แคร์รถยนต์

กระจกมองหลังตัดแสง คือ อะไร รู้หรือไม่ปัจจุบันมีในรถยนต์เกือบทุกคัน

ผู้เขียน : Thirakan T
Thirakan T

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology

close
linkedin icon
แก้ไขโดย : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
 
Published: April 9,2024
  
Last edited: April 17, 2024
กระจกมองหลังตัดแสงดีไหม

เจ้าของรถมือใหม่ลองนึกดูกันหน่อยว่า เคยได้ยินไหม กระจกมองหลังตัดแสง เพราะตอนนี้รถยนต์ที่คุณใช้งานอยู่ อาจมีอุปกรณ์ชิ้นนี้รอคุณได้ทดลองใช้ดูสักครั้ง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในใช้งาน เพราะบางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ถึงการมีอยู่เจ้ากระจกมองหลังตัดแสงภายในรถยนต์ของตัวเอง ถ้าใครยังไม่รู้จักว่าเจ้าสิ่งนี้มันคืออะไร มีทั้งหมดกี่ประเภท มีข้อดีที่แท้จริงเรื่องไหน และมีความจำเป็นอย่างไร แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนไปชี้แจงแถลงไขให้ชัดเจน ถึงข้อมูลที่น่าสนใจกระจกมองหลังตัดแสง รวมไปถึงรถยนต์คันไหนที่ยังไม่เคยมีอุปกรณ์ชิ้นนี้มาก่อน แล้วอยากติดตั้งเพิ่มเติมเข้าไป ต้องเลือกกระจกมองหลังตัดแสง ยี่ห้อไหนดี เราจะลองแนะนำเพิ่มเติมให้ในช่วงสุดท้ายของบทความกัน

กระจกมองหลังตัดแสงคืออะไร

กระจกมองหลังตัดแสง คือ กระจกมองหลังที่มีการเพิ่มเติมคุณสมบัติ ช่วยในการปรับลดหรือหักเหแสงที่สว่างมากเกินไปจากทางด้านหลัง เช่น เวลาที่โดนไฟของรถยนต์คันหลังสาดเข้ามาที่กระจกมองหลังแบบเต็ม ๆ จะทำให้เรามองเห็นได้ค่อนข้างลำบาก แต่ด้วยคุณสมบัติของกระจกมองหลังตัดแสง จะทำให้เรามองเห็นได้ง่ายขึ้น จากการหักเหทิศทางแสงสะท้อนออกไปนั่นเอง ใครที่เพิ่งเคยรู้จัก หรือยังไม่เคยใช้งานมาก่อน เตรียมลับสมองให้พร้อมกับข้อมูลในหัวข้อถัดไปกันเลย

กระจกมองหลังตัดแสงมีกี่ประเภท

กระจกมองหลังตัดแสง มีทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกัน คือ แบบปรับด้วยมือ และ แบบที่ปรับอัตโนมัติ ถึงแม้จะเป็นประเภทที่แตกต่างกัน แต่ภาพรวมนั้นจะเป็นเรื่องการใช้งานเสียมากกว่า เนื่องจากคุณสมบัติเรื่องการตัดแสงยังมีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากันอยู่ ดังนั้นหากรถยนต์ของคุณมีกระจกมองหลังตัดแสงไม่ว่าจะประเภทไหน ก็สามารถใช้งานได้ด้วยวัตถุประสงค์เช่นเดียวกัน

แบบปรับด้วยมือ

สำหรับกระจกมองหลังตัดแสง แบบปรับด้วยมือ จะเป็นประจกที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนกับกระจกมองหลังทั่วไป เพียงแต่ว่าใต้ตัวกระจก จะมีก้านที่ยื่นออกมาเล็กน้อย เพื่อให้เราสามารถใช้งานสำหรับการปรับรูปแบบการใช้งาน จากกระจกเดิม ๆ ธรรมดา ไปเป็นกระจกมองหลังตัดแสง จากการดันก้านนั้นไปข้างหน้า ตัวกระจกก็จะปรับเปลี่ยนทันที แต่อาจมีมุมมองที่เปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย ทำให้เราต้องปรับกันสักนิดหน่อย

แบบปรับอัตโนมัติ

กระจกมองหลังตัดแสง แบบปรับอัตโนมัติ จะไม่มีก้านที่ยื่นออกมาเพื่อให้ปรับได้ด้วยมือแล้ว โดยเฉพาะในรถยนต์รุ่นใหม่จำนวนมาก จะเลือกใช้งานกระจกมองหลังตัดแสงแบบนี้เป็นหลัก ส่วนการทำงานของมันจะมีเซ็นเซอร์วัดระดับแสงติดเอาไว้ที่ด้านหน้า และด้านหลัง ภายในประกอบด้วยกระจกที่ซ้อนกัน รวมถึงมีชั้นนำไฟฟ้าอยู่ด้วย เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจเจอแสงที่ทำการรบกวนสายตาจากด้านไหนมากเป็นพิเศษ กระจกมองหลังตัดแสง แบบอัตโนมัติ จะทำการปรับระดับ เพิ่มหรือลดการหักเหแสงให้แบบอัตโนมัติ ช่วยให้แสงบนกระจกมองหลังอยู่ในสภาวะที่มีความสมดุลมากที่สุด ถือว่าสะดวกสบายมากเลยทีเดียว

แบบนี้ไม่ว่ารถของเราจะมีกระจกมองหลังตัดแสงประเภทไหนอยู่ ใจความสำคัญของมันคือการใช้งานเพื่อช่วยหักเหแสง ให้เราสามารถมองกระจกหลังได้อย่างชัดเจน แม้ต้องเจอกับแสงสะท้อนที่รุนแรง ดังนั้นต่อจากนี้อย่าลืมสังเกตบนรถของคุณให้ดีหากมีให้ใช้งาน เราควรจะต้องปรับใช้ไปตามความเหมาะสมของสถานการณ์การขับขี่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากที่สุดนั่นเอง

ข้อดีของการมีกระจกมองหลังตัดแสง

ข้อดีของการมีกระจกมองหลังตัดแสง แน่นอนว่ามันคือ การตัดแสงที่ตกกระทบหรือสะท้อนจากกระจกมองหลังมายังผู้ขับขี่ ทำให้ไม่สูญเสียสมาธิระหว่างการเดินทาง ยกตัวอย่างเช่น หากเราเจอรถยนต์ที่มีระดับไฟหน้าสูงกว่ารถเรา ขับส่องไฟมาที่กระจกมองหลังเต็ม ๆ เราจะโดนไฟนั้นสะท้อนเข้าตาตลอดเวลาที่มีรถคันนั้นขับตามหลัง แบบนี้ขับได้ยาก และรู้สึกน่าหงุดหงิดมากเลยจริงไหม ถ้าหากเราเปิดใช้งานกระจกมองหลังตัดแสง ทุกคนก็จะไม่เจอปัญหานี้แล้ว ถือว่าสะดวกสบายสุด ๆ

ความจำเป็นของกระจกมองหลังตัดแสง

ความจำเป็นของกระจกมองหลังตัดแสง ต้องดูที่สภาพแวดล้อมในการขับขี่ และช่วงเวลาที่เราเดินทาง หากเราต้องใช้งานรถยนต์ทุกวัน ไม่ว่าจะช่วงเช้า หรือกลางคืน แบบนี้แปลว่ากระจกมองหลังตัดแสง จะค่อนข้างมีประโยชน์ต่อคุณอย่างมาก เนื่องจากการเดินทางในทุกวันเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าต้องเจอสภาวะแสงแบบไหนบ้างที่เข้ามาทำลายสมาธิการขับขี่ ดังนั้นการมีกระจกมองหลังตัดแสงติดไว้ จะช่วยจัดการสถานการณ์แบบนั้นให้หายไปในพริบตา แต่สำหรับใครที่ขับขี่ในเส้นทางเดิมประจำกับช่วงเวลาที่ไม่มีปัญหาเรื่องแสงรบกวน ก็อาจใช้งานกระจกมองหลังธรรมดาแบบเดิมก็ได้เหมือนกัน

กระจกมองหลัง ยี่ห้อไหนดี

กระจกมองหลัง ยี่ห้อไหนดี? เบื้องต้น แรบบิท แคร์ ได้สรุปข้อมูลกระจกมองหลังยี่ห้อน่าสนใจไว้ด้วยกันประมาณ 5 รุ่น คือ Victory รุ่น CF-3, Series R รุ่น FL-101, LEOMAX, AUTO Plus รุ่น W-15 และ Broadway เป็นต้น ซึ่งความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไปของกระจกมองหลังในแต่ละรุ่น มีดังนี้

  • Victory รุ่น CF-3 กระจกมองหลังตัดแสงได้ดี แถมยังเพิ่มความสว่างหากมืดเกินไปได้ และยังมีขอบเขตการสะท้อนภาพที่กว้าง และสูงเอามาก ๆ
  • Series R รุ่น FL-101 เป็นกระจกมองหลังที่มีราคาค่อนข้างถูกมาก แต่ให้มุมมองที่กว้าง มองเห็นจุดบอดเพิ่มขึ้นได้ในหลายช่วง ติดตั้งก็ง่าย แค่ติดทับกระจกเดิม
  • LEOMAX ผิวกระจได้มีการเคลือบ Chrome เอาไว้เพื่อทำให้มีคุณสมบัติเป็นกระจกมองหลังตัดแสง ไม่เกิดเงา ติดตั้งง่าย
  • AUTO Plus รุ่น W-15 มีการเคลือบ Chrome ที่นำเข้าพิเศษ ช่วยทำให้เป็นกระจกมองหลังตัดแสงที่มุมมองกว้าง ไม่หลอกสายตา
  • Broadway เป็นกระจกแบบโค้ง Cortex ทำให้เห็นมุมมองภาพได้กว้างกว่าปกติ มาพร้อมกับเลนส์ตัดแสงสีฟ้า ทำให้รุ่นนี้เป็นกระจกมองหลังตัดแสงแบบสบายตา มาพร้อมระบบกันสั่น ติดตั้งง่ายแค่เอาไปใส่ทับกระจกรุ่นเดิมเท่านั้นเอง

ตัวเลือกเหล่านี้เหมาะกับรถยนต์ที่อาจจะรุ่นเก่าสักหน่อย เพราะบางรุ่นในอดีตที่ยังไม่มีการติดตั้งกระจกมองหลังตัดแสงมาให้ หรือสเปกกระจกมองหลังที่เห็นภาพไม่กว้างเท่าไหร่นัก ตัวเลือกทั้งหมดที่กล่าวมามีราคาอยู่ในหลักร้อยเท่านั้น จะช่วยให้คุณได้มองเห็นภาพที่กว้างมากขึ้น ลบจุดบอดออกไปได้มากกว่าปกติ มองเห็นชัดเจน และยังช่วยตัดแสงทำให้เราขับขี่ได้อย่างปลอดภัยอีกต่างหาก

คราวนี้อยากให้มือใหม่หัดขับ หรือเจ้าของรถยนต์คันแรก คันใหม่ป้ายแดงไปลองดูที่รถของตัวเอง ว่ามีกระจกมองหลังตัดแสงให้ใช้งานหรือไม่ ถ้ามีก็อย่านึกถึงด้วยว่าเวลาไหนที่เราโดนแสงสะท้อนเข้ากระจกมองหลังเยอะ ๆ ให้ลองเปิดใช้งานด้วยก้านโยกบนตัวกระจก สำหรับแบบที่ต้องปรับด้วยมือ ส่วนใครที่มีกระจกมองหลังตัดแสง แบบอัตโนมัติก็คงไม่ต้องกังวลอีกแล้ว เพราะตัวกระจกจะช่วยปรับให้ตามความเหมาะสม ทำให้เราสามารถขับขี่ได้ปลอดภัยโดยไม่ต้องละมือไปปรับระดับด้วยตัวเอง

สำหรับคนที่อยากเพิ่มเติมความอุ่นใจ ความปลอดภัยในทุกการขับขี่ โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับทุกคน ในช่วง 1-3 ปีแรก แรบบิท แคร์ ขออนุญาตแนะนำให้ลองพิจารณาเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 เผื่อเอาไว้ เพราะเป็นประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี คุ้มครองค่าพยาบาล คุ้มครองทรัพย์สิน และคุ้มครองอีกหลายกรณี ซึ่งสามารถติดต่อหา แรบบิท แคร์ เพื่อขอคำปรึกษาและส่วนลดพิเศษสูงสุด 70% ได้ที่เบอร์ 1438 (เบอร์นี้โทรได้ 24 ชั่วโมง)


สรุป

สรุปบทความ

กระจกมองหลังตัดแสงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยมีคุณสมบัติในการปรับลดหรือหักเหแสงที่สว่างจ้าจากด้านหลัง ซึ่งจะช่วยลดการรบกวนสายตาของคนขับ และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เมื่อเลือกกระจกมองหลังตัดแสง ควรพิจารณากระจกที่มีเซ็นเซอร์ที่มีความไวสูง และมีการปรับระดับแสงอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการขับขี่

จบสรุปบทความ

ที่มา


 

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 96528

แคร์รถยนต์

น้ำหยดใต้ท้องรถ เกิดจากอะไร? แบบไหนถึงเรียกว่าผิดปกติ

เคยสังเกตกันไหมว่าเวลาที่เราจอดรถยนต์นิ่งสนิท บางครั้งจะมีน้ำหยดใต้ท้องรถลงมาด้วย ซึ่งจะมากหรือน้อยเราไม่อาจคาดเดาได้เลยหากไม่ทำความเข้าใจ
Natthamon
19/11/2024
Rabbit Care Blog Image 97244

แคร์รถยนต์

เอารถเข้าศูนย์ เช็คระยะ ทำยังไง ต้องจองล่วงหน้าไหม ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเท่าไหร่

หลังจากที่ออกรถมาใหม่ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับการเอารถเข้าศูนย์ เพื่อเช็กระยะตามที่ทางศูนย์ได้กำหนดเอาไว้
Natthamon
11/11/2024
Rabbit Care Blog Image 96140

แคร์รถยนต์

กุญแจรถแบตหมดกระทันหัน แก้ไขปัญหาได้ด้วยวิธีไหน

กลัวไหมกับการที่กุญแจรถแบตหมดแบบกระทันหัน โดยที่เราไม่ได้ตั้งตัว จนเกิดความกังวลว่ามันจะทำให้เราไม่สามารถเปิดรถได้ตามปกติ หรือสตาร์ทรถไปไหนไม่ได้เลย
Natthamon
29/10/2024