รวมมิตร โรคร้าย เป็นได้ ไม่ต้องรอตอนแก่

ไม่ใช่มีแค่ในละครหรือซีรีส์เกาหลีหรอกนะ ที่พระเอก นางเอก จู่ๆ ก็เป็น โรคร้าย บางเรื่องก็เล่นใหญ่ ดราม่า โศกหนักถึงขนาดตายกันตอนจบ ร้องไห้น้ำตาท่วมจอกันถ้วนหน้า หลายคนคิดว่าก็นั้นมันละคร น้ำเน่ายังไง ก็ไม่มีทางเกิดขึ้นจริงหรอก 

แหม อย่าทำเป็นเล่นไป! รู้หรือเปล่าว่าเจ้าพวกโรคร้ายที่พระนางในซีรีส์ชอบเป็นกันบ่อยๆ  สามารถเกิดขึ้นกับชีวิตคนเราจริงๆ นะ! วันนี้ Rabbit Care จะพาคุณไปรู้จัก และเฝ้าระวังเจ้าโรคร้าย ที่ไม่ต้องรอตอนแก่ ใครก็เป็นได้กัน

รวมมิตร โรคร้าย เป็นได้ ไม่ต้องรอตอนแก่

มะเร็ง

โรคร้ายยอดฮิตติดชาร์ตของคนไทยที่ใครๆ ต่างก็รู้จัก เรื่องกิตติศัพท์ความร้ายแรงของมะเร็งนั้น เราอาจจะไม่ต้องพูดอะไรกันมาก ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งลำไส้, มะเร็งมดลูก หรือมะเร็งเต้านม ก็ล้วนแล้วแต่คร่าชีวิตคนไทยมาแล้วนักต่อนัก

แน่นอนว่า โรคมะเร็งไม่ต้องรอถึงตอนแก่ วัยรุ่นหลายๆ คนก็สามารถเป็นได้ เชื่อหรือไม่ว่า สถิติการเป็นมะเร็งของคนไทยนั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 70,000 คน และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ

จนถึงทุกวันนี้ มะเร็งยังครองแชมป์โรคที่มีคนเป็นมากที่สุดในประเทศ อันดับที่ 1 ถึง 5 ปีซ้อน และมีผู้เสียชีวิตไปด้วยโรคนี้ถึงปีละ 50,000 คน

โดยมะเร็งยอดฮิตที่พบมากที่สุด คือ มะเร็งตับ รองลงมาคือ มะเร็งลำไส้ใหญ่และปอด ซึ่งโรคเหล่านี้ เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันแบบผิดๆ และมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เร่งให้เกิดโรคได้ไวมากขึ้นด้วย

ใครๆ ก็ชอบซีรีส์เกาหลีนะ แต่ถ้าให้ตัวเองรับบทพระนางเป็นโรคมะเร็งตาม คงไม่มีใครอยากเป็นแน่นอน บรื๋อ

เบาหวาน

พูดชื่อโรคนี้ขึ้นมา ใครๆ ก็ต้องร้อง อ๋อ! อย่างแน่นอน และหลายคนมองว่า โรคนี้วัยรุ่นเขาไม่เป็นกันหรอก ขอบอกเลยว่าคิดผิดแล้ว เพราะในปัจจุบัน คนไทยเราต่างทานหวานกันมากขึ้น บางคนทานกันตั้งแต่เล็กแต่น้อย เมื่อสะสมมากๆ เข้า พอเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น วัยทำงาน ก็สามารถเป็นได้ทั้งๆ ที่อายุยังน้อยๆ นั่นแหละ 

โรคเบาหวาน คือ โรคที่ร่างกายสร้างฮอร์โมนอินซูลินมามาก จนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ร่างกายจึงไม่สามารถใช้น้ำตาลได้อย่างเหมาะสม และตับอ่อนทำงานได้อย่างไม่เต็มที่ ในที่สุดก็จะไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้งานได้ หรือใช้งานได้น้อย จนทำให้น้ำตาลค้างอยู่ในเลือดสูง เบาหวานแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

• เบาหวานชนิดที่ภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง หรือที่เรียกกันว่า โรคภูมิต้านทานตัวเอง หรือ ออโตอิมมูน (autoimmune)
• เบาหวานที่ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นมาจากพันธุกรรม และเป็นเบาหวานชนิดที่คนเป็นมากที่สุด

โดยเฉพาะกับหลายคน หากเป็นเบาหวานตั้งแต่อายุน้อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น การควบคุมโรคเบาหวานก็จะทำได้ยากมากขึ้นไปด้วย

ดังนั้นใครที่สงสัยว่าตัวเองเป็นโรคเบาหวาน อย่าลืมหาเวลาไปตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อเช็กกันด้วยล่ะ

โรคความดันโลหิตสูง

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คนสมัยนี้ต่างเป็นโรคความดันโลหิตสูงกันมากขึ้นตั้งแต่อายุยังน้อย โดยปัจจัยของโรคนี้มาจากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ความเครียด, การสูบบุหรี่, การดื่มสุรา, ทานอาหารจำพวก แป้ง น้ำตาล อาหารเค็ม เป็นหลัก

โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคภาวะความดันโลหิตสูง จะมีอาการ มึนหัว, วิงเวียนศีรษะ, สับสน, เจ็บหน้าอก, ใจสั่น, เหงื่อออกมาก และปวดศีรษะมาก ความดันโลหิตสูง แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ 

• ชนิดแบบที่ไม่ทราบสาเหตุ (Essential hypertension) พบได้สูงถึง 90 – 95%  เชื่อว่าน่าจะเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกันของเอนไซม์ ฮอร์โมน และต่อมต่างๆ ที่ต้องควบคุมความดันในร่างกาย ทำงานไม่สอดคล้องกัน หรือผิดปกติไป ไม่ก็อาจจะเกิดจากพันธุกรรม, เชื้อชาติ, การทานอาหารที่มีรสเค็ม และสมดุลของเกลือแร่ แคลเซียมทำงานไม่สมดุลกัน
• ชนิดแบบทราบสาเหตุ (Secondary hypertension) พบแค่ 5 – 10% ของผู้ป่วย เกิดจากโรคต่างๆ ที่ส่งผลต่อหลอดเลือด ต่อหัวใจ และสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ที่พบบ่อยคือ โรคไตเรื้อรังจากการติดสุรา, เนื้องอกที่ต่อมหมวกไต และเนื้องอกในสมอง นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน, โรคอ้วน หรือแม้แต่การทานยาสเตียรอยด์บางชนิด ก็สามารถทำให้เป็นโรคนี้เช่นกัน

โรคภูมิแพ้

เรียกได้ว่าเป็นโรคพื้นฐานของคนไทยแทบจะทุกคนไปเสียแล้ว มองเผินๆ โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงมาก แต่ก็นับได้ว่าเป็นโรคสุดน่ารำคาญของใครหลายๆ คนเลย

ภูมิแพ้นั้นมีหลากหลายชนิด สาเหตุมาจากอาการแพ้ต่อสารต่างๆ แม้กระทั่งอากาศและอาหาร ที่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังต่อเยื่อบุต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งอาจเกิดจากพันธุกรรม และสภาพแวดล้อมรอบตัว

ภูมิแพ้มีหลากหลายอาการ เพราะอาการแพ้สามารถเกิดได้แทบจะทุกส่วนของร่างกาย ทั้งการจาม หายใจลำบากในเวลากลางคืน หรือกระทั่งมีผด ผื่น ขึ้นตามตัวและใบหน้า เป็นต้น  

 ส่วนใหญ่อาการจะเกิดเมื่อเจอสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะกับในปัจจุบันไม่ว่าจะ อาหาร หรืออากาศ ก็ล้วนแล้วแต่มีสิ่งแปลกปลอมเจือปนด้วยกันทั้งนั้น

ฟังดูไม่อันตรายอะไรมาก อย่างน้อยก็แค่ชวนให้รำคาญกับการใช้ชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ก็ต้องระวังให้ดี เพราะถ้าถูกหวย เป็น โรคภูมิแพ้ตัวเองชนิด SLE หรือที่รู้จักกันแบบไทยๆ ว่า โรคพุ่มพวง ขึ้นมา เราบอกเลยว่าลำบากของจริงแน่นอน

โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง SLE ลูปัส เป็นโรคที่เกิดจากภาวะที่ร่างกายสร้างสารภูมิคุ้มกันต้านทานผิดปกติ โดยเข้าไปต่อต้านเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เป็นผลทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในบริเวณนั้น

แม้ว่าโรคนี้ จะไม่ได้พบกันบ่อยๆ แต่ก็พบได้เรื่อยๆ พบได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ นับได้ว่าเป็นอีกโรคร้ายที่น่ากลัวมากๆ เลยเชียวล่ะ 

โรคระบบกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นอักเสบ

แม้จะไม่ใช่โรคใหม่ แต่บอกได้เลยว่าคนในยุคสมัยนี้ เป็นกันบ่อยมากขึ้นมา ผู้ที่เป็นสังเกตได้ง่าย ๆ คือ จะมีอาการบวมตามข้อมือ ข้อเท้า, ไวต่อเสียงและแสง, ปวดศีรษะมากในช่วงเช้า, ปัสสาวะบ่อย, ปวดท้องเรื้อรัง และท้องเสียง่าย ติดต่อกันเป็นเวลานาน 3 เดือน

ส่วนสาเหตุ เชื่อว่าหลายคนมีสะดุ้งแน่นอน เพราะเกิดจากการก้มดูโทรศัพท์, การทำงานหน้าจอคอม หรือการเล่นกีฬา และจะปวดรุนแรงมากขึ้นเมื่อมีการถูกกระตุ้น ถ้าในคนปกติไม่มีอาการปวด แต่คนที่เป็นจะปวด และเมื่อเกิดอาการปวดจริงจัง ก็จะปวดมากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า

ที่น่ากลัวคือ เมื่อเป็นแล้วอาการเริ่มหนักขึ้น ก็จะพ่วงเอาสารพัดโรคทางจิตอย่าง โรคซึมเศร้า, วิตกกังวล, นอนไม่หลับ และอ่อนเพลีย  มาด้วยเนี่ยสิ

โรคอ้วน และน้ำหนักตัวเกิน

โรคอ้วนก็เป็นอีกโรคที่พบในคนไทยค่อนข้างมาก เพราะด้วยการบริโภคที่ง่ายขึ้น และการทำงาน หรือใช้ชีวิตแบบคนสมัยใหม่ที่ต้องทำงานตลอดเวลา จนไม่ได้ให้ความสนใจต่อการออกกำลังกาย

จริงอยู่ที่น้ำหนักอาจจะไม่หนักที่หัวใคร แต่เมื่อมีน้ำหนักที่เกินกว่าความสูงค่อนข้างมาก ลำตัวเริ่มหนา มีอาการหายใจลำบาก และมีแนวโน้มจะเกิดโรคแทรกซ้อนอันตรายอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ, เบาหวาน หรือบางอาการร้ายแรงคือหยุดหายใจระหว่างหลับ 

และสำหรับใครที่เริ่มรู้ตัวว่าตัวเองเข้าข่ายสุ่มเสี่ยง อยากจะลองลดน้ำหนักบ้าง มีแพทย์แนะนำมาว่า ควรที่จะลดน้ำหนักให้ได้ 10% ภายใน 6 เดือน เพื่อไม่ให้อันตราย และหักโหมไป  

ขอเตือนไว้เลยว่า ไม่ควรทานยาลดความอ้วนเพื่อลดน้ำหนัก แต่ควรออกกำลังกาย และควบคุมอาหารอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า  และในรายที่มีอาการอ้วนมากเกินไป จนไม่สามารถลดได้เอง แพทย์ก็อาจวินิจฉัยเพื่อทำการผ่าตัด ลดกระเพาะอาหารให้เล็กลงได้

เรื่องสุขภาพไม่ใช่เรื่องไกลตัว หรือต้องรอให้เลยช่วงวัยรุ่นเท่านั้นถึงจะใส่ใจดูแลได้! เพราะถ้าประมาท เจ้าโรคร้ายเหล่านี้อาจจะเล่นงานตอนที่คุณเผลอก็ได้!

ถ้าไม่อยากประมาท นอกจากการดูแลสุขภาพ ร่างกายแล้ว ประกันสุขภาพเอง ก็นับเป็นอีกหนึ่งอย่างสำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคร้ายเหล่านี้ได้ เพราะขึ้นชื่อว่าโรคร้าย เงินที่ใช้จ่ายในการรักษาย่อมมหาศาลแน่นอน และคงจะดีกว่านี้แน่ ถ้ามีคนมาช่วยแบ่งเบาภาระให้ ไม่ว่าจะเป็น

• ประกันสุขภาพมิติใหม่ ซูเปอร์แพลน โรคร้ายไม่กลัว จาก ซิกน่า หมดห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาล ที่คุ้มครองโรคมะเร็ง (ทุกระยะ) รวมถึงซีสต์ และเนื้องอก ไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันเกินความจำเป็น  ค่ารักษาพยาบาลจ่ายตามจริง ทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ที่สำคัญ ไม่ยกเลิกกรมธรรม์ แม้ตรวจพบว่าผู้เอาประกันเป็นโรคร้าย
• สุขภาพ สุขสันต์ ประกันโรคร้ายแรง จาก กรุงเทพประกันชีวิต  คุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง และโรคร้ายแรงอื่นๆ อีก 47 โรค เบี้ยประกันคงที่ตลอดอายุสัญญา ไม่มีการปรับเพิ่มเมื่ออายุมากขึ้น และมีระยะเวลาคุ้มครอง 15 ปี หรือ 25 ปี และเริ่มทำประกันตัวนี้ได้ตั้งแต่อายุ 20-55 ปี
• ประกันภัยโรคร้ายแรง รีฟันด์ จากไทยประกันชีวิต ที่ดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคร้ายแรง 3 กลุ่ม โรคมะเร็ง, หัวใจ และหลอดเลือดสมอง และรับเงินค่ารักษาสูงสุด 1 ล้านบาท เมื่อเจอโรคร้าย ชดเชยรายได้สูงสุด วันละ 1,000 บาท เมื่อต้องนอนโรงพยาบาล และ คืนเบี้ยปีสุดท้าย กรณีไม่เคลมติดต่อกัน 5 ปี

สำหรับใครที่ยังลังเลใจ ลองติดต่อขอคำปรึกษากับทาง Rabbit Care เพื่อเลือกประกันสุขภาพที่ใช่ พ้องกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองกันได้เลย

เรื่องสุขภาพ ถ้าไม่ดูแลเองตั้งแต่วันแรก แล้วจะให้ใครดูแลล่ะ จริงไหม ?  

คะน้าใบเขียว

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct