, ฟ้า, แดง, ชมพู, ดำ และม่วงแก่ ต้องการเสริมมงคลด้านไหนให้กับตัวเอง เลือกดูตามความเหมาะสมได้เลย

• สีทอง-เหลือง : เพิ่มความมีอำนาจและบารมี
• สีเทา-บรอนซ์ : เสริมดวงให้มีแต่โชคลาภ เพิ่มโอกาสทางการเงิน
• สีน้ำเงิน-ฟ้า : สร้างความแคล้วคลาด ความปลอดภัยให้แก่ชีวิต
• สีแดง : เสริมดวงในเรื่องความน่าเชื่อถือ
• สีชมพู : ช่วยหนุนดวงให้มีแต่คนเมตตา และมีแต่คนรัก
• สีดำ-ม่วงแก่ : เสริมชะตาสร้างความมงคลในด้านเมตตามหานิยม

สีรถต้องห้าม คนเกิดวันเสาร์ คือ สีเขียวและแสด

สีรถถูกโฉลก วันอาทิตย์

สีรถถูกโฉลก วันอาทิตย์ มีอยู่ 10 สีด้วยกัน คือ สีแดง, เลือดหมู, ดำ, ขาว, ครีม, ม่วง, เขียว, บรอนซ์, เทา และทอง อยากได้สีรถถูกโฉลกเสริมด้านไหน เพิ่มความมงคลแบบใดลองเลือกดูตามต้องการ

• สีแดง หรือเลือดหมู : ช่วยเสริมสร้างดวงเรื่องความมีอำนาจ และบารมี
• สีดำ : ช่วยเสริมดวงทางการเงิน และโชคลาภ
• สีขาว-ครีม : ช่วยเสริมความปลอดภัย และความแคล้วคลาด
• สีม่วง : ช่วยเสริมดวงให้มีความน่าเชื่อถือ
• สีเขียว : ช่วยเริมดวงความเมตตา และความรัก
• สีบรอนซ์-เทา-ทอง : ช่วยเสริมดวงด้านเมตตามหานิยม

สีรถต้องห้าม คนเกิดวันอาทิตย์ คือ สีฟ้าและน้ำเงิน

สีรถตามระเบียบของกรมขนส่ง

• สีแดง : แดงเลือดหมู, เลือดนก, แดงบานเย็น และแดงทับทิม
• สีน้ำเงิน : น้ำเงินเข้ม, ครามและกรมท่า
• สีเหลือง : เหลืองอ่อน, เหลืองทอง และครีมออกเหลือง
• สีขาว : ขาวงาช้า หรือครีมออกขาว
• สีดำ : ดำสนิท หรือดำออกเทา
• สีม่วง : ม่วงอ่อน, ม่วงเข้ม และม่วงเปลือกมังคุด
• สีเขียว : เขียวใบไม้, เขียวอ่อน, เขียวเข้ม และเขียวขี้ม้า
• สีส้ม : แสด, อิฐ และปูนแห้ง
• สีน้ำตาล : น้ำตาลอ่อน, น้ำตาลไหม้, น้ำตาลเข้ม และแชล็ค
• สีชมพู : ชมพูอ่อน หรือชมพูเข้ม
• สีฟ้า : ฟ้าอ่อน หรือฟ้าเข้ม
• สีเทา : เทาอ่อน, เทาออกดำ, บรอนซ์เงิน และตะกั่วตัด

เกณฑ์จดทะเบียนสีรถในเล่มทะเบียนรถ

การแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ คือ การแจ้งขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลสีรถในคู่มือจดทะเบียนประจำรถ ณ สำนักงานขนส่งประจำพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้มีข้อมูลตรงตามสีรถใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากสีเดิมจากโรงงาน สามารถแจ้งขอเปลี่ยนสีได้สูงสุดไม่เกิน 3 สี และแจ้งเปลี่ยนสีได้แม้รถติดไฟแนนซ์อยู่ หรือไม่มีเล่มทะเบียนรถตัวจริง

• จดทะเบียนสีรถกรณีตัวรถมีสีเดียว

กรณีตัวรถมีสีเดียว ให้กำหนดสีที่เป็นสีหลัก โดยไม่ต้องคำนึงถึงความเข้มของสีที่แตกต่างกัน

• จดทะเบียนสีรถกรณีตัวรถมี 2 สี หรือ 3 สี

กรณีตัวรถมี 2 สี หรือ 3 สี โดยแต่ละสีแตกต่างกันชัดเจนบริเวณตัวถังส่วนที่สำคัญของรถ เช่น ฝากระโปรงหน้า-ท้าย หลังคา หรือประตู ให้กำหนดเป็น 2 สี หรือ 3 สี แล้วแต่กรณี

ยกเว้นกรณีรถมีสีคาดหรือแถบคาดที่ใช้ตกแต่งรถ โดยไม่ทำให้สีหลักของรถเปลี่ยนแปลงไป ไม่ต้องกำหนดเป็นสีรถ แต่หากการตกแต่งรถทำให้สีหลักของของเปลี่ยนแปลงไป ให้กำหนดเป็นสีของรถตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น ตัวรถมี 2 สี คือ สีขาวและสีแดง ให้กำหนดเป็น ‘สีขาว-แดง’ หรือตัวรถมี 3 สี คือ สีขาย สีแดง และสีดำ ให้กำหนดเป็น ‘สีขาว-แดง-ดำ’

• จดทะเบียนสีรถกรณีตัวรถมีมากกว่า 3 สี

กรณีตัวรถมีมากกว่า 3 สี และสามารถกำหนดสีหลักของตัวรถได้ ให้กำหนดสีหลัก 2 สี และตามด้วยคำว่า “หลายสี” เว้นแต่ไม่สามารถกำหนดสีหลักได้ ให้กำหนดเป็น “หลายสี” เพียงสีเดียว

ตัวอย่างเช่น ตัวรถมีมากกว่า 3 สี และสามารถกำหนดสีหลักของตัวรถได้ ให้กำหนดสีหลัก 2 สี เช่น สีหลักเป็นสีขาวและสีแดง ให้กำหนดเป็น ‘สีขาว-แดง-หลายสี’ เว้นแต่ไม่สามารถกำหนดสีหลักได้ให้กำหนดเป็น ‘หลายสี’ เพียงสีเดียว

• จดทะเบียนสีรถกรณีตัวรถติดสติ๊กเกอร์หรือติดเคฟล่า

การติดสติ๊กเกอร์ ฟิลม์ หรือคาร์บอนเคฟล่า หรือวัสดุอื่นใด เพื่อการโฆษณาหรือตกแต่งรถเป็นรูปภาพ ข้อความ ตัวอักษร และลวดลายต่างๆ เพิ่มเติมบนสีรถในภายหลัง ไม่ต้องกำหนดเป็นสีรถ ยกเว้นกรณีการเปลี่ยนสีรถ ไม่ว่าจะเปลี่ยนโดยวิธีติดสติ๊กเกอร์ ฟิลม์ หรือคาร์บอนเคฟล่า ถ้าทำให้สีของรถเปลี่ยนไป ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถกำหนดสีตามกรณีตัวรถมีสีเดียว หรือกรณีตัวรถมีหลายสี

ขั้นตอน เอกสารและสถานที่แจ้งเปลี่ยนสีรถ (ตรอ./ต่างจังหวัด)

กรรมสิทธิ์ผู้แจ้งเปลี่ยนสีรถ

• แจ้งเปลี่ยนสีรถกรณีเป็นเจ้าของรถเอง

สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถที่สำนักงานขนส่งที่สะดวกทั่วประเทศแทนได้ รวมถึงสามารถใช้สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถได้

• แจ้งเปลี่ยนสีรถกรณีไฟแนนซ์เป็นเจ้าของรถ (ติดไฟแนนซ์)

สามารถแจ้งเปลี่ยนสีรถที่ติดไฟแนนซ์อยู่ด้วยตัวเองได้จากการแจ้งเปลี่ยนสีรถที่สำนักขนส่งด้วยสำเนาเล่มทะเบียนรถ โดยไม่เบิกเล่มทะเบียนตัวจริงจากไฟแนนซ์ และแจ้งให้ไฟแนนซ์แก้ไขข้อมูลเล่มให้ในภายหลัง มีค่าใช้จ่ายประมาณ 500 บาท

หรือใช้วิธีวางเงินมัดจำ (1,000-3,000 บาท) เพื่อเบิกเล่มทะเบียนรถจากไฟแนนซ์ และนำไปยื่นขอแก้ไขข้อมูลสีรถในเล่มทะเบียนรถพร้อมหลักฐานอื่นๆ กับสำนักงานขนส่งโดยตรง จากนั้นนำเล่มทะเบียนประจำรถมาคืนไฟแนนซ์เพื่อรับเงินมัดจำคืน

• แจ้งเปลี่ยนสีรถกรณีผู้อื่นเป็นเจ้าของรถ

หากผู้ใช้รถปัจจุบันต้องการแจ้งเปลี่ยนสีรถ แต่ตนเองไม่ใช่เจ้าของรถ รถยังผ่อนไม่หมด และคนซื้อเป็นชื่อคนอื่น ควรแจ้งผู้ครอบครองรถ (ผู้กู้ ) และแจ้งเจ้าของรถ (ผู้ให้กู้ หรือไฟแนนซ์) ให้รับทราบก่อน จากนั้นใช้ใบมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประชาชน (ผู้เช่าซื้อ) เพื่อยื่นขอแจ้งเปลี่ยนสีรถในคู่มือจดทะเบียนประจำรถ ณ สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ

เอกสารที่ต้องใช้แจ้งเปลี่ยนสีรถ

เอกสารที่ต้องใช้แจ้งเปลี่ยนสีรถ ได้แก่ ใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือสำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถ, บัตรประชาชน และหลักฐานการเปลี่ยนสีรถ ใครที่เปลี่ยนสีรถถูกโฉลกเรียบร้อยแล้ว เตรียมเอกสารเหล่านี้ไว้ให้พร้อมได้เลย

อ้างอิงข้อมูลเอกสารที่ต้องใช้แจ้งเปลี่ยนสีรถจากกรมขนส่งทางบก

วิธีการแจ้งเปลี่ยนสีรถ

วิธีการแจ้งเปลี่ยนสีรถ มีทั้งหมด 4 ขั้นตอน คือ ยื่นคำขอพร้อมหลักฐานการเปลี่ยนสีรถ, นำรถเข้าตรวจสอบและยื่นผล, ชำระค่าธรรมเนียมที่กรมขนส่ง และรอรับเอกสารคืน เพียงเท่านี้การแจ้งเปลี่ยนสีรถก็เป็นอันเสร็จสิ้นแล้ว

ใครที่ทำสีรถถูกโฉลกมาแล้วอยากดูแลเป็นพิเศษ แรบบิท แคร์ แนะนำให้ทุกคนเลือกทำประกันรถยนต์เพิ่มเติมเอาไว้ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ซึ่งหากเกิดขึ้นมาจริง ประกันรถยนต์โดยเฉพาะประเภทที่ 1 จะพร้อมช่วยเหลือดูแลเรื่องเคลมสีรถยนต์ได้อย่างแน่นอน หากต้องการรับคำปรึกษาเพิ่มเติม และส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 70% สามารถติดต่อเข้ามาได้เลยที่เบอร์ 1438 (เบอร์นี้โทรได้ 24 ชั่วโมง)

บัตรไหนคุ้ม เปรียบเทียบเลย แค่ 30 วิ เช็คเลย!

เงินเดือนของคุณ

ไลฟ์สไตล์

สามารถเลือกได้มากกว่า 1 ข้อ

เด็กจบใหม่ รักการท่องเที่ยว รักการช้อปปิ้ง รักความหรูหรา รักสุขภาพ รักการกิน

เริ่ม

กองบรรณาธิการ

ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี