
เปิดสถิติ! ยอดรถไฟฟ้า (EV) จดทะเบียนใหม่จากแต่ละแบรนด์ ปี 2566
หลายคนน่าจะเคยได้ยินมาบ้างเรื่องการแบ่งประเภทรถยนต์ และอาจจะสงสัยว่าจริง ๆ แล้วมีรถยนต์กี่ประเภทกันแน่? วันนี้ Rabbit Care อาสาพาเพื่อน ๆ ไปไขข้อข้องใจพร้อม ๆ กัน
จะเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่รองรับผู้โดยสารได้มากกว่า SUV และ PPV ลักษณะจะกึ่งรถตู้ เน้นจุคนได้มาก มีดีไซน์ที่หรูหรา ราคาในบางรุ่นอาจจะค่อนข้างแรง เช่น รถ Toyota Alphard หรือ Hyundai H1 ที่นั่งเยอะ เหมาะสำหรับการเดินทางเป็นหมู่คณะ หรือต้องเดินทางไกลพร้อมกันทั้งครอบครัว
รถอเนกประสงค์ หรือรถครอบครัวที่มีขนาดเล็กลงมาจาก MPV ยังคงรูปแบบที่นั่งมากถึง 7 ที่นั่ง แต่เครื่องยนต์กำลังต่ำกว่า และราคาถูกกว่า MPV อีกด้วย เป็นที่นิยมในตลาดรถอย่างมาก เพราะจับต้องได้ง่าย เช่น Toyota Sienta หรือ Suzuki Ertiga
จะมีรูปทรงสปอร์ต เน้นความปราดเปรียว ใช้งานได้ดีบนท้องถนน ขับได้ง่าย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย แถมสามารถขับลุยได้แม้เจอถนนที่ขรุขระ อาจจะไม่ได้แข็งแรงเท่ารถกระบะ แต่รับรองว่าดีกว่ารถเก๋งแน่นอน เช่น Honda CRV หรือ Nissan X-Trail
มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ ก่อนถูกพัฒนามาเป็นรถอเนกประสงค์ รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 7 ที่นั่ง มีการพัฒนาให้ช่วงล่างนุ่มนวลกว่ารถกระบะ สามารถลุยไปในเส้นทางที่สมบุกสมบัน แต่ก็ยังนั่งสบาย เช่น รถ Isuzu Mu-X หรือ Mitsubishi Pajero
รถยนต์อเนกประสงค์แบบยกสูง นิยมตกแต่งด้วยวัสดุสีดำที่กันรอยขีดข่วนที่ชายกันชน ซุ้มล้อ และด้านข้างรถ โดยพัฒนามาเพื่อการวิ่งบนถนนเป็นหลัก ทำให้ช่วงล่างจะนุ่มนวลกว่า SUV แต่ที่นั่งภายในรถจะไม่เกิน 7 ที่นั่ง เช่น Toyota C-HR, Honda HR-V, Honda BR-V, Nissan Juke, Ford Ecosport และ Mazda CX-3 เป็นต้น
หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับรถประเภทนี้อย่างดี โดยเฉพาะช่วงปีหลัง ๆ ที่หลายค่ายให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม Eco Car จะหมายถึง รถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่เป็นคำที่เรียกเฉพาะในไทย และหลายคนเข้าใจผิดว่าคือรถยนต์ขนาดเล็ก แต่แท้จริงแล้วเกี่ยวข้องกับระบบภายใน การใช้พลังงาน รวมไปถึงการปล่อยมลพิษในปริมาณที่กำหนดจึงจะสามารถเรียกได้ว่าเป็นรถประเภทอีโคคาร์
จะเห็นได้ว่า รถแต่ละประเภท แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ก็มีข้อดีต่างกันไป หากจะเลือกซื้อไปใช้งาน ก็เลือกให้เหมาะกับการใช้ แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือความปลอดภัยบนท้องถนน และการทำประกันรถยนต์ก็เป็นอีกหนทางที่ช่วยคุ้มครองคุณได้ ไม่ว่าอุบัติเหตุเหล่านั้นจะมาจากตัวเอง หรือผู้อื่นก็ตาม
ซึ่งการเลือกประกันรถยนต์ก็ต้องพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัย อาทิ ประเภทรถ ไลฟ์สไตล์การขับขี่ของผู้ใช้งาน อายุการใช้งานของรถ รวมทั้งงบประมาณสำหรับจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ เพราะการเลือกประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์จะทำให้คุณได้รับความคุ้มครองอย่างคุ้มค่า ที่สำคัญยังเป็นตัวช่วยให้รู้สึกอุ่นใจตลอดเส้นทางอีกด้วย
หากใครอยากรู้ว่า ต่อประกันรถยนต์ที่ไหนดี Rabbit Care โบรกเกอร์ประกันภัยที่ช่วยให้คุณเปรียบเทียบประกันรถยนต์แบบง่าย ๆ เลือกที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ แถมยังมีส่วนลดปัง ๆ ให้อีกด้วยนะ
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct
บทความตะลอนรีวิวรถ
เปิดสถิติ! ยอดรถไฟฟ้า (EV) จดทะเบียนใหม่จากแต่ละแบรนด์ ปี 2566
รถยนต์ Crossover คืออะไร? ต่างกับรถ SUV PPV MPV อย่างไรบ้าง พร้อมบอกข้อดี-ข้อเสีย
รวม 5 แบรนด์รถรุ่นใหม่เปิดตัวในงาน Motor Show 2023