ซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมตามวัย เลือกยังไงดี ?
“ประกันสุขภาพ” นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นจริง ๆ สำหรับยุคนี้ เพราะถึงแม้ทุกคนอาจจะมีประกันแบบกลุ่มที่ทางบริษัททำให้ หรือมีประกันสังคมอยู่แล้ว ประกันสุขภาพส่วนบุคคลก็ยังเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญและช่วยดูแลคุณได้มากเลยทีเดียว แล้วเราจะเลือกซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมตามวัยยังไงดีนะ ตาม Rabbit Care มาเลย
มีประกันสุขภาพแล้ว เลือกซื้ออะไรเพิ่มดี ?
สำหรับเด็ก ๆ ไปจนถึงวัยรุ่น (0-15 ปี )
สำหรับเด็กเล็ก ประกันสุขภาพนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ และพ่อแม่ก็ยอมทุ่มไม่อั้นเพื่อดูแลสุขภาพลูกน้อย เพราะเป็นวัยที่เจ็บป่วยบ่อย มีโรคน่าเป็นห่วงมากมาย อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลก็ค่อนข้างสูง ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจจะทำให้เด็ก ๆ มีโรคประจำตัวไปจนโตเลยนะคะ
พ่อแม่หรือผู้ปกครองจึงควรซื้อความคุ้มครองประกันสุขภาพเพิ่มเติม โดยเลือกที่ให้ความคุ้มครองสำหรับโรคที่เด็กๆ เป็นกันบ่อย เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก โรคมือเท้าปาก รวมทั้งโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เป็นต้น
ส่วนวัยรุ่นหรือวัยเรียน อาจจะไม่พบอาการเจ็บป่วยรุนแรงมากนัก แต่ต้องห่วงเรื่องอุบัติเหตุ เพราะเป็นวัยที่กำลังซน ชอบเล่น ชอบเรียนรู้ และอาจจะเริ่มเดินทางไปไหนมาไหนด้วยตัวเองมากขึ้น ซึ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาก็ต้องใช้เวลารักษานานเหมือนกัน การทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเอาไว้จึงช่วยได้
วัยรุ่นตอนปลายไปจนถึงวัยทำงานตอนต้น (16-30 ปี)
สำหรับประกันสุขภาพที่ควรซื้อเพิ่มเติมสำหรับวัยนี้ นอกเหนือจากประกันสุขภาพส่วนบุคคล ก็คือประกันสุขภาพเกี่ยวกับโรคร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง หัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคอื่น ๆ ที่มีสาเหตุมาจากการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป และไลฟ์สไตล์ของวัยทำงานยุคใหม่ก็ค่อนข้างเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคเหล่านี้มากขึ้น
วัยรุ่น วัยทำงาน เป็นวัยที่ทำประกันสุขภาพได้ง่าย เพราะบริษัทประกันมองว่าเป็นกลุ่มอายุที่มีความเสี่ยงน้อย แถมเบี้ยประกันก็ราคาถูกกว่า ยิ่งถ้าคุณเลือกประกันสุขภาพประเภทเบี้ยคงที่ บอกได้เลยว่ายิ่งคุ้ม
ผู้ใหญ่วัยสร้างตัว (30-50ปี)
หลายคนอาจจะไม่พร้อมสำหรับการซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติม และมั่นใจว่าตัวเองแข็งแรง ก็สามารถกลับมาซื้อประกันสุขภาพในโรคที่เราเสี่ยงเป็นเพิ่มได้ โดยเฉพาะโรคร้ายแรง หรือโรคที่ต้องมีการรักษาด้วยการผ่าตัด เพราะการรักษาแบบนี้จะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก นอกจากนี้ยังต้องใช้เวลาในรักษาตัวเป็นเวลานานอีกด้วย
ไม่ใช่แค่เฉพาะโรคร้ายแรงที่สุ่มเสี่ยงเป็นเท่านั้น แต่วัยนี้ยังเจ็บป่วยได้ง่าย เนื่องจากใช้ชีวิตเต็มที่ ทำงานหนัก ไม่มีเวลาพักผ่อน แถมยังไม่ค่อยได้ดูแลตัวเอง เมื่อปล่อยไว้นานเข้าก็เสี่ยงต่อการเกิดโรคเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ง่าย อาทิ ออฟฟิศซินโดรม โรคกระเพาะอาหารอักเสบ ต้อกระจก และภาวะเครียด ซึ่งอาจจะลุกลามจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะผู้หญิง ดังนั้นการซื้อประกันสุขภาพสำหรับผู้หญิงเอาไว้ก็เป็นสิ่งที่ควร
ผู้สูงอายุ (วัยเกษียณ) 50 ปีขึ้นไป
วัยนี้นับได้ว่าเป็นวัยที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยค่อนข้างมาก ด้วยสภาพร่างกายที่เสื่อมลง อีกทั้งความเหน็ดเหนื่อยตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา การซื้อประกันสุขภาพอาจจะทำได้ยากมากขึ้น บางแห่งอาจจะไม่รับ หรือถ้ารับทำก็จะทำได้เบี้ยประกันสุขภาพที่ราคาแพง สำหรับประกันในวัยนี้อาจจะไม่ใช่ประกันสุขภาพอีกต่อไป แต่ควรเลือกทำประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันที่เกี่ยวกับทรัพย์สินต่าง ๆ มากกว่า เพื่อเก็บผลประโยชน์ไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน
เลือกซื้อประกันสุขภาพแต่ละช่วงวัย เริ่มต้นยังไงดี ?
ลองดูประวัติครอบครัว มีโรคประจำตัว มีโรคร้ายแรง หรือโรคที่ส่งต่อทางพันธุกรรมหรือไม่ จะได้เลือกป้องกันความเสี่ยงเหล่านั้น
เช็กสวัสดิการที่เรามี ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการจากบริษัทที่ทำงานอยู่ ประกันสังคม หรือมีสวัสดิการในการรักษาพยาบาลอื่น ๆ เพื่อดูว่ามีความครอบคลุมแค่ไหน
ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร เพื่อดูว่าคุณว่ามีโอกาสป่วยด้วยโรคอะไรบ้าง หรือมีความเสี่ยงด้านไหนที่ควรกังวลเป็นพิเศษ
งบประมาณในการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ เพื่อหาประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์ ทั้งเรื่องโรคที่เราเสี่ยงและงบในกระเป๋า
การทำประกันสุขภาพส่วนเติมเสริมจากสวัสดิการของที่ทำงานไม่ใช่เรื่องแปลก ซ้ำยังช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาได้เป้นอย่างดี หรือบางคนงบไม่เยอะจะเลือกประกันสุขภาพเสริมเฉพาะโรคที่ตัวเองเสี่ยงก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
แน่นอนว่าการทำประกันสุขภาพนั้น ถึงแม้จะจะเป็นการจ่ายเบี้ยประกันแบบทบผลประโยชน์ไม่ได้ แต่เชื่อว่าทันทีที่คุณต้องใช้เงินทองในการรักษา ประกันสุขภาพจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแพงๆ เหล่านั้นลงได้เยอะ สำหรับใครที่มองหาประกันสุขภาพอยู่ ก็คลิกเลย! กับ Rabbit Care บริการค้นหาประกันสุขภาพที่ใช่ทั้งประกันสุขภาพทั่วไป หรือประกันสุขภาพเฉพาะโรค ให้คุณใช้ชีวิตได้อุ่นใจ ไร้กังวล
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct