
เปลี่ยนยางรถยนต์ ต้องพิจารณาเปลี่ยนตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ใช้เวลาเปลี่ยนนานหรือไม่
เจ้าของรถมือใหม่ลองนึกดูกันหน่อยว่า เคยได้ยินไหม กระจกมองหลังตัดแสง เพราะตอนนี้รถยนต์ที่คุณใช้งานอยู่ อาจมีอุปกรณ์ชิ้นนี้รอคุณได้ทดลองใช้ดูสักครั้ง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในใช้งาน เพราะบางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ถึงการมีอยู่เจ้ากระจกมองหลังตัดแสงภายในรถยนต์ของตัวเอง ถ้าใครยังไม่รู้จักว่าเจ้าสิ่งนี้มันคืออะไร มีทั้งหมดกี่ประเภท มีข้อดีที่แท้จริงเรื่องไหน และมีความจำเป็นอย่างไร แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนไปชี้แจงแถลงไขให้ชัดเจน ถึงข้อมูลที่น่าสนใจกระจกมองหลังตัดแสง รวมไปถึงรถยนต์คันไหนที่ยังไม่เคยมีอุปกรณ์ชิ้นนี้มาก่อน แล้วอยากติดตั้งเพิ่มเติมเข้าไป ต้องเลือกกระจกมองหลังตัดแสง ยี่ห้อไหนดี เราจะลองแนะนำเพิ่มเติมให้ในช่วงสุดท้ายของบทความกัน
กระจกมองหลังตัดแสง คือ กระจกมองหลังที่มีการเพิ่มเติมคุณสมบัติ ช่วยในการปรับลดหรือหักเหแสงที่สว่างมากเกินไปจากทางด้านหลัง เช่น เวลาที่โดนไฟของรถยนต์คันหลังสาดเข้ามาที่กระจกมองหลังแบบเต็ม ๆ จะทำให้เรามองเห็นได้ค่อนข้างลำบาก แต่ด้วยคุณสมบัติของกระจกมองหลังตัดแสง จะทำให้เรามองเห็นได้ง่ายขึ้น จากการหักเหทิศทางแสงสะท้อนออกไปนั่นเอง ใครที่เพิ่งเคยรู้จัก หรือยังไม่เคยใช้งานมาก่อน เตรียมลับสมองให้พร้อมกับข้อมูลในหัวข้อถัดไปกันเลย
กระจกมองหลังตัดแสง มีทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกัน คือ แบบปรับด้วยมือ และ แบบที่ปรับอัตโนมัติ ถึงแม้จะเป็นประเภทที่แตกต่างกัน แต่ภาพรวมนั้นจะเป็นเรื่องการใช้งานเสียมากกว่า เนื่องจากคุณสมบัติเรื่องการตัดแสงยังมีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากันอยู่ ดังนั้นหากรถยนต์ของคุณมีกระจกมองหลังตัดแสงไม่ว่าจะประเภทไหน ก็สามารถใช้งานได้ด้วยวัตถุประสงค์เช่นเดียวกัน
สำหรับกระจกมองหลังตัดแสง แบบปรับด้วยมือ จะเป็นประจกที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนกับกระจกมองหลังทั่วไป เพียงแต่ว่าใต้ตัวกระจก จะมีก้านที่ยื่นออกมาเล็กน้อย เพื่อให้เราสามารถใช้งานสำหรับการปรับรูปแบบการใช้งาน จากกระจกเดิม ๆ ธรรมดา ไปเป็นกระจกมองหลังตัดแสง จากการดันก้านนั้นไปข้างหน้า ตัวกระจกก็จะปรับเปลี่ยนทันที แต่อาจมีมุมมองที่เปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย ทำให้เราต้องปรับกันสักนิดหน่อย
กระจกมองหลังตัดแสง แบบปรับอัตโนมัติ จะไม่มีก้านที่ยื่นออกมาเพื่อให้ปรับได้ด้วยมือแล้ว โดยเฉพาะในรถยนต์รุ่นใหม่จำนวนมาก จะเลือกใช้งานกระจกมองหลังตัดแสงแบบนี้เป็นหลัก ส่วนการทำงานของมันจะมีเซ็นเซอร์วัดระดับแสงติดเอาไว้ที่ด้านหน้า และด้านหลัง ภายในประกอบด้วยกระจกที่ซ้อนกัน รวมถึงมีชั้นนำไฟฟ้าอยู่ด้วย เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจเจอแสงที่ทำการรบกวนสายตาจากด้านไหนมากเป็นพิเศษ กระจกมองหลังตัดแสง แบบอัตโนมัติ จะทำการปรับระดับ เพิ่มหรือลดการหักเหแสงให้แบบอัตโนมัติ ช่วยให้แสงบนกระจกมองหลังอยู่ในสภาวะที่มีความสมดุลมากที่สุด ถือว่าสะดวกสบายมากเลยทีเดียว
แบบนี้ไม่ว่ารถของเราจะมีกระจกมองหลังตัดแสงประเภทไหนอยู่ ใจความสำคัญของมันคือการใช้งานเพื่อช่วยหักเหแสง ให้เราสามารถมองกระจกหลังได้อย่างชัดเจน แม้ต้องเจอกับแสงสะท้อนที่รุนแรง ดังนั้นต่อจากนี้อย่าลืมสังเกตบนรถของคุณให้ดีหากมีให้ใช้งาน เราควรจะต้องปรับใช้ไปตามความเหมาะสมของสถานการณ์การขับขี่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากที่สุดนั่นเอง
ข้อดีของการมีกระจกมองหลังตัดแสง แน่นอนว่ามันคือ การตัดแสงที่ตกกระทบหรือสะท้อนจากกระจกมองหลังมายังผู้ขับขี่ ทำให้ไม่สูญเสียสมาธิระหว่างการเดินทาง ยกตัวอย่างเช่น หากเราเจอรถยนต์ที่มีระดับไฟหน้าสูงกว่ารถเรา ขับส่องไฟมาที่กระจกมองหลังเต็ม ๆ เราจะโดนไฟนั้นสะท้อนเข้าตาตลอดเวลาที่มีรถคันนั้นขับตามหลัง แบบนี้ขับได้ยาก และรู้สึกน่าหงุดหงิดมากเลยจริงไหม ถ้าหากเราเปิดใช้งานกระจกมองหลังตัดแสง ทุกคนก็จะไม่เจอปัญหานี้แล้ว ถือว่าสะดวกสบายสุด ๆ
ความจำเป็นของกระจกมองหลังตัดแสง ต้องดูที่สภาพแวดล้อมในการขับขี่ และช่วงเวลาที่เราเดินทาง หากเราต้องใช้งานรถยนต์ทุกวัน ไม่ว่าจะช่วงเช้า หรือกลางคืน แบบนี้แปลว่ากระจกมองหลังตัดแสง จะค่อนข้างมีประโยชน์ต่อคุณอย่างมาก เนื่องจากการเดินทางในทุกวันเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าต้องเจอสภาวะแสงแบบไหนบ้างที่เข้ามาทำลายสมาธิการขับขี่ ดังนั้นการมีกระจกมองหลังตัดแสงติดไว้ จะช่วยจัดการสถานการณ์แบบนั้นให้หายไปในพริบตา แต่สำหรับใครที่ขับขี่ในเส้นทางเดิมประจำกับช่วงเวลาที่ไม่มีปัญหาเรื่องแสงรบกวน ก็อาจใช้งานกระจกมองหลังธรรมดาแบบเดิมก็ได้เหมือนกัน
กระจกมองหลัง ยี่ห้อไหนดี? เบื้องต้น แรบบิท แคร์ ได้สรุปข้อมูลกระจกมองหลังยี่ห้อน่าสนใจไว้ด้วยกันประมาณ 5 รุ่น คือ Victory รุ่น CF-3, Series R รุ่น FL-101, LEOMAX, AUTO Plus รุ่น W-15 และ Broadway เป็นต้น ซึ่งความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไปของกระจกมองหลังในแต่ละรุ่น มีดังนี้
ตัวเลือกเหล่านี้เหมาะกับรถยนต์ที่อาจจะรุ่นเก่าสักหน่อย เพราะบางรุ่นในอดีตที่ยังไม่มีการติดตั้งกระจกมองหลังตัดแสงมาให้ หรือสเปกกระจกมองหลังที่เห็นภาพไม่กว้างเท่าไหร่นัก ตัวเลือกทั้งหมดที่กล่าวมามีราคาอยู่ในหลักร้อยเท่านั้น จะช่วยให้คุณได้มองเห็นภาพที่กว้างมากขึ้น ลบจุดบอดออกไปได้มากกว่าปกติ มองเห็นชัดเจน และยังช่วยตัดแสงทำให้เราขับขี่ได้อย่างปลอดภัยอีกต่างหาก
คราวนี้อยากให้มือใหม่หัดขับ หรือเจ้าของรถยนต์คันแรก คันใหม่ป้ายแดงไปลองดูที่รถของตัวเอง ว่ามีกระจกมองหลังตัดแสงให้ใช้งานหรือไม่ ถ้ามีก็อย่านึกถึงด้วยว่าเวลาไหนที่เราโดนแสงสะท้อนเข้ากระจกมองหลังเยอะ ๆ ให้ลองเปิดใช้งานด้วยก้านโยกบนตัวกระจก สำหรับแบบที่ต้องปรับด้วยมือ ส่วนใครที่มีกระจกมองหลังตัดแสง แบบอัตโนมัติก็คงไม่ต้องกังวลอีกแล้ว เพราะตัวกระจกจะช่วยปรับให้ตามความเหมาะสม ทำให้เราสามารถขับขี่ได้ปลอดภัยโดยไม่ต้องละมือไปปรับระดับด้วยตัวเอง
สำหรับคนที่อยากเพิ่มเติมความอุ่นใจ ความปลอดภัยในทุกการขับขี่ โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับทุกคน ในช่วง 1-3 ปีแรก แรบบิท แคร์ ขออนุญาตแนะนำให้ลองพิจารณาเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 เผื่อเอาไว้ เพราะเป็นประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี คุ้มครองค่าพยาบาล คุ้มครองทรัพย์สิน และคุ้มครองอีกหลายกรณี ซึ่งสามารถติดต่อหา แรบบิท แคร์ เพื่อเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ พร้อมขอคำปรึกษาและส่วนลดพิเศษสูงสุด 70% ได้ที่เบอร์ 1438 (เบอร์นี้โทรได้ 24 ชั่วโมง)
กระจกมองหลังตัดแสงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยมีคุณสมบัติในการปรับลดหรือหักเหแสงที่สว่างจ้าจากด้านหลัง ซึ่งจะช่วยลดการรบกวนสายตาของคนขับ และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เมื่อเลือกกระจกมองหลังตัดแสง ควรพิจารณากระจกที่มีเซ็นเซอร์ที่มีความไวสูง และมีการปรับระดับแสงอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการขับขี่
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology
บทความแคร์รถยนต์
เปลี่ยนยางรถยนต์ ต้องพิจารณาเปลี่ยนตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ใช้เวลาเปลี่ยนนานหรือไม่
รถกินน้ำมัน เกิดจากอะไร มีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยประหยัดน้ำมัน
รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง ทำความเข้าใจอีกครั้งในทุกเรื่องที่ควรรู้!